ตอนที่แล้วจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 275
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 277

จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 276


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 276: การถ่ายทอดสดอันแสนน่าทึ่ง

"เอาล่ะครับ ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเราจะรับชมการถ่ายทอดสดแล้วน่ะครับผม มีเวลาเหลืออีกสิบห้าวินาทีจนกว่าพวกเขาจะเข้าสู่สนามแข่งขันครับ"

ทั้งจาง เจิ้นและสายลมแห่งความมืด ต่างก็บรรยายออกมาเพื่อกระตุ้นก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น

การต่อสู้นั้นเกิดขึ้นบนทุ่งหญ้าที่กว้างขวาง แต่มันก็ไม่ได้มีที่ให้ซ่อนเลย เพียงแค่ทุกคนกวาดมองก็สามารถมองเห็นรอบพื้นที่ได้อย่างง่ายดาย

ช่วงเวลาที่ลูหลี่เข้ามาในสนามประลองนั้น ก็ได้เกิดคลื่นเสียงที่ดังดังขึ้นมาจากที่นั่งของฝูงชน

พูดตามตรงแล้ว ผู้เล่นทั่วไปเหล่านี้ต่างก็รู้จักเกี่ยวกับเรื่องราวลูหลี่มากและรวมถึงความสำเร็จของเขาด้วย แต่มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่ได้พบกับเขาจริงๆ การถ่ายทอดสดแบบนี้กลับมีความรู้สึกที่ดูสมจริงอย่างไม่น่าเชื่อและสำหรับหลายคนแล้ว พวกเขาต่างก็รู้สึกราวว่าลูหลี่กำลังยืนอยู่ต่อหน้าดวงตา/ของพวกเขา

ตอนนี้ลูหลี่ที่เป็นดั่งฮีโร่ที่ยืนอยู่ต่อหน้าผู้เล่นทั่วไป

"เนื่องจากเราไม่มีค่าสถิติของความเสียหายที่เกี่ยวข้องให้ดู เราจึงไม่สามารถบอกค่า HP ของลูหลี่ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่าลูหลี่ซึ่งมีระดับอยู่ที่ 26 อยู่แล้วจะไม่มีอุปกรณ์สวมใส่ที่ดีเยี่ยมเลย "สายลมแห่งความมืดยืนอยู่ท่ามกล่างฝูงผู้คนในขณะที่เขาเปล่งเสียงร้องออกมาอย่างตื่นเต้น

จาง เจิ้นพยักหน้าเห็นด้วย "ในทำนองเดียวกันนั้น สมาชิกสองคนของเขาก็มีความแข็งแกร่งอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักบวชสาว มาสเรน หลายคนถึงกับกล่าวว่าเธอเป็นนักบวชอันดับหนึ่งของเกมรุ่งอรุณ "

จากนั้นระบบกล้องอัจฉริยะก็ได้แสดงให้เห็นภาพของมาสเรนอย่างใกล้ชิด

ผู้หญิงที่สวยนั้นต่างก็เป็นที่นิยมในทุกๆที่ที่ได้ไป ยิ่งเป็นสาวที่ทั้งสวยและมีทักษะการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม นั้นเป็นดั่งกับสาวในอุดมคติของเหล่าชายหนุ่มที่ชอบเล่นเกม

"มาสเรนยังคงขาดฝีมืออยู่อีกเล็กน้อย" สายลมแห่งความมืดกล่าวอย่างสงบ "มูนไลท์นั้นถึงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆและเขา ...... "

เขาหยุดพูดชั่วคราวและก็ได้ตัดสินใจที่จะไม่พูดเรื่องวงในนี้ออกไป ที่ว่าครั้งหนึ่งมูนไลท์นั้นเคยเป็นเลือดปีศาจผู้โด่งดัง

ทักษะในการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับไอเท็มและความชำนาญเฉพาะทางของพวกเขานั้นก็ได้มาจากการสังเกต แต่เรื่องวงในเกี่ยวกับความลับของผู้เชี่ยวชาญด้านการเล่นเกมที่อิงตามสมมติฐานที่เกิดขึ้น ต่างก็เป็นเพียงแค่เรื่องซุบซิบเท่านั้น ดังนั้นแล้ว นักพากย์มืออาชีพจริงๆนั้นจะไม่หันไปใช้วิธีที่สกปรกเหล่านี้ในการพูดคุยออกมาเพื่อดึงความสนใจของผู้ชมอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ การทำแบบนั้นมันจะทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการเล่นเกมหลายต่อหลายคนหันมาต่อต้านพวกเขา

เมื่อผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้พูดต่อหน้าสาธารณชนว่าพวกเขานั้นไม่ชอบนักพากย์บางคน แฟนๆของพวกเขาก็จะแอนตี้นักพากย์คนนั้นด้วย

แน่นอนว่ามีนักพากย์บางคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากการกระทำแบบนั้น แต่สายลมแห่งความมืดไม่ใช่หนึ่งในพวกเขา

"ผู้เล่นจากทีมฝ่ายตรงข้ามได้มาถึงแล้วเช่นกันครับ พวกเขามีพ่อมด พาลาดินและอีกคนก็คือ ...... "

มีเพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ นั่นหมายความว่าสมาชิกคนที่สามนั้นได้อยู่ในสถานะล่องหนแล้ว

แม้ว่าเกมรุ่งอรุณจะไม่ได้เป็นเกมที่ยุติธรรมอะไรนัก แต่เกมนี้ก็มีจุดมุ่งหมายที่ทำให้เกมนั้นมีความสมดุลมากที่สุด นั้นจึงเป็นเหตุผลที่เกมนี้ไม่มีทางที่จะให้ผู้เล่นเพียงแค่สองคนได้พบกับผู้เล่นสามคนในการแข่งขันอย่างแน่นอน

"ท่านลมครับ คุณคิดว่าสมาชิกคนที่สามของอีกฝ่ายจะเป็นโจรหรือดรูอิดครับ?" จาง เจิ้นถาม

ไม่ใช่ว่าเขานั้นไม่สามารถวิเคราะห์ออกมาด้วยตัวเองได้ แต่การเป็นเจ้าภาพงานของเขานั้นคือการร่วมมือกับนักวิเคราะห์และสร้างหัวข้อการพูดคุยขึ้น อีกทั้งเขานั้นยังไม่ควรที่จะโชว์จินตนาการของตัวเองออกมา

"มันน่าจะเป็นองค์ประกอบคลาสิคสามอาชีพที่ประกอบด้วย ดรูอิด พ่อมดและพาลาดิน" สายลมแห่งความมืดตอบและยังคงเปล่งเสียงของเขาออกมาอีกว่า "เอาล่ะครับ ตอนนี้ลูหลี่ก็ได้ล่องหนด้วยเช่นกันครับ เรามาจากมุมมองนกดูน่ะครับว่าลูหลี่จะมุ่งเป้าไปที่ใครกัน "

มุมมองนกหรือจะเรียกอีกอย่างได้ว่าโหมดการชมที่เฉพาะเจาะจงซึ่งแสดงทุกอย่างในฉากรวมทั้งคนที่ล่องหนอยู่ด้วย

แน่นอนว่าคนที่สามของสมาชิกอีกฝ่ายก็คือดรูอิดดั่งที่คาดไว้

ลูหลี่ที่ซึ่งยังอยู่ในที่ซ่อนตัวก็ได้เข้าหาทีมฝ่ายตรงข้ามด้วยความเร็วที่รวดเร็วอย่างมาก การเคลื่อนที่ของเขานั้นไม่มีลังเลอยู่เลย ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ห่วงเรื่องการที่จะถูกเจอตัวแม้แต่นิดเดียว

"เป้าหมายของเขาคือ ...... พ่อมดครับ" สายลมแห่งความมืดกล่าวออกมาอย่างเร็ว "ดูเหมือนว่าลูหลี่วางแผนที่จะฆ่าสายอาชีพที่สวมเกราะผ้าในการโจมตีชุดเดียว แต่การทำแบบนั้นด้วยตัวเขาเองเพียงคนเดียวแทบจะเรียกได้เลยว่ามันเป็นไปไม่ได้ ผมสงสัยว่ามูนไลท์จะสามารถช่วยเสริมความเสียหายได้ไหมครับ?

"ตอนนี้มูนไลท์ขยับแล้วครับ เขาพุ่งไปข้างหน้า ครูลมครับ นี้มันจะเร็วเกินไปไหมครับ? " จาง เจิ้นนั้นถามออกมาเพราะเขาไม่เข้าใจสิ่งที่เขาได้เห็น

"มูนไลท์นั้นมักมีลักษณะการเล่นที่กล้าหาญและมีวิธีการเล่นที่ไม่อยู่ในกรอบ"

แม้ว่าสายลมแห่งความมืดจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องอะไรนัก แต่เขาก็มีประสบการณ์และให้เหตุผลที่ตรงอย่างมาก

มูนไลท์นั้นเป็นพวกกล้าได้กล้าเสียและไม่มีกรอบ เขาเดินตรงไปยังทีมของศัตรูและชารจ์ใส่พาลาดินอีกฝ่ายทันทีที่เขาสู่ช่วงระยะโจมตีของเขา

ในการต่อสู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญ ไม่มีอะไรรับประกันว่าการชารจ์จะมีความสำเร็จอยู่เสมอไป

พาลาดินที่พวกเขาเจอด้วยนนั้นมีฝีมืออย่างมาก ปฏิกิริยาแรกของเขาคือการก้าวเท้าเลี่ยงไปด้านข้างเพื่อที่จะหลบเลี่ยงชารจ์ของมูนไลท์

แต่น่าเสียดายที่มูนไลท์ไม่ใช่พวกอ่อนหัดอย่างที่เขาคิด มูนไลท์ได้เปลี่ยนทิศทางของชารจ์และยังคงพุ่งต่อไปที่พาลาดิน

ในอีกด้านหนึ่ลูหลี่ก็ได้ใช้แซปใส่พ่อมด

พ่อมดนั้นก็ไม่ใช่ผู้เล่นที่แย่อะไรเลย เขามีโพชันที่สร้างขึ้นมาจากการเล่นแร่แปรธาตุ มันจะสร้างความเสียหายให้แก่ตัวเองทุกๆวินาทีซึ่งมีค่าความเสียหายเพียงแค่ 1 แต่มันกลับทำให้ผลกระทบของแซปหายไปเลย

นี่เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการจัดการกับแซปสำหรับอาชีพทั่วๆไป อย่างไรก็ตามคุณก็ยังจำเป็นต้องใช้โพชันนี้กับตัวเองก่อนที่คุณจะถูกแซป

นี่เป็นครั้งแรกที่ลูหลี่นั้นได้พบกับการใช้โพชันนี้ในช่วงเวลานี้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกประมาทเล็กน้อย

มาสเรนเองก็มีปัญหาเช่นกัน ดรูอิดฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่ใช่เพียงแค่ฮีลเลอร์เท่านั้น แต่เขาก็ยังมีทักษะในการโจมตีอีกด้วย ความเสียหายที่เขาสร้างขึ้นมานั้นค่อนข้างสูงมากและเขาก็สามารถลดแถบเลือดของมาสเรนไปได้จำนวนมาก

ขณะที่นักพากย์ทั้งสองคนได้รับชมการแข่งขัน พวกเขาก็รู้สึกราวกับว่ามีมือกำลังมาจับที่หัวใจของพวกเขาและเบี่ยงเบนความสนใจไปเล็กน้อยนั้นทำให้พวกเขาใจลอยไปชั่วขณะ

พวกเขากังวลว่าลูหลี่จะตัดสินใจที่จะจบการแข่งขันนี้อย่างรวดเร็ว ถ้าการต่อสู้นี้จบลงภายในยี่สิบถึงสามสิบวินาที พวกเขาก็คงจะไม่มีอะไรที่ต้องพูดออกมา

อย่างไรก็ตามในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็กังวลว่าลูหลี่และสมาชิกของเขาอาจแพ้ได้

ถ้าลูหลี่และสมาชิกของเขาแพ้ พวกเขาก็คงจะรู้สึกอายมาก เพราะพวกเขาได้พูดคำชมเชยมากมายแก่ลูหลี่ก่อนหน้านี้ มันคงจะเหมือนกับว่าพวกเขานั้นกำลังตบหน้าของตัวเองอยู่

ทุกคนในกลุ่มคนดูต่างก็ตกอยู่ในความวุ่นวาย พวกเขาทั้งหมดให้ความสนใจกับการต่อสู้นี้มาก

ลูหลี่ไม่ได้คิดเลยว่าการใช้แซปใส่พ่อมดนั้นจะล้มเหลว แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เขายังคงไล่ตามพ่อมดต่อไปพร้อมกับโจมตีอีกสักเล็กน้อย แล้วจากนั้นก็บิดข้อมือของเขาเพื่อแทงกริชออกไปจนทำให้น้ำพุเลือดได้ไหล่ลงมาจากบ่าของพ่อมด

ระบบ: ทักษะชาโดว์สไตรค์ความสำเร็จ 81%, สร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น 88% เป้าหมายติดสตันเป็นเวลา 1 วินาที

"ทำไมพ่อมดถึงถูกสตันกันครับ? นั้นมันทักษะอะไรกันเนี้ย? " แน่นอนว่าจาง เจิ้นนั้นรู้ดีว่านี่เป็นทักษะที่เกิดจากการที่มีระดับความสำเร็จมากกว่า 80% ในโหมดควบคุมด้วยมือ

อย่างไรก็ตามเพื่อวัตถุประสงค์ในการพากย์ เขาก็ต้องถามคำถามออกมาเพื่อผู้ชมส่วนใหญ่

เมื่อได้ยินคำถาม สายลมแห่งความมืดก็ได้อธิบายออกมาอย่างรวดเร็วแล้วสรุปว่า "มันเกิดจากทักษะที่มีความสำเร็จ 80% ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่มันจะสำเร็จ เท่าที่ผมรู้มา มันเป็นไปได้ที่จะทำให้ทักษะนั้นมีความสำเร็จ 90% เมื่อคุณมุ่งเป้าไปที่เป้าหมายที่ไม่เคลื่อนที่ แต่มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำให้ทักษะนั้นมีความสำเร็จได้ถึง 80% หรือสูงกว่าเมื่อพวกเขากำลังต่อสู้กันจริงๆ "

ขณะที่พวกเขาพูดกันนั้น ลูหลี่ก็ได้สตันใส่พ่อมดต่อแล้ว

เพื่อป้องกันตัวเองจากการถูกสตันโดยซัคคิวบัสที่เป็นสัตว์เลี้ยงของพ่อมด ลูหลี่ก็จึงได้เปิดใช้ทักษะซ่อนเงาของเขา เนื่องจากสายลมแห่งความมืดมีความรู้ความรู้มาก เขาจึงได้ใช้โอกาสนี้ในการอธิบายทักษะของเสื้อคลุมเงาโดยละเอียด

หนังสือทักษะซ่อนเงาที่ถูกขายอยู่ในตลาดก็ได้มาเพราะลูหลี่ เขาเป็นผู้เล่นมืออาชีพและเป้าหมายหลักของเขาก็คือการหาเงิน ดังนั้นเขาจึงไม่มีเหตุผลใดเลยที่จะต้องเก็บซ่อนทักษะนี้ให้เป็นความลับในการแข่งขัน

ทันใดนั้น มูนไลท์ก็ได้ละความสนใจจากพาลาดินและพุ่งเข้าใส่พ่อมด

ลมกรด!

"น่าทึ่งจริงๆครับ! ช่างเป็นการทำงานเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมมากเลยครับ! โอ้มีบางอย่างที่ดียิ่งกว่านั้นซะอีกครับ ลูหลี่ได้ใช้ทักษะเอกลักษณ์ของเขาออกมาแล้วครับ! เป้าหมายของเขาคือ ...... ฮีลเลอร์! ถูกต้องครับ เขาสตันใส่ฮีลเลอร์! อีกทั้งพ่อมดก็ได้หายไปแล้ว! "

ขณะที่เขาพูดจบ พ่อมดก็ตายจากทักษะลมกรดของมูนไลท์แล้ว

พ่อมดคนนี้น่าสงสารมาก เขาถูกโจมตีโดยลูหลี่จนเสียเลือดไปเป็นจำนวนมาก แล้วจากนั้นก็ถูกทำให้ติดสตันและจบลงด้วยทักษะลมกรด ไม่มีทางใดเลยที่จะทำให้เขามีรอดชีวิตออกไปได้

นอกจากนี้แล้ว พาลาดินยังไม่มีทักษะอะไรไว้ใช้ป้องกันเพื่อน ดังนั้นพาลาดินจึงไม่สามารถช่วยเขาได้เลย คงจะมีเฉพาะดรูอิดเท่านั้นที่สามารถทำอะไรได้ในสถานการณ์เช่นนี้ แต่เขาก็ถูกล่อลวงให้ออกไปไกลๆโดยมาสเรน ถึงแม้ว่าเขาจะกลับมาสนับสนุนเพื่อนได้ แต่ก็ได้มองเห็นอะไรที่ไม่ถูกต้องและวิ่งเข้าไปหาลูหลี่ ซึ่งหลังจากนั้น เมื่อการสตันได้หมดลง พ่อมดก็ได้ตายไปแล้ว

ผู้เล่นสองคนที่เหลือนั้นก็มีพลังมากพอที่อาจจะพลิกชนะได้ ดังนั้นแล้วพวกของลูหลี่จึงต้องรีบกำจัดศัตรูและออกจากการต่อสู้นั้นอย่างรวดเร็ว

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด