ตอนที่แล้วจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 392
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 394

จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 393


บทที่ 393: สะเก็ดแห่งมลพิษ

"ทำไมเจ้ายังคงจ้องมองที่ข้าอีก? เอาเถอะ เจ้าหนุ่ม บอกข้ามาว่าเจ้าต้องการอะไร "ชายชราหัวเราะออกมา

น่าเสียดายที่ไม่มีใครหัวเราะด้วย ผู้ชมเพียงคนเดียวของเขาที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้านั้นฉลาดจนเกินไป

NPC กล้าที่จะอุบของรางวัลจากผู้เล่นงั้นเหรอ? ชายชราคนนี้ดูจะเป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาเลย

"ข้าเคยเห็นอาวุธที่ผู้นำทางสาวได้ใช้มาก่อน มันดูน่าสนใจมากเลยทีเดียว "

ลูหลี่นั้นกำลังโยนหินถามทาง เผื่อว่าเขาจะได้รับอะไรบางอย่างมาบ้าง ดูเหมือนว่าดยุคแห่งเรเวนฮอล์ คงจะไม่ได้ให้รางวัลเป็นอาวุธแก่เขา โดยที่ไม่ได้แจ้งอะไรเลยแบบนี้

"โอ้ เจ้าหมายถึงสะเก็ดมลพิษสินะ"

จากคำพูดของลูหลี่ ดยุคเรเวนฮอล์ก็รู้ได้อย่างรวดเร็วว่าเขากำลังพูดถึงอะไร และอธิบายถึงมันพร้อมด้วยการแสดงออกที่น่าเวทนา" นั่นคือความล้มเหลว หนึ่งในช่างตีเหล็กที่ดีที่สุดในยุคสุดท้าย ได้พยายามอย่างหนักในการสร้างเซ็ตอาวุธที่จะสามารถเทียบกับวอร์เกรฟแห่งอาเซียนอธให้ได้ หลังจากได้ค้นคว้าประมาณร้อยปีแล้ว เขาก็ค้นพบว่า มันยังมีอีกหลายส่วนมากมายที่มันยังไม่เสร็จสมบูรณ์"

"ถ้าอย่างนั้นแล้ว มันก็เป็นแค่ชุดเซ็ตที่ยังสร้างไม่เสร็จ ... " ลูหลี่รู้สึกผิดหวัง

มันมีจำนวนมากและก็เป็นของที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ มันแตกต่างจากที่ลูหลี่คิดมากเลยทีเดียว เพราะเขาเองก็ได้เตรียมพร้อมที่จะทำเควสยากๆเพื่อเอามันมาอยู่

"แผนในการสร้างได้หยุดลงเป็นเวลานานแล้ว ดังนั้น เราจึงมีเพียงสะเก็ดมลพิษจำนวนหนึ่งที่เหลืออยู่"

ดยุคแห่งเรเวนฮอล์ใช้เวลาค้นหาสักครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะหยิบอาวุธที่ลูหลี่เคยเห็นออกมา

แม้ว่ามันจะดูเป็นของที่มีคุณค่าน้อย แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะได้รับมันมาครอบครอง

ลูหลี่หยิบอาวุธมาถือด้วยความผิดหวังในขณะที่เขาตรวจสอบค่าสถานะของมันอย่างรวดเร็ว ...

"โอ้!"เพียงแค่เห็นลูหลี่อ้าปากค้าง มันก็บอกได้แล้วว่าเขานั้นรู้สึกยังไง แม้ว่าในตอนแรกเขาจะเหมือนถูกเตะจากสวรรค์ลงไปในนรก แต่จากนั้นเอง เขาก็ได้รู้ว่า นรกมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก

"ถ้าหากไม่มีอะไรแล้ว เจ้าก็สามารถออกไปได้เลย หากมีสิ่งใดที่เจ้าต้องการอีกในอนาคต ให้เจ้ามองหาพนักงานเสิร์ฟสาวในทะเลทางใต้ เธอจะเป็นคนติดต่อให้เจ้าเอง "

ชายชรายิ้มให้ยิ้มขณะที่เขาสนุกกับการแกล้งเล็กๆน้อยๆของเขาเอง จากนั้นเอง เขาก็ได้โบกมือไปมาและหายไปจากห้องโถงใหญ่

จริงๆแล้วเขาไม่ได้โกหกหรืออะไรเลย เมื่อตอนที่สะเก็ดมลพิษได้ถูกสร้างขึ้นมา ช่างตีเหล็กนั้นต้องการที่จะสร้างอาวุธจนสามารถเทียบเท่าได้กับวอเกรฟแห่งอาเซียนอธ แต่แน่นอน เขาล้มเหลว

หลังจากนั้นเอง เขาก็เริ่มแผนการที่สองของเขา เขาต้องการให้อาวุธชุดเซ็ตนี้สามารถอัพเกรดตัวของมันเองได้ตามตัวของผู้ใช้

อุปกรณ์ที่สามารถอัพเกรดตัวเองได้นั้นเป็นเรื่องที่น่าทึ่งจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ช่างตีเหล็กต้องการสร้างมันเป็นจำนวนมากเลย

ลูหลี่เดินออกมาจากคฤหาสน์โดยที่ไม่รู้ตัว เขาไม่รู้เลยว่า ทั่วทั้งเกาะมันเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากภายในระยะเวลาอันสั้น

ต้นไม้กำลังเหี่ยวเฉา อาคารเริ่มสลายไป และแม้แต่ท้องฟ้าก็กลับกลายเป็นสีเทา

กระแสน้ำกำลังไหลพัดเข้ามา เห็นได้ชัดเลยว่า พายุกำลังจะก่อตัวขึ้น

ซึ่งในตอนนี้ลูหลี่ไม่สนใจอะไรเลยสักนิด สายตาของเขากำลังจับจ้องกริชที่อยู่ในมือของเขาเอง

สะเก็ดมลพิษ (ทองดำ): พลังโจมตี 42-56 ความคล่องแคล่ว + 20 ความแข็งแกร่ง + 12 ช่องว่าง 1 ช่อง เอฟเฟคพิเศษ 1: ความเร็วในการโจมตี + 30% เอฟเฟคพิเศษ 2: มลพิษอันแสนเข้มข้น ลดความเร็วและเกราะของเป้าหมาย 25% ระยะเวลาคูลดาวน์ 360 วินาที เอฟเฟคพิเศษ 3: การระเบิดอันแสนร้ายแรง เมื่อเป้าหมายมีเลือดต่ำกว่า 20% มีโอกาสที่จะประหารเป้าหมายได้ในทันที ระดับความต้องการ 40 ความทนทาน 120/120

ไม่เพียงแต่จะมีค่าสถานะอันแสนน่าอัศจรรย์ แต่มันยังมีเอฟเฟคอันแสนน่าเหลือเชื่อเยอะแยะมากมาย มันยากที่จะจินตนาการได้เลยว่า สิ่งที่ชายชราอธิบายว่ามันเป็นของที่ล้มเหลวนั้นเป็นเรื่องจริง

กริชทั้งสองชิ้นที่ลูหลี่เคยใช้นั้นดีทั้งคู่ ถ้าเขาโยนกริชหนึ่งชิ้นของเขาลงไปในโถงประมูล รับรองได้เลยว่า ผู้เล่นคนอื่นๆจะต้องบ้าคลั่งเป็นอย่างมากแน่ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีสะเก็ดมลพิษอยู่ในมือของเขา เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย หากกริชทั้งสองเล่มที่เขาเคยใช้จะตกลงไปในทะเล

ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดอะไรมาก แค่ความแตกต่างเรื่องความเสียหายก็มากโขแล้ว พลังโจมตีของสะเก็ดมลพิษนั้นมากกว่า ความเสียหายที่เกิดจากอาวุธระดับ 30 ของมูนไลท์เสียอีก

ความเร็วในการโจมตี ​​+ 30% เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ลูหลี่เคยเห็นมาก่อน แม้ชุดเซ็ตเรเจอร์จะเคยถูกกล่าวว่าสามารถใช้ได้จนกว่าจะถึงระดับ 30 มันก็ทำได้แค่เพิ่มความเร็วโจมตี 20% เมื่อใช้สองชิ้นพร้อมกัน

ในที่สุด ลูหลี่ก็เข้าใจแล้วว่าทำไม พนักงานเสิร์ฟสาวจึงสามารถโจมตีได้อย่างรวดเร็วปานฉะนั้น

ประการแรกคือ พนักงานเสิร์ฟสาวมีระดับสูงกว่าลูหลี่ 15 ระดับและอย่างที่สอง เธอใช้กริชเล่มนี้

ตอนนี้ ลูหลี่มีอาวุธที่มาพร้อมกับเอฟเฟคเจาะเกราะ มันมีโอกาสที่จะลดเกราะของเป้าหมายลง 20% ในเวลานี้เอง เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขารู้สึกเหมือนกับว่า แม้แต่อาวุธมือเดียวระดับ 30 ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่ากับมันได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขาผิด ไม่เพียงแต่สะเก็ดมลพิษจะมีเอฟเฟคเจาะเกราะที่ดีมาก แต่มันยังสามารถลดความเร็วเคลื่อนที่ของเป้าหมายได้อีกด้วย

สิ่งที่เขาชอบมากยิ่กว่าคือ กริชเล่มนี้เป็นเอฟเฟคพิเศษที่เป็นประเภท "ใช้งาน" มันไม่ใช่เอฟเฟคพิเศษที่จะต้องหวังพึ่งโชค

หากพูดถึงเรื่องโชคแล้ว เขานั้นโชคร้ายเป็นอย่างมากในชีวิตก่อน

สุดท้ายแล้ว เอฟเฟคพิเศษ การระเบิดอันแสนร้ายแรง

เอฟเฟคนี้ไม่ได้มีแค่ชื่อที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ความสามารถของมันทำให้ศัตรูของลูหลี่นั้นต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

เมื่อเป้าหมายมีเลือดต่ำกว่า 20% เขาจะสามารถประหารพวกเขาได้ เอฟเฟคนี้ไม่ได้มีผลอะไรมากนักสำหรับผู้เล่นในตอนนี้ เพราะว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่ได้มี HP มากกว่า 2000 จุด ซึ่ง HP 20% ก็มีประมาณ 300-400 จุดเท่านั้น

ด้วยทักษะอัลติเมทของเขา ลูหลี่สามารถสร้างความเสียหายได้ถึง 200 จุด แก่ผู้เล่นที่มีระดับเท่ากัน ซึ่งความเสียหาย 400 จุด ก็สามารถเกิดขึ้นได้ หากมันติดคริติคอล

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เป้าหมายของเอฟเฟคพิเศษไม่ได้จำกัดแค่ผู้เล่นเท่านั้น

ถ้าบอสที่มี HP 100,000 จุดมีเลือดเหลืออยู่ที่ 20% และเมื่อเอฟเฟคพิเศษมันทำงาน มันจะทำให้เลือดของบอสหายไปในทันที 20,000 จุด!

นี้จึงอาจจะทำให้พวกเขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับบอส ที่มักจะมีทักษะในช่วงเวลาสุดท้ายของพวกมันเองเลย

กริชของลูหลี่ราวกับบัคของเกม มันเหมาะสมที่จะเป็นรางวัลที่แท้จริงเลยทีเดียว!

ซึ่งคงจะมีเพียงแค่กริชเล่มนี้ที่เป็นรางวัลสำหรับภารกิจ ภารกิจที่ให้ผู้เล่นต้องไปฆ่ามอนเตอร์ระดับ 40 แสนทรงพลังราวกับบอส

ส่วนเรื่องที่น่าเสียดายที่สุดคือ ความต้องการระดับอยู่ที่ระดับ 40 ...

ลูหลี่นั้นยังไม่แม้แต่จะไปถึงระดับ 31 เขายังคงอยู่ห่างจากระดับ 40 ไปอย่างน้อย 9 ระดับ ตอนนี้ การเพิ่มระดับของเขาเริ่มช้าลงไปเรื่อยๆ เขาอาจจะไม่ไปถึงระดับ 40 ในเวลาเดือนเดียวก็เป็นไปได้

เขาถืออาวุธตำนานอยู่ในมือและตอนนี้ เขากลับไม่สามารถใช้มันได้...

มีอะไรในโลกนี้ที่จะทำให้เจ็บปวดมากกว่านี้ไหม!

"เพื่อน ตอนไหนเราจะไปเคลียร์ดันเจี้ยนกัน? นายพักมาครึ่งวันแล้วนะ สุสานสีแดงได้ถูกเคลียร์แล้วโดยสมาคมธงสงครามสีเลือดและสมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศ พวกเขากำลังจะตามทันพวกเราแล้ว "

ขณะที่ลูหลี่กลับมาที่เมือง เสียงของอาเซอร์ซีบรีสก็ยังคงดังก้องอยู่ในหูเขา

นี่เป็นข้อความที่เขาได้รับมานานแล้ว ซึ่งลูหลี่นั้นบล็อคทุกข้อความในขณะที่เขาเข้าไปในคฤหาสน์เรเวนฮอล์

เขาตรวจสอบเวลา ก่อนที่จะส่งข้อความไปหาเขาโดยใช้เวลาไม่นานนัก

"มีใครผ่านห้องสมุดหรือยัง?"ลูหลี่ถามกลับไป

"สแควร์รูทสามได้ส่งคนไปสอดแนมข้างนอกอารามสีแดงแล้ว ประมาณเที่ยง ได้มีข่าวบอกว่า สมาคมเมืองหลวงแห่งเกียรติยศ ธงสงครามสีเลือดและเปียเรสซิตี้ได้ส่งคนเข้าไปในคลังแสงแล้ว ไม่อยา่งนั้นแล้ว ฉันคงจะไม่วิ่งวุ่นหานายหรอก ส่วนพื้นที่ๆนายพบมันก็ทำให้พวกเราเพิ่มระดับได้ดีเลยทีเดียวจริงๆ "อาเซอร์ซีบรีสกล่าว

คลังแสงและมหาวิหาร เป็นพื้นที่ในอารามสีแดงที่ต้องการกุญแจเพื่อที่จะเข้าไป แม้แต่โจรเอง ก็ยังไม่สามารถที่จะสะเดาะกุญแจได้

นั่นหมายความว่า พวกเขาจะต้องเคลียร์ห้องสมุด เพื่อเข้าไปยังสองดันเจี้ยนที่เหลือ ซึ่งถ้ามีคนเข้าไปในคลังแสงแล้ว นั่นหมายความว่า พวกเขาเคลียร์ห้องสมุดเป็นที่เรียบร้อย

สมาคมใหญ่ๆมากมายล้วนแล้วแต่มีทีมระดับสูงและทีมเทคนิคของตัวเอง ด้วยการรวมกันของทั้งสองสิ่งนี้ ดันเจี้ยนส่วนมากไม่สามารถที่จะหยุดพวกเขาได้เลย

"ไม่ต้องกังวลหรอก คลังแสงมันไม่ได้ง่ายเท่าที่เห็นขนาดนั้น" ลูหลี่หัวเราะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด