ตอนที่แล้วการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 67 เนื้อในแท้จริงของแร่เหล็กสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 69 ดาบไร้ชื่อ VS สุดยอดดาบราคา 10,000 เหรียญทอง

การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 68 กำเนิดสุดยอดดาบ


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 68 กำเนิดสุดยอดดาบ

“สุดยอด! ข้าไม่เคยเห็นแร่สีเงินที่แวววาวราวกับทองเช่นนี้มาก่อนเลย”

คนที่พูดออกมาท่ามกลางความเงียบสงบในครั้งนี้ก็คือ ซาอุส เดอุส จากนั้นเสียงเหล่าช่างตีเหล็กก็ดังขึ้นตามมาอีก

“ใช่! ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีแร่สวยงามเช่นนี้อยู่บนโลก สีของมันเป็นสีเงินแต่ราวกับว่าเป็นทองที่ส่องประกาย”

“นี่สินะเนื้อในของมัน ท่านแกรนด์ดยุกพูดไม่ผิด! ชื่อไร้ค่าไม่เหมาะกับมันจริงๆ แร่เหล็กสวรรค์ เหมาะกับมันมากจริงๆ”

“ข้าเองก็คิดแบบนั้นเช่นกัน ไม่คิดเลยว่าจะมีของดีแบบนี้ซ้อนอยู่ในก้อนดำๆ เช่นนั้น”

การตอบกลับของเหล่าช่างตีเหล็กมันเป็นเรื่องปกติกันอยู่แล้ว สีเงินที่ส่องสว่างราวกับทองคำ เวลาเอามันเข้าไปในสนามรบก็จะกลายเป็นจุดสนใจในสนามรบทันที ทว่า มันต่างจากเกาะทองคำไร้ประโยชน์พวกนั้นอย่างมาก ถ้าให้เทียบก็คงเทียบกันไม่ได้หรอกกับความคงทนของมันและทองคำ แร่เหล็กสวรรค์คงทนได้มากกว่าเกาะทองคำถึง 10 หรือ 20 เท่า เลยด้วยซ้ำ

“ท่านแกรนด์ดยุก นี่คือที่ท่านต้องการให้พวกเราเห็นใช่ไหม”

“ใช่!”

ผมตอบกลับหัวหน้าช่างตีเหล็กที่ถามออกมา ระหว่างถามเขาก็ยังคงก้มหน้ามองแร่เหล็กสวรรค์แบบตาไม่กะพริบ ความภาคภูมิใจของหมอนี่ที่ตีเหล็กมา 40 ปี คงโดนทำลายไปหมดแล้วนั่นแหละ ก่อนหน้านี้ก็พูดออกมาสะเต็มปากว่าแร่เหล็กสวรรค์ไม่มีอะไรดี แถมยังบอกว่าไม่มีแร่อะไรทนความร้อน 3000 องศา ออกมาอีก หึหึ! ถ้าความร้อนไม่ถึง 4000 องศา มันก็คงไม่สามารถทำลายเปลือกนอกของมันได้หรอก

“แบบนี้ก็แย่เลยนะครับ ถ้าต้องทำเช่นนี้ตลอด”

หัวหน้าช่างตีเหล็ก พูดออกมาอีกครั้งด้วยสีหน้าหนักใจ ทว่า ครั้งนี้หมอนั่นมองไปยังเตาหลอมที่ผมใช้เคล็ดวิชาเพลิงลมปราณกับมันไปเมื่อครู่ แต่ก็แน่ละที่จะพูดหนักใจออกมา เตาหลอด! ของพวกนี้มันถูกสร้างขึ้นมาแบบพิเศษให้ทนความร้อนได้ดีและเป็นเวลานาน เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในการทำงานของมัน แต่ว่า ตอนนี้มันกลับแตกออกมาเล็กน้อยให้เห็นแล้ว ปกติแล้วการที่มันจะแตกแบบนั้นต้องผ่านการใช้งานมาเป็นจำนวนมาก และเป็นเวลานานถึงจะแตกออก

การที่เตาหลอมใหม่ที่พึ่งซื้อมา แล้วมาแตกแบบนี้มันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้น แต่ว่า มันก็เป็นเรื่องปกติกับเตาหลอมธรรมดาที่เอามาใช้กับเคล็ดวิชาเพลิงลมปราณ ถ้าไม่ใช่เตาจากแร่เหล็กสวรรค์ด้วยกันหรือแร่ที่แข็งแกร่งกว่ามันก็คงต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว

มองสักพักผมก็พูดออกไปว่า

“ไม่ต้องห่วงมันเป็นเรื่องปกติ เรื่องค่าใช้จ่ายค่าจะเป็นคนออกเอง หลังจากนี้ก็พยามทำเตาหลอมจากแร่เหล็กสวรรค์ขึ้นมาก็แล้วกัน เพราะถ้าทำหนึ่งครั้งแล้วมันพังหนึ่งครั้งแบบนี้ต่อให้เป็นข้าก็ไม่ไหวเช่นกัน”

“ครับ”

“ถ้างั้นก็มาเริ่มกันต่อดีกว่า ขั้นที่ 2 ตีเย็น!”

พูดจบผมก็หันทางไปเตาหลอมที่มีความร้อน 500 องศา การตีเย็น! ชื่อก็ตามชื่อของมันเลย วิธีนี้ไม่ใช่การตีดาบทั่วไปที่ต้องใช้ความร้อนสูงสุดในการตีพวกมันขึ้นมา เพราะการทำแบบนั้นอาจทำให้แร่เหล็กสวรรค์แข็งตัวและไม่สามารถขึ้นรูปเป็นอะไรต้องการได้ หลังจากตรวจสอบความร้อนจนแน่ใจ ผมก็ตะโกนขึ้นอีก

“ต่อไปเป็นขั้นตอนที่สอง!!!”

ทุกสายตาเปลี่ยนเป้าหมายจากแร่เหล็กสวรรค์ กลับมาเป็นผมอีกครั้ง

“ขั้นตอนที่สองพวกเจ้าต้องระวังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั้นคือ ความร้อน!!! ความร้อนในการตีเย็นของพวกมันต้องอยู่ประมาณ 500 องศา บวกลบไม่เกินสิบ ถ้าไม่เช่นนั้นแร่เหล็กสวรรค์มันจะแข็งตัวและไม่สามารถขั้นรูปเป็นดาบ เป็นโล่หรือเป็นอะไรที่เราต้องการได้!!!”

ตามจริงการกำหนดความร้อนให้มันอยู่ในระดับนี้มันก็ยากพอสมควรนั่นแหละ บวกลบไม่เกินสิบ หรือก็คือ ต้องไม่เกิน 510 องศา หรือต่ำกว่า 490 องศา ถ้าต่ำกว่านั้นมันก็จะแข็งตัวจนไม่สามารถตีได้ทันที ตามจริงก็อยากถามเหมือนกันว่าพระเจ้ากำลังเล่นอะไรอยู่ ทำไมถึงได้ทำอะไรยุ่งยากขนาดนี้ เหอๆ ถึงมันจะยากก็เถอะ แต่ยังไงสะเหล่าช่างตีเหล็กที่อยู่ที่นี่ก็เป็นพวกมีประสบการณ์กันมาพอสมควร เรื่องควบคุมความร้อนให้ได้ระดับที่ผมต้องการคงไม่มีปัญหาอะไร

ระหว่างอธิบายผมก็หันไปหาชายที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดไป

“เจ้ามานี่!”

“ข้า?”

“ถูก! เจ้ามาจับเหล็กเอาไว้เพราะขั้นตอนหลังจากนี้ต้องใช้เวลานาน”

“คะ ครับ”

ผมวางมือจากคนจับเหล็กทันทีแล้วตรงไปยังเตาหลอมอีกครั้ง อืม! องศาขนาดนี้คงเพียงพอแล้ว รู้แบบนั้นผมก็หันไปทางหัวหน้าช่างตีเหล็กอีกครั้ง ก่อนจะพูดไปว่า

“หลังจากนี้คงต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่เจ้าไม่ต้องรีบร้อนเพราะถึงมันจะแข็งกว่าเหล็กธรรมดาทั่วไปมากก็ตาม แต่ก็ไม่ได้แข็งอะไรขนาดนั้น ตีแบบปกติได้เลย”

“ครับ!”

……..

5 ชั่วโมงต่อมา

เปล้ง! เปล้ง! เปล้ง!

หลังจากการตีเหล็กยังคงดำเนินอย่างต่อเนื้องมานานนับหลายชั่วโมง ในตอนนี้ ตัวก้อนเหล็กสีเงินแวววาวก็ได้กลายเป็นดาบไปแล้ว ใบของมันเรียวยาวเหมือนดาบปกติ ทว่า ความสวยงามและความแข็งแกร่งของมันแตกต่างการแร่ปกติทั่วไปมาก ทางด้านหัวหน้าช่างตีเหล็ก ก็ทำใบหน้าว่ากำลังเหนื่อยออกมาอย่างเห็นได้ชัด

แต่มันก็แน่ละ ใช้การตี 50 ครั้ง ต่อ 1 นาที ไปตั้งนาน แถมยังต้องมาตีเหล็กติดกัน 5 ชั่วโมง ติดต่อกันแบบนี้อีก ถ้ายังเป็นคนอยู่มันก็ต้องเหนื่อยบ้างเป็นธรรมดา ถ้าเป็นการตีปกติคนพลังบ่มเพาะ ระดับจักรพรรดิ คงไม่เหนื่อยง่ายๆ แบบนี้หรอก แต่เป็นเพราะการตีแบบนี้ต้องใส่ลมปราณทุกครั้งที่ตีลงไป แถมแร่เหล็กสวรรค์ยังแข็งกว่าเหล็กปกติที่เอามาทำดาบหรืออาวุธมากชนิดอื่นๆ พอสมควร

ฮูว….

เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังขึ้นมา จากนั้นหัวหน้าช่างตีเหล็กก็มองมาทางผม

“เท่านี้พอใช้ได้ไหมครับ?”

“อ่า ถึงยังไม่สวยงามเท่าไหร่แต่ก็พอเอามาเป็นตัวทดลองได้”

ผมหยิบดาบเหล็กสวรรค์ขึ้นมาช้าๆ และตรวจสอบดูให้แน่ใจอีกครั้ง ไม่มีที่ติ! ถึงนี้จะเป็นการตีครั้งแรกก็ตามแต่หัวหน้าช่างตีเหล็กก็สามารถตีได้ลงตัวทุกมุม ผลงานแบบนี้เอาไปขายคงได้ราคาไม่น้อย หึหึ! ….แต่ผมยังไม่คิดจะขายมันหรอกเพราะตอนนี้มันยังเพิ่มมูลค่าให้มากกว่านี้ได้อีก

“มาเอาดาบไปลับคม!”

“ครับ”

หนึ่งในช่างตีเหล็กเสนอตัวออกมาแล้วรับดาบไปจากผม ผ่านไปไม่นานนักช่างตีเหล็กคนเดิมก็เดินกลับมาพร้อมกับดาบเหล็กสวรรค์ในมือ หลังจากลับคมแล้วรูปร่างของมันก็ดูดีเข้าไปอีก แถมช่างตีเหล็กคนเมื่อครู่ยังใส่ด้ามจับที่เป็นไม้มาให้ด้วย ….ช่างเป็นคนที่รู้งานจริงๆ

“เป็นยังไงบ้างครับ?”

“อา เป็นการลับคมที่เรียบร้อยมาก ต้องขอบคุณเจ้าแล้ว”

“ฮาฮาฮา ท่านแกรนด์ดยุกก็พูดเกินไป ตอนแรกข้าคิดว่าจะรับคมมันยากสะอีกหลังจากเห็นขั้นตอนที่ 1 และ 2 ที่ท่านให้ทำ แต่ข้าไม่คิดเลยว่าการลับมันจะเหมือนลับดาบธรรมดาเช่นนี้”

ถูกต้องแล้ว! การลับคมดาบและวิธีหลังจากนี้มันไม่ยากหรอกถ้าผ่านขั้นตอนที่ 1 และขั้นตอนที 2 มาแล้ว อย่างที่ผมบอกออกไปตอนแรกก่อนจะเริ่ม ขั้นตอนการตีสำคัญๆ มันมีเพียง 3 ขั้นตอน 1.เปิดเผย 2.ตีเย็น 3.จารึก ส่วนขั้นตอนอื่นๆ มันก็เหมือนกับการตีดาบหรือตีเหล็กธรรมดาเท่านั้น

“เจ้าเข้าใจถูกแล้ว! ขั้นตอนจะยากก็เพียงสามขั้นตอนเท่านั้น ซึ่งขั้นตอนที่ 1 เป็นขั้นตอนที่ยากมากที่สุด ถ้าทำได้ก็เหมือนการตีเหล็กทั่วไปแต่ประสิทธิภาพของมันจะดีกว่าเหล็กปกติหลายเท่านัก”

ตอนนี้ถึงจะพูดอะไรไปก็คงไม่มีใครเชื่อกันหรอก ถึงมันจะเปิดเผยเนื้อแท้ของมันออกมาแล้วแต่ก็ยังไม่ได้แสดงความแข็งแกร่ง เพราะงั้นก็มีแต่ต้องแสดงให้ดูเท่านั้นถึงพวกนี้จะเข้าใจ และการจารึกตอนนี้มันก็ยังไม่จำเป็นต้องทำ ถ้าแสดงความแข็งแกร่งโดยลงจารึกไปด้วยมันก็จะไม่ใช้พลังของมันจริงๆ คิดได้ผมพูดออกไปต่ออีกว่า

“ใครคิดว่าดาบตัวเองแข็งแกร่งที่สุดให้เอาออกมา”

“ของข้าเองครับ!!”

เสียงที่ดังขึ้นมาทันทีตอนนี้เป็นเสียงของ ซาอุส เดอุส ท่าทางของหมอนั่นตอนนี้ต่างไปจากเมื่อกี้มากเป็นอย่างมาก เมื่อกี้ยังทำท่าทางกังวลที่ผมบังคับให้อยู่ดีวิธีตีดาบอยู่เลย แต่ตอนนี้ใบหน้าของหมอนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น… ไม่สิ! ใบหน้าแบบนั้นคงกำลังคิดจำนวนเงินที่จะได้รับจากดาบในมือของผมอยู่ต่างหาก

ซาอุส เอาดาบที่คาดเอวอยู่ออกมา พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนๆ ขณะส่งมาให้ผม

“นี่เป็นดาบจากร้าน ม้าเหล็กดำ! และนี่ยังเป็นดาบที่ดีที่สุดที่ข้าประมูลมาด้วยราคา 10,000 เหรียญทอง หากท่านแกรนด์ดยุกไม่กังวลเชิญท่านทดสอบกับมันได้เลยครับ”

“มะ ม้าเหล็กดำ! ร้านนั้นมันเป็น 1 ใน 3 ร้านตีดาบที่ดีที่สุดในจักรวรรดิ แถมยังราคาตั้ง 10,000 เหรียญทอง นั่นมันสุดยอดดาบชัดๆ”

“ใช่! ข้าได้ยินมาว่าเมื่อไม่นานมานี่มีการประมูลที่ดาบราคาสูงถึง 10,000 เหรียญทอง ตอนแรกคิดว่าเป็นแค่การหลอกลวงของร้านค้าพวกนั้นสะอีก”

“แบบนี้ไม่ไหวแน่! ดาบนั้นได้ยินมาว่าแข็งแกร่งจนสามารถฟันชุดเกราะขาดเป็นสองทอนได้เลย”

คำพูดของซาอุสสร้างความตื่นตระหนกให้กับเหล่าช่างตีเหล็กขึ้นอย่างฉับพลัน ร้านม้าเหล็กดำ! ร้านเหล็กกล้า! ร้านดาบชั้นเก้า! ร้านทั้งสามร้านที่บอกไปเป็นร้านที่มีชื่อเสียงที่สุดในจักรวรรดิในช่วงเวลานี้ มันก็ไม่แปลกหรอกที่แค่ได้ยินชื่อพวกช่างตีเหล็กจะตกใจขึ้นมากันขนาดนั้น แต่ว่า …ได้ของระดับนี้มาทดสอบก็ถือว่าดีเหมือนกัน หึหึ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด