ตอนที่แล้วตอนที่ 111 ทำไมฉันไม่รู้ว่าตัวเองกินข้าวอ่อนอยู่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 113 ช่วงเวลาอวดความมั่งคั่งของผางเหว่ย

ตอนที่ 112 ทำดีมากเซียวหรง!


กำลังโหลดไฟล์

เย่เทียนโดนพ่อสั่งสอนที่เขาเป็นเหล็กไม่ใช่เหล็กกล้าเกือบสี่ชั่วโมง

เย่เทียนขึ้นไปชั้นบนด้วยขาที่สั่นเทา เมื่อมาถึงชั้นบนเขาก็เห็นผางเหว่ยนอนกรนเหมือนหมูอยู่ ผางเหว่ยที่กรนอยู่โดนเตะไปหนึ่งที “ไอ้คนทรยศ หนีขึ้นมาก่อนแล้วยังมีหน้ามาหลับอีก บอกมาว่าวันนี้มาหาฉันทำไม”

ก่อนหน้านี้ระหว่างที่ผางเหว่ยรอเย่เทียนขึ้นมาชั้นบน เขาก็ดื่มชากับกาแฟชนิดต่างๆจนเกือบอาเจียน ผางเหว่ยถึงกับต้องบอกให้พ่อบ้านอางกวงไม่ต้องชงชากับกาแฟมาให้เขาแล้ว

เมื่อพ่อบ้านอากวงหยุดขึ้นไปชั้นบน ผางเหว่ยที่ไม่รู้จะทำอะไรจึงไปนั่งบนเก้าอี้และเมื่อรวมกับอารมณ์ขึ้นๆลงๆในสองวันนี้จึงทำให้เขาผล็อยหลับไป

ผางเหว่ยโดนเย่เทียนเตะล้มลงกับพื้นพร้อมเก้าอี้ที่เขานอนอยู่ เมื่อผางเหว่ยที่สะลึมสะลืออยู่หน้าที่ซีดราวกับขี้ผึ้งของเย่เทียน เขาก็รีบเช็ดน้ำลายตรงมุมปากแล้วลุกพร้อมยกเก้าอี้ขึ้นมา “พี่เย่? พี่ขึ้นมาแล้วสินะ เอ่อ...ฉันรอพี่นานเกินไปจนเผลอหลับน่ะ”

ขณะที่พูดเขาก็ผลักเก้าอี้ออกไปเพื่อให้เย่เทียนที่ดูเหนื่อยล้านั่งพัก “ขอโทษนะพี่ชาย ต่อให้ฉันมีเก้าชีวิตก็ไม่กล้าเข้าไปช่วยหรอก พ่อเย่เป็นพ่อของพี่ซึ่งเขาก็เป็นเหมือนพ่อฉันครึ่งหนึ่ง ตอนนั้นพวกเขาโกรธมากจนฉันเกลี้ยกล่อมไม่ได้เลย เหมือนพวกเขาจะโกรธเรื่องพี่สะใภ้กับพี่เป็นอะไรกัน แต่ฉันรู้ที่ไหนล่ะ ฉันเลยทำได้แค่แกล้งเป็นใบ้แล้วพยักหน้ากับส่ายหัวไม่ใช่เหรอ?”

พี่เย่ไม่รู้หรือไงว่าฉันมากินเล่นที่บ้านพี่ตั้งหลายครั้งแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่โดนพ่อเย่รั้งไว้ไม้ให้ไปไนโดยให้อากวงชงกาแฟกับเอาขนมมาให้ ก่อนหน้านี้ยังหิวอยู่เลยแต่ตอนนี้ในท้องฉันกลายเป็นบ่อน้ำไปแล้ว

“มีปัญหาอะไรรึเปล่าพี่เย่ หรือว่าตอนกลับหมู่บ้านจะเกิดเรื่องขึ้น เหมือนพ่อเย่แม่เย่จะเปลี่ยนไปรึเปล่า?”

เย่เทียนมองผางเหว่ยด้วยความโกรธ เขายังไม่ลืมเรื่องก่อนหน้านี้แต่จะให้ระบายความโกรธใส่ผางเหว่ยเขาก็ทำไม่ได้

สุดท้ายเขาก็ทำได้แค่ถอนหายใจและนั่งลงบนเก้าอี้ที่ผางเหว่ยใช้นอน

เขายึดมั่นหลักการไม่รุกรานผู้อื่นก่อนเสมอ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้เขาจะพลิกคว่ำตกในรางน้ำของเซียวหรง

ถึงพ่อของเขาจะไม่ได้บอกเขาชัดเจน แต่เซียวหรงก็เข้าไปคุยกับพวกเขาก่อนออกจากหมู่บ้านหยิ่นหลงและเธอคงไปพูดอะไรบางอย่างให้พวกเขาฟัง

แต่พ่อแม่ของเขาเข้าใจผิดว่าเขาไม่มีงานทำแล้วใช้ใบหน้าอันหล่อเหลาไล่ตามผู้จัดการอย่างเซียวหรง

แถมยังเข้าใจผิดว่าเขากินข้าวอ่อนแล้วใช้เงินเซียวหรงด้วย

จะบอกว่าเซียวหรงซื้อวิลล่าA1ที่มีทำเลที่ดีที่สุดในอ่าวอิมพีเรียลเพื่อให้เขาพาพ่อแม่มาพักได้อย่างสะดวก แล้วเขาก็เป็นคนเนรคุณที่ไล่เซียวหรงกลับไปอยู่กับพ่อแม่ของเธอและให้เธอใช้ชีวิตอย่างยากลำบากโดยไม่มีบ้าน

แล้วยังบอกด้วยว่าเขาใช้เงินของเซียวหรงซื้อรถใหม่ซึ่งคนแก่อย่างพวกเขาไม่เหมาะจะใช้มันด้วย...

เห็นๆอยู่ว่านี่เป็นรถหรูคันนี้ดูดีมาก แล้วในสายตาพ่อแม่จะมองว่ามันไม่ดีได้ยังไง?

แต่ก็ยังให้เขาเอารถไปคืนแล้วเอาเงินแสนหยวนไปคืนเซียวหรงด้วยตัวเองด้วย ถ้าพ่อรู้ว่าเขาไม่ได้เอาเงินไปคืนพ่อจะหักขาสุนัขทั้งสองข้างของเขาทิ้ง

ตอนนั้นพ่อพูดอย่างเคร่งขรึมซึ่งหมายความว่าพ่อไม่ได้พูดเล่น

ยิ่งเย่เทียนคิดเรื่องนี้เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้น

เซียวหรงยัยผู้หญิงเจ้ากรรม เธอกล้าไปบอกว่าฉันเป็นคนไม่ดีใส่พ่อแม่เลยเหรอนี่ย?

น่าเสียดายที่เขาไปบริษัทเซียวก่อน

เพราะหาประโยชน์อะไรไม่ได้เลย

เขาก็ใช้ตัวเองเป็นเกราะให้เซียวหรงและโดนลุงเซียวตบหน้าเข้าอย่างแรง ถึงจะไม่ใช้มือแตะตรงที่โดนตบแต่เขาก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บแสบ

แต่เซียวหรงกลับมอบของขวัญสุดเซอร์ไพรส์ให้เขาแบบนี้?

ทำดีมากเซียวหรง!

“ผางเหว่ย ฉันได้ยินว่านายหิวแล้ว พี่ชายจะพาไปกินของอร่อยเอง!”

เนื่องจากเขากับเซียวหรงเป็นสามีภรรยาในนาม พ่อแม่เซียวจึงเป็นพ่อแม่บุญธรรมของเย่เทียนด้วย พ่อแม่ของเขาบอกว่าไม่ต้องการไมบัคเอส600คันนี้และให้เขาเอารถกลับและคืนเงิน100,000หยวน ถ้าอย่างนั้นขับเอาไปให้พ่อแม่เซียวหรงแล้วกัน

พ่อแม่จะว่าอะไรได้ถ้าเขาซื้อใจพ่อแม่บุญธรรมด้วยรถใหม่?

ในตอนนั้นพ่อแม่เซียวต้องการสนับสนุนเซียวหรงแต่ก็ละอายใจเกินไป

ยิ่งครอบครัวเซียวกับเซียวหรงเป็นหนี้เขามากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งอยากเอาใจเขามากขึ้น

เย่เทียนรู้อยู่เสมอว่าเขาไม่ใช่คนใจแคบ

แต่เขาถูกพ่อแม่เข้าใจผิดจนเกือบโดนหักขาทิ้ง...

ถึงทนได้แต่จะไม่ทน!

เหมือนเด็กอนุบาลสองคนทะเลาะกันแถมยังทะเลาะกันลับหลังครู ในตอนนั้นยังไม่มีใครบอกพ่อแม่พวกเขาเมื่อกลับบ้าน แต่เด็กฝั่งหนึ่งพูดเรื่องนี้ออกมาจึงทำให้เด็กอีกฝ่ายถูกพ่อแม่ทุบตี

สถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขาก็เป็นแบบนั้นแหละ

ทั้งคู่ได้ใบสมรสกันมาหนึ่งปีแล้ว เซียวหรงหวังว่าจะไม่มีใครรู้ว่าเธอแต่งงานแล้ว เดิมทีเย่เทียนกังวลมากที่แต่งงานกับภรรยาสาวสวยมีความทะเยอทะยาน เขาขอร้องเซียวให้ไปพบพ่อแม่ของเขาที่หมู่บ้านหยิ่นหลงอยู่หลายครั้งเพื่อที่พวกเขาจะได้รู้ว่าเขาแต่งงานแล้ว แต่เซียวหรงไม่เคยใส่ใจเขาเลย

ต่อมาเย่เทียนก็เห็นด้วยและรอให้ระบบลงชื่อเข้าใช้มหาเทพเปิดใช้งาน การแต่งงานในนามของเขากับเซียวหรงจะได้สิ้นสุดกันไป

ส่วนเรื่องหย่าในภายหลังนั้น ก็รอให้เขาระบายอารมณ์จนหมดก่อนแล้วค่อยไปทำ!

“พี่? พี่จะพาฉันไปกินข้าวที่ไหน? เรากินข้าวข้างล่างก็ได้นะ ไม่งั้นฉันกลับไปกินที่บ้านได้” ผางเหว่ยที่เห็นเย่เทียนดูเปลี่ยนไปและดุร้ายขึ้น เขาก็ได้ยินเสียงเตือนอยู่ในใจว่ากำลังจะมีคนซวย ดังนั้นเขาเลยอยากจากไปก่อนเพื่อความปลอดภัย

เดิมทีเขามาหาเย่เทียนเพราะต้องการปรึกษาอะไรนิดหน่อย และอีกอย่างเขาจะได้ซ่อนตัวจากญาติและเพื่อนทั้งหกที่เขาไล่ออกจากบริษัทเมื่อสองวันก่อน

เขาเห็นเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นกับตระกูลฉินและบริษัทต้าฉินเกือบได้ประกาศเปลี่ยนเจ้าของ ถ้ามหาเทพเย่เทียนไม่ใช้เงินหลายพันล้านช่วยฉินเยี่ยนให้ผ่านความยากลำบากนี้ไป เกรงว่าตระกูลฉินคงได้ล่มสลายแล้ว ในฐานะที่ผางเหว่ยเป็นนายน้อยบริษัทผาง เมื่อเขาเห็นเหตุการณ์พวกนี้เขาจะไม่มีความกลัวอยู่ในใจได้ยังไง?

สองวันก่อนเขาจึงกวาดล้างพวกปรสิตที่เอาแต่กินแล้วไม่ทำงานในบริษัท

ในสองวันนั้นญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงที่ถูกเขาไล่ออกต่างตามหาเขาเหมือนมดบนกระทะร้อน

เขากลัวมากจนไม่กล้ากลับบ้าน แม้แต่บริษัทก็ไม่กล้าเข้า เขาอยากรอจนกว่าทุกอย่างจะสงบลงแล้วเขาค่อยปรากฎตัวออกมา

แต่ใครจะรู้ว่ามาอยู่ข้างเย่เทียนแล้วก็ไม่ได้อยู่อย่างสงบสุขเหมือนกัน...