ตอนที่แล้วKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 250 ใคร?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 252 ถือโอกาส

King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 251 ร่วมมือ


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 251 ร่วมมือ

“ร่วมมือกับพวกข้าสิ!”

ระหว่างพูดเจ้าหมายเลขสองก็ยืนมือออกมา พร้อมกับใบหน้ายิ้มอย่างมีนัยผมก็เลยตอบไปแบบทันทีโดยไม่ต้องคิดอะไรเลยว่า

“ไม่เอา”

“เอ่ะ?!?!?”

ใบหน้าของหมายเลขสองเต็มไปด้วยสีหน้าแปลกใจ ก่อนจะพูดออกมาอีก

“นี่เจ้าไม่รู้สถานะของตัวเองหรือไง ตอนนี้เทเนสันต์มันได้อำนาจควบคุมพวกขุนนางไปกว่า 50% ของประเทศเข้าไปแล้ว ถ้าพวกเราที่เหลือไม่ร่วมมือกันด้วยตำแหน่งของมันแล้วละก็ มันต้องได้เป็นราชาคนต่อไปแน่”

เทเนสันต์คงหมายถึงหมายเลขหนึ่งสินะ อื้ม! อย่างน้อยก็รู้ชื่อหนึ่งคนแล้ว

“แล้วมันยังไง”

“หา???”

“ข้าถามว่าแล้วมันยังไง ขอบอกเอาไว้ก่อนเลยแล้วกันว่าข้าไม่ได้สนใจตำแหน่งราชาอะไรนั่นเลยสักนิด ใครจะได้เป็นราชาก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้าเลย”

พูดจบผมก็หยักไหล่ทั้งสองข้างขึ้น

“นะ นี่เจ้าพูดจะ จริงงั้นเหรอ…”

“อื้ม!”

ผมตอบพร้อมกับพยักหน้าให้คำถามของหมายเลขสอง แต่หลังจากตอบไปก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหน้าว่า

“งั้นก็แปลว่าเรื่องที่ได้ยินมามันเป็นเรื่องจริงสินะ กับเรื่องที่ว่าองค์รัชาทายาทลำดับที่ห้าไม่สนใจตำแหน่งการแย่งชิงอำนาจของราชา”

เมื่อได้ยินผมก็มองไปยังจุดที่เสียงออกมา แล้วก็ได้พบกับเจ้าหมายเลขสี่กำลังยืนมองหน้าผมอยู่ด้วยสายตาปกติที่ไม่สามารถเดาความคิดได้ ตอนนี้ถ้าคิดตามปกติเหมือนสองคนนี้จะร่วมมมือกันก็จริง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย

ตอนนนี้หมายเลขสองมันโดนหมายเลขสี่ควบคุมไปเรียบร้อยแล้ว แต่มันยังไม่ได้รู้ตัวเท่านั้นเอง ผมยืนคิดและสับตามองระหว่างหมายเลขทั้งสองที่ด้านหน้า จากนั้นก็พูดออกไป

“สิ่งที่ได้ยินถูกต้อง เพราะงั้นก็เปิดทางข้าจะรีบเดินทางกลับ”

“ดะ-”

“ปล่อยไปเถอะครับท่านพี่!”

เสียงของหมายเลขสี่ขัดหมายเลขสองก่อนที่จะพูดจบ ส่วนทางผมเมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็เดินกลับไปที่รถม้าเหมือนเดิมเพราะหมายเลขสี่คงเข้าใจสถานการณ์ดี แต่มันก็แปลกหน่อยๆ ที่เรื่องมันเป็นแบบนี้เพราะถ้าตามปกติแล้วคนอย่างเจ้าหมายเลขสี่ต้องเข้าใจแน่นอนว่าผมไม่มีทางตกลงด้วย แต่มันก็ยังมาแบบนี้อีก

รู้สึกกังวลยังไงไม่รู้แฮะ....

….

…..

หลายวันต่อมา

ในที่สุดขบวนรถม้าของผมก็เดินทางมาถึงเมืองหลวงของประเทศเมซัส แต่ว่าสถานการณ์ตอนนี้กลับไม่สู้ดีนักเพราะด้านหน้าประตูเมืองต่างก็เต็มไปด้วยทหารหลวงที่เป็นพวกทหารขึ้นตรงต่อราชากำลังขวางประตูทางเข้าเอาไว้อยู่

แล้วตอนนี้ผมก็กำลังจะเดินไปถามว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่มาดักทางกันแบบนี้ จุดที่พวกทหารกำลังขวางทางอยู่ดูยังไงมันก็ไม่ใช่การตอนรับแบบอบอุ่นแน่ เพราะพวกทหารกำลังทำเหมือนกับว่าผมไปทำเรื่องอะไรเอาไว้แล้วมารอควบคุมตัวชัดๆ อาวุธครบมือแถมยังจำนวนคนขนาดนั้น

เมื่อเดินมาถึงประตูผมก็ถามไป

“นี่มันหมายความว่ายังไง พวกเจ้ามาขวางข้าทำไม???”

“เรื่องนั้นข้าจะเป็นคนอธิบายเอง!”

หนึ่งในทหารพูดออกมา แต่พอลองมองชัดๆ ก็เหมือนกับว่าผมจะคุ้นหน้าของทหารคนนี้อยู่เหมือนกันแต่จำไม่ได้เลยว่าเป็นใคร ระหว่างกำลังคิดถึงใบหน้าของทหารในความทรงจำเสียงทหารคนเดิมก็ดังขึ้นมาอีก

“ข้าคือหนึ่งในองครักษ์ทั้งสี่ของราชาชื่อว่า กริม และได้รับหน้าที่ให้ควบคุมตัวท่านที่ทำผิดกฎการแย่งราชบัลลังก์เพื่อไปรับโทษกับองค์ระ-”

“เดี๋ยวก่อน!”

ผมขัดไปก่อนที่กริมจะพูดจบ แล้วตอนนี้เองผมก็เริ่มจำได้แล้วว่าหมอนี่เป็นใคร เพราะเมื่อได้ยินเสียงก็เลยจำได้ว่าหมอนี่เป็นองครักษ์ของดิวนีสันต์ที่เคยสู้กับผมเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่กลับมาจากประเทศเอลฟ์เพื่อเข้าร่วมพิธีแย่งตำแหน่งราชานั่นเอง

แต่เรื่องที่กริมพูดออกมาผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าหมายถึงอะไร???

“ข้าไม่เข้าใจตอนนี้เจ้าหมายถึงอะไร ข้าไปทำผิดกฎอะไรตอนไหน?”

“ท่านอย่ามาแกล้งทำเป็นไม่รู้ดีกว่าองค์ชาย”

น้ำเสียและสีหน้าที่กริมกำลังแสดงต่อหน้าของผมตอนนี้บอกได้เลยว่าหมอนี่ไม่ได้ล้อเล่นแน่นอน แล้วเมื่อพูดจบกริมก็เอามือจับดาบของตัวเองเอาไว้

พวกทหารด้านหลังของกริมเองก็เช่นกัน

ตอนนี้พวกทหารต่างจับดาบของตัวเองเพื่อเตรียมชักออกมา แต่ก็ยังไม่มีใครชักออกมาสักคน เห็นแบบนั้นผมก็พูดออกไปอีก

“เอาสิ!”

“ท่านจะยอมไปกับพวกเราสินะ”

“ไม่!”

ผมตอบพร้อมกับชี้นิ้วไปที่มือจับดาบของกริม แล้วก็พูดต่อไปอีก

“ถ้าจะชักก็ชักออกมาอย่ามัวแต่ลีลา…”

“องค์ชายท่านอย่าบังคับให้ข้าต้องทำแบบนี้เลย ตอนนี้พวกข้ายังไว้หน้าท่านเพราะท่านเป็นองค์ชายอยู่แต่คำสั่งขององค์ราชะ-”

“ข้าบอกว่าอย่าลีลาไง!!!”

ผมตะโกนขัดไปด้วยน้ำเสียงสูง พร้อมกับปล่อยไอพลังเวทย์ออกไปด้วย

ผลจากการทำแบบนั้นทำให้พวกทหารด้านหลังของหกริมพากันทำสีหน้าตกใจ แล้วผ่านไปได้ไม่นานก็มีเสียงดังขึ้นมาจากพวกทหารเหล่านั้น

“-พะ พลังอะไรกัน….?”

“-พลังขององค์ชายดรารอน์ที่ปล่อยออกมามันน่ากลัวกว่าท่านแม่ทัพอีก นี่ท่านดรารอน์พลังอยู่ขั้นไหนแล้ว???”

“-บะ แบบนี้ไม่ไหวหรอก….”

เมื่อได้ยินพวกทหารพูดกันด้วยน้ำเสียงเสียขวัญเป็นไปตามแผนที่ผมต้องการ ผมก็พูดออกไปอีกว่า...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด