ตอนที่แล้วจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 573
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 575

จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 574


บทที่ 574: การพบปะกันในชีวิตจริง

"นายดูคล้ายกับตัวละครของนายในเกมเลยนะ"

แฟรี่น้ำมองดูลูหลี่ แต่เธอก็ไม่ได้ผิดหวังอะไรนัก

จากความรู้สึกแรกของเธอ ลูหลี่คือคนที่ไม่โดดเด่นอะไรเลย เขาเป็นคนประเภทที่ คุณสามารถหาได้ตามที่ทำงานหรือในสถานที่ก่อสร้าง

ง่ายๆก็คือ เขาไม่ใช่พวกที่แตกต่างจากคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด

"นั่นไม่ได้สำคัญเท่าไหร่หรอก" ลูหลี่ไม่ได้สนใจที่จะปรับแต่งหน้าตัวเองในเกม เพราะมันเปลืองเวลาของเขาในการจัดการกับมอนสเตอร์ในเกมตอนเริ่มต้น

เกมรุ่งอรุณไม่ได้มีตัวเลือกให้ผู้เล่นเปลี่ยนลักษณะบางอย่าง แต่ก็ยังสามารถให้ผู้เล่นปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้อยู่

ตัวอย่างเช่น ผู้เล่นสามารถวางแผลเป็นไว้บนใบหน้าได้ ส่วนใหญ่ไนท์เอลฟ์จะมีรอยสักบนใบหน้าและพวกเขายังสามารถเปลี่ยนสีผมได้ ซึ่งก็มีบางเผ่าพันธุ์ที่รูปลักษณ์ภายนอกของผู้เล่นเปลี่ยนได้น้อย ยกตัวอย่างเช่น ออร์คและอันเดด

"นี่คือ ดวงดาวที่ร่วงหล่น หัวหน้าสมาคมของเรา พอดีว่าเธอยืนกรานจะมาพร้อมกับฉันนะ "แฟรี่น้ำกล่าวพร้อมกับชี้ไปที่สาวสวยที่ยืนอยู่ข้างเธอ

"ยินดีต้อนรับครับ" ลูหลี่พยักหน้าด้วยความรู้สึกแปลกๆที่เขาดันพูดคำแบบนั้นออกมาจากปากของเขาเอง จากนั้นเขาก็ได้เปลี่ยนโทนเสียงและก็ได้พูดออกมาว่า "ขอบคุณที่มาเยี่ยมน้องสาวของฉัน ตอนนี้เธอค่อนข้างที่จะอ่อนแอและกำลังพักผ่อนอยู่ ถ้าพวกเธอไม่รังเกียจ ที่ตรงนั่นมีห้องพักสำหรับแขกอยู่ ... "

ลูหลี่ชี้นิ้วไปที่ทางหนึ่งและแฟรี่น้ำก็เข้าใจทันทีว่าเขากำลังต้องการที่จะสื่อว่าอะไร

หญิงสาวทั้งสองคนเดินตามหลังลูหลี่และเดินเข้าไปในห้องพักที่โรงพยาบาลจัดไว้ให้

โรงพยาบาลไม่ได้มีห้องนี้ไว้ให้แบบฟรีๆ ซึ่งลูหลี่ก็เต็มใจที่จะจ่าย นอกจากนี้ยังมีผู้เยี่ยมน้องสาวของเขาจำนวนมาก ซึ่งมันอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยคนอื่น นั้นจึงเป็นเหตุผลที่คุณหมอได้พิจารณาจัดหาห้องพักสำหรับแขกให้เขา

"นี่เป็นสถานที่ที่ดีทีเดียวเชียว" แฟรี่น้ำรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

นี่เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดพร้อมกับหอพักผู้ป่วยที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีวิธีการรักษาที่ดีอีก ตัวอย่างที่ดีที่สุดก็คงเป็น หมอที่ดูแลเหมือนครอบครัวและยังบริการพิเศษอะไรหลายๆอย่างอีก

"ทุกอย่างคงต้องขอบคุณเธอ" ลูหลี่กล่าวขณะที่เขาพาหญิงสาวทั้งสองคนเข้าไปยังห้องรับแขก

สแควรูทสามและคนอีกสองสามคนกำลังคุยกันอยู่ในห้อง พวกเขาประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้เห็นแฟรี่น้ำและดวงดาวที่ร่วงหล่น แม้กระทั่งสแควรูทสามเองก็ไม่เคยเห็นแฟรี่น้ำในชีวิตจริงมาก่อน ไม่ต้องพูดถึงว่าจะพบกับเธอโดยที่เธอปกปิดแค่ครึ่งใบหน้าเลย

ทันทีที่พวกเขาได้ยินว่าคนๆนี้คือแฟรี่น้ำ ตาของพวกเขาก็ได้เบิกกว้างขึ้น

แต่น่าเสียดายที่แฟรี่น้ำไม่สนใจที่จะถอดผ้าพันคึอออกเลย เธอเพียงแค่นั่งลงกับที่อย่างเงียบๆเท่านั้น

ในชีวิตจริง แฟรี่น้ำเองก็ไม่ได้เป็นมิตรเหมือนกับในเกมเลย ซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะทั้งเย็นชาและปากแข็งยิ่งขึ้นไปอีก เธอไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับใครเลย แต่การพบกันครั้งแรกของเขากับเธอก็เป็นแบบนี้แหละ

จนกระทั่งถึงเวลาที่พวกเขาเริ่มทำงานร่วมกัน ลูหลี่ก็ได้เปลี่ยนความคิดของตัวเองเกี่ยวกับตัวของแฟรี่น้ำไป

"ยินดีที่ได้พบครับ" สแควรูทสามจับมือของดวงดาวที่ร่วงหล่นอย่างนุ่มนวล ซึ่งเขาเองก็ฉลาดมากพอและไม่ได้เข้าไปยุ่งกับแฟรี่น้ำ

แฟรี่น้ำพยักหน้าเล็กน้อยและบรรยากาศโดยรอบก็ดูจะอึดอัดขึ้นมา

"นายยังคงเหมือนเดิมเลยนะ แต่ช่างน่าเสียดายที่สมาคมของเรารับแค่ผู้หญิงเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเราคงจะเชิญนายเข้ามาด้วยแล้ว "ดวงดาวที่ร่วงหล่นกล่าวออกมา เพื่อทำลายความเงียบที่แสนจะน่าอึดอัดใจนี้ เธอคุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้เสียบ่อยครั้ง มันแทบจะเป็นแบบนี้ทุกๆครั้งที่พวกเธอออกมาข้างนอก

"โชคดีที่ผมไม่ได้ต้องการที่จะเข้าสมาคมของคุณและทำตามที่คุณแนะนำ ไม่งั้นหลายๆอย่างคงน่าอึดอัดน่าดู "สแควรูทสามหัวเราะ [จะเข้าสมาคมต้องเป็นผู้หญิง ถ้าผู้ชายจะเข้าก็ต้องตอน]

ทุกคนที่เข้าใจเรื่องนี้ต่างก็หัวเราะออกมา มีเฉพาะลูหลี่และแฟรี่น้ำที่ยังคงนิ่งอยู่ อาจเป็ฯเพราะพวกเขาไม่ตลกกับมุขหรือบางทีก็คงต้องการรักษาภาพลักษณ์ละมั้ง

สมาชิกสมาคมไม่กี่คนต่างก็หัวเราะออกมา เพื่อไว้หน้าสแควรูทสาม แต่สายตาของพวกเขาก็แทบจะจ้องไปที่แฟรี่น้ำตลอดเวลา

ผู้คนนั้นมักจะสนใจสิ่งที่ลึกลับเสมอ

แม้ว่าคนอื่นๆจะประหลาดใจกับความสวยงามของเธอหาก แต่หากแฟรี่น้ำถอดผ้าพันคอออก คงจะไม่มีใครสนใจใคร่รู้เธอมากนัก

"ผมจะพาพวกเขาออกไปก่อน พวกคุณเชิญพูดคุยกันเลยนะ "สแควรูทสามนั้นมีความสามารถในสถานการณ์ทางสังคมมากและรู้แล้วว่าเขานั้นไม่ควรที่จะอยู่ที่นี้

ซึ่งเขาเองก็ยังไม่ปักใจเชื่อเลยว่าแฟรี่น้ำจะเป็นคนแบบที่มาเยี่ยมคนอื่นที่ป่วยเลย

ข่าวลือมักจะวนอยู่รอบๆตัวเธอและส่วนมากจะเป็นคนจำพวกหนึ่งที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเธอ คนพวกนั้นส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยหรือไม่ก็ผู้มีอำนาจ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีข่าวไหนเลยที่จบลงด้วยดี

สแควรูทสามเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้มาบ้างและก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่แค่ข่าวลือธรรมดา

ดวงดาวที่ร่วงหล่นเคยพยายามขอให้เขาคอยทำหน้าที่อยู่เบื้องหลัง แต่เธอก็ไม่ได้ยืนกรานแบบจะเอาเขาไปทำงานให้ได้

สแควรูทสามพาคนอื่นๆที่มาพร้อมกับเขาออกไป ในห้องตอนนี้เหลือแค่พวกเขาสามคน แฟรี่น้ำถอนหายใจยาวและเอาผ้าพันคอออกไป

ตามที่คาดไว้ เธอนั้นสวยมาก พระเจ้าคงใช้เวลาในการรังสรรค์เธอพอสมควร

อย่างไรก็ตาม ลูหลี่ไม่ได้แปลกใจอะไรเลย การแสดงออกบนใบหน้าของเขายังคงเหมือนเดิมและสายตาของเขาก็แค่จับจ้องไปที่แฟรี่น้ำครู่เดียวเท่านั้นโดยไม่ได้แช่นานเลย

เขาชอบแฟรี่น้ำในเกมมากกว่าในชีวิตจริงเสียอีก

ในเกมพวกเขานั้นประสานงานกันได้ดีมาก พวกเขาได้ทำอะไรหลายๆอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะหนีไปด้วยกันหรือตามสังหารคนอื่น อย่างไรก็ตามสถานการณ์นั้นแตกต่างกับในชีวิตจริงมาก พวกเขาเหมือนกับคนแปลกหน้ากันเลยทีเดียว

"เป้ายหมายหลักเราที่มาที่นี่ก็เพื่อมาเยี่ยมน้องสาวของนาย" ดวงดาวที่ร่วงหล่นมองไปที่ทั้งสองคน ความเงียบนี้มันชักจะทำให้เธอปวดหัวเล็กน้อยแล้วสิ

"หมอบอกว่าเธอจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ หลังจากพักฟื้นเสร็จแล้ว" ลูหลี่แทบจะไม่พูดเรื่องที่จะพาพวกเธอไปเยี่ยมลูซินเลย

ดวงดาวที่ร่วงหล่นเองก็ค่อนข้างที่จะอยากรู้เกี่ยวกับน้องสาวของลูหลี่อยู่ แต่เธอไม่คิดที่จะข้ามเส้นนั้นไป ถ้าลูหลี่ไม่คิดที่จะพาพวกเธอไปหาน้องสาวของเขา เธอก็จะไม่ยุ่งเรื่องนั้น

"นายวางแผนจะจัดการเซอฟาคยังไง?"แฟรี่น้ำถาม

เสียงของเธอดูดีเลยทีเดียว มันไม่ได้ฟังดูเซ็กซี่ แต่ก็ไม่ได้ฟังดูหยาบคาย มันทั้งพิเศษและเหมือนว่าเสียงจะดีกว่าในเกมเสียอีก ไม่ว่าเทคโนโลยีจะขั้นสูงขนาดไหน แต่ก็คงไม่อาจเทียบได้กับของจริง

ลูหลี่คิดเกี่ยวกับสิ่งที่เธอถามพักหนึ่ง ก่อนที่จะพูดออกมาว่า "เราจะทำส่วนของตัวเอง แต่เราจะคอยแบ่งปันสิ่งที่เรารู้กัน หลังจากที่ฉันได้สร้างคู่มือฉบับสมบูรณ์แล้ว พวกเธอก็เอาการเคลียร์ครั้งแรกไปได้เลย จากนั้นพวกเราก็จะได้เคลียร์ดันเจี้ยนไปพร้อมกัน"

นั่นหมายความว่า ถึงแม้ว่าลูหลี่จะได้รับการเคลียร์ครั้งแรกไป แต่เขาก็จะยังคงให้คู่มือการเคลียร์ดันเจี้ยนฉบับสมบูรณ์กับเธออยู่ดี

"ได้แน่นอน" แฟรี่น้ำเองก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย

เธอเป็นคนที่น่าภาคภูมิใจและก็อายที่จะถามลูหลี่เกี่ยวกับการขอให้สมาคมดิสซี่คอสได้รับเคลียร์ครั้งแรก นั้นทำให้เธอไม่สามารถที่จะขออะไรเพิ่มอีก

"ระดับผู้เล่นของทั้งทีมต้องมี 35 ขึ้นไป เธอจำเป็นต้องมีนักบวชคนหนึ่งที่สามารถแก้ดีบัพและจัดการพวกอันเดด ชาแมนหนึ่งคน... "ลูหลี่เริ่มอธิบายถึงโครงสร้างของทีมที่จะใช้ในการเคลียร์ดันเจี้ยน

"เราไม่มีชาแมนที่มีทักษะกระหายเลือด อัตราการดรอบของมันต่ำเกินไป "แฟรี่น้ำบุ้ยปาก เธอรู้สึกว่าทั้งเธอและลูหลี่นั้นมีความแตกต่างอันกว้างใหญ่อยู่ ซึ่งสิ่งนี้ก็ยิ่งเพิ่มมันขึ้นไปอีก

"อย่างน้อยพวกเธอก็มีทักษะลบล้างใช่ไหม?"ลูถาม

"อาจจะ?"แฟรี่น้ำหันไปหาดวงดาวที่ร่วงหล่น หลังจากนั้นดวงดาวที่ร่วงหล่นก็ได้พยักหน้าให้เธอพร้อมยืนยันว่า "ชาแมนของเรามีทักษะลบล้างสถานะผิดปกติและทักษะลบล้างเวทย์ฒนต์"

"นั่นก็ดีแล้ว มีนักเวทย์ที่มีทักษะระเบิดเวทย์ฒนต์หรือเปล่า?"ลูหลี่นั้นไม่รู้ว่าจุดแข็งของสมาคมดิสซี่คอสคืออะไร เขาจึงได้แต่คิดทีมที่ดีที่สุดในการเคลียร์ดันเจี้ยนนี้ขึ้นมา

ระเบิดเวทย์มนต์ เป็นทักษะที่สร้างความเสียหายเป็นกลุ่ม ซึ่งสามารถใช้ได้ในขณะที่นักเวทย์เคลื่อนที่ มันเหมาะสำหรับการกวาดล้างมอนสเตอร์กลุ่มเล็กๆที่มีความเร็วในการเคลื่อนที่สูงและมี HP ต่ำ

"นักเวทย์ของเราสามารถใช้ระเบิดเวทย์มนต์ได้" แฟรี่น้ำพูดออกมาพร้อมกับคิดถึงมฤตยูเขียวส้ม ในฐานะที่เป็นนักแข่งระดับอาชีพ มฤตยูเขียวส้มนั้นมีฝีมือมากกว่าเล่นธรรมดาอย่างแน่นอน

ระเบิดเวทย์มนต์ ไม่ใช่ทักษะที่หายาก แต่นักเวทย์ส่วนใหญ่มักจะไม่อัพมันกัน เพราะทักษะพายุหิมะนั้นสร้างความเสียหายได้มากกว่ามันมากเลย

"ส่วนอาชีพอื่นก็ไม่ได้สำคัญเท่าไหร่ แต่ยิ่งพวกเธอแข็งแกร่งเท่าไหร่ มันก็ยิ่งง่ายเท่านั้น แต่เธอจะต้องมั่นใจในการใช้ทักษะขัดจังหวะด้วย ... "

การพบปะกันของลูหลี่และแฟรี่น้ำที่สร้างข่าวไปทั่ววงการเกม อยู่ดีๆกลับกลายเป็นการคุยเรื่องการจัดการกับบอสเซอฟาคในดันเจี้ยนเฉยเลย สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ทั้งสองคนไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรเลยกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด