ตอนที่แล้วการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 61 ช็อกโกแลต แห่งตระกูล วอเตอร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 63 รักษาขาของอลิส

การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 62 พายุลูกใหญ่ แห่งตระกูล วอเตอร์


จากนักเขียน. ในเด็ดีลงถึงตอนที่ 92 แล้ว ติดตามที่นั่นได้นะครับ

ตอนที่ 62 พายุลูกใหญ่ แห่งตระกูล วอเตอร์

ณ เผ่าขนาดเล็กสักเผ่า ในทวีปของมนุษย์

ภายในสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ที่เหมือนกับบ้าน มีผู้คนมากมายกำลังรวมตัวกันอยู่ภายในมากมาย กลุ่มคนที่รวมตัวกันอยู่มีทั้งเด็ก คนหนุ่มสาวและคนแก่ ด้านหน้าของคนเหล่านั้นก็มีชายหนึ่งคนที่แต่งกายเหมือนกับชาวจักรวรรดิกำลังนั่งอยู่ด้านหน้า

และตอนนี้ชายที่นั่งอยู่ด้านหน้าก็กำลังเล่าเรื่อง มาคัสยอดมังกร! ซึ่งมันเป็นนิยายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ให้คนเหล่านี้ฟังอยู่  การเล่าเรื่องของชายคนนี้จะเล่าวันละ 1 ตอน เวลาการเล่าก็เป็นช่วงเย็นๆ ที่ผู้คนเลิกงาน เพราะงั้นทำให้มีคนมาดูจำนวนมากเช่นนี้

“จบเล่มที่ 1 วันนี้จบเพียงเท่านี้”

นักเล่าเรื่องพูดออกมาหลังเล่าเรื่อง มาคัสยอดมังกร จบเล่มที่ 1 มีทั้งหมด 33 ตอน ทันทีที่เสียงการพูดของนักล่าเรื่องจบลง บรรยากาศในห้องก็ตึงเครียดขึ้นมากันทันที [จบ] เรื่องมันจะจบได้ยังไง ตั้งแต่ที่ทุกคนฟังมา มาคัส พึ่งเดินทางออกจากตระกูลที่ดูถูกตัวเองแล้วเข้ากองทัพเท่านั้น ต่อให้เป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุดยังรู้ว่าเรื่องมันยังไม่จบเพียงเท่านี้แน่นอน

“จะบ้าหรือไง พึ่งเดินทางเข้าไปเป็นทหารแท้ๆ ไหนจะน้องสาวที่โดนเอาตัวไปอีก!!!”

“ใช่ๆ มันจะเป็นไปได้ยังไง!!!”

“นี่เจ้าเล่าเรื่องบ้าอะไรของเจ้า มันเป็นแบบนี้จะจบได้ยังไง ยังเหลือเรื่องค้างคาอีกตั้งมากมายแท้ๆ”

เสียงผู้คนในห้องพากันตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เรื่องการตบมันเป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะงั้นทุกคนเลยตะโกนออกมากันแบบนี้ ทว่า เมื่อได้ยินเสียงตะโกนดังขึ้นมาไม่ได้นานนักเล่าเรื่องก็หัวเราะ

“ฮาฮาฮา พวกเจ้าทุกคนกำลังเข้าใจผิด! ที่จบมันจบเพียงเล่มที่ 1 เท่านั้นเอง ยังเหลือ เล่มที่ 2 เล่มที่ 3 เล่มที่ 4 ข้าได้ยินมาว่าหนังสือนิยายเรื่องนี้มีมากกว่า 10 เล่ม เพราะงั้นเรื่องที่พวกเจ้าฟังไปมันยังไม่ถึง 10% ของทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ”

เงียบสงบ!

หลังจากคำพูดของนักเล่าเรื่องดังขึ้น เสียงตะโกนของผู้คนในห้องก็สงบลงทันที แต่ว่า ในไม่นานเสียงก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“แบบนี้ก็แย่ละสิ ข้าอ่านหนังสือไม่ออก”

“ข้าเองก็เหมือนกัน แบบนี้พวกเราก็ติดตามเรื่องของมาคัสต่อไม่ได้”

“ข้าไปเรียนตอนนี้ทันไหมนะ?”

“จะบ้าหรือไง!!! เจ้าคิดว่าเรียนมันอยากเข้าก็เข้าได้หรือไง!!!”

ถูกต้องแล้ว! ผู้คนส่วนมากกว่า 70% ของทวีปมนุษย์อ่านหนังสือไม่ออก และการเรียนสำหรับยุคสมัยกลางแบบนี้ การเรียนมันก็ไม่ใช่อะไรที่จะเข้าไปเรียนได้ง่ายๆ ถ้าไม่มีเงินก็ไม่สามารถเรียนได้ ยุคสมัยแบบนี้ไม่ใช้ยุคสมัยใหม่ที่ใครต่อใครก็สามารถเข้าเรียนได้ เพราะแบบนั้นประชากรกว่า 80% เลยไม่สามารถอ่านหนังสือหรือหางานดีๆ ทำกันได้

ทว่า ในขณะที่ทั่วทั้งห้องกำลังตกอยู่ในความสิ้นหวัง นักเล่าเรื่องก็ฉีกยิ้มกับเสียงที่ได้ยิน พร้อมกับคิดในใจไปด้วยว่า ‘เป็นแบบที่ท่านฮาฟเตอร์บอกเอาไว้จริงๆ ได้กลิ่นเงินลอยมาเลย หึหึ’ ก่อนที่นักเล่าเรื่องจะเดินทางมา ฮาฟเตอร์ เจ้าของร้านขายหนังสือก็ได้บอกมาแล้วว่า จะได้เงินมหาศาลจากการเล่าเรื่อง

ตอนแรกที่ได้ยินเขาก็คิดว่าฮาฟเตอร์ นั้นพูดเกินจริงจนเกินไป แต่ในตอนนี้ นักเล่าเรื่องก็ได้รู้ว่ามันเป็นความจริง ถึงคนเหล่านี้จะไม่มีเงินกันมากมายแต่ก็มีจำนวนมากหลายคนที่อยากฟัง ทำให้เรื่องการเก็บเงินคนละนิดคนละหน่อยจะสามารถสร้างกำไรได้มหาศาลได้แน่ๆ รู้แบบนั้น นักเล่าเรื่องก็พูดขึ้นอีกว่า

“แต่ว่า!! ข้าสามารถเล่าต่อได้ถ้าพวกเจ้าจ่ายเงินให้คนละ 5 เหรียญทองแดง  ในการเข้าฟัง 1 ตอน ที่ต้องเก็บเงินแบบนี้ก็เพราะข้าต้องเอาเงินไปให้เจ้าของนิยายเรื่องนี้ แกรนด์ดยุกแห่งจักรวรรดิ ตระกูล วอเตอร์ พวกเจ้าก็น่าจะเข้าใจว่าถ้าพยามโกงตระกูลขุนนางพวกเราจะเป็นยังไง เพราะงั้นข้าเลขเรียกเก็บเพียง 5 เหรียญทองแดง จากการฟังหนึ่งตอนจากพวกเจ้าเท่านั้น”

“เอาสิ! ถ้าแค่นั้นข้ามีจ่ายแน่นอน”

“ข้าเองก็เหมือนกัน ถ้าเพียงแค่นั้นต่อวันข้าไม่มีปัญหาอะไร”

“ข้าด้วย!”

“ข้าด้วย!”

คำพูดของนักเล่าเรื่องได้รับการตอบรับในทันที เงิน 5 เหรียญทองแดง ถ้าคิดง่ายๆ มันก็คงเป็นค่าแรงประมาณ 1 ชั่วโมง ในการทำงานของแรงงานชั้นล่าง สำหรับชนชั้นล่างที่ใช้เงินเพียงเท่านี้มันไม่ได้มากอะไรกันเลย อีกอย่าง ถ้าไม่ยอมก็ต้องไปหาอ่านเอง ซึ่งเรื่องนั้นมันเป็นไปไม่ได้แน่นอนเพราะคนเล่านี้อ่านหนังสือไม่ออก

“แล้วก็มีอีกเรื่อง!!”

นักเล่าเรื่อง พูดขึ้นมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยสีหน้าจริงจัง

“ท่านแกรนด์ดยุก วอเตอร์ แห่งจักรวรรดิกำลังต้องการกำลังทหาร และได้ฝากมาบอกว่า ถ้าใครต้องการเป็นทหารสามารถสมัครกับตระกูล วอเตอร์ ได้ทันที ไม่แบ่งแยกชนชาติ! ไม่แบ่งแยกอายุ! ไม่แบ่งแยกเพศ! ไม่แบ่งแยกชนชั้น! ถ้าเกิดมีความสามารถจริงๆ ก็จะได้รับทรัพยากรจำนวนมากจากตระกูล วอเตอร์ เพื่อฝึกกำลังภายในด้วยเช่นกัน!!”

วูบ….

ในห้องตกสู่ความตกใจกันอีกครั้ง การรับสมัครกำลังทหารปกติแล้วจะไม่รับคนนอกประเทศเข้าไป แต่ว่า ก็ไม่มีกฎห้ามข้อนี้เหมือนกันว่าห้ามทำ ถ้าพูดให้ถูกคงประมาณว่าไม่มีใครคิดว่าจะมีคนทำแบบนี้ถึงจะถูก และเรื่องการฝึกกำลังภายในสำหรับชนชั้นล่างแบบนี้มันเป็นเรื่องใหญ่มาก หากสามารถเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงได้ก็จะหลุดพ้นจากการใช้แรงงานเช่นนี้ แววตาทุกคนต่างเปล่งประกายกับสิ่งที่ได้ทันที

ขณะเดียวกัน เรื่องราวคล้ายๆ กันกับหมู่บ้านแห่งนี้ก็เกิดขึ้นไปทั่วทวีป เผ่าขนาดเล็ก! ประเทศขนาดเล็ก! ประเทศขนาดกลาง! ไม่เว้นแม้สี่ประเทศมหาอำนาจของทวีป เรื่องการเล่าเรื่องนิยายและเรื่องการรับสมัครคนของตระกูล วอเตอร์  เกิดขึ้นพร้อมกันจนเหมือนกับพายุลูกใหญ่

……

หลายวันต่อมา

ณ ห้องปรุงยาสมาคมนักปรุงโอสถ

อีกนิดเดียวเท่านั้น….

ผมกำลังใช้พลังปราณในร่างกายถ่ายเข้าไปในหม้อปรุงโอสถขนาดใหญ่ด้านหน้า นับตั้งแต่เข้ามาผ่านมากี่วันแล้วผมก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะการปรุงโอสถต้องใช้สติและพลังปราณจำนวนมาก แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้มันผ่านมานานพอสมควร

ตอนแรกก็คิดว่าจะสามารถปรุงมันขึ้นมาได้ง่ายๆ แต่ว่า เหมือนว่าผมจะเข้าใจเรื่องนั้นผิดไปหน่อย  สมัยก่อนที่ผมลองปรุงมัน ระดับพลังของผมอยู่ในระดับพระเจ้า การปรุงมันเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถทำออกมาได้แล้ว แต่ตอนนี้ไม่ใช่! พลังของผมอยู่เพียงระดับ ราชานักรบ ขั้นที่ 9  จากที่เคยทำโดยใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็เลยกลายเป็นหลายวันเช่นนี้

เฮ้อ~ จะไปเรียกให้คนของสมาคมมาช่วยก็ไม่ได้ เพราะก่อนเข้ามาผมก็บอกไปแล้วว่าไม่ให้ใครเข้ามารบกวนเด็ดขาด และถ้าออกไปแม้แต่วินาทีเดียววัตถุดิบทั้งหมดก็จะเสียในทันที

…..

…….

เรียบร้อย!

หลังจากอดทนอันยาวนานมาหลายวัน ความพยามของผมก็สำเร็จจนได้

ผมค่อยๆ เปิดฝาหม้อปรุงออกอย่างช้าๆ เพื่อดูว่าสิ่งที่ตัวเองทำสำเร็จไหม ถึงจะรู้สึกว่าทำสำเร็จไปกว่า 80% แล้วก็เถอะ แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย ถ้าทำพลาดก็เท่ากับว่าอลิสจะหายไม่ทันวันเกิดอายุ 16 ปี ของเธอ ถ้าเป็นแบบนั้นก็เท่ากับว่าผมจะล้มเหลวในการช่วยให้ชีวิตเธอมีความสุขทันทีเช่นกัน

อายุ 16 ปี!

ช่วงอายุนี้มันไม่ใช่วัยที่ถูกยอมรับว่าเป็นผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นช่วงที่ผู้หญิงอายุ 16 ปี ได้มาเจอกันแล้วได้เป็นเพื่อนกัน ถ้าขาเธอหายช้าไปหนึ่งปีก็เท่ากับว่าเธอจะเสียโอกาสหาเพื่อนในช่วงวัยนี้ไป เพราะเรื่องแบบนั้นการปรุงโอสถครั้งนี้จะผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด!!

นี่…. โอสถกักเก็บพลังปราณ โอสถระดับสูงสุด!!

สำเร็จ!

โอสถสำหรับโลกใบนี้ ณ เวลานี้ จะไม่ได้แบ่งอะไรออกมากมายเพราะยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร แต่ว่า ในช่วงเวลาที่ผมจากมาโอสถจะแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ด้วยกัน

1 ระดับต่ำ ความเข้มข้น 50 – 60 %

2 ระดับกลาง ความเข้มข้น 60 - 90

3 ระดับสูง ความเข้มข้น 90 - 100

4 ระดับสูงสุด กักเก็บพลังปราณ

โอสถชื่อเดียวกันและชนิดเดียวกัน ทว่า ถ้าความเข้มข้นของพวกมันต่างกันก็จะระดับต่างกันทันที ซึ่งโอสถที่อยู่บนจุดสูงสุดที่มนุษย์สามารถปรุงขึ้นมาได้นั้นก็คือ ระดับสูงสุด! โอสถระดับนี้มันจะกักเก็บพลังปราณผู้ปรุงเอาไว้ด้วย ทำให้ประสิทธิภาพของมันสูงกว่าปกติเป็นอย่างมาก

ถ้าตอนนี้อยู่ในยุคหายนะแห่งมวลมนุษย์ ราคาของมันคงไม่เท่าไหร่ถ้าเอาไปขาย แต่ว่า ถ้าเอามันไปขายตอนนี้คงได้ราคาไม่ต่ำกว่า 1 ล้านเหรียญทอง …ตอนแรกก็คิดว่าจะปรุงได้แค่โอสถระดับสูงเท่านั้น การที่ได้โอสถระดับสูงสุดเช่นนี้ คงสามารถรักษาขาของอลิสได้แน่ หึหึ! เท่านี้ก็สำเร็จไปอีกหนึ่งเรื่อง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด