ตอนที่แล้วจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 449
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 451

จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 450


บทที่ 450: ผู้ชมตามท้องถนน

"ขายของพวกนี้และใช้มันเป็นทุนเถอะ"

ลูหลี่กลับมาที่แอสทาน่าและรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เขาตั้งใจที่จะให้สแควรูทสามขายบังเหียนของพาลาดินไร้หัวและหนังสือทักษะการขี่พาหนะขั้นพื้นฐานไป

เพราะว่าเขาสามารถบินได้อยู่แล้ว ดังนั้น มันจึงเป็นของที่ไม่น่าสนใจสำหรับเขาเลย

ก่อนที่คุณจะเรียนรู้การบินนั้น คุณไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียไปจากการ วิ่งไปมาบนพื้นเลย

"นายล้อเล่นหรือเปล่าเนี้ย?"สแควร์รูทสามไม่อาจจะเชื่อสิ่งที่เขาได้ยินได้ พวกเขาพึ่งจะได้รับไอเท็มที่ดีมา แต่ลูหลี่ต้องการที่จะขายมันไป

"ทำไมกันล่ะ ถ้าเราขายมันไปเราก็จะได้เงินนับล้านๆเหรียญเลยนะ?"ลูหลี่จ้องไปที่สแควรูทสามพร้อมกับพูดออกมา

"พี่ใหญ่ เราไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลเรื่องเงินเลยในตอนนี้" สแควร์รูทสามกล่าวขณะที่เขาจ้องมองไปที่ลูหลี่ราวกับว่าเขาเป็นบ้า "นายก็เป็นถึงหัวหน้าอยู่แล้ว และยิ่งนายเคลือนไหวมากเท่าไหร่ คนมากมายก็จะยิ่งจับจ้องนาย ยิ่งนายลงทุนไปมากเท่าไหร่ ผลตอบแทนก็จะมากขึ้นตามเท่านั้น "

สแควรูทสามรู้สึกปวดหัวเกี่ยวกับตัวของลูหลี่เล็กน้อย

สำหรับเขาแล้ว ลูหลี่นั้นดีทุกเรื่อง ยกเว้นการจัดการเรื่องเงิน

อุตสาหกรรมเกมมีมานานแล้วนับตั้งแต่ที่เกิดการชื้อขายอุปกรณ์ขึ้นและตอนนี้มันก็คล้ายกับอุตสาหกรรมบันเทิงเลยทีเดียว สมาคมใหญ่ๆต่างพัฒนาตัวของตัวเองตลอดเวลาและก็ได้สร้างผู้เล่นสตาร์มามากมาย เพื่อที่จะทำให้พวกเขานั้นกลายเป็นเหมือนกับไอดอลเสมือน

ไอดอลเสมือนจะยังคงทำกำไรได้เรื่อยๆ หากว่ายังมีคนสนใจพวกเขาอยู่

ตัวอย่างเช่น มีผู้เล่นสตาร์คนหนึ่งที่ยอมรับสัญญาการรับรองและได้เข้าร่วมกิจกรรมๆหนึ่ง เนื่องจากมีคนๆหนึ่งได้ทุ่มเงินให้กับผู้เล่นสตาร์คนนั้นอย่างมหาศาล เพียงเพื่อที่จะได้ทำการโฆษณาธุรกิจของตน

สมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศเองก็ได้รับสัญญาที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์เหมือนกัน แค่คุณส่งคนไปเข้าร่วมกับกิจกรรมไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เงินก็จะลอยกองมาที่ด้านหน้าคุณเอง

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เป็นแค่การโฆษณาเท่านั้น ...

และด้วยการที่มีการแลกเปลี่ยนไอเท็มที่มีมูลค่ามากมายในเกมวันต่อวันรวมถึงกิจกรรมที่จัดขึ้นในเกม จึงทำให้คนนับล้านๆคนต่างสนใจเกม ซึ่งตราบเท่าที่มีคนสนใจมากพอ สปอนเซอร์ก็พร้อมที่จะจ่ายเงินให้กับคุณ

ส่วนสมาคมกฏแห่งดาบเองก็ยังไม่ได้รับโฆษณาอะไรเลย แต่หากประเมินโดยใช้สายตาดูแล้ว การโฆษณาอะไรที่เกี่ยวข้องกับสมาคมกฏแห่งดาบย่อมจะต้องมีราคากว่าสิบล้านดอลลาร์

แต่ทำไมค่าโฆษณาของสมาคมกฏแห่งดาบถึงสูงขนาดนั้นกันล่ะ?

ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะความแข็งแกร่งของสมาคม สิ่งที่สโมสรเคยทำมาในอดีต รวมถึงความนิยมที่จะยิ่งพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆในอนาคต

ตอนนี้ ถ้าลูหลี่ขี่วิญญาณม้าสงครามไปรอบถนนแอสทาน่าละก็ ตามฟอรั่ม สื่อและผู้เล่นนับไม่ถ้วนคงจะพูดถึงตัวของเขาด้วยความอิจฉา

"นี่เป็นไอเท็มที่ได้มาจากรางวัลของระบบนะ ดังนั้นแล้ว มันไม่มีทางที่จะสามารถแลกเปลี่ยนได้" สแควรูทสามกล่าว

ในเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงก่อนหน้านี้ ก็มีไอเท็มหลายอย่างเหมือนกันที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้ อย่างไรก็ตาม ไอเท็มที่อาเซอร์ซีบรีสและนูโอยูได้รับมานั้น กลับสามารถที่จะแลกเปลี่ยนได้

"บ้าเอ้ย!"ลูหลี่ที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้เปิดคำอธิบายของไอเท็มมาอ่านในทันที

ของที่ระลึกในปีแรกของเกมรุ่งอรุณ เพื่อยกย่องสมาคมกฏแห่งดาบที่สามารถจัดการกับพาลาดินไร้หัวได้เป็นสมาคมแรก!

ไอเท็มนี้ไม่สามารถที่จะชื้อขาย ดรอบลงหรือทำลายได้

เงินนับล้านดอลลาร์เหมือนกับจะบินจากเขาไปในทันที...

ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย ที่คนไม่เคยรวยแบบเขา จะทำตัวเหมือนกับมหาเศรษฐีจริงๆ

"ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะใช้ประโยชน์จากเรื่องที่ว่าสมาคมอื่นๆนั้นไม่มีม้าของพาลาดินไร้หัว โดยการออกไปโชว์ตัวตามท้องถนน "สแควรูทสามพูดออกมาด้วยความพึงพอใจ

ซึ่งเมื่อลูหลี่คิดเกี่ยวกับคำพูดของสแควรูทสามแล้ว เขาก็คิดว่าสแควรูทสามนั้นพูดถูกต้องแล้ว ดังนั้น เขาจึงได้เรียนรู้ทักษะการขี่พาหนะและไปหา NPC เพื่อฝึกม้าสงครามของพาลาดินไร้หัว

ไม่เพียงแต่มันจะเป็นพาหนะตัวแรกของเกม แต่มันยังเป็นถึงม้าสงครามของพาลาดินไร้หัว

หลังจากที่เขาได้ทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ลูหลี่ก็ได้ไปยังถนนในเมืองแอสทาน่า เขามองไปรอบๆและรู้สึกเขินนิดหน่อย เพราะอย่างนั้นแล้ว เขาจึงสวมใส่ผ้าคลุมหน้าด้วยขณะที่ขี่ม้าไปทั่วเมือง

ม้าได้ส่งเสียงกรีดร้องแหลมออกมาในขณะที่มันปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าของลูหลี่

ตัวของมันนั้นใหญ่กว่าพาหนะทั่วไป ตาและปากของมันเต็มไปด้วยไฟสีเขียวและที่ด้านหลังของมันก็มีอานม้าติดอยู่ กีบแต่ละกีบเองก็มีไฟลุกโชนขึ้นมา ราวกับว่ามันเป็นม้าจากนรกเลยทีเดียว

ลูหลี่ขึ้นไปบนหลังม้าสงครามและใช้ทักษะขี่พหนะ ซึ่งเขาก็เคยเรียนรู้ทักษะขี่มาก่อนแล้วในชีวิตเขา ดังนั้น เขาจึงสามารถขี่มันได้โดยที่ไม่ต้องกังวลอะไรเลย

เมื่อม้าสงครามได้เหยียบย่ำไปตามพื้น มันก็ได้ทิ้งรอยเท้าที่เป็นเปลวไฟไว้

ถ้าเขาได้หาทักษะที่ทำให้พาหนะบินได้ล่ะก็ ม้าสงครามของพาลาดินไร้หัวก็จะดูดียิ่งขึ้นไปอีก

ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงให้เห็นว่ามันบินได้หรือไม่ก็ตาม คนหลายๆคนก็ยังคงตกใจในตัวของมันอยู่ดี

"..."

ผู้เล่นหลายๆคนที่เห็นม้าที่ลูหลี่ขี่ต่างก็พากันเงียบกัน มันดูน่ากลัวมากยิ่งกว่าภูตผีปีศาจในจินตนาการเสียอีก

"นี่ไม่ใช่พาหนะในตำนานงั้นเหรอ? ใครเป็นคนขี่มันกัน?"ในตอนแรก พวกเขาต่างก็มุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่พาหนะ แต่หลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนความสนใจไปที่ผู้ขี่มันแทน

"ใบหน้าของเขาถูกปกปิดไว้อยู่ ... " นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นส่วนใหญ่เห็นผู้เล่นคนอื่นปกปิดใบหน้าแบบนี้

การที่ได้รับความสนใจมากๆนั้นไม่ได้ดีนัก เพราะมันเป็นแค่ความอิจฉาเท่านั้นเอง ซึ่งหากคนที่ขี่มันชอบเรียกความสนใจแล้วละก็ การเปิดเผยใบหน้าก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ผู้เล่นส่วนใหญ่นั้นก็คงจะหวังร้ายกับคุณอย่างแน่นอน ว่าแต่คนๆนี้ได้รับพาหนะในตำนานมาได้ยังไงกัน? ทั้งๆที่คนอื่นยังไม่ได้รับแม้แต่พาหนะทั่วๆไปเลย

"มันดูเหมือนกับม้าของพาลาดินไร้หัวเลยนะ ... นั่นหมายความว่าคนนั้นจะต้องเป็น... ลูหลี่!"ในที่สุด ก็ได้มีคนฉลาดพอที่จะจดจำถึงตัวตนของลูหลี่ได้

"ลูหลี่จากสมาคมกฏแห่งดาบไง! ฉันจำลวดลายบนผ้าพันคอของเขาได้ ... "

หลังจากที่พวกเขารู้ว่าคนๆนี้เป็นลูหลี่แล้ว บรรยากาศโดยรอบก็ดีขึ้นเล็กน้อย เพราะนี้คือคนที่สามารถแย่งการเคลียร์ครั้งแรกจากสมาคมใหญ่ๆไปได้

สมาคมส่วนใหญ่ส่งทีมของตนไปมากมาย แต่สมาคมกฏแห่งดาบส่งเพียงแค่หนึ่งทีมเท่านั้น!

มาดูลูหลี่กันเถอะ!

มาดูม้าสงครามของพาลาดินกัน!

มาดูลูหลี่ที่กำลังขี่ม้าสงครามของพาลาดินไร้หัวกัน!

แออัด คงจะเป็นคำที่สามารถอธิบายถึงสถานการณ์ในถนนของเมืองแอสทาน่าในตอนนี้ได้ดี ฝ่ามือของลูหลี่นั้นเต็มไปด้วยเหงื่อเล็กน้อยในขณะที่เขานั่งอยู่บนพาหนะของเขาเอง

เขารู้สึกเหมือนกับเป็นลิงในสวนสัตว์

"ลูหลี่ ดูช่องแชทของสมาคมที ... " สแควรูทสามได้กล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ามีบางสิ่งที่แปลกประหลาดเกิดขึ้น นอกจากนี้แล้ว ลูหลี่ในตอนนี้ยังถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้เล่นมากมาย

ถึงกระนั้นก็ตาม ลูหลี่เองก็ยังคงเปิดช่องแชทของสมาคมขึ้นมาอ่าน

ผู้เล่นส่วนใหญ่ยังคงใช้ระบบข้อความแบบเก่าแทนการสื่อสารด้วยเสียงกันอยู่ เพราะมันสามารถบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรได้

ซึ่งเมื่อลูหลี่ได้อ่านไปเรื่อยๆ เขาก็พบว่ามีสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดสายตาของเขามาก เขี้ยวงูสีเงิน!

มันเป็นวัสดุหายากที่สำคัญมากสำหรับเขา

ก่อนหน้านี้ เขาเคยให้สแควร์รูทสามหาไอเท็มพวกนี้มาให้ได้ ถ้าเขาพบมัน โดยที่ไม่เกี่ยงราคาเลย นี่จึงเป็นเหตุผลที่สแควร์รูทสามรู้สึกกังวล เมื่อเขาได้พบกับสิ่งที่ลูหลี่ต้องการ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันจะเอาไปใช้อะไรก็ตาม อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากๆแน่ ถ้าหากลูหลี่สั่งให้เขาชื้อมันมา โดยไม่สนใจเรื่องราคาเลยด้วยซ้ำ

ซึ่งนี้คือหนึ่งในวัสดุหายากที่ลูหลี่จำเป็นที่จะต้องใช้ในการอัพเกรดแหวนซูพรีม!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด