จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 382

บทที่ 382: ความดื้อรั้นของหัวหน้า

ดอนไม่ได้รู้เลยว่า ทักษะเฉพาะตัวของเขาจะเป็นสิ่งที่สร้างโอกาสให้กับศัตรู

เมื่อการต่อสู้ช้าลงไป เขาก็เริ่มตระหนักได้ว่า ทุกๆสิ่งที่เคยอยู่ในการควบคุมของเขา มันได้หลุดออกมาหมดแล้ว

ดังนั้น เขาจึงต้องหยุดใช้ทักษะนี้

"รักษาเลย! ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว ฟื้นฟู HP ให้ทุกคนก่อน "ลูหลี่ตะโกน

มาสเรนและฮาชิจังได้ถูกเรียกสติกลับมาโดยลูหลี่ พวกเธอใช้ทักษะทุกอย่างออกมาในทันที แม้จะเป็นทักษะที่จะต้องเก็บไว้ในยามฉุกเฉินก็ตาม ตราบเท่าที่พวกเธอใช้ทักษะฮีล เลือดของพวกเขาก็จะกลับมาเต็มอีกครั้ง

"ใช้ทักษะลดความเสียหาย เมื่อตอนที่เลือดของนายลดลงต่ำกว่าครึ่ง ถ้า HP ของนายต่ำเกินไปให้ดื่มโพชั่น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีชีวิตอยู่ "ลูหลี่กล่าวเสริม

ในขณะที่เขาได้พูดเสร็จ โดมโปร่งแสงก็ได้ครอบคลุมไปทั่วทั้งจุดที่พวกเขาต่อสู้กันอยู่

นี่คือพื้นที่แห่งความเงียบ ความสามารถของพื้นที่นี้ก็ตรงกับชื่อของมัน มันเป็นทักษะที่ส่งผลให้ติดสถานะใบ้เป็นวงกว้าง ซึ่งมันมีผลเป็นระยะเวลา 30 วินาที

แม้ว่าลูหลี่จะสามารถฆ่าผู้เล่นได้ในสามสิบวินาที แต่ไม่ใช่กับบอส

HP ของอาเซอร์ซีบรีสลดลงไปถึงครึ่งอย่างรวดเร็ว เขาใช้ความสามารถในการลดความเสียหายและดื่มโพชั่น โอ้สวรรค์ แม้ว่าเขาจะใช้ชาโดว์เมลเพื่อออกจากการต่อสู้ แต่เขาก็ไม่สามารถหนีรอดไปได้

เมื่อปราศจากอาเซอร์ซีบรีสที่เป็นแผงหน้า พเนจรก็ได้เป็นเป้าหมายผู้โชคร้ายคนต่อไป เขาใช้ทักษะลดความเสียหายและดื่มโพชั่นไป ซึ่งหลังจากที่เขาถูกโจมตีไปสองครั้ง เขาก็ได้ตายในทันที

เมื่อแท๊งค์สองคนได้ตายลงไป เป้าหมายของบอสก็เป็นแบบสุ่มๆแล้ว

ดอนได้มุ่งเป้าไปที่คนที่เขาสามารถจับได้ และความฝันที่เหลืออยู่ก็ได้ถูกฆ่าอย่างรวดเร็ว จากนั้นดอกไม้อ้างว้างก็ตามไปเยือนยมโลกติดๆ

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะหลบหนีไป แต่พวกเขานั้นไม่มีเวลาที่จะให้ทำอย่างนั้นเลย การโจมตีที่แม้แต่แท๊งค์หลักยังไม่สามารถทนได้ไหว พวกเขาเองก็คงจะยิ่งรับมันไม่ได้เลย

ชาโดว์เมล เป็นทักษะที่ทำให้ผู้เล่นออกจากการต่อสู้ไป แต่มันไม่ใช่ทักษะที่ทำให้ผู้เล่นสามารถอมตะได้

สำหรับผู้เล่นหรือมอนสเตอร์แล้ว การหายตัวไปโดยฉับพลันอาจจะเกิดผลบางอย่าง แต่สำหรับบอสแล้ว มันแตกต่างออกไป เมื่อผู้เล่นมีระดับต่ำกว่าบอส เอฟเฟคของทักษะก็จะถูกลดทอนลง

"อย่าวิ่งไปรอบๆอย่างไร้จุดหมายสิ สงบลงก่อน และพยายามสร้างความเสียหายมากที่สุดเท่าที่จำได้ เขาไม่ได้มี HP เหลือมากเท่าไหร่หรอกนะ"เสียงของลูหลี่นั้นหนักแน่น แม้ว่ามันจะหนักแน่นเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ดูน่าประหลาดใจมากเลยทีเดียว ในสถานการณ์แบบนี้ เขากลับไม่ได้มีความคิดเชิงลบอะไรเลยสักนิด สิ่งที่เพิ่มเข้ามามีแค่ น้ำเสียงที่เขาใช้มากขึ้นเท่านั้น

นี่คือความดื้นรั้นของหัวหน้าปาร์ตี้ บางครั้ง คุณภาพของผู้เล่น ก็มีความสำคัญมากกว่าความสามารถในการเล่นเกมของพวกเขาเอง

หลังจากที่ดอกไม้อ้างว้างได้ร่วงลงกับพื้น บอสก็ได้เข้าโจมตีใส่ซากรุะ ในทันทีที่หลอดเลือดของชาแมนสาวหมดลง ดอนก็ได้หันหน้าไปที่ลูหลี่

ลูหลี่โจมตีสองครั้ง ก่อนที่จะหายตัวไปโดยใช้ก้าววายุ

ดอนจ้องไปในอากาศชั่วครู่ แต่มือของเขาไม่ได้หยุดนิ่ง หลังจากเขาขยับมือไปมา จรวดอาร์เคน ก็ได้ปรากฏขึ้นมาและบินตรงไปยังหน้าอกของมาสเรน

มาสเรน มีอาชีพเป็นนักบวช ดังนั้นแล้ว ค่าสถานะและอุปกรณ์ของเธอจึงเอนเอียงไปที่ค่าสติปัญญาและเอฟเฟคพิเศษที่เกี่ยวกับการรักษา แต่เธอก็ยังเพิ่มค่าสถานะบางส่วนไปที่ค่าร่างกาย ถึงแม้เธอจะเป็นอาชีพที่สวมใส่เกราะผ้า เธอกลับสามารถรับความเสียหายจากบอสได้ถึงสามครั้ง

อย่างไรก็ตาม ลูหลี่ไม่กล้าปล่อยให้เธอโดนโจมตีสามครั้งอย่างแน่นอน เพราะดอนยังคงมีคาถาที่จะใช้กวาดล้างพวกเขาอยู่

"แสงใช้แทรกแซงเดี๋ยวนี้เลย!"

มูนไลท์ทำตามในทันที ร่างกายของเขาร่อนไปและเขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นข้างมาสเรนราวกับเงา

ความเร็วในการเคลื่อนที่ 200% ไม่ได้ช้าไปกว่าเทเลพอร์ทเลย ก่อนที่มันจะได้โจมตีใส่มาสเรน มูนไลท์ก็พร้อมที่จะรับความเสียหายแทนแล้ว

ในเกมรุ่งอรุณ มันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับนักรบและพาลาดินที่จะเอาใจสาวๆ ซึ่งโจรและนักเวทย์ก็เป็นอาชีพที่คงจะโสดซิงไปตลอดกาล [โจรและนักเวทย์ไม่มีทักษะในการปกป้องคนอื่น]

หลังจากนั้นเอง มูนไลท์ก็ได้ยกขวานยักษ์ของเขาขึ้นมาและทุบลงไปที่ศีรษะของดอน ซึ่งนั้นทำให้ดอนมุ่งความสนใจไปที่เขา นี้จึงทำให้มาสเรนสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

ค่าสถานะของมูนไลท์เน้นไปที่ค่าความแข็งแกร่ง และไอเท็มของเขาเน้นไปที่สร้างความเสียหาย แม้ว่าเขาจะสวมเกราะแผ่นก็ตาม แต่เขาก็รับความเสียหายได้เพียงไม่กี่ครั้งเอง โชคดีที่พื้นที่แห่งความเงียบได้หมดผลของมันแล้ว และทักษะของทุกคนก็ได้กลับสู่อิสระดั่งเดิม

"ชุบชีวิตซีบรีส แสงดึงเจ้านายไว้ก่อนนิดเดียว "ลูหลี่ตะโกน

มูนไลท์ไม่ได้มี HP เหลือมากนัก ดังนั้นแล้ว เขาจึงสามารถดึงบอสได้เพียงแปปเดียว นอกจากจะต้องเสียสละชีวิตตัวเองไป

ซึ่งมูนไลท์ไม่ได้คัดค้านอะไรเลย เขาไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว เมื่อถึงเวลานี้แล้ว ไม่มีใครนอกจากเขาที่จะสามารถชื้อเวลาให้ทีมได้อีก แต่เดิมที หน้าที่นี้ควรจะเป็นของพเนจร แต่พเนจรในตอนนี้นอนตายอยู่ที่พื้นเย็นๆแล้ว ถ้าไม่มีทักษะอมตะ พาลาดินก็เป็นได้แค่ก้อนเค้ก

ด้วยทักษะชุบชีวิตของฮาชิจัง อาเซอรซีบรีสก็ได้ลุกขึ้นมาจากพื้น เขาเริ่มโจมตีอีกครั้งและดึงค่าความโกรธทั้งหมดจากบอสมา

แน่นอนว่ามูนไลท์นั้นไม่ได้ตายลงไป ด้วยเทคนิคการฮีลของมาสเรนรวมถึงทักษะมากมายที่ใช้ช่วยชีวิต มูนไลท์เลยไม่ตาย

นั่นหมายความว่า นอกเหนือจากแท๊งค์หลักและฮีลเลอร์แล้ว ยังมีคนสร้างความเสียหายเหลืออยู่อีก 3 คน นั้นคือ ลูหลี่ มูนไลท์และลูกชิ้นงา ส่วนคนอื่นๆก็ตายหมดแล้ว

บอสมี HP เหลืออยู่ 13% แต่ด้วยจำนวนคนที่น้อย HP ของเขาจึงลดไปอย่างช้าๆ

"ถ้าเป็นแบบนี้เรื่อยๆ เราต้องทำได้แน่ อย่ายอมแพ้ แม้ว่าจะเหลือเราเพียงคนเดียวก็ตาม มาสเรน พยายามฟื้นฟู HP ของทุกคนคืนกลับมาด้วย"ลูหลี่พยายามอย่างมากในการให้กำลังใจทุกๆคน กริชของเขาเคลื่อนที่ไปมาพร้อมกับส่งเลือดพุ่งไปในอากาศ ทุกๆการกระทำของเขาล้วนแต่มีความสำเร็จทักษะสูง

"นี่มันเป็นเรื่องยากมาก" มาสเรนกระซิบเบาๆ เธออยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมากมายในการต่อสู้ครั้งนี้

"ไม่มีทางที่ความยากระดับฝันร้ายจะง่ายหรอกนะ แต่บอสเองก็จะดรอบของที่ดีๆเหมือนกัน"ลูหลี่อธิบายสั้นๆ

ถ้าไม่ใช่ความยากระดับฝันร้าย มันก็คงจะเป็นเรื่องยากที่นกหวีดสุนัขจะดรอบลงมา แม้ว่าจะเป็นการเคลียร์ครั้งแรก แต่มันก็คงไม่มีโอกาสที่บอสจะดรอบสิ่งที่เขาต้องการลงมา - สัญลักษณ์แห่งเรเวนฮอล์

การเคลียร์ครั้งแรกไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับลูหลี่นัก แม้ว่าทุกคนจะให้ความสนใจกับคนที่ได้เคลียร์ครั้งแรกห้องสมุดสีแดงก็ตาม

ทั้งตัวของสมาคมกฏแห่งดาบเอง หรือคนอื่นๆ แม้กระทั่งตัวของลูหลี่เอง การเคลียร์ครั้งแรกนั้นไม่ได้เป็นตัวที่พิสูจน์อะไรได้มากนัก

อย่างน้อยมันก็คงจะเป็นแบบนี้ในระยะเวลาสั้นๆ ซอวโรวเลสไม่มีทางที่จะสามารถแย่งการเคลียร์ครั้งแรกจากเขาไปได้ ซึ่งมันก็คงจะไม่เป็นเรื่องใหญ่อะไรนัก หากซอวโณวเลสสามารถแย่งการเคลียร์ครั้งแรกจากลูหลี่ไปได้ครั้งเดียว แม้ว่าลูหลี่จะอยู่ข้างหลัง แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่า ซอวโรวเลสจะสามารถผ่านเข้าไปได้อีกครั้ง

ดอนยกมือขึ้นบนฟ้าเพื่อปล่อยระเบิดแห่งความลับลงมา นี่เป็นทักษะที่ใช้โจมตีแบบกลุ่มและมันจะทำให้ HP ของทุกคนลดลงไปกว่าครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ลูหลี่คาดการณ์ไว้ก่อนแล้ว มาสเรนจึงได้เพิ่ม HP ให้กับทุกคน จนไม่มีใครที่ตายลงไปเลย

ในตอนนี้ดอนมี HP 10% มันทำให้ลูหลี่รู้สึกโล่งใจเลยทีเดียว

"มานาของฉันกำลังจะหมดแล้ว" มาสเรนกล่าวออกมาอย่างกังวล

"ใช้มันเท่าที่จำเป็นก็พอ ถ้าเธอไม่สามารถที่จะช่วยได้จริงๆ ก็ไม่ต้องไปห่วงตัวของซีบรีสเลย "ลูหลี่ตอบอย่างใจเย็น

"ลูหลี่ นายมัน **** ฉันจะจำเรื่องนี้ไว้เลย" อาเซอร์ซีบรีสกล่าวสบถเสียงดัง เขาเหมือนกับถูกยั่วยุจากตัวของลูหลี่เอง พวกเขาไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่หมดหวังเลย แต่ลูหลี่กำลังคิดที่จะสละเขาทิ้งไปแล้ว

ในทีมของคนอื่น แท๊งค์หลักเหมือนกับเป็นคนสำคัญที่สุด แต่สำหรับเขาแล้ว อาเซอร์ซีบรีสผู้น่าสงสารที่มักจะถูกโยนทิ้งขว้างอยู่อย่างเสมอ

"ฮาชิจัง มานาครึ่งหนึ่งของเธอใช้ทำอะไรกัน? รักษาสิ!"ลูหลี่กล่าว

"หนูก็ใช้ทักษะรักษาตลอดเวลาแล้วนะ" ฮาชิจังกล่าวด้วยความรู้สึกผิด

"หลังจากนี้เธอกลับไปฝึกเทคนิคของเธอนะ นี้มันเหลือทนแล้ว ฟื้นฟูเลือดของฮาชิจัง มูนไลท์ใช้ทักษะลดความเสียหาย ลูหลี่ยังคงให้เขาใช้ทักษะลดความเสียหายต่อไป เพื่อรับคาถาต่อไปที่บอสกำลังจะร่ายมา

ไม่มีใครฟื้นฟูเลือดของอาเซอร์ซีบรีสเลย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะรอดชีวิตได้ เพราะความขุ่นแค้นใจของเขาที่มีต่อตัวของลูหลี่เอง

ที่ HP 5% ของดอน เขาก็ได้เข้าสู่โหมดบ้าคลั่ง

กริชของลูหลี่ได้เปิดใช้เอฟเฟคของมันและมีร่างโคลนปรากฏขึ้นข้างๆเขา ซึ่งสร้างความเสียหายได้ถูกเวลามาก

หลังจากผ่านไปสักสองสามวินาที อาเซอร์ซีบรีสก็ได้ตายลงไป แต่บอสก็ไม่ได้เอาตัวรอดได้นานเหมือนกัน ทั้งคู่ได้ตายตามกันไปกองลงกับพื้น