ตอนที่แล้วตอนที่ 35 หมั้นหมายกับเจิ้นเจียง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 37 การเดินทางอันเปล่าประโยชน์ของเล่าปี่

ตอนที่ 36 พบปะระหว่างทาง


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 36 พบปะระหว่างทาง

วันถัดมา

เฉิงชงออกทัพเพื่อเดินทางไปยังกวงจง

เขาต้องการจะร่วมทัพกับแม่ทัพโลติดแห่งจงหลางในการปราบกบฏโพกผ้าเหลือง

เจิ้นเจียงและทหารองครักษ์ของตระกูลก็เดินทางมาด้วย

นางกำลังจะไปที่เย่เฉิงเพื่อจัดการธุรกิจที่นั่น

เฉิงชงจึงพานางไปที่นั่นได้

ส่วนเจิ้นอี้พาทุกคนในตระกูลเจิ้นมาอำลาที่ประตูเมือง

“หลานอู๋ฮวย ขอให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น และปราบกบฏโพกผ้าเหลืองสำเร็จ!”

เจิ้นอี้โค้งคำนับและกล่าวอำลา

เฉิงชงพยักหน้าเบา ๆ และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ขอให้เป็นไปตามที่ท่านว่า!”

“ท่านพ่อไม่ต้องห่วง!”

เจิ้นเจียงยกม่านของรถม้าขึ้น

“พี่อู๋ฮวยนั้นเก่งกล้ามาก เมื่ออยู่ข้างเขา เหล่ากบฏโพกผ้าเหลืองที่กวงจงคงทำได้แค่วิ่งหนีเท่านั้น!”

หลังจากทำสัญญาแต่งงาน เจิ้นเจียงก็ใกล้ชิดกับเฉิงชงมากขึ้น

นางเป็นสตรีที่กล้าหาญอย่างมาก และไม่มีการปิดบังความในใจที่ร้อนแรงเลย

เจิ้นอี้หัวเราะเสียงดัง “เอาล่ะเอาล่ะ ข้าทราบดีแล้วว่าท่านอู๋ฮวยนั้นยอดเยี่ยม!”

กองทัพเริ่มออกเดินทางและค่อย ๆ หายไปท่ามกลางฝุ่นควัน

ขณะมองดูฝุ่นควันกลางอากาศ คุณนายเจิ้นได้ขมวดคิ้วพร้อมกล่าว

“ท่านพี่ ท่านส่งเจียงเอ๋อออกไปเช่นนี้ ข้ารู้สึกว่ามันจะมากเกินไป!”

“พวกเรายังไม่ได้รู้จักคนชื่อเฉิงชงดีมากนัก”

“ดูสิ แม้แต่หญิงที่ชื่อตู้ซือยังอยู่กับเขา อีกทั้งเขายังดูเหมือนผู้ชายเจ้าชู้ด้วย!”

เจิ้นอี้หัวเราะ

“น้องหญิง อู๋ฮวยเป็นวีรบุรุษ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีสตรีอยู่ข้างกาย!”

“ตราบใดที่เรามั่นใจได้ว่าเจียงเอ๋อจะเป็นภรรยาเขา ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย”

“แม้ว่าแม่นางตู้ซือจะหน้าตาดี แต่เจียงเอ๋อของเราก็ไม่เลว เจ้ากลัวว่านางจะสู้ไม่ได้งั้นหรือ?”

“ข้าไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเจียงเอ๋อเลย แต่กังวลเกี่ยวกับพวกเรามากกว่า หากได้พรสวรรค์ของเขาสักหนึ่งในสิบ ข้าก็วางใจสำหรับตระกูลเจิ้นของเรา!”

......

บนถนนสายหลักในหานตาน

ทหารกลุ่มหนึ่งประมาณห้าพันคนกำลังเดินทัพ

ที่ด้านหน้ามีคนขี่ม้าศึกอยู่สามคน

พวกเขาคือสามพี่น้องเล่า กวน และเตียว

“ท่านพี่ ข้าไม่เข้าใจ ตอนนี้เรากำลังช่วยแม่ทัพโลติดสู้ศึกอยู่ เหตุใดต้องเดินทางไปไกลถึงจงซาน?”

เตียวหุยเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ

เล่าปี่หัวเราะ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ

“น้องสามเจ้ายังไม่เข้าใจ!”

“โลติดไม่ได้ขาดแคลนกำลังทหารที่นี่ ถึงแม้เราจะอยู่ที่นั่นก็เป็นได้แค่ของประดับหน้าเค้ก”

“แต่ตระกูลเจิ้นในจงซานที่กำลังตกอยู่ในอันตราย เมื่อเทียบกันแล้ว สิ่งนั่นถึงจะมีน้ำหนักมากกว่า!”

“ตระกูลเจิ้นในจงซานนั้นเป็นตระกูลใหญ่ การช่วยเหลือจงซานให้ปลอดภัยจะได้ชื่อเสียงมหาศาล อีกทั้งยังจะได้รับรางวัลจากจักรพรรดิ”

“ยิ่งกว่านั้นตระกูลเจิ้นยังเป็นตระกูลที่มั่งคั่ง พวกเขาจะเตรียมของขวัญให้พวกเรามากมายอย่างแน่นอน นี่คือรากฐานที่สำคัญในอนาคต!”

หลังจากฟังคำอธิบายจากเล่าปี่แล้วเตียวหุยก็พยักหน้าพร้อมกล่าว

“พี่ใหญ่ฉลาดมาก!”

กวนอูยกมือขึ้นลูบเคราของเขาและพูด

“พี่ใหญ่ ข้าได้ยินมาว่าเจิ้นเจียงเกิดมาพร้อมความงามตาธรรมชาติ ถ้าถึงเวลาที่เหมาะสม ท่านพี่ช่วยขอแม่นางเจิ้นเป็นภรรยาให้ข้าทีได้หรือไม่?”

เล่าปี่เห็นด้วยอย่างไม่ลังเล

“ไม่มีปัญหา!”

“น้องรองเป็นวีรบุรุษ แม่นางเจิ้นเจียงมีความงามที่ไม่มีใครเทียบได้ย่อมคู่ควรกับเจ้า”

“ข้าคิดว่าหัวหน้าตระกูลเจิ้นก็คงไม่ปฏิเสธเช่นกัน!”

ในขณะเดียวกันได้มีเสียงกีบเท้าม้าดังมาจากตรงหน้า

กวนอูและเตียวหุยต่างพากันระวังตัว

กองทัพพวกเขาหยุดเดินต่อทันทีและกระจายรูปขบวนพร้อมตอบโต้

เล่าปี่เหลือบมองด้วยแววตาเป็นกังวลเล็กน้อย

“ทางโน้นคือทิศทางของเมืองจงซาน! เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกกบฏยึดเมืองแล้ว!”

“หากเป็นเช่นนั้นจริงตระกูลเจิ้นคงไม่รอดแน่!”

เจิ้นเหยียนที่อยู่ด้านหลังได้หยุดการเคลื่อนไหว

เขาขี่ม้าไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

ภายในใจเต็มไปด้วยความกลัว

หากเป็นกองทัพของกบฏโพกผ้าเหลือง เช่นนั้นก็หมายความว่าจงซานแตกแล้ว!

กองทหารของเฉิงชงปรากฏตัวขึ้นช้า ๆ และเผชิญหน้ากับกองทัพของเล่าปี่ในระยะไกล

ลิโป้จับง้าวกรีดนภาไว้แน่น เตียวเลี้ยวเองก็ยกทวนขึ้น

หากเกิดสงคราม พวกเขาจะจู่โจมอย่างไม่ลังเล!

กวนอูมองตรงไปด้วยสายตาที่ดุดัน

ในฐานแม่ทัพระดับสูง เขาสามารถมองเห็นพลังของคู่ต่อสู้ได้อย่างธรรมชาติ

“พี่ใหญ่ แม่ทัพที่ถือทวนเหล็กคนนั้นฝีมือไม่ธรรมดา ข้าเกรงว่าฝีมือของเขาคงไม่ด้อยไปกว่าพวกข้า!”

“ส่วนแม่ทัพที่ถือง้าวตรงนั้นให้ความรู้สึกน่าสะพรึงแปลก ๆ มันราวกับพยัคฆ์ที่ลงมาจากเขา!”

เตียวหุยสูดหายใจอย่างเย็นเยือก เขายกทวนอสรพิษขึ้นพร้อมเผยแววตาที่เร่าร้อน

“พี่รอง อย่าชมเชยคนอื่นจนลืมศักดิ์ศรีของตัวเอง!”

“ถึงทั้งสองคนจะแข็งแกร่ง แล้วพวกเราอ่อนแอหรืออย่างไร!”

“มาสู้ตายกันไปข้าง!”

กวนอูเหลือบมองไปยังเตียวหุยและตะคอกกลับ

“แม้ว่าเราจะสู้กับแม่ทัพทั้งสองคนนั้นได้แล้วทหารคนอื่น ๆ ล่ะ?”

“ทหารม้าเหล่านี้ให้ความรู้สึกแกร่งกล้าอย่างมาก พวกเขาเป็นทหารระดับสูงอย่างแน่นอน!”

“ทหารอาสาของพวกเราแทบไม่อาจทัดเทียมได้แม้แต่น้อย!”

เมื่อฟังการสนทนาของน้องชายทั้งสอง เล่าปี่ก็เผยแววตาประหลาดใจ

เขาทราบดีถึงสายตาอันแหลมคมของกวนอู

กองทัพที่อยู่ตรงหน้ามันดูน่าเกรงขามอย่างแท้จริง!

ใครกันที่เป็นเจ้าของทหารและแม่ทัพร้ายกาจสองคนนี้?

เจิ้นเหยียนอดไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้าและเอ่ยถาม

“ข้าเป็นบุตรคนโตรของตระกูลเจิ้นแห่งจงซาน เจิ้นเหยียน!”

“กองทัพของพวกท่านมาจากจงซานงั้นหรือ? สถานการณ์ที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ใบหน้าของลิโป้ก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย

เขาหันไปหาทหารด้านหลัง

“เขามาจากตระกูลเจิ้นแห่งจงซาน รีบไปรายงานนายท่านให้ทำการตัดสินใจ!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด