ตอนที่แล้วการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 46 การเจรจาเพื่อร่วมมือทางธุรกิจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 48 น้ำจิ้มก่อนการเข้าเฝ้า

การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 47 ฝันร้ายแห่งมวลมนุษย์กำลังจะเริ่มขึ้น


ตอนที่ 47 ฝันร้ายแห่งมวลมนุษย์กำลังจะเริ่มขึ้น

“เป็นเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์ของเหล่าประเทศทางใต้ครับ ข้าได้รับข่าวมาว่าหลายตระกูลเตรียมก่อกบฏเพื่อยึดอำนาจจากราชวงศ์ของตัวเองกันแล้ว และบางประเทศก็กำลังวางแผนจะโจมตีประเทศอื่นๆ เพื่อขยายอำนาจของตัวเอง ในหมู่พ่อค้าตอนนี้ต่างก็เข้าใจดีว่าห้ามเดินทางไปยังประเทศเหล่านั้น”

มันกำลังจะเริ่มแล้วสินะ! ในชาติที่แล้วของผมเรื่องแบบนี้มันก็เกิดขึ้นเหมือนกัน การแย่งชิงอำนาจภายใน! การบุกเพื่อขยายดินแดน! หลังจากเหตุการณ์พายุขนาดใหญ่ถล่มหลายประเทศจนระบบปกครองเละเทะ มันก็เป็นโอกาสทองของพวกที่รอเวลานี้อยู่

แต่นี่มันเป็นเพียงช่วงเริ่มต้นเท่านั้น ช่วงเวลาการเตรียมตัวและตึงเครียดแบบนี้จะยาวนานประมาณ 2 ปี จากนั้นสงครามจริงๆ ก็จะเกิดขึ้นมา สงครามประเทศทางใต้ของทวีปไม่ได้มีผลแค่ประเทศเหล่านั้น แต่มันส่งผลกระทบไปทั่วทวีปของมนุษย์ในเรื่องของอาหารของผู้คน

ประเทศทางตอนใต้ของทวีปไม่ได้แข็งแกร่งเรื่องกำลังทหารและไม่ได้มีแร่หายากแบบโซนอื่นๆ ในทวีปให้ค้าขายเหมือนที่อื่น ทว่า ประเทศเหล่านั้นถือว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของมนุษย์แทบทั้งทวีป ก็จริงอยู่ที่แต่ละประเทศสามารถผลิตอาหารขึ้นมาเองได้อย่างเช่นการเลี้ยงสัตว์ แต่เรื่องข้าวสาลีไม่มีเพียงพอต่อความต้องการอย่างแท้จริง ไหนจะเรื่องผลไม้ที่นำส่งออกเป็นจำนวนมากอีก ขนาดจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ยังนำเข้าของจำนวนมหาศาลจากประเทศเหล่านั้นเป็นจำนวนมากทุกๆปี ประเทศอื่นๆ คงไม่ต้องพูดถึง

และเพราะแบบนั้น การเกิดสงครามกับอู่ข้าวอู่น้ำของทวีปมันเลยสร้างความเสียหายขนาดใหญ่เป็นวงกว้าง ทำให้เหล่าประเทศขนาดใหญ่ทั้งสี่อย่าง จักรวรรดิ สหราชอาณาจักร ราชอาณาจักรและอาณาจักร ก็เข้าร่วมสงครามการชิงดินแดนครั้งนั้นด้วย และเมื่อยักษ์ใหญ่ทั้งสี่ของทวีปเข้าร่วมต่อสู้ สงครามก็เลยกระจายไปทั่วทวีปอย่างรวดเร็ว

เฮ้อ~ ก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้น แต่ข้าคงยกกำลังทหารไปบุกเองไม่ได้หรอก ไหนจะเรื่องอาณาเขตทางเหนือ ไหนจะเรื่องประเทศ เมเบอร์ มีเรื่องให้จัดการอีกเยอะแยะ และเหนือสิ่งอื่นใดตระกูล แกรนด์ดยุกที่ปกครองอาณาเขตทางใต้ของจักรวรรดิคงไม่ยอมง่ายๆ

“เจ้าบอกข้าแบบนี้มันไม่ได้ช่วยอะไรหรอก กลับกัน ถ้าเจ้าเอามันไปขายให้ตระกูล กริฟฟอน เจ้าคงจะได้ของรางวัลจากตระกูลนั้นไม่ใช่น้อย”

“หึหึ! …ท่านอย่าพูดเรื่องเป็นไปไม่ได้แบบนั้นสิครับ ข้าคงไม่มีอำนาจอะไรที่จะเข้าพบผู้นำตระกูล กริฟฟอน ที่เป็นตระกูลแกรนด์ดยุกแห่งจักรวรรดิได้หรอกครับ”

ซาอุส ตอบด้วยใบหน้ายิ้มอ่อนๆ แต่สิ่งที่หมอนี่พูดออกมามันก็เป็นเรื่องจริง มันเป็นเรื่องผิดปกติมากที่พ่อค้าธรรมดาไม่ใช่ขุนนางเช่นหมอนี่มาพบคนอย่างผมที่มีตำแหน่งแกรนด์ดยุกได้เช่นนี้ ตระกูล กริฟฟอน ก็เป็นตระกูลแกรนด์ดยุกที่ดูแล้วอาณาเขตทางตอนใต้ของจักรวรรดิเช่นกัน

จักรวรรดิแห่งนี้นอกจากพื้นที่ใจกลางประเทศที่เป็นพื้นที่กว่า 40% ของทั้งหมด ที่ปกครองโดยราชวงศ์  ที่เหลือมันก็เป็นพื้นที่ของแกรนด์ดยุคทั้งสี่ที่บอกไป

อาณาเขตทางเหนือ ตระกูล วอเตอร์!

อาณาเขตทางใต้ ตระกูล กริฟฟอน!

อาณาเขตทางตะวันออก ตระกูล เจสเปอร์!

อาณาเขตทางตะวันตก ตระกูล ลาเชีย!

อาณาเขตอีก 60% ถูกแบ่งออกให้แกรน์ดยุกทั้งสี่ดูแล และเหล่าขุนนางที่อยู่ในอาณาเขตนอกจากอาณาเขตของราชวงศ์ก็ขึ้นตรงต่อแกรนด์ยุกไม่ใช่ราชวงศ์ หรือจะเรียกง่ายๆ เมื่อแกรนด์ดยุกอยู่ในอาณาเขตของตัวเองตัวตนเหล่านั้นก็ไม่ได้ต่างจากราชวงศ์เลยแม่แต่น้อย ตามจริงวิธีปกครองแบบนี้มันมีจุดอ่อนมากเกินไปในการปกครอง เพราะถ้าแกรนด์ดยุกอยากทรยศก็ทำได้ง่ายๆ

ทว่า ระดับองค์ จักรพรรดิสวรรค์ คงรู้เรื่องนี้อยู่แล้วแต่ไม่… ไม่สิ! ต้องพูดว่าระบบมันฝังรากลึกจนไม่สามารถทำลายได้แล้วต่างหาก ถ้าเกิดราชวงศ์ประกาศว่าจะให้อำนาจทั้งหมดกลับมาร่วมที่ตัวเอง เมื่อนั้นจักรวรรดิคงได้แยกออกเป็นห้าส่วนและทำสงครามภายในกันแน่ …ตัวผมเองก็คงเข้าร่วมสงครามเช่นเดียวกัน ต่อให้เป็นราชวงศ์แต่มาลดอำนาจกันแบบนี้มันก็เกินไป

แล้วก็เพราะแบบนี้แหละ ที่ผมตอนนี้ไม่สามารถนำกำลังทหารบุกไปยังประเทศทางใต้ของทวีปได้ นี่คงเป็นโอกาสทองของตระกูล กริฟฟอน อย่างแท้จริง ตามกฎแล้วถ้าแกรนด์ดยุกขยายอำนาจได้ก็จะยึดครองพื้นที่ตรงนั้นไปได้เลย และส่งเงินที่เก็บภาษีจากอาณาเขตที่ยึดได้ให้ราชวงศ์ 50%

ภาษี 50% มันดูเหมือนเยอะก็จริง แต่ว่า มันไม่ใช้แบบนั้นเลย เรื่องการจ่ายภาษีมันแทบไม่ต้องจ่ายถ้าจุดที่ยึดไม่มันไม่ใช่ประเทศ และถึงจะยึดประเทศได้แล้วแต่ตระกูล แกรนด์ดยุก บอกว่าเก็บได้ 100,000 เหรียญทอง แท้จริงแล้วเก็บได้ 1,000,000 เหรียญทอง ราชวงศ์ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้อยู่ดี

“ที่เจ้าพูดออกมามันก็จริง เพราะงั้นเลยมาบอกข้าแทนตระกูล กริฟฟอน สินะ”

“ครับ!  ข้าเข้าในเรื่องกฎหมายของจักรวรรดิเป็นอย่างดี แต่สงครามที่ข้าพูดถึงมันไม่ได้เกิดขึ้นในวันสองวันนี้สักหน่อย เมื่อไม่กี่เดือนก่อนตระกูล วอเตอร์ ยังแทบล่มสลายอยู่เลยแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับมายิ่งใหญ่จนแทบแซงตระกูล แกรน์ดยุก ทั้งสามตระกูลไปสะแล้ว และในอนาคตข้าคิดว่าคงยิ่งใหญ่กว่านี้เป็นแน่”

“หึ! ยังดีที่เจ้ากฎหมายอยู่บ้าง”

“ฮาฮาฮา ข้าแค่บอกเอาไว้เพราะถ้าท่านโชคดีได้ปกครอง ข้าก็พร้อมจะสนับสนุนเพราะข้ามีเส้นสายและคนรู้จักที่ประเทศทางใต้ของทวีปจำนวนมาก”

“อ่า เข้าใจแล้ว”

…..

ในเวลาต่อมา

“ท่านแกรนด์ดยุก นี่เป็นเอกสารทั้งหมดครับ”

ไกอา พูดออกมาพร้อมกับกองเอกสารด้านหน้า หลังจากจบเรื่องกับซาอุสผมก็เรียกไกอาให้มาพบต่อทันที ในระหว่างที่ผมไปหาเส้นทะเลลมปราณผมก็ให้ไกอาทำหน้าที่ต่างๆ ภายในตระกูล ร่วมถึงเรื่องข้อมูลป้องกันการโดนฟ้องเรื่องน้ำตาลเอาไว้ด้วย

ผมเริ่มกวาดสายตาอ่านทันทีถึงข้อมูลต่างๆ แต่เรื่องน้ำตาลนะมันโดนเคลียร์ได้ตั้งแต่ได้ของขวัญจากซาอุสแล้วละ เอกสารพวกนี้เอาไปเพื่อช่วยยืนยันเท่านั้น ส่วนเรื่องการถอนกำลังทหารกลับมาก็ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร กรมทหาร! พวกมันฟ้องร้องแบบนั้นมันขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ หน้าที่ตรงนั้นเดิมที่มันเป็นหน้าที่ของเหล่าขุนนางอยู่แล้ว และงบประมาณเรื่องดูแลอาณาเขตผมก็ส่งให้พวกนั้นทุกปี แต่พวกมันกลับไม่ส่งกำลังทหารออกไปคลุมครองกันเลยสักคนเดียว แต่ถึงยังไงก็ยังมีขุนนางบางส่วนที่ทำหน้าที่ตัวเองได้ดี

การฟ้องครั้งนี้ผมคงได้ประโยชน์ไม่ใช่น้อยๆ หึหึ!

“ดีมาก ข้อมูลที่เจ้าให้มามันดีจริงๆ”

“ครับ…”

น้ำเสียงตอบกลับของไกอาเป็นน้ำเสียงอ่อนๆ เหมือนกับว่ากำลังเป็นกังวลอะไรอยู่ เห็นแบบนั้นผมก็ถามออกไปว่า

“ข้าคิดว่าเรื่องเส้นทะเลลมปราณมันเกินตัวท่านเกินไป”

“เพราะ?”

“เส้นทะเลลมปราณเรียกได้ว่าเป็นสมบัติของชาติ ถึงตอนนี้องค์ จักรพรรดิสวรรค์ จะสนับสนุนท่านแบบเต็มที่แต่ราชวงศ์คนอื่นๆ นั้นไม่ใช่ ระหว่างที่ท่านกำลังเดินทางกลับมาก็มีจดหมายจากคนในราชวงศ์ส่งยังตระกูลหลายสิบฉบับ ข้าและท่านอลิสตอบปฏิเสธแบบสุภาพไปหมดแล้วเพราะคนเหล่านั้นต้องการพบท่านเพื่อเจรจากันทั้งนั้น”

หึ! เริ่มเคลื่อนไหวกันแล้วสินะ อย่างที่ผมคิดเอาไว้ไม่มีผิดหลังพบเส้นทะเลลมปราณขนาดใหญ่ตระกูลอื่นๆ ไม่สามารถยืนมือเข้ามายุ่งกับผมได้ แต่คนในราชวงศ์นั่นไม่ใช่ ‘ในราชวงศ์’ ผมเน้นคำนี้ก็เพราะคนที่สามารถยืนมือเข้ามายุ่งกับผมได้ไม่ใช่คนมีสายเลือดราชวงศ์เท่านั้น องค์หญิง! องค์ชาย! ผมสามารถรับมือพวกนั้นได้เพราะคนเหล่านั้นไม่กล้ามีปัญหากับตระกูล แกรนด์ดยุก กันหรอก ยกเว้นยัยร่าน!!!

แต่ที่ต้องเป็นกังวลคือ พวกที่มีความเกี่ยวของกับราชวงศ์ในด้านต่างๆ เช่น องค์ ราชินี หรือ องค์ จักรพรรดินี คนพวกนี้เป็นตัวปัญหาสำหรับผมอย่างแท้จริงๆ ถึงเข้าพวกนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์แต่ก็ยังมีตระกูลของตัวเองหนุ่นหลัง อย่างแม่ของยัยร่านที่เดินทางมาจากประเทศ เมเบอร์ แต่องค์ราชินีคนอื่นๆ หรือองค์ จักรพรรดินีในปัจจุบัน ส่วนมากไม่ได้มาจากนอกประเทศและยังมีตระกูลของตัวเองในจักรวรรดิหนุนหลังกันอยู่ ไกอา จะเป็นห่วงก็ไม่แปลก

“ปล่อยไปเถอะ ข้าเตรียมแผนหลังจากนี้เอาไว้แล้ว”

“คือ…”

“ไม่ต้องห่วง!! อลิสคงเป็นคนบอกให้เจ้ามาพูดกับข้าสินะ”

ไกอา พยักหน้าเล็กน้อยเป็นคำตอบ ต้องยอมรับเลยว่าน้องสาวของผมคนนี้เป็นคนฉลาดจริงๆ ถ้าเธอมาพูดกับผมเองผมก็คงพยามเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้เธอหนักใจ เพราะงั้นเลยเลือกใช่ไกอามาพูดแทน …ดูเหมือนว่าหลังจากเดินได้คงไม่ต้องห่วงเรื่องเธอเท่าไหร่ หึหึ!

“ตอนนี้เรื่องที่เป็นกังวลมันไม่ใช่เรื่องเส้นทะเลลมปราณ แต่เป็นเรื่องที่ข้าต้องเข้าพบองค์ จักรพรรดิสวรรค์ ต่างหาก …ให้คนส่งจดหมายไปพระราชวังสะ บอกไปว่าอีก 1 ชั่วโมง ข้าจะเดินทางไปอธิบายเรื่องทั้งหมดต่อหน้าองค์ จักรพรรดิสวรรค์”

ตอนนี้ต้องรีบเข้าพบองค์ จักรพรรดิสวรรค์ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะพวกตระกูลต่างๆ ที่โดนผมกวาดล้างไปหน้าคฤหาสน์คงต่อแถวเข้าพบเพื่อฟ้องกันแล้ว หึหึ! เวลาแห่งการถอนรากถอนโคน กำลังจะเริ่มขึ้น!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด