ตอนที่แล้วการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 27 การเคลื่อนไหวของแกนด์ดยุค ไคล์ วอเตอร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 29 สิ่งที่เป็นไปไม่ได้

การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 28 เรื่องในอดีต


ตอนที่ 28  เรื่องในอดีต

หลังจากฟังรายงานทุกเรื่องเรีนบร้อย จักรพรรดิสวรรค์ ก็ฉีกยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับหลับตาลงด้วยใบหน้ามีความสุข พร้อมกับคนในใจไปด้วย ‘ ไม่คิดเลยว่าเจ้าเด็กนั้นจะสามารถทำได้ขนาดนี้ ขยะแห่งจักรวรรดิ! เหมือนไม่เคยมีชื่อนั้นเลยจริงๆ เฮ้อ~ ไม่คิดเลยว่าไคล์จะมาถึงขนาดนี้ได้ ‘

จักรพรรดิสวรรค์ ไม่เคยมาก่อนว่าไคล์ที่โดนหาว่าเป็นขยะแห่งจักรวรรดิจะมาได้ถึงขนาดนี้ เรื่องเหล่านี้ถ้าไม่ใช่ไคล์ที่เขาเห็นมาตั้งแต่เด็กคงคิดว่าตระกูล วอเตอร์ กำลังวางแผนก่อกบฏไปแล้ว เมื่อเป็นแบบนั้นกองอัศวินหลวงคงบุกทำลายตระกูล วอเตอร์ ในทันที

“ท่านคิดว่าเป็นยังไงบ้าง?”

“เฮ้อ~ สุดยอดอัครเสนบดีแบบเจ้ามาขอความคิดขากข้างั้นรึ”

“ก็ใช่ครับ เอาตามตรงข้าสามารถเดาความคิดของขุนนางคนอื่นๆ ได้ไม่ยาก ทั้งผู้เป็นศัตรูและเป็นมิตรเพื่อหาผลประโยชน์ แต่สำหรับไคล์แล้ว ข้า-”

“ไม่รู้ว่าหมอนั่นกำลังคิดจะทำอะไร …เจ้ากำลังรู้สึกแบบนี้ใช่ไหม”

อัครเสนบดี ไอรอน ไม่ได้ตอบอะไรกลับคำถาม เขาได้แต่พยักหน้าขึ้นลงเท่านั้น

ในฐานะอัครเสนบดีแห่งจักรวรรดิที่รับตำแหน่งมาหลายสิบปี เขาพึงอ่านคนไม่ออกครั้งแรก สำหรับชายคนนี้แม้แต่ความคิดของจักรพรรดิสวรรค์คิดอะไรอยู่ก็สามารถอ่านออกได้ไม่ยาก การที่ไม่รู้ว่าไคล์ต้องการจะทำอะไรกันแน่ จะว่าต่อสู้เพื่อเพิ่มอำนาจก็ไม่น่าใช่ ถ้าต้องการเพิ่มอำนาจจริงทำไมไม่กลับไปยังอาณาเขตของตัวเองเพื่อฟื้นฟูอำนาจ ตอนนี้ในเมืองหลวงก็ไม่มีอะไรที่ไคล์ต้องการอยู่อีกแล้ว

เรื่องที่ไคล์เดินทางมาจากอาณาเขตทางเหนือก็เพื่อมาหาองค์หญิง เนร่า เรื่องนี้ทุกคนต่างก็รู้ดี แต่ในตอนนี้องค์หญิง เนร่า ก็ไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไปแล้ว เรื่องนิยายไอรอนยังพอยอมรับได้ แต่ว่า เรื่องที่ใช้เงินจำนวนมากเพื่อเม็ดโอสถก็ไม่อาจเข้าใจได้อยู่ดีว่าทำไมต้องทำขนาดนั้น

อาณาเขตตอนเหนือถึงจะไม่สงบแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ถึงเกิดการต่อสู้ขึ้นแต่มันก็เพียงเพียงการต่อสู้ เล็กๆน้อยๆ เพียงเท่านั้น ยังไงเรื่องตำแหน่งของแกนด์ดยุค วอเตอร์ ก็ไม่สั่นคอนแน่นอน ถึงจะไม่มีกองกำลังที่แข่งแกร่งภายในตระกูลก็ตาม

“ปล่อยไปเถอะ พูดตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เด็กน้อยในวันนั้นสามารถควบคุมตระกูล วอเตอร์ ทั้งตระกูลได้ มันก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรือไง”

จักรพรรดิสวรรค์ พูดพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ

“เฮ้อ~ นั่นสินะครับ แต่ถ้าเกิดเด็กนั้นรู้เรื่องแม่ของเขาละก็-”

“เงียบสะ!!!”

จักรพรรดิสวรรค์ ตะโกนเสียงดัง ใบหน้าก็ต่างจากเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิงใบหน้าของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธที่เพียงมองผ่านก็รู้ได้ทันที กลับกัน ไอรอนก็ยังคงมีสีหน้าเรียบนิ่งไม่ได้หวาดกลัวหรืออะไร เรื่องแกนด์ดัสเชสตระกูล วอเตอร์ ถูกปิดเป็นความลับตั้งแต่นางตายไป เพราะงั้นใครกล้าพูดออกมาก็จะมีความผิดทันที นี่เป็นคำสั่งของจักรพรรดิสวรรค์เมื่อนางตายไปหลังให้กำเนิดอลิสได้ไม่กี่เดือน

“ท่านคงปิดได้อีกไม่นานหรอก ข้าคิดว่าสักวันไคล์ต้องรู้ความจริงจนได้ และเมื่อเวลานั้นมาถึงข้าและท่าร หรือคนอื่นๆ คงไม่สามารถหยุดความโกรธของเขาได้”

“หึ! เรื่องอนาคตก็เป็นเรื่องของอนาคต พวกเราสัญญากับอเล็กช์เอาไว้แล้วไม่ใช่หรือไงว่าจะไม่บอกเรื่องนี้เด็ดขาด”

“เฮ้อ~”

อัครเสนบดี ไอรอน ถอนหายใจด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ เรื่องเมื่อสิบห้าปีก่อนมันเป้นเรื่องที่ไม่ควรเอามาพูด แต่เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าไคล์รู้เรื่องตอนที่มีกำลังทหารมหาศาล เรื่องมันจะเป็นยังไง ในอดีตเขาไม่เคยเป็นกังวลเพราะยังไงสะไคล์ก็ไม่สามารถแก้แค้นให้แม่ของตัวเองที่ตายไปได้แน่นอน ทว่า ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว กำลังทหาร! กำลังทรัพย์! ไคล์กำลังสสร้างกำลังทั้งสองขึ้นมาช้าๆ

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงกลายเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวรรดิรองจากราชวงศ์

“เอาเถอะ เมื่อถึงเวลาข้าจะบอกเรื่องนี้เอง เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นความลับให้มากที่สุดก้แล้วกัน …แต่ว่า!! ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับข้า เรื่องนี้ก็แล้วแต่เจ้าจะบอกอะไรไคล์เวลาไหน แต่ข้าขอให้เป็นเวลาที่เหมาะสมก็พอ”

“ครับ”

“เอาละ เรื่องไคล์เรียบร้อยแล้วพวกเรามาต่อเรื่องต่อไปดเลยดีกว่า ต่อไปเป็นเรื่องอะไร?”

“องค์หญิง เนร่า ครับ!”

“เฮ้อ~”

จักรพรรดิสวรรค์ ถอนหายใจทันทีเมื่อได้ยินชื่อต่อไป เมื่อกี้ก็ไคล์ต่อไปก็องค์หญิง เนร่า เขารู้สึกหนักใจเอามากๆ เมื่อได้ยินสองชื่อนี้เข้ามาในหูของตัวเอง

“นี่นางเคลื่อนไหวอะไรอีกละ?”

…..

สองวันต่อมา ณ เขตป่าทางเหนือของเมืองหลวง

“เร่งสร้างหน่อย พวกเราต้องสร้างให้เสร็จก่อนค่ำวันนี้!!!”

“ครับ!!!”

ด้านหน้าของผมตอนนี้เป็นพวกคนงานกำลังเร่งกอสร้างเพื่อสร้างเต็นท์พักชั่วคราวขึ้นมาอยู่ หลังจากเดินทางมาสองวันติดต่อกันผมก็มาถึงเขตป่าที่ซื้อเอาไว้ พวกอัศวินผมก็ให้ไคเซอร์ออกไปกวาดล้างพวกโจรรอบๆ เพื่อทำให้พวกมันรู้ตัวกันว่าผมเดินทางมาถึงแล้ว ส่วนอัศวินอีกส่วนก็คุ้มกันคนงานที่กำลังสร้างที่พักกันอยู่ สภาพคนงานก็ไม่สู้ดีเท่าไหร่แต่ก็นั่นแหละ มันหน้าที่ยังไงก็ต้องทำ

“ท่านแกนด์ดยุค ข้ากลับมาแล้ว”

“อ่า”

ผมหันตอบตามเสียงของไคเซอร์ที่ดังขึ้นมา ผมให้หมอนี่เอาอัศวินออกไป 200 คน เพื่อไปกวาดล้างค่ายโจรรอบๆ ไม่คิดเลยว่าจะกลับมาโดยไม่กี่ชั่วโมงแบบนี้ สงสัยเรื่องการเดินทางผมของผมเพราะอัศวินคงเป็นข่าวใหญ่ที่กระจายไปทั่วจริงๆ

กลับมาเร็วแบบนี้ไม่ต้องถามก็รู้ว่าพวกมันคงหนีไปหมดแล้วนั่นแหละ จมูกไวกันจริงๆ

“พวกมันหนีไปหมดแล้วสินะ”

“ครับท่าน ตามที่ท่านคาดกาณณ์เอาไว้ รอบที่ราบนี้มีค่ายโจรในรัศหมี 10 กิโลเมตร ถึง 5 แห่ง ข้าไม่คิดเลยว่าโจรมีมากมายขนาดนี้ พวกกรมทหารมัวทำอะไรกันอยู่!!”

ช่วงท้ายของรายงาน ไคเซอร์ กระแทกเสียงด้วยความไม่พอใจอย่างชัดเจน แต่ก็อย่างว่านั้นแหละอำนาจในการจัดการโจรเป็นของกรมทหารของจักรวรรดิ แต่พวกนั้นกลับไม่อะไรเลยสักอย่าง อย่างน้อยถ้าส่งทหารเข้ามาค่ายโจรคงไม่เยอะขนาดนี้หรอก

กลับไปคงต้องไปคุยกับพวกนั้นบ้างแล้ว…

“เอาไงต่อดีครับ ให้ข้านำทหารออกไปดีไหม?”

ผมส่ายหน้าให้กับคำถาม

“ไม่จำเป็น หลังจากพักคืนนี้พวกเราจะเริ่มเดินทางต่อทันที เมื่อถึงจุดนั้นแล้วพวกเราจะเริ่มสร้างเมืองขนาดเล็กขึ้นที่นั่น แล้วหลังจากนั้นพวกโจรก็จะอยู่ไม่สุขกันเอง”

“ครับ??? จุดนั้น? เมืองขนาดเล็ก? ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่”

หึหึ! ในที่สุดความอดทนในความสงสัยของไคเซอร์ก็มาถึงทางตันจนได้ ตลอดสองวันที่เดินทางมาหมอนี่พยามจะถามผมตลอดแต่ก็หยุดเอาไว้ ครั้งนี้คงสงสัยแบบสุดๆ แบบที่ถ้าไม่ถามคงทำอะไรต่อไม่ได้แล้วสินะ ถึงจะไม่ใช่หน้าที่ของผมที่ต้องตอบก็เถอะ แต่ยังไงสะก็มาถึงขั้นนี้แล้ว บอกเลยแล้วกัน

“ตามข้ามา! พวกเราจะไปคุยในเต็นท์”

“ครับ”

….

“ตามข่าวที่ข้าได้รับมา ที่แห่งนี้มีเส้นทะเลลมปราณขนาดใหญ่”

0_0……

ไคเซอร์ ทำหน้านิ่งไม่ได้ตอบอะไรออกมา

เส้นทะเลลมปราณ! มันไม่ได้หาง่ายๆ การพบมันหนึ่งจุดถึงแม้จะเป็นเส้นเล็กๆ ก็สามารถทำให้ตระกูลขนาดเล็กอย่างบศบารอนขึ้นมาเป็นดยุคได้ในทันที ประโยชน์ของมันนั่นมีมากมาย รักษาอาการบาดเจ็บ! เพิ่มระดับความเร็วการบ่มเพรา! เพิ่มโอกาศในการหลอมโอสถให้สำเร็จ! ด้วยประโยชน์อันหลากหลายของมันทำให้เส้นทะเลลมปราณโดนยกเป็นสมับัติระดับชาติทันทีเมื่อค้นพบ

ทว่า ตามกฎที่จักรวรรดิระบุไว้มันต่างออกไป ถ้าขุนนางครอบครอบอาณาเขตอยู่แล้วจะนับว่ามันเป็นสมบัติของตระกูลในทันที ซึ่งก็หมายถึงมันจะกลายเป็นของตระกูล วอเตอร์ ของผมไปเลยสิบปีโดยมีผมคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ขาดที่ที่แห่งนี้ ถ้าเกิดผมเคยเดินทางมาที่นี่ก่อน กรมครัวเรือน! คงไม่ขายป่านี่ให้ผมหรอกเพราะไม่ว่าคิดยังไงมันก็แปลกแน่ๆ ถ้าซื้อป่าไร้ค่านี่หลังเดินทางมา เมื่อเป็นแบบนั้นกรมครัวเรือนก็จะส่งคนมาตรวจสอบเพื่อดูให้แน่ใจว่าป่านี่มีอะไรน่าสนใจไหม ถ้าเจอเส้นลมปราณผมก็อดครอบครองมันไป

แต่ผมตอนนี้ไม่เคยมา แถมยังทำตัวเละเทะในสมัยก่อนอีกด้วย พวกเจ้าหน้าที่ของกรมครัวเรือนคงเซนรีบขายทันทีเลยละเมื่อรู้ว่าผมเอาเงิน 1 ล้านเหรียญทอง มาซื้อป่าไร้ค่านี่ แต่หลังจากที่ผมเจอเส้นทะเลลมปราณและข่าวกระจายออกไป ชื่อป่าแห่งนี้คงได้กลายเป็นป่าล้ำค่าเป็นแน่  เหอๆ ข่าวออกไปเมื่อไหร่ กรมครัวเรือนคงรับศึกนักจากตระกูลต่างๆ เรื่องให้ผมซื้อป่าแห่งนี้ในราคาแค่ 1 ล้านเหรียญทอง แน่ๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด