ตอนที่ 37 การเดินทางอันเปล่าประโยชน์ของเล่าปี่
ตอนที่ 37 การเดินทางอันเปล่าประโยชน์ของเล่าปี่
ข่าวมาถึงเฉิงชงอย่างรวดเร็ว
เจิ้นเหยียนพร้อมสามพี่น้องเล่า กวน เตียวถูกเชิญเข้าไปในกระโจมขนาดใหญ่
“น้องหญิง?”
“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
เมื่อเข้าไปในกระโจม เจิ้นเหยียนเห็นเจิ้นเจียงทันทีและอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
เจิ้นเจียงยิ้มเล็กน้อย
“พี่ใหญ่ พวกเราแยกกันไปขอความช่วยเหลือใช่หรือไม่? ข้าโชคดีพบเข้ากับกองทัพของพี่อู๋ฮวยระหว่างทาง”
“ภายใต้การจัดการของพี่อู๋ฮวย พวกกบฏโพกผ้าเหลืองได้ถูกปราบปรามอย่างราบคาบ!”
“ตอนนี้จงซานปลอดภัยแล้ว และตระกูลเจิ้นก็สบายดี ท่านพี่ไม่ต้องเป็นกังวลอีก!”
เจิ้นเหยียนถอนหายใจโล่งอก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุข
เขาคำนับเฉิงชงอย่างจริงใจ
“พี่อู๋ฮวยเป็นคนดีมีคุณธรรมและยังช่วยเหลือตระกูลเจิ้น ความเมตตานี้ข้ารู้สึกซาบซึ้งนัก!”
เฉิงชงยิ้มเล็กน้อยและตอบกลับ
“มันก็แค่เรื่องของเวลาและระยะทาง ไม่จำเป็นต้องสุภาพหรอก”
หลังจากนั้นดวงตาของเขาได้มองไปยังสามคนด้านหลังเจิ้นเหยียน
เจิ้นเหยียนรู้สึกตัวและรีบเอ่ยแนะนำ
“พี่อู๋ฮวย นี่คือท่านเล่าปี่เซียนเต๋อจากอำเภอโจว เขาเป็นเชื้อพระวงศ์ฮั่น!”
“อีกสองท่านเป็นพี่น้องร่วมสาบาน แม่ทัพกวนอูหยุนซาง และเตียวหุยอี้เต๋อ!”
“พวกเขาได้ตอบรับคำขอร้องในการไปช่วยจงซานเช่นกัน!”
เฉิงชงพยักหน้าพร้อมเผยรอยยิ้มตรงมุมปาก
หลังจากเดินทางในยุคสามก๊กมานาน ในที่สุดเขาก็ได้พบกับเล่าปี่!
ดูเหมือนว่าสามพี่น้องเล่าปี่ก็หวังปลาตัวใหญ่อย่างตระกูลเจิ้นเช่นกัน
แต่เขากลับได้เป็นคนแรก!
เฉิงชงหัวเราะเบา ๆ
“ปรากฏว่าท่านเซียนเต๋อเองก็ตั้งใจจะไปช่วยจงซาน ช่างมีคุณธรรมยิ่งนัก”
“แต่พวกกบฏโพกผ้าเหลืองที่จงซานถูกข้าปราบหมดแล้ว”
“การเดินทางครั้งนี้คงทำให้ท่านเซียนเต๋อเสียเวลา โปรดอย่าใส่ใจเลย!”
เล่าปี่หัวเราะแห้ง ๆ
อย่าใส่ใจเลย?
เขาจะไม่ใส่ใจได้อย่างไร?
กล่าวตามตรงเขาแทบจะกระอักเป็นเลือด!
ชีวิตที่ดีขึ้น!
โอกาสที่จะเข้ามาในอนาคต
ด้วยอำนาจของตระกูลเจิ้นแห่งจงซาน เขาอาจจะสามารถบรรลุการใหญ่ได้!
แต่ตอนนี้มันไม่เหลืออะไรแล้ว!
พวกเขาเดินทางมาอย่างไร้ค่า และสูญเสียผลประโยชน์ อีกทั้งการร่วมศึกของแม่ทัพโลติดก็ไม่ได้ช่วยอะไรพวกเขามากนัก!
“แค่กแค่ก”
เล่าปี่แสร้งไอระงับความไม่พอใจของเขา
“พี่อู๋ฮวยพูดอะไรเช่นนั้น!”
“ท่านและข้าต่างทำเพื่อประชาชน ถ้าไม่ขับไล่พวกกบฏโพกผ้าเหลืองโดยเร็ว เช่นนั้นเมืองจงซานคงไม่เหลือ”
“พี่อู๋ฮวยช่วยจัดการปัญหานี้อย่างรวดเร็ว นับว่าเป็นลาภอันประเสริฐแก่ประชาชน!”
“ข้าชื่นชมยิ่งนัก!”
เฉิงชงขมวดคิ้วเล็กน้อย
ตามที่คาดไว้เล่าปี่เซียนเต๋อ
แม้ว่าในใจจะขุ่นเคือง แต่ภายนอกยังคงสงบ
ทุกถ้อยคำยังยืนหยัดเพื่อประชาชน
หากเขาไม่คุ้นเคยกับประวัติศาสตร์สามก๊ก เช่นนั้นคงจะสับสนไม่น้อย!
“แม้ว่าภัยที่จงซานจะถูกจัดการแล้ว แต่ยังมีพวกกบฏโพกผ้าเหลืองที่กวงจงอีก”
“ท่านเซียนเต๋อรีบยกทัพไปพร้อมกับข้าเถอะ”
“ช่วยแม่ทัพโลติดในการปราบศัตรู!”
เล่าปี่พยักหน้า
“นั่นเป็นเรื่องปกติ ข้าจะกลับไปจัดการกองทัพ!”
“ลาก่อนพี่อู๋ฮวย!”
หลังจากกล่าวจบ เขาก็อำลาพร้อมกวนอูและเตียวหุย
เมื่อมองไปที่ร่างของเล่าปี่ จิวฉองก็เกิดความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย
“นายท่าน! เล่าปี่เซียนเต๋อคนนั้นดูมีพรสวรรค์มาก”
“กวนอูและเตียวหุยที่อยู่ข้าง ๆ ก็มีพละกำลังไม่ธรรมดา ข้าเกรงว่าคงไม่ด้อยไปกว่าท่านเวิ่นหยวน”
“นายท่านเหตุใดไม่ลองชักชวนพวกเขา?”
เจ้านายของเขามักจะแสวงหาผู้มีพรสวรรค์มาเข้าร่วมกับกองทัพ
สำหรับเขา ทั้งจิวฉอง เตียวเลี้ยว ลิโป้ และโกซุ่นต่างมีความสามารถที่โดดเด่น
แต่วันนี้ทัศนคติของเฉิงชงต่อเล่าปี่นั้นกลับเย็นชาอย่างมาก
สิ่งนี้ทำให้จิวฉองรู้สึกงงงวย
เฉิงชงยิ้มเบา ๆ และส่ายหัว
“หยวนฟู่ บางคนก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้”
สำหรับเล่าปี่ เฉิงชงไม่มีวิธีที่จะชักชวนเลย
เล่าปี่เป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่และไม่คิดจะอยู่ใต้คำสั่งใคร!
ยิ่งกว่านั้นเล่าปี่คือภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ต่อชีวิต!
ทุกคนที่ผูกพันด้วยต่างก็พบกับความอนาถ!
เฉิงชงไม่ต้องการฝืนกฎนี้
สำหรับกวนอูและเตียวหุย หากพวกเขายังไม่ได้สาบานเป็นพี่น้องกัน เช่นนั้นยังพอมีทางเกลี้ยกล่อม
แต่หลังจากพวกเขาทำการสาบานแล้ว พวกเขาก็ซื่อสัตย์ต่อเล่าปี่สุดหัวใจ
มันแทบไม่มีทางจะไปทลายกำแพงนี้ได้
จิวฉองดูมึนงงและพยักหน้าอย่างไม่เข้าใจ
......
หลังจากพักครึ่งวัน
กองทัพทั้งสองได้ออกเดินทางอีกครั้งและรีบไปที่กวงจง
ความแตกต่างของทั้งสองกองทัพคือ ทัพของเฉิงชงเต็มไปด้วยความฮึกเหิม
ส่วนกองทัพของเล่าปี่เต็มไปด้วยเสียงโอดครวญ และขวัญกำลังใจที่ตกต่ำลง
พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเดินทางจากกวงจงมาหานตาน และต้องเดินทางกลับจากหานตานไปกวงจง
ความคับข้องใจนี้มุ่งไปยังเล่าปี่
เล่าปี่ทำอะไรไม่ถูกนอกจากต้องทนทุกข์อย่างเงียบ ๆ
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงค่ายของทหารที่กวงจง
นายพันลั่วหยงผู้ดูแลกองทัพออกมาทักทายทันทีที่ทราบข่าว
เมื่อเห็นเล่าปี่ ใบหน้าของลั่วหยงก็ดูประหลาดใจเล็กน้อย
“ท่านเซียนเต๋อ?”
“ท่านไม่ได้เดินทัพออกไปหรอกหรือ?”
“ท่านนำทัพกลับมามีเหตุอันใดหรือเปล่า?”
คำขอร้องของเจิ้นเหยียนไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่น ดังนั้นลั่วหยงจึงไม่ทราบว่าทำไมเล่าปี่ถึงเดินทัพออกไป
ใบหน้าของเล่าปี่กระตุก เขาแทบจะอาเจียนเป็นเลือด
เขาอยากกลับมาที่ไหน?!
มันแค่ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว!
เล่าปี่กระแอมด้วยความอับอาย
“เหตุผลมันค่อนข้างซับซ้อน และมันยากที่จะอธิบาย ท่านลั่วหยงช่วยจัดการให้พวกเราเข้าไปในค่ายที!”
“นี่คือท่านเฉิงชงอู๋ฮวยจากเมืองจงหลิง เขานำกองทัพมาช่วยแม่ทัพโลติดต่อสู้อีกห้าพันคน”
ลั่วหยงพยักหน้าและไม่ถามสิ่งใดเพิ่มเติม
เฉิงชงและเล่าปี่ได้รับการขึ้นทะเบียนทีละคน จากนั้นพวกเขาก็เคลื่อนทหารเข้าไปในค่าย
ความเห็นผู้แปล : รู้สึกสงสารเล่าปี่เหมือนกัน55555