จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 521
บทที่ 521: ลูกชิ้น
ฮาชิจังดูเหมือนจะเหนื่อยมากและก็ได้วางลูกมังกรลงกับพื้น
เมื่อแสงสีทองและสีเขียวได้ผสานกัน เพลงก็ได้ดังขึ้นมา ส่วนตัวของลูกมังกรก็ได้พยายามลุกขึ้นมาอย่างไม่มั่นคง สุดท้ายมันก็ล้มลงกับพื้น
ซึ่งมันก็ได้ร้องออกมาเบาๆอย่างน่ารักจนเกินกว่าจะแทบกับอะไรก็ตาม
ฉากทั้งหมดนั้นกินระยะเวลาประมาณ 10 นาที ซึ่งมันยาวนานกว่า 40 วินาทีที่ลูหลี่จำได้ว่ามันควรจะเป็นแค่นั้น แต่ในนาทีนั้น ลูหลี่ก็แทบจะไม่ได้สนใจเรื่องเวลานักและคิดว่ามันคงจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ
หลังจากผ่านไปสิบนาที มังกรเอลฟ์ก็โปร่งใสเรื่อยๆจนมันหายไปทั้งหมดอย่างสมบูรณ์
"มังกรของเธอโตขึ้นไหม?"ลูหลี่เดินเข้ามาใกล้และนั่งมองลูกมังกร เขาแหย่มันและดูท่าว่าลูกมังกรจะไม่มีความสุขเลย
"ไม่เลย"ฮาชิจังวัดขนาดตัวมันด้วยมือของเธอ แต่เธอก็ไม่แน่ใจนัก
"ดูเหมือนว่ามันจะอ้วนขึ้นนะ"
อันที่จริง มันอ้วนขึ้นมากๆเลย
ก่อนหน้านี้มันเหมือนกับไส้กรอกบางๆ แต่ตอนนี้มันกลับเหมือนลูกชิ้นมากกว่า
ส่วนลูกมังกรเองก็ไม่พอใจกับร่างใหม่ของมันเช่นกัน มันพยายามที่จะลุกขึ้นและสุดท้ายก็จบลงด้วยการกลิ้งไปมา แต่ในท้ายที่สุด มันก็สามารถเดินอย่างโซซัดโซเซไปหาเจ้านายของมันได้
"ตอนนี้มันก็เป็นแบบนี้แล้ว คงจะมีโอกาสน้อยมากที่มันจะบินได้" ลูหลี่ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เนื่องจากผลที่ได้นั้นตรงจากความคาดหมายของเขามากโข
"อย่าพูดแบบนั้นสิ ลูกมังกรของฉันจะต้องบินได้ภายในวันเดียว ว้าว มันหนักมากเลยนะเนี้ย!"ฮาชิจังก้มตัวลงไปเพื่ออุ้มมังกรและก็ได้ยืนขึ้นมา
แต่ทันใดนั้นเอง มังกรก็ได้หล่นลงมาจากอ้อมแขนของเธอ
ส่วนลูหลี่ก็ไม่ได้ตกใจอะไรนัก เพราะมันทั้งอ้วนและก็ไม่มีทางที่จะตายเลยกับอีแค่การตกมาจากความสูงแค่นั้นเอง
ขณะที่ลูหลี่กำลังหัวเราะกับเรื่องนี้ สายตาของลูหลี่ก็พลันได้เห็นสิ่งที่ไม่คาดฝัน ลูกมังกรที่ได้ตกลงมากับพื้นก็ได้กางปีกและเริ่มบิน
แม้ว่ามันจะเป็นภาพที่น่าตกใจ แต่มันก็บินได้ดีเลยทีเดียว บินดีซะยิ่งกว่าเจ้านายของมันซะอีก
"มันบินแล้ว! ฮ่าๆ มันบิน!"ฮาชิจังอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น
"เธอจะดีใจเร็วเกินไปแล้วนะ เพียงเพราะมันบินได้ ไม่ได้หมายความว่าเธอจะขี่มันได้หรอกนะ "ลูหลี่กล่าวออกมา เพื่อหยุดความคิดของเธอ
"ฉันก็สามารถบินได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นเลยที่ฉันจะต้องขี่มัน"
ฮาชิจังกลายร่างเป็นผีเสื้อในทันที เธอบินไปมารอบๆลูกมังกรจนเกือบจะบินเข้าไปในปากของมัน บางทีเธออาจจะเป็นคนแรกในเกมรุ่งอรุณที่จะถูกกินโดยสัตว์เลี้ยงของตัวเอง ...
"ถ้ามันได้ผล เธอก็สามารถมาที่นี่อีกครั้งด้วยตัวเองได้นะ ตามเส้นทางก็ไม่ได้อันตรายนัก "ลูหลี่พูดแนะนำ
"อ่า... " ฮาชิจังเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่จะเตือนสติลูหลี่ถึงเรื่องหนึ่ง "ฉันไม่ค่อยรู้ทิศทางนะ"
"จริงสิ" ลูหลี่กล่าวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ "ฉันดันลืมไปเลยว่าการแยกแยะทิศทางของเธอแย่ขนาดไหน เธอคงจะจำทางมาไม่ได้เลยสินะ งั้นก็ลืมเรื่องนี้ไปเถอะ เราค่อยมาอีกครั้งตอนที่ฉันว่างก็แล้วกัน ฉันจะต้องไปแล้ว การแข่งขันรอบต่อไปฉันยังต้องลงอยู่"
การแข่งขันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ การช่วยเด็กสาวตัวน้อยทำเควสเป็นแค่การทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นแค่นั้นเอง
การแข่งขันในยามเช้าพวกเขาเจอกับสมาคมจักรวาลสีน้ำเงิน สมาคมจักรวาลสีน้ำเงินเป็นสมาคมย่อยของดิสซี่คอสและยังได้รับทุนสนับสนุนจากแฟรี่น้ำอีก
อย่างไรก็ตาม ความจริงข้อนี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้เลย เพราะว่าแฟรี่น้ำไม่คอยรับเรื่องนี้กับสาธารณะและเธอก็ยังไม่ได้บังคับอะไรสมาคมนี้อีก นั้นทำให้สมาคมนี้ต้องใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองในการแข่งขันถ้วยเวทย์มนต์และพวกเขาก็ไม่ได้พึ่งพาใครด้วย
พวกเขาได้เจอกับสมาคมระดับใหญ่ทั้งสี่สมาคมแล้ว สมาคมเปียเรสซิตี้ สมาคมสวรรค์ชั้นเจ็ด สมาคมจักรวรรดิเพลิง และแน่นอนในรอบนี้ สมาคมกฏแห่งดาบก็เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สมาคมกฏแห่งดาบได้ทำร้ายตัวเองโดยการที่ลูหลี่พลาดการแข่งขันไปหลายครั้ง นี้จึงทำให้คะแนนของพวกเขาตามหลังคนอื่นอยู่ 2 คะแนน
สมาคมเปียเรสซิตี้และสมาคมจักรวรรดิวายุยังไม่ได้แพ้เลย ทั้งสองสมาคมจึงติดอันดับหนึ่งด้วยกัน ส่วนสมาคมสวรรค์ชั้นเจ็ดก็ได้แพ้ไปแล้วหนึ่งครั้งในการแข่งขันที่เจอกับสมาคมเปียเรสซิตี้และทำให้พวกเขากลายเป็นอันดับที่สาม ซึ่งทีมที่แพ้การแข่งขัน 2 ครั้งมี: สมาคมธงสงครามสีเลือด สมาคมกฏแห่งดาบ สมาคมวัดมาจิน สมาคมจักรวาลสีเงินและสมาคมกังนัมรอยัล
ท่ามกลางทีมเหล่านี้ ทั้งสมาคมธงสงครามสีเลือดและสมาคมกังนัมรอยัลก็ได้ส่งสมาชิกทีมคนใหม่ๆเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ นั้นจึงทำให้ทีมที่พวกเขาส่งมาไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก
ซึ่งสมาคมจักรวาลสีเงินเป็นถึงม้ามืดในการแข่งขันถ้วยเวทย์มนต์ หัวหน้าทีมของพวกเขาคือ ปลาผู้เกลียดการบิน เขาเป็นคนที่มีทักษะและยังเป็นคนอ้วน เมื่อสองปีก่อน เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยที่รุนแรงและได้หายหน้าหายตาไป แต่ตอนนี้เขากำลังกลับเข้ามาสู่เกมรุ่งอรุณ
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ได้เจอกับทีมที่แข็งแกร่งเลย เพราะทีมที่พวกเขาเจออย่างสมาคมกังนัมรอยัลก็เต็มไปด้วยผู้เล่นสตาร์และก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าผู้เล่นจากทีมหลักเลย แต่ประเด็นสุดท้ายก็คือ การประสานงานที่ค่อนข้างอ่อนแอของทีมรองของสมาคมกังนัมรอยัล ปลาผู้เกลียดการบินจึงได้คว้าโอกาสนี่และเอาชนะมาได้
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแพ้สมาคมจักรวรรดิวายุ แต่สมาคมจักรวาลสีเงินก็ยังคงต่อสู้อย่างเข้มแข็ง แม้ว่าทีมฝ่ายตรงข้ามจะมีจำนวนมากกว่าพวกเขาถึงเท่าตัว แต่พวกเขาก็ยังสามารถยื้อการแข่งได้จนเวลาหมด
แน่นอนว่าเมื่อพวกเขาได้เจอกับสมาคมกฏแห่งดาบ จึงทำให้ที่นั่งผู้ชมทั้งสองฝั่งต่างเต็มไปด้วยผู้ชม
"ลิง ใช้ทักษะสตันใส่ชาแมนของพวกเขา ซากุระ คิดถึงทักษะกระหายเลือดของเธอไว้ดีๆ เราจะต้องมุ่งไปจัดการที่นักเวทญ์ของพวกเขาก่อน "หลังจากที่ลูหลี่ได้ดูถึงองค์ประกอบของทีมฝ่ายตรงข้ามแล้ว เขาก็ได้พูดถึงแผนการออกมา
ซึ่งแผนที่ๆพวกเขาได้เข้ามาแข่งขันในรอบนี้มีขนาดใหญ่มาก มันเป็นห้องโถงกลมที่ประกอบด้วยเสาสี่เสา แต่มันก็ไม่ได้กว้างมากขนาดนั้นและนั้นทำให้ผู้เล่นทุกคนสามารถมองเห็นกันได้ในทันที
"ทำไมคุณถึงไม่เล็งไปที่ฮีลเลอร์ก่อนละ?"ลิงอ้วนถาม
"นักบวชคนนี้เป็นอมตะ ... นายเคยได้ยินว่ามีคนฆ่าเธอได้สำเร็จด้วยเหรอ?"ลูหลี่ตอบกลับไป
ลิงอ้วนตะลึงงันอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะส่ายหัว "ผมจะรู้ได้ยังไงกันละ? ผมไม่เคยดูการแข่งขันของพวกเขาเลย นักบวชคนนี้เป็นอมตะและไม่สามารถฆ่าได้จริงๆสินะ? คนแบบนี้มีอยู่จริงๆด้วยเหรอ? "
"นายควรจะดูการแข่งขันของผู้เล่นคนอื่นถ้านายมีเวลา มันดีสำหรับนายแน่" ลูหลี่ใช้ประโยชน์จากเวลาไม่กี่วินาทีที่พวกเขามีในเวลาเตรียมตัว เพื่ออธิบายว่า "ไม่ใช่ว่านักบวชคนนี้เป็นอมตะ แต่เรื่องที่จะฆ่านักบวชคนนี้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้และก็ยากมากด้วย เธอยอมไม่ใส่ค่าสถานะไปยังค่าสติปัญญาและลงมันทั้งหมดไปที่ค่ารักษากับค่าร่างกาย ยิ่งกว่านั้น อุปกรณ์ของเธอยังเพิ่มค่า HP สูงสุดอีกและยังไม่ได้กล่าวถึงทักษะสตันของเธอ ... "
"ที่เธอมีของขนาดนี้ส่วนหนึ่งมาจากสมาคมงั้นเหรอ?"ลิงอ้วนผิวปาก
"ช่างเรื่องนั่นไป เราจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด ถ้าเราจัดการกับนักเวทย์ได้ ชัยชนะรอบนี้จะเป็นของเรา "ลูหลี่ไม่เคยดูถูกคู่ต่อสู้ของตัวเองเลย แม้ว่าศัตรูจะเป็นสมาคมอันดับ 30 ก็ตาม
สมาคมจักรวาลสีเงินก็คิดแผนที่จะใช้จัดการกับสมาคมกฏแห่งดาบแล้ว แต่เมื่อมีลูหลี่มาแทนมู่ฉี มันก็ได้สร้างความปวดหัวให้พวกเขาเล็กน้อย
ตราบใดที่ต้องมาเจอกับลูหลี่ เป็นใครก็รู้สึกกดดันทั้งนั้น
"เราควรจะโจมตีใครก่อนดี? "คนหนึ่งในทีมฝ่ายตรงข้ามถามขึ้นมา
ปลาผู้เกลียดการบินลังเล ก่อนที่จะกัดฟันและพูดออกมาว่า "ฆ่าลิงอ้วนก่อน นักเวทย์ นายต้องกดดันมาสเรนด้วย "
การฆ่าลูหลี่เป็นเรื่องยากมาก ถ้าพวกเขาให้ความสำคัญกับเขามากเกินไป พวกเขาอาจจะสูญเสียสมาชิกอย่างน้อย 2-3 คน ไม่ว่าคุณจะทำอย่างไร มันก็ดูจะเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขามาก ความหวังเดียวของพวกเขาคือการจัดการกับนักเวทย์ก่อน
เวลาได้นับถอยหลังลงและทั้งสองทีมก็ได้เข้ามาสู่สนามแข่งขัน
"มาสเรนไปยืนอยู่หลังเสา" ลูหลี่มองดูนักเวทย์ของฝั่งตรงข้ามและก็ได้รู้ในทันทีว่าพวกเขาตั้งใจจะทำอะไรกัน "ลิงอ้วน เราหวังพึ่งนายแล้วนะ วิ่งไปที่นั่นพร้อมกับฉันและทำให้ดูเหมือนว่าเรากำลังจะพยายามฆ่านักบวช ... "
"ฟังดูเข้าท่านิ" ลิงอ้วนยิ้มพร้อมกับใช้โล่ใส่ตัวเองและพุ่งไปข้างหน้า
เมื่อเห็นว่าลิงอ้วนกำลังมุ่งหน้าตรงไปยังนักบวช ปลาผู้เกลียดการบินก็ผ่อนคลายเล็กน้อยและรู้สึกโล่งใจ
ซึ่งเมื่อมาสเรนได้ไปหลบอยู่หลังเสา นักเวทย์ของสมาคมจักรวาลสีเงินก็ไม่มีทางเลือกอื่นเลย นอกจากการใช้โพลี่มอฟใส่มูนไลท์ แม้ว่าลิงอ้วนจะพุ่งไปข้างหน้าแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่อาจปล่อยปละละเลยเทพเจ้าอย่างมูนไลท์ได้
นอกจากนี้แล้ว พวกเขานั้นจดจำได้ดีถึงการคอมโบคลาสสิคระหว่างลิงอ้วนและมูนไลท์ นั้นก็คือเวทย์มนต์น้ำแข็งของลิงอ้วนและทักษะลมกรดของมูนไลท์