ตอนที่แล้วจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 332
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 334

จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 333


บทที่ 333: ดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึก (ตอนที่ 3)

บนชายฝั่งของเกาะที่กามูร่าตั้งอยู่ มีเมอร์ล็อกสองตัวที่กำลังทรมานนักโทษ

หลังจากที่เมอร์ล็อกถูกสังหารไป นักโทษก็ได้ขอร้องเหล่าวีรบุรษเพื่อช่วยชีวิตผู้รอดชีวิตคนอื่นๆในจุดต่อไป เพื่อประโยชน์ของชื่อเสียงของเขา ลูหลี่จึงไม่สามารถหาข้ออ้างใดๆ เพื่อปฏิเสธคำขอของนักโทษ นักโทษได้เลย ซึ่งเมื่อเห็นลูหลี่ยอมรับเควสแล้ว นักโทษก็ได้นำทางเขาเพื่อไปยังตำแหน่งต่อไปในทันที

ทางเดินนั้นดูคดเคี้ยวมาก มันตั้งอยู่ภายในถ้ำใต้น้ำ แม้แต่ทอริลยังไม่สามารถหามันพบได้

พวกเขาได้มาถึงยังที่ๆใหม่ หลังจากที่พวกเขาได้ลอดผ่านถ้ำไป

ซึ่งนี่คืออาณาเขตของ โดมิน่า

โดมิน่า เป็นนาคหรืออีกอย่างก็คือ นักเวทย์ระดับสูงของเหล่านาค

เธอคุ้นเคยกับเวทมนตร์อัญเชิญ คาถาป้องกันและศึกษาศาสตร์โบราณแห่งการแผดเผา

กลุ่มค้อนสนธยาได้เก็บอ่าวขนาดเล็กให้เธอในดันเจี้ยนความมือที่หยั่งลึก ในขณะที่พวกเขายังคงส่งสิ่งมีชีวิตบูชายัญมาให้เธออยู่ ด้วยพิธีการและความมหัศจรรย์ในคาถาป้องกันของเธอ ก็ได้มีผู้ติดตามเธอจำนวนหนึ่งด้วยความหวังที่ว่า เธอจะสามารถปกป้องพวกเขาได้จากมอนเตอร์ที่มีหลายหัว ที่พวกเขาได้บูชายัญมันไป

อย่างไรก็ตามในขณะที่อะคูมาอิได้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ โดมิน่าก็ไม่สามารถที่จะเป็นคู่แข่งกับเขาได้

การเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆของผู้ศรัทธาของเธอได้ถูกพังลง จากพิธีบูชาของอะคูมาอิ เช่นนี้แล้ว โดมิน่าจึงไม่มีทางเลือกอื่นเลย นอกเหนือจากการสร้างเวทมนตร์การป้องกันแบบใหม่ เธอยังคงหวังที่จะสร้างเวทย์มนต์ล่องหนด้วยเวทย์มนต์ของเธอ เพื่อปกป้องผู้ศรัทธาของเธอต่อไป

เธอใส่ทุกความพยายามอย่างมากกับการวิจัยของเธอ เพราะเธอเข้าใจว่า เมื่อเธอล้มเหลวในการปกป้องผู้ศรัทธา เธอก็จะกลายเป็นตัวไร้ประโยชน์ในความมืดที่หยั่งลึก บรรดาผู้ศรัทธาที่บ้าคลั่งไม่ยอมให้เธอได้รับอำนาจจากอะคูมาอิได้อย่างแน่นอน หลังจากที่เธอล้มเหลวในการพิสูจน์คุณค่าของเธอไป

เมื่อลูหลี่และคนอื่นๆเห็นโดมิน่า เธอก็กำลังมุ่งมั่นกับการศึกษากับเวทย์มนต์ของเธออยู่

"เราโชคดีจริง ไปกันเถอะ"

ลูหลี่ไม่ได้พูดอะไรมากนัก แต่เขาเป็นคนพุ่งนำไปเลย

ทำไมถึงตัดสินใจได้เร็วขนาดนี้กัน?

เพราะ โดมิน่าเพิ่งใช้มานาทั้งหมดไปและไม่มีเวลาที่จะใช้ฟื้นฟู

แม้ว่าโดมิน่าจะมีมานา แต่เธอก็คงไม่ใช่ศัตรูที่ยากลำบากอะไรนัก

หากไม่มีมานา โดมิน่าก็ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ใดๆของเธอได้ เช่น ง่ามสายฟ้า และ ฟรอสโนวา ดังนั้นแล้ว เธอจึงไม่มีทางที่จะสามารถใช้การสตันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เธอทำได้เพียงโจมตีใส่ลูหลี่และเพื่อนๆของเขาด้วยการยิง

บางที นี่อาจเป็นมรดกจากพันธุ์กรรมของบรรดาไนท์เอลฟ์ที่ไหลเวียนอยู่ในสายเลือดของเธอ แต่โดมิน่าก็ไม่ใช่แค่ นักเวทย์ธรรมดาๆ เธอนัน้คุ้นเคยกับธนูและลูกธนูด้วยเช่นกัน

แต่การยิงธนูของเธอนั้นแย่มาก เธอแทบจะยิงไม่โดนเลย

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากค่าสถานะของเธอเหมาะแก่การเป็นนักเวทย์ เธอจึงสามารถสร้างความเสียหายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากการยิงธนูของเธอ

ด้วยความช่วยเหลือของทอริล ลูหลี่และคนอื่นๆใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเพื่อเอาชนะโดมิน่า หญิงสาวที่โชคดีในเวลานี้คือมาสเรน เธอเป็นคนที่ได้รับ คะแนนทักษะ

ตัวละครของผู้เล่นนั้นมีทักษะอยู่มากมาย แต่คะแนนทักษะกลับมีเพียงน้อยนิด

เมื่อเทียบกับผู้เล่นที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆที่ไม่สนใจดันเจี้ยน การเคลียร์ครั้งแรกของลูหลี่และสมาชิกทีมของเขาก็เหมือนกับข้อได้เปรียบที่มองไม่เห็น ที่จะมีผลอย่างช้าๆเมื่อเวลาผ่านไป อย่างไรก็ตาม เมื่อเคลียร์ครั้งแรกได้สำเร็จ โอกาสในการได้รับคะแนนทักษะก็จะเพิ่มมากขึ้น

นอกเหนือจากนี้แล้ว โดมิน่ายังทิ้งอุปกรณ์และวัสดุที่หายาก

วัสดุหายากคือ "เครื่องชั่งเมอร์ล็อกสีม่วง" วัสดุพวกนี้เป็นวัสดุหายากที่พบได้ทั่วไปดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึกและสามารถถูกใช้โดยช่างตัดเสื้อ เพื่อสร้างเกราะพิเศษและกางเกงได้ ซึ่งหากช่างตีเหล็กเป็นคนใช้ ก็สามารถที่จะสร้างเกราะโซ่ได้

ส่วนอุปกรณ์ที่ดรอบลงมาคือแม่พิมพ์ระดับเงิน ซึ่งก็คือคันธนูของเธอ หัวใจนาคอันแหลมคม

อาวุธนี้มาพร้อมกับผลเจาะเกราะ ซึ่งมันต้องใช้โชคเป็นตัวช่วยได้ มันจะทำให้การโจมตีแรงขึ้น 3-5 เท่าจากพลังโจมตีปกติ

แม้ว่าธนูนี้จะเป็นสิ่งที่ดีมาก แต่ความฝันที่เหลืออยู่ก็ไม่ฉลาดพอที่จะใช้งานมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นแล้ว ในท้ายที่สุดคันธนูนี้จึงไม่ได้มอบให้กับเธอ

มีวงเวทย์มนต์ที่โดมิน่ากำลังค้นคว้าเวทมนตร์ของเธออยู่ ลูหลี่ได้ขอร้องให้ดอกไม้อ้างว้างและลูกชิ้นงาลองไปทำให้มันทำงานดู

ถึงแม้ว่าวงเวทย์มนต์เหล่านี้จะเป็นของระบบ แต่ผู้เล่นก็สามารถใช้พวกมันได้ หลังจากที่ทั้งสองคนตรวจสอบวงเวทย์มนต์เสร็จแล้ว แสงสีน้ำเงินสลัวๆก็ได้พุ่งผ่านทุกคนและทำให้ได้บัพพิเศษ: + 10% สำหรับค่าสถานะทั้งหมด

บัพนี้มีผลเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่

ทั้งทีมได้เดินกลับไปตามเส้นทางเดิมและเดินไปตามทางแยกที่แยกออกมา ขณะที่มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ถัดไป

ลูหลี่นำทางไปข้างหน้าและจงใจเดินไปตามกำแพง

ทันใดนั้นเอง ก็ได้มีหนวดยักษ์ยื่นออกมาจากผนัง มันจับตัวลูหลี่พร้อมกับมีพลังงานสีดำไหลออกมา มันเหมือนกับว่าพลังงานพวกนั้นต้องการที่จะเขมือบเขา

ค่าความเสียหาย -30 โผล่ขึ้นเหนือหัวของลูหลี่ ความเสียหายไม่ได้มากอะไรนัก แต่ความเสียหายต่อวินาทีกลับรวดเร็วยิ่งนัก ภายในพริบตา HP ของเขาก็เสียไปประมาณ 600 จุด

"รักษาเร็ว!"

มาสเรนรู้สึกตกใจ เธอต้องใช้เวลาสักพัก ก่อนที่เธอจะเริ่มรักษาตัวของลูหลี่

ภายใต้สายตาจากทุกคน หนวดนั้นก็ได้ถูกทำลายอย่างรวดเร็ว

หนวดมีค่า HP เท่ากับ 10,000 จุด ซึ่งเทียบเท่ากับมอนสเตอร์ระดับหัวหน้าในดันเจี้ยน นอกจากนี้ พวกมันยังปรากฏตัวแบบสุ่มและสร้างความเสียหายได้สูง และความรู้สึกที่ถูกจับกับอยู่ในปากของมันก็ไม่อภิรมย์อะไรนัก ถ้าเป็นคนอื่นที่ถูกมันจับ พวกเขาคงจะกลัวมันมาก

ลูหลี่ไม่สามารถทำตัวเหมือนเขารู้ทุกอย่างได้ ดังนั้นอย่างน้อยที่สุดที่ เขาจะต้องทำให้ทุกคนมี"ประสบการณ์"เห็นทุกสิ่งทุกอย่าง โดยการบอกคนอื่นๆผ่านการกระทำของเขา นั้นจึงเหมือนกับว่าเขาบอกพวกเขาได้เกี่ยวกับอันตรายข้างหน้าที่จะต้องเผชิญ และเขาก็ไม่กลัวหนวดพวกนี้ เพราะเขารู้จักมันมาก่อน

หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว ลูหลี่และอาเซอร์ซีบรีสก็ได้เดินชิดสองข้างกำแนง ถ้าหนวดโผล่ออกมา พวกเขาก็จะทำลายมันได้อย่างรวดเร็ว

ไม่นานัก พวกเขาก็ได้มาถึงทางแยกสี่ทาง ลูหลี่จึงได้สุ่มเลือกหนึ่งมาหนึ่งทางเพื่อที่จะได้เดินทางต่อไป

ซึ่งทางที่เขาเลือก เขารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นทางตัน

เหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงเลือกทางตันแบบนี้ ก็เพราะว่ามันมีมอนสเตอร์ตัวหนึ่งอยู่ที่ปลายสุด

มันคือ เมอร์ล็อกสีทอง เจ้าตาบอดไม่เอาถ่าน ตามบันทึกแล้ว มอนสเตอร์ตัวนี้เป็นตัวที่ชอบกินสุรา อย่างไรก็ตาม มันเกิดมาในดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึก มันจึงไม่มีอะไรมากที่จะให้เลือกกินได้ เช่นนี้แล้ว มันจึงเริ่มที่จะกินศพเป็นอาหาร

มอนสเตอร์ตัวนี้ไม่ได้ดูน่าเกลียดเลย ในความเป็นจริง มันดูดีพอทีเดียว นักล่ามีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะฝึกมันเชื่องได้ แต่ความฝันที่เหลืออยู่ไม่สนใจมันเลย หญิงสาวมุดศีรษะของเธอไปบนตักของฮาชิจังและปฏิเสธที่จะใช้ทักษะฝึกสัตว์ของเธอ

เธอมองเห็นผ่านสายตาของเธอตามทาง มอนเตอร์ตัวนี้กำลังกินเนื้อมอนเตอร์ที่เธอไม่รู้จักอยู่

ด้วยผลของเสียงเคี้ยวกระดูก มันจึงทำให้มันดูน่ากลัวจนเกินไป

มีเพียงผู้ชายเท่านั้น ที่ต้องการเลี้ยงสัตว์แบบนี้และคนส่วนใหญ่ก็อาจจะไม่สามารถยอมรับมันได้ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ลูหลี่และคนอื่นๆจึงต้องฆ่ามอนเตอร์ตัวนี้

เจ้าตาบอดไม่เอาถ่าน เป็นมอนสเตอร์ที่หาได้ยาก ดังนั้นมันจึงดรอบไอเท็มระดับเงิน LV 25 ซึ่งก็คือแหวนที่ช่วยป้องกัน อาเซอร์ซีบรีสไม่ได้ต่อสู้เพื่อต้องการแหวนวงนี้และเขาก็เต็มใจให้มันกับพเนจร เห็นได้ชัดเลยว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้เลวร้ายเท่าที่ปรากฏภายนอก

บอสตัวที่สามคือ เกลิฮัส เขาคือ เมอร์ล็อก

เขาโบกดาบทั้งสองมือไปมา ราวกับเป็นนักดาบผู้เชี่ยวชาญ

ตามตำนาน เกลิฮัสได้มาที่ดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึก เพื่อมาสังเกตุพระเจ้าโบราณ ระหว่างทาง เขาได้ฆ่าคนในกลุ่มค้อนสนธยาไปเป็นโหลๆที่กำลังตกใจอยู่ด้วยดาบสองเล่มของเขา บรรดาผู้ศรัทธาต่างชื่นชมกำลังและความรุนแรงอันยิ่งใหญ่ของเขา และนั้นทำให้เขาได้รับอนุญาติให้สร้างที่บูชาของเขาในดันเจี้ยนความมืดที่หยั่งลึก

หลังจากผ่านพิธีบูชาไป เกลิฮัสได้รับบางสิ่งบางอย่างมา แต่มันกลับเป็นคำอวยพรจากปีศาจที่มาจากแท่นบูชาที่พังทลายแล้ว

เขาเป็นแค่แขกรับเชิญในพิธีบูชาก็จริง แต่แขกรับเชิญคนนี้รุนแรงจริงๆ เขาเคาะอาเซอร์ซีบรีสจนทำให้ HP ของเขาลดลงไปครึ่งหนึ่ง นั้นจึงเป็นการบังคับให้เขาต้องใช้ทักษะลดความเสียหาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด