จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 377

บทที่ 377:มอนเตอร์ระดับหัวหน้าไม่ได้ง่ายเลย

ในพายุของลูกศรที่ถูกยิงออกมา ยังมีอยู่บางลูกที่โดนหรือแฉลบพวกเขาไปบ้าง อย่างไรก็ตาม ลูกศรส่วนใหญ่ก็ถูกป้องกันด้วยโล่หญ้า

หลังจากที่พวกเขาได้เดินเข้าไปใกล้เล็กน้อย ลิงตอนก็ได้สั่งให้นักธนูยิงลูกศรอีกครั้ง ซึ่งในคราวนี้ ลูกศรจำนวนมากได้พุ่งลงไปยังโล่หญ้า แต่พวกมันกลับเต็มไปด้วยไฟ ทุกคนแทบจะสำลักควันออกมา นอกจากนี้แล้ว ความเสียหายจากการเผาไหม้ ยังสร้างความเสียหายให้พวกเขามากอีกด้วย

"เปลี่ยนโล่!"ลูหลี่ตะโกนขณะที่ไอออกมา

อาเซอร์ซีบรีสโยนโล่หญ้าขนาดใหญ่ที่เขาจับออกไป จากนั้น เขาก็หยิบโล่อีกอันที่อยู่ในกระเป๋าของเขาขึ้นมา

ด้วยโล่ป้องกันลูกศรธนู กลุ่มทหารรับจ้างซินซินจึงได้ตรงไปหาเหล่านักธนูอย่างช้าๆ

พวกเขาจะสามารถโจมตีพวกมันได้โดยตรงหรือเปล่านะ?

แน่นอนว่าแบบนั้นก็ทำได้ แต่มันก็จะสร้างภาระอันใหญ่หลวงให้แก่ฮีลเลอร์ ลูหลี่ได้เลือกความยากดันเจี้ยนระดับฝันร้าย ซึ่งนั้นหมายความว่า มอนสเตอร์จะมีพลังโจมตีมากกว่า 50% ซึ่งมันมากกว่าความยากระดับยากอย่างแน่นอน นอกจากนี้แล้ว มอนเตอร์ยังมีการเจาะเกราะ โจมตีโดยตรงและดีบัพต่างๆอีกด้วย ซึ่งมันจะทำให้สมาชิกบางคนตายในทันที

อาเซอร์ซีบรีสเป็นคนที่ถือโล่อยู่ ในบางครั้งเอง มาสเรนก็จะรักษาเขา ส่วนคนอื่นๆก็ต้องทำตัวให้ต่ำที่สุดและตามเขาไป

พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากการชื่นชมความรอบคอบของตัวลูหลี่ การตามเขาเข้าไปในดันเจี้ยน เหมือนกับเป็นการเปิดประสบการณ์ของพวกเขาเอง เขาทำในสิ่งที่ไม่มีใครคิด และยังทำทุกอย่างได้แบบมีประสิทธิภาพอีก

ในที่สุด พวกเขาก็ต้องรับการโจมตีจากทุกทิศทุกทาง

"ซีบรีส นายไปดึงความโกรธของพวกมัน คนอื่นๆโจมตีนักธนูเลย "เสียงของ Lu Li คงที่เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น

ในความเป็นจริงเขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไรออกมา เพราะทุกคนรู้ดีว่า พวกเขาต้องโจมตีใส่นักธนูก่อน เพราะพวกมันมี HP แค่ 800 จุดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับมอนเตอร์หัวหน้าระดับ 30 ตัวอื่นๆ พวกมันกลับมีความเสียหายที่สูงเหลือคณานับ

สำหรับมอนเตอร์หัวหน้าที่มี HP และค่าป้องกันที่น้อยแล้ว นั้นหมายความว่าพวกมันจะมีพลังโจมตีที่สูงมาก ดังนั้นแล้ว หากพวกเขาไม่สามารถฆ่าเหล่านักธนูได้อย่างรวดเร็วพอ ทุกสิ่งที่พวกเขาทำมาก็เสียเปล่า

ถ้าพวกเขาไม่ได้ฆ่านักธนูก่อน พวกเขาก็คงจะถูกฆ่าทั้งกลุ่ม

นักธนูทั้งยี่สิบคนตายลงไป และลิงตอนก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

มันไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะมีพลังมากแค่ไหน เพราะความแข็งแกร่งของเขาก็คือความสามารถในการสั่งการ

ด้วยความที่ว่าลิงตอนไม่ใช่บอสตัวจริงๆ ความแข็งแกร่งของเขาจึงค่อนข้างปานกลาง ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ก็ฆ่าเขาได้แล้ว

แม้ว่าเขาจะอ่อนแอ แต่เขาก็ยังให้ EXP เป็นจำนวนมาก นั้นเพราะว่าดันเจี้ยนนี้เป็นความยากระดับฝันร้าย

ดอกไม้อ้างว้างเองก็ได้รับ EXP มาก จนตัวเองสามารถเพิ่มระดับได้ เขากลายเป็นคนที่สองในปาร์ตี้ที่มีระดับถึง 30 ซึ่งเขาก็เป็นผู้เล่นคนที่สองในเกมรุ่งอรุณที่สามารถทำแบบนั้นได้

ส่วนคนอื่นๆในกลุ่มของเขาก็มีระดับ 29 ซึ่งอาเซอร์ซีบรีส ซากุระ และมาสเรนเอง ก็ใกล้จะระดับเป็น 30 แล้ว

ซากุระและอาเซอร์ซีบรีส ทั้งคู่เป็นคนที่บ้าเพิ่มระดับ ทั้งสองคนนี้ไม่ได้ทำอะไรเลย นอกเหนือจากการเคลียร์ดันเจี้ยนและฟาร์ม ตราบเท่าที่พวกเขามีเวลา พวกเขาก็จะใช้มันในการเพิ่มระดับ นั้นจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้พวกเขาสามารถติดบอร์ดจัดอันดับระดับ

อาเซอร์ซีบรีสต้องใช้เวลาแทบทั้งหมดเพื่อดึงมอนเตอร์ให้มาอยู่ที่ด้านหน้าของดอกไม้อ้างว้าง เพื่อที่จะให้เขาสามารถร่ายเวทย์มนต์ใส่ฝูงมอนเตอร์ได้ ในขณะที่มาสเรนก็ยังสามารถฮีลเขาได้ด้วย นี่จึงเป็นเทคนิคที่ดูมีประสิทธิภาพมาก

เมื่อดอกไม้อ้างว้างได้ถูกกดดันในเรื่องเวลา เขาก็จำเป็นที่จะต้องโจมตีใส่ฝูงมอนเตอร์ระดับ 32 โดยหวังพึ่งค่าความต้านทานของเขา ซึ่งเขาก็ต้องมองหาฝูงมอนเตอร์ที่มีพลังโจมตีสูงและ HP ที่ต่ำ เพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์ของเขาเอง ด้วยการทำแบบนี้ มันจึงทำให้เขาฟาร์มด้วยตัวเองคนเดียวได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก

แต่น่าเสียดายที่ในเวลานี้ ไม่มีใครได้รับคะแนนทักษะเลย พวกเขาคงจะต้องหวังแต่เพียงอุปกรณ์เท่านั้น

เจ้าหน้าที่ลิงตอนได้ดรอบไอเท็มสามชิ้น ชิ้นแรกคือหนังสือทักษะพ่อมด มันถูกมอบให้แก่ ลูกชิ้นงา

ส่วนสองชิ้นที่เหลือเป็นอุปกรณ์ที่มีค่าสถานะพอใช้ได้ ชิ้นแรกคือ ถุงมือทองคำ ของนักบวช ซึ่งมันทำให้ทักษะของนักบวชเป็นทักษะแบบใช้งานในทันที

นี่เป็นเอฟเฟคที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก ในสถานการณ์ที่เป็นอันตราย

สำหรับอาชีพที่ใช้เวทย์มนต์แล้ว การร่ายทักษะเป็นอะไรที่สำคัญมาก ทักษะรักษาของนักบวชก็เหมือนๆกัน

หากต้องใช้เวลาในการร่ายทักษะนาน การที่จะรักษาให้เลือดเต็มก็จะใช้เวลาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเมื่อมาสเรนใช้ถุงมือนี้ เธอก็จะสามารถรักษาเพื่อนที่ใกล้จะตายได้ในทันที

ส่วนอุปกรณ์อีกชิ้นคือ เสื้อคลุมเงินระดับ 30 ของนักล่า ไม่เพียงแต่มันจะเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ แต่ยังเพิ่มระยะการโจมตีอีก 20% ด้วย แม้ว่ามันจะเป็นประโยชน์สำหรับนักล่าที่ยิงด้วยธนู แต่ความฝันที่เหลืออยู่ก็คงจะไม่น่าใช้ประโยชน์จากมันได้

อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่มันเป็นไอเท็มเงินระดับ 30 ค่าสถานะของมันย่อมมากกว่าไอเท็มระดับ /5 เช่นนี้แล้ว จึงไม่ต้องพูดอะไรมากเกี่ยวกับไอเท็มชิ้นนี้

หลังจากที่ลิงตอนได้ตายลงไป ประตู ณ ลานกว้างก็ได้เปิดขึ้น

เมื่อพวกเขาได้เดินเข้ามา พวกเขาก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่อีกลานกว้างหนึ่ง ซึ่งพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับโรซี่ จุดที่พวกเขาอยู่ตอนนี้ คือที่ๆเธอใช้ในการฝึกสุนัข

มีพระสีแดงจำนวนมากทั่วลานกว้างนี้ เพราะหน้าที่การฝึกสุนัขของโรซี่มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อครูเซเดอร์สีแดง เพราะว่า พวกเขาต้องการที่จะใช้พวกมันในการต่อสู้กับโรคระบาด นอกจากนี้แล้ว มันยังมีประโยชน์อีกอย่างหนึ่ง คือบอกได้ว่า มีใครติดเชื้อหรือเปล่า

พระสีแดงนั้นจัดการได้ไม่ยากเท่าไหร่ พวกเขาไม่ได้มี HP สูงมากและกลับมีค่าพลังโจมตีธรรมดาๆ

อย่างไรก็ตาม ดันเจี้ยนยังคงมีความยากระดับฝันร้าย ดังนั้นแล้ว ความคิดแบบนี้จึงไม่สามารถที่จะใช้ได้กับดันเจี้ยนในตอนนี้ ถ้าพวกเขาดูถูกพระพวกนี้มากเกินไป บางที พวกมันก็คงจะกวาดล้างปาร์ตี้ของลูหลี่หมดไปในชุดเดียว

โชคดี ที่ลูหลี่นั้นตระหนักถึงความยากในการเอาชนะพระสีแดงดี

"ความฝันที่เหลืออยู่ใช้ธนูและลูกศรของเธอเลย ซีบรีสและพเนจร พวกนายไปยั่วยุมัน เราต้องแบ่งเป็นสองกลุ่ม ก่อนที่จะเริ่มโจมตีพวกมัน อย่าให้พระสีแดงยืนใกล้กันมากกว่าสองคนเด็ดขาด "ลูหลี่กล่าวอย่างจริงจัง

"จะเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ ถ้าพวกมันมากกว่าสองคนยืนติดกัน?"พเนจรถาม

"พระสามคนจะร่ายพายุไฟไปพร้อมๆกัน มันมีระยะที่ใกล้และสร้างความเสียหายได้มหาศาล มันสามารถกวาดล้างเราไปทั้งหมดได้แทบจะในทันที "ลูหลี่อธิบาย

เมื่อพวกเขาได้ยินอย่างนั้น อาเซอร์ซีบรีสและพเนจรก็ต้องทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง และความฝันที่เหลืออยู่เอง ก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรที่จะเพิ่มค่าความโกรธของมอนเตอร์ จนมันเปลี่ยนเป้าหมายมาหาเธอ

พระมีความคล้ายคลึงกับพาลาดิน แต่พวกเขานั้นมีศรัทธามากกว่า ถ้าจะให้อธิบายวิถีชีวิตของพวกเขา คงจะต้องบอกว่าเป็นชีวิตที่ดู 'ขมขื่น' และไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เกิดสันติภาพหรือเกิดสงครามขึ้น พวกเขาก็จะดื่มแค่น้ำ กินขนมปังที่แข็งราวกับหิน สวมใส่ผ้าลินินและกวัดแกว่งอาวุธที่ดูเรียบง่าย

ขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้กับพวกมัน ลูหลี่เองก็ต้องทำให้แน่ใจว่า เขาได้บอกบทเรียนเรื่องหนึ่งให้แก่เพื่อนร่วมทีมของเขาไปแล้ว

เขาได้ทำแบบนี้ก็เพื่อ อาเซอร์ซีบรีสและพเนจร ที่บางครั้ง พวกเขาก็มักจะเป็นหัวหน้าของทีมอื่นหรือคอยสั่งการ ซึ่งบทเรียนที่เขากำลังจะสอนคือ: อย่าประมาทมอนเตอร์หัวหน้าระดับ 30

มอนเตอร์ระดับหัวหน้านั้นไม่มีทางที่จะจัดการได้ง่ายเลย!

บางทีพวกมันนั้นไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด แต่พวกมันมักจะมีความสามารถเฉพาะตัวของตัวมันเอง

หากจะยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คงจะเป็นพระพวกนี้ กลุ่มทหารรับจ้างซินซินนั้นสามารถจัดการกับนักบวชที่อยู่เพียงลำพังได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม ถ้ามีนักบวชสามคนยืนอยู่ด้วยกัน พวกเขาก็สามารถกำจัดผู้เล่นสิบคนได้อย่างง่ายดาย

เรื่องพวกนี้ดูเรียบง่ายมาก แต่ส่วนใหญ่แล้ว ผู้เล่นคนอื่นๆมักจะรู้เรื่องนี้ หลังจากที่พวกเขาได้ถูกฆ่าโดยนักบวชไปแล้ว

พวกเขาใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในการจัดการพระพวกนี้ แต่ลูหลี่ก็ไม่ได้ใจร้อนเลย

ในตอนนี้ กลุ่มระดับสูงของสมาคมกฏแห่งดาบได้จัดการผู้เฝ้าสุสานและได้ตรงไปที่นักเวทย์เลือด เทลนอส แล้ว

กลุ่มระดับสูงมีผู้เล่น 100 คน ซึ่งแบ่งออกเป็นสิบทีม ด้วยเทคนิคลับของลูหลี่ พวกเขาสามารถจัดการกับผู้เฝ้าสุสานได้อย่างง่ายดาย ซึ่งนั้นก็ทำให้พวกเขาได้อุปกรณ์มาอย่างมากมาย

กลุ่มระดับสูงของสมาคมกฏแห่งดาบได้กลายเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาคาดไว้แล้ว

ซึ่งสมาคมต่างๆก็มีทีมระดับสูงเหมือนกัน แต่ไม่มีสมาคมไหนเลย ที่พบกับผู้เฝ้าสุสาน!