ตอนที่แล้วการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 51 สงครามการฟ้องร้อง 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 53 ประโยชน์มหาศาล จากน้ำตาลที่กว้านซื้อ

การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 52 สงครามการฟ้องร้อง 3


ตอนที่ 52  สงครามการฟ้องร้อง 3

“เรื่องกว้านซื้อข้ายอมรับว่าข้าทำจริงครับ”

“เช่นนั้นแปลว่าเจ้ายอมรับว่าตัวเองผิดงั้นสิ?”

ผมส่ายหน้าไปมา ให้กับคำถามขององค์ จักรพรรดิสวรรค์ ก่อนจะเข้าเรื่องก็ต้องปูทางเอาไว้ก่อน ยังไงสะเรื่องกว้านซื้อมันก็เป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว ยอมรับไปก็ไม่เสียหายอะไร ตามจริงก็จะทำกำไรจากการเกร็งกำไรจริงๆ นั่นแหละ แต่ผมคิดเอาไว้แล้วว่าเหตุการณ์คล้ายกันแบบนี้มันต้องเกิดขึ้นจนได้สักวัน เพราะแบบนั้นเลยหาข้อแก้ตัวเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

“ข้ายอมรับว่าข้ากว้านซื้อแต่ข้าไม่ได้ต้องการขายตอนราคามันเพิ่ม ที่ขายเพราะประชาชนต้องการใช้ต่างหากละครับ ถ้าข้ากว้านซื้อจริงๆ ข้าจะรู้ช่วงเวลาที่น้ำตาลขาดตลาดได้ยังไง”

“อืม! ถือว่าเป็นข้อแก้ต่างที่สามารถยอมรับได้ …เจ้าคิดแบบข้าไหมหัวหน้ากรมบริหาร”

“คือ… เรื่องนั้นท่านแกรนด์ดยุก อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขาดแคลนก็ได้เพราะข้าได้ยินมาว่าท่านแกรนด์ดยุกติดต่อซื้อน้ำตาลโดยตรงจากพ่อค้าเหล่านั้น”

ยังพอมีใจจะสู้อยู่สินะ แบบนี้ก็ดีจะได้ไม่ได้ล่าอยู่ฝ่ายเดียว หึหึ!

ได้ยินแบบนั้นผมก็พูดออกไป

“ข้าขอพูดอะไรหน่อยได้หรือไม่?”

“เชิญ!”

องค์ จักรพรรดิสวรรค์ ตอบทันทีหลังผมถามไป

“เมื่อครู่ท่านหัวหน้ากรมบริหารบอกว่าข้ามีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ว่า ตามข่าวที่ข้าได้รับมา ดูเหมือนว่าประเทศทางใต้จะโดนพายุถล่มอย่างหนัก จนผลผลิตหลายประเทศเสียหาย น้ำตาลส่วนมากก็ถูกส่งมาจากประเทศทางตอนใต้ของทวีปทั้งนั้น เช่นนั้นก็หมายความว่าข้าสามารถควบคุมพายุฝนได้งั้นเหรอ”

เรื่องการควบคุมสภาพอากาศมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะงั้นที่มันบอกว่า ‘ผมอาจมีความเกี่ยวข้อง’ ก็ไม่สามารถใช้ได้ทันที ถึงฝึกตนขนาดไหนก็ตามแต่ผมก็ไม่เคยเห็นใครสามารถควบคุมสภาพอากาศได้สักคน แม้แต่พวกเผ่าเทพหรือเผ่าปีศาจก็ตาม มันไม่มีทางที่ผมจะสามารถทำได้แน่นอน

“ท่านหัวหน้ากรมบริหาร ท่านกำลังกล่าวหาข้าในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ข้าเริ่มซื้อน้ำตาลเพื่อจุดประสงค์บางอย่างเมื่อประมาณสามเดือนก่อน แต่พายุพึ่งถล่มเข้าทางตอนใต้ของทวีปเมื่อประมาณ 1 เดือน ก่อนหน้านี้ไม่ใช่เหรอ ข้าไม่เข้าใจว่าท่านกล่าวออกมาได้ยังไงว่าข้ามีส่วนเกี่ยวข้อง”

“เรื่องนั้น…”

หัวหน้ากรมบริหาร พูดอะไรไม่ออก ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความร้อนรน ท่าทางสงบที่เจอกันหน้าประตูเมืองหายไปจนหมดเมื่อมาอยู่ต่อหน้าองค์ จักรพรรดิสวรรค์ นี่แหละที่เป็นเหตุผลที่กรมบริหารฟ้องร้องไม่ดูตาม้าตาเรือ ตอนนี้ผมไม่ต้องเปิดการ์ดบนมืออย่าตราประทับแต่ละประเทศที่ ซาอุส เอามาให้ด้วยซ้ำ

เห็นท่าทางร้อนรนพูดอะไรไม่ออกของมันได้ไม่นาน ผมก็หันไปทาง อิเลน่า กริฟฟอน แล้วถามออกไปว่า

“เรื่องนี้พวกเราสามารถให้ตัวแทน แกรนด์ดยุก กริฟฟอน ยืนยันเรื่องนี้ได้!!”

อิเลน่า กริฟฟอน ขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังผมพูดออกไป เธอคงไม่สบอารมณ์เท่าไหร่หรอกที่โดนดึงเข้ามาในหการฟ้องร้องครั้งนี้ด้วย ถ้าให้เดาพ่อของเธอ แกรนด์ดยุก กริฟฟอน คงบอกให้นั่งเงียบๆ ไม่ต้องแสดงความเห็นเรื่องอะไรเด็ดขาดถ้าไม่จำเป็น …แต่ขอโทษด้วย เธอเป็นตระกูลที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุมากที่สุดคงต้องฝากด้วย

ตระกูล กริฟฟอน ปกครองอาณาเขตทางใต้ขอจักรวรรดิ ซึ่งติดกับประเทศทางตอนใต้มากที่สุดในหมู่ขุนนางที่อยู่ที่นี่ และคนระดับเธอก็ต้องได้รับข่าวเรื่องพายุฝนถล่มจากตระกูลมาแล้วแน่นอน ดีไม่ดีอาจจะรู้แล้วด้วยว่าเหล่าประเทศทางใต้ของทวีปเตรียมก่อสงครามกัน ถ้าหากเธอไม่รู้ก็ไม่สมควรเป็นตระกูล แกรนด์ดยุก แห่งจักรวรรดิหรอก เหอๆ ขนาดพ่อค้าอย่างซาอุสยังรู้ ตระกูลแกรนด์ดยุกก็ต้องรู้เช่นกัน

และอีกอย่าง ถึงตอนนี้ผมกับเธอจะไม่เป็นมิตรที่ดีต่อกันเท่าไหร่นักก็ตาม แต่ว่า ยังไงครั้งนี้เธอก็ต้องพูดความจริงออกมาต่อหน้าองค์ จักรพรรดิสวรรค์ เพราะถ้าเธอพูดโกหกมันก็จะส่งผลกระทบต่อตระกูลของเธอ เท่ากับว่า ครั้งนี้เธอจะกลายเป็นเครื่องยืนยันให้กับผมเป็นอย่างดี หึหึ!

“เป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ ตัวแทนตระกูล กริฟฟอน?”

สิ้นสุดเสียงคำถามองค์ จักรพรรดิสวรรค์ เธอก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับมองตาขว้างมาทางผมเล็กน้อย นิสัยของเธอก็เป็นแบบนั้นแหละ สายตาแบบนั้นไม่ได้มองศัตรู แต่กำลังมองคนที่กำลังสนใจอยู่ต่างหาก แถมเหล่าทหารยังตั้งชื่อเธอในกองทัพในสมัยยุคหายนะแห่งมวลมนุษย์เอาไว้ด้วย ชื่อนั้นมีนามว่า ‘ราชินีแห่งโทสะ’ ใช่แล้ว! โทสะที่แปลว่าโมโหหรือโกรธนั่นแหละ ถ้าไม่อยู่ตอนหน้าองค์ จักรพรรดิสวรรค์ เธอคงตะโกนด่าผมมาแล้ว

แต่นั้นก็เป็นเรื่องในอีกสิบปีต่อจากนี้ เพราะดูๆไปแล้ว เธอยังคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีอยู่เลย

“เป็นเช่นนั้นคะ! เมื่อประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านี้ ข้าได้ข่าวจากตระกูลว่าพายุขนาดใหญ่ถล่มประเทศทางใต้ของทวีปนับสิบวันติด ผลกระทบจากเรื่องนั้นทำให้พืชเสียหายจำนวนมาก พืชที่นำมาผลิตน้ำตาลก็เสียหายมากเช่นกัน”

“เป็นเช่นนั้นเอง…”

องค์ จักรพรรดิสวรรค์ พึมพำเบาๆ หลังได้รับการยืนยัน จากนั้นก็หันไปทางหัวหน้ากรมบริหารอีกครั้ง

“เจ้ามีอะไรจะแก้ตัวอีกหรือไม่”

“…มะ ไม่มีแล้วครับ เรื่องทั้งหมดมันเป็นความผิดพลาดของกรมบริหารในเรื่องข้อมูล”

“ข้าไม่คิดเช่นนั้น เพราะตามที่ข้าเข้าใจคนที่กรองข้อมูลทั้งหมดของกรมบริหารก็คือ หัวหน้ากรมบริหาร จริงไหม! มาร์ควิส เดเมล!!”

ใบหน้า หัวหน้ากรมบริการ มืดลงในทันทีหลังโดนองค์ จักรพรรดิสวรรค์ พูดชื่อออกมาเช่นนี้ ตั้งแต่เริ่มการฟ้องร้องมันโดนเรียกด้วยตำแหน่งของตัวเองมาตลอด ซึ่งนั่นก็แปลว่าความผิดของมันในครั้งนี้เป็นความผิดของมันคนเดียว ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตระกูล เดเมล ที่มันเป็นผู้นำตระกูลอยู่

เพราะงั้น ถึงมันจะโดนปลดออกจากตำแหน่ง หัวหน้ากรมบริหาร แต่ก็ยังมีตำแหน่งผู้นำตระกูลยศ มาร์ควิสให้ยืนอยู่ในสังคมชนชั้นสูงได้อยู่ แต่ว่า หลังจากโดนเรียกชื่อแบบนี้เรื่องทั้งหมดมันกลับเปลี่ยนไป เวลานี้ตระกูล เดเมล ต้องรับผิดชอบทั้งหมดกับสิ่งที่มันทำพลาดครั้งนี้ ขุนนางทุกคนในห้องโถงแห่งนี้ต่างก็รู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่องค์ จักรพรรดิสวรรค์ กล่าวออกมาเป็นแบบนั้น

“อะ องค์จักรพรรดิ ระ เรื่องนี้ตระกูล เดเมล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องนะครับ”

หัวหน้ากรมบริการ พูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน ทว่า การตอบกลับขององค์ จักรพรรดิสวรรค์ กลับไม่มีอะไรที่จะให้อภัยเลยสักนิด พระองค์ยังคงมองด้วยแววตาสงบเงียบไม่พูดอะไรออกมา เฮ้อ~ ไม่คิดเลยว่าองค์ จักรพรรดิสวรรค์ จะพูดแทนผมออกมาขนาดนี้ แต่การทำลายตระกูล เดเมล เพราะหมอนี่โดนยัยร่านหลอกใช้มันก็ไม่ใช่เรื่องดีเหมือนกัน คิดได้แบบนั้นผมก็พูดออกไปว่า

“ข้าคิดว่าการลงโทษตระกูล เดเมล เพราะชายคนนี้คนเดี๋ยวมันมากเกินไปครับ”

“ข้าให้เจ้าพูดใหม่อีกครั้ง!!”

องค์ จักรพรรดิสวรรค์ ถามกลับมาทันทีด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ การจัดการแบบเด็ดขาดไปเลยมันก็ดีอยู่หรอกเพราะไม่ต้องมาห่วงเรื่องการแก้แค้นให้ปวดหัว แต่แบบนั้นมันก็ไม่ดีกับอนาคต ตระกูล เดเมล! ตระกูลนั้นมีประวัติยาวนานตั้งแต่จักรวรรดิก่อตั้งขึ้นมา แถมในตระกูลเหล่านั้นยังมีทหารและอัศวินจำนวนมากที่มีพลังบ่มเพาะในระดับสูง ผมจะยอมเสียพวกนั้นไปเพราะเรื่องงี่เง่าเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด

“ข้ายังยืนยันคำเดิมครับ การลงโทษทั้งตระกูลเพราะผู้นำไร้ความสามารถคนเดียวเช่นนี้ ข้าคิดว่ามันมากเกินไปสำหรับตระกูลที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่จักรวรรดิก่อตั้งขึ้น อย่ามากก็แค่ไล่ มาร์ควิส เดมอล ออกจากตำแหน่ง หัวหน้ากรมบริการ และยึดบรรดาศักดิ์กลับมาก็พอครับ!!”

ยึดบรรดาศักดิ์!

การโดนทำแบบนี้ก็เท่ากลับว่ามันจะกลายเป็นสามัญชนทันที จะไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูล เดเมล อีกต่อไปไม่ว่าจะเป็นกรณีแบบไหนก็ตาม แล้วก็แน่นอน สำหรับชนชั้นสูงแล้วมันไม่ต่างจากการตายหรอก หึหึ! นี่ไม่ใช่ความสงสาร แต่เป็นการลงโทษที่หนักกว่าการตายต่างหาก

หลังผมพูดจบ องค์ จักรพรรดิสวรรค์ ก็ยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย สำหรับสิ่งที่ผมพูดไปเมื่อกี้คนที่จะได้ประโยชน์จริงๆ มันไม่ใช่ผม แต่เป็นราชวงศ์ต่างหาก ถ้าทำลายตระกูล เดเมล ก็เท่ากับว่าอำนาจของราชวงศ์จะลดลงไปมากเพราะตระกูล เดเมล มีอาณาเขตอยู่ในเมืองหลวงและขึ้นตรงต่อราชวงศ์โดยตรง สิ่งที่ผมพูดไปองค์ จักรพรรดิสวรรค์ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปฏิเสธมัน

“หึ! ถ้าคนโดนกระทำว่าเช่นนั้นข้าก็ไม่มีทางเลือก …ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผู้นำแห่งตระกูล มาร์ควิส เดเมล จะเปลี่ยนตัวเป็นรุ่นต่อไปในทันที ส่วนอดีตหัวหน้ากรมบริหารก็จะโดยยึดบรรดาศักดิ์กลับคืนมาทั้งหมด และให้ไปใช้ชีวิตเช่นสามัญชน!!!”

อัศวินองครักษ์เดินมาแล้วลากตัว อดีตหัวหน้ากรมบริหารออกจากห้องโถงทันทีหลังสิ้นสุดคำสั่ง ขุนนางในห้องก็ไม่มีใครกล้าขัดอะไรออกมาสักคน ก็แน่ละ ใครมันจะบ้ามาต่อต้านเพื่อช่วยคนผิดกันละ เหอๆ ถ้าไม่หูเบาแล้วอยู่เงียบๆ เรื่องทั้งหมดก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก หลังจากนี้จงไปมีชีวิตที่แสนจะโคตรๆ มีความสุขแบบสามัญชนสะเถอะ หึหึ!

เอาละ!! ต่อไปการถึงคราวพะ-

“เดี๋ยวก่อน!! ก่อนจะเข้าเรื่องการฟ้องร้องเรื่องต่อไป ข้ามีเรื่องอยากจะถามอะไรเจ้าก่อน แกรนด์ดยุก วอเตอร์”

“ครับ!”

อยู่ๆ เสียงองค์ จักรพรรดิสวรรค์ ก็ดังขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว ถึงจะตกใจกับเสียงที่ดังขึ้นแต่ผมก็ตอบรับไปเองโดยอัตโนมัติทันที

“เรื่องที่อดีต หัวหน้ากรมบริการ ทำหน้าที่ผิดพลาดข้าลงโทษไปแล้ว แต่ข้อกล่าวหาเรื่องที่เจ้ากว้านซื้อน้ำตาลมันยังไม่จบ เมื่อครู่เจ้าบอกว่าไม่ได้เอามาเพื่อเกร็งกำไรแล้วเจ้ากว้านซื้อน้ำตาลจำนวนมากขนาดนั้นมาเพื่อทำอะไร!!?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด