ตอนที่แล้วจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 213
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 215

จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ บทที่ 214


กำลังโหลดไฟล์

ติดตามอ่านนิยายเพิ่มเติมของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 214: ค่าเกียรติยศกลับมาเป็นเหมือนเดิม

"มีคนค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีโอกาส" ลูหลี่กล่าวขณะที่เขาลูบคมกริช "มาดูการแสดงนี้กันเถอะ"

ด้านล่างเนินเขานั้นมีกลุ่มคนที่กำลังต่อสู้และฆ่ากันอยู่

เห็นได้ชัดว่าฝ่ายพันธมิตรนั้นเสียเปรียบทั้งในด้านตัวเลขและทักษะ

ด้านฝ่ายเผ่าพันธุ์นั้น พวกเขาตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดว่าจะก้าวไปข้างหน้าหรือถอยทัพ เห็นได้ชัดว่าพวกเขานั้นมีผู้บัญชาการที่มีความสามารถ

จำนวนฝ่ายพันธมิตรเริ่มลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ฝ่ายพันธมิตรหนึ่งคนนั้นจะต้องได้เจอกับศัตรูถึง 2 คนหรือเป็นศัตรูที่ตามมาด้วยฮีลเลอร์ตลอด

"ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับเวลา ฉันจะลงไปก่อน มูนไลท์พยายามฆ่าฮีลเลอร์ให้ได้มากที่สุด มาสเรน ... "ลูหลี่หยุดพูดชั่วคราว" ถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องลงมือ "

หลังจากฆ่าคนไปตามเส้นทางในหุบเขาวอซองแล้ว มาสเรนก็ไม่ได้กลัวสิ่งที่ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้อีกต่อไป แม้ว่ามูนไลท์จะไม่พอใจในการลงมือรักษาของเธอ แต่อย่างน้อยเธอก็ยืนยันได้ว่าเธอนั้นมีพรสวรรค์ในด้านนี้

มาสเรนจับคทาในมือไว้และพยักหน้าอย่างไม่ลืมหูลืมตา

ลูหลี่พุ่งตัวไปข้างหลังดรูอิดในขณะที่ใช้ย่องเบาซึ่งเขาคิดว่านั้นอาจเป็นผู้บัญชาการของพวกเขา เหตุผลที่เขาอนุมานอย่างนั้นก็เป็นเพราะทุกคนให้ความสนใจกับเขาเป็นอย่างมาก

ถ้าเขาไม่ใช่ผู้บัญชาการก็ไม่มีเหตุผลที่ทุกๆคนจะมองไปที่เขาบ่อยๆ อย่างไรก็ตามนั้นไม่ใช่เพราะว่าเขานั้นเป็นผู้หญิงที่สวยงาม

ผู้เล่นฝ่ายพันธมิตรนั้นไม่ใช่คนโง่ บางครั้งก็จะมีคนบางคนที่พยายามที่จะฆ่าดรูอิดคนนี้ อย่างไรก็ตามผู้เล่นแห่งเผ่าพันธุ์ก็ป้องกันเขาได้ดีและเขาเองก็มีฝีมือที่ดีเช่นกัน

ลูหลี่รออย่างอดทน ถึงแม้ว่ามูนไลท์จะพุ่งตัวลงมาจากเนินเขาและวิ่งเข้าไปในกลุ่มศัตรู ลูหลี่ก็ยังคงอยู่ในสถานะล่องหนต่อไป

นักรบที่กำลังวิ่งลงมาจากภูเขานี้เป็นผู้เชี่ยวชาญ

เมื่อความสนใจของผู้บังคับบัญชาดรูอิดไปที่มูนไลท์ เขาก็ได้สั่งการอย่างรวดเร็ว ดรูอิดนั้นได้สั่งให้ลูกน้องของเขาไปโจมตีมูนไลท์ในทันที เมื่อเขาสั่งการเสร็จแล้ว นักเวทย์จำนวนหนึ่งเข้ามาล้อมรอบและพยายามที่จะจัดการมูนไลท์

มูนไลท์นั้นมีปฏิกิริยาตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและเปิดใช้งานทักษะกายหินทันที ด้วยทักษะนี้มันจะช่วยเพิ่มพลังป้องกันของเขาและทำให้เขาสามารถรับมือกับทักษะการสตันทั้งหมดได้ นั้นทำให้เขาสามารถรับความเสียหายจากนักเวทย์จำนวนมากได้

อาชีพใดที่แข็งแกร่งที่สุดในสนามรบ?

นักรบคลั่ง!

เมื่อระยะเวลาของกายหินสิ้นสุดลง มูนไลท์ก็ได้ใช้สกิลในการต้านทานทักษะสตันอันดับสอง บ้าคลั่ง!

นี่เป็นทักษะที่มีชื่อเสียงที่สุดของ นักรบคลั่ง ในระดับสูงสุด, ทักษะบ้าคลั่งเสียสละค่าป้องกันไป 30% เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังโจมตี 30%, ความเร็วในการโจมตี 30% และอัตราการคริติคอล 30%

นอกจากนี้เขาจะได้รับภูมิต้านทานทักษะสตันทุกชนิดในช่วงเวลานั้นอีกด้วย

หลังจากเปิดใช้งานทักษะบ้าคลั่งแล้ว เขาก็ใช้ลมกรดทันทีและหมุนไปรอบๆเหมือนเครื่องปั่นมนุษย์ท่ามกลางผู้เล่นแห่งเผ่าพันธุ์

บางคนบอกว่านักรบมีเพียงสามเทคนิคที่จะต้องใช้เท่านั้น และมีสองคำอธิบายสำหรับเรื่องนี้

คำอธิบายแรกก็คือทักษะ: ชารจ์ บ้าคลั่งและลมกรด ซึ่งอาจจะฆ่าทุกคนได้

อีกคำอธิบายก็คือความสามารถในการบัพทั้งสาม ได้แก่ บัพพลังโจมตี บัพความเร็วการโจมตี​​และ บัพอัตราคริติคอลซึ่งบ้าคลั่งนั้นเพิ่มทุกอย่างขึ้นถึง 30% ด้วยความสามารถนี้ นักรบคลั่งสามารถฆ่าผู้เล่นคนอื่นด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!

ลูหลี่ได้เห็นมูนไลท์สังหารนักเวทย์ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว แม้ว่า HP ของนักเวทย์คนนั้นยังไม่เต็มก็ตาม

ผู้บัญชาการดรูอิดเมื่อได้เห็นถึงความโหดเหี้ยมของมูนไลท์ ก็ได้สั่งให้ผู้เล่นหลายๆคนไปล้อมรอบเขามากขึ้น ผู้เล่นฝ่ายพันธมิตรที่ชีวิตกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายนั้นเมื่อได้เห็นมูนไลท์ก็ได้มีแรงที่จะหายใจพร้อมกับกลับมาต่อสู้อีกครั้ง

ตอนนี้ HP ของมูนไลท์ลดลงจนอยู่ในสภาวะวิกฤต!

นั้นเพราะว่าเขาไม่ได้เป็นพระเจ้า ถึงแม้ว่าความสามารถในการโจมตีของเขาจะรุนแรง แต่หากโดนผู้เล่นรายคนรุมโจมตีใส่ก็มีโอกาสที่เขาจะตายได้

เมื่อมูนไลท์กำลังร่วงหล่นลงบนพื้น ก็ได้มีลูกบอลแสงสีขาวพุ่งเข้าไปในร่างกายของเขา

+689!

+56 +62 +44 ......

แทบจะทันทีที่ HP ครึ่งหนึ่งของมูนไลท์ถูกฟื้นฟูอีกครั้ง

"บ้าเอ้ย รักษาโกงอะไรขนาดนั้น" ดรูอิดสาปแช่งอย่างเงียบๆ จากนั้นเขาจึงได้ทำการสั่งให้คนรอบๆตัวเขาเข้าร่วมโจมตีใส่นักรบคนนั้นด้วยความหงุดหงิด

"โจรและนักรบ ไปฆ่าฮีลเลอร์!"

นี่เป็นคำสั่งสุดท้ายก่อนที่เขาจะโดนลอบโจมตีด้วยเชปช็อตโดยลูหลี่

เชปช็อตแล้วตามด้วยทักษะแทงหลังซึ่งมีความสำเร็จสูง นั้นทำให้เกิดผลของการเจาะเกราะขึ้น ดรูอิดรีบกลายร่างไปเป็นหมีอย่างลนลาน เนื่องจากทักษะการกลายร่างเป็นหมีนั้นสามารถลบล้างการสตันได้

แม้ว่าการสตันจากเชปช็อตจะหายไปจากการกลายร่างเป็นหมีก็ตาม ความรู้สึกน่าสังเวชใจของความเร็วในการตอบสนองของดรูอิดซึ่งเขานั้นมีความภาคภูมิใจในตัวเองนักนาก็เป็นเรื่องที่น่าขันเมื่อเทียบกับลูหลี่

ลูหลี่ได้ใช้ความเร็วในการตอบสนองของเขาแล้วจึงใช้ซุ่มโจมตีเพื่อทำให้เขาเป็นอัมพาต จากนั้นลูหลี่ก็โจมตีปกติแล้วตามด้วย ชาโดว์สไตรค์ (สตัน) กรีดคอ (เลือดออก) ...

ดรูอิดสะดุดไปข้างหลังและล้มลงกับพื้น

คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าต่างก็งงงวยว่าทำไมผู้บัญชาการของพวกเขาไม่ได้สั่งการ เมื่อพวกเขาหันกลับไป พวกเขาก็เห็นดรูอิดซึ่งเป็นผู้บัญชาการล้มลงกับพื้นและยังไม่มีใครอยู่รอบตัวเขาอีกด้วย!

ทุกคนที่เห็นฉากนี้รู้สึกสับสน พวกเขาวิ่งออกมาเพียงสิบวินาทีเท่านั้น

การลอบสังหารของเขานั้นเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบและการใช้ทักษะแบบต่อเนื่องของเขานั้นเข้ากันอย่างลงตัว ดรูอิดคนนี้เป็นเพียงผู้นำทีมเล็กๆในสมาคมเมืองหลวงแห่งความรุ่งโรจน์เท่านั้น เขาจะทำปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อถูกลอบสังหารโดยคนที่มีความสามารถเช่นลูหลี่?

ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่เคยสังเกตุเลยว่ามีใครอยู่ข้างหลังตัวเขา

ความตายของผู้บัญชาการนั้นไม่ได้ทำให้ผู้เล่นเผ่าพันธุ์สิ้นหวังหรือรู้สึกกลัว แต่พวกเขากลับไม่เกรงกลัวและต่อสู้ยากมากยิ่งกว่าเดิม

ผู้เล่นพันธมิตรเริ่มล้มลงทีละคน แต่นี่ไม่ใช่สมาชิกของทีมลูหลี่ มูนไลท์นั้นสงบมากยิ่งขึ้นและยืนด้านหน้าของมาสเรนเพื่อรับความเสียหาย

ในเกมเสมือนจริงการโจมตีส่วนใหญ่จะไม่พาดผ่านตัวละครของผู้เล่น ดังนั้นการปกป้องฮีลเลอร์โดยสมบูรณ์แบบจึงเป็นไปได้

ทีมของลูหลี่นั้นมีทักษะที่ยอดเยี่ยมและอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยม พวกเขามีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนและสามารถจัดการผู้เล่นเผ่าพันธุ์จำนวนมากลงได้

ลูหลี่เดินไปรอบๆโดยจัดการผู้เล่นฝั่งศัตรูไปเรื่อยๆ เป้าหมายหลักของเขาคือผู้เล่นที่ไม่ได้มีเลือดเต็มในขณะที่อีกด้านหนึ่งนั้นเขาสามารถฆ่าผู้เล่นที่มี HP อยู่ในสภาวะวิกฤตด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ตอนแรกผู้เล่นเผ่าพันธุ์นั้นไม่ได้สังเกตเห็น แต่เมื่อผู้เล่นเสียชีวิตมากขึ้น พวกเขาก็เห็นลูหลี่เดินไปรอบๆเหมือนพระเจ้าแห่งความตาย

มันเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ด้วยสมาชิกปัจจุบันของพวกเขา มันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาเลยที่จะล้อมรอบเขากับคนจำนวนมากนี้ไว้ได้

หลังจากการต่อสู้จบลง พวกเขาทั้งสามก็ได้ปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมปาร์ตี้จากกลุ่มผู้รอดชีวิตพันธมิตรอย่างสุภาพและเดินไปหาเป้าหมายใหม่

"ดูเหมือนว่านายจะฆ่าคนเป็นจำนวนมาก นายได้รับค่าเกียรติยศเท่าไหร่? " มูนไลท์ถาม

"พวกเขาทั้งหมดน่าจะมือใหม่ ดังนั้นฉันจึงได้ค่าเกียรติยศเพียง 70-80 จุด" ลูหลี่ตอบหลังจากมองไปที่ค่าสถานะของเขา เขายังคงต้องการค่าเกียรติยศเกินกว่า 100 จุด เพื่อให้มันเป็นค่าที่เป็นบวก แต่เขาก็จะคงทำมันได้เร็วๆนี้ถ้าเขาโชคดีพอ

"ครั้งสุดท้ายนั้น ฉันฆ่าจ่าสิบเอกระดับ 4 และได้รับค่าเกียรติยศเพียง 40 จุด" มูนไลท์กล่าวด้วยความรู้สึกที่ยังไม่พอใจ

"อันดับของนายตอนนี้คืออะไร?" ลูหลี่ถามเพราะเขาค่อนข้างอยากรู้อยากเห็น

"ฉันตายไปไม่กี่ครั้ง ดังนั้นอันดับของฉันคือ จ่าสิบเอกระดับ 6 ถ้าไม่ใช่เพราะฉันตายล่ะก็ ฉันคงจะเหล่านั้นฉันคงจะเป็นผู้คุมทหารนานแล้ว จากสิ่งที่ฉันรู้มานั้นในเกมตอนนี้มี ผู้คุมทหารมากกว่า 10 คนแล้ว"มูนไลท์กล่าวด้วยความผิดหวัง

ระบบเกียรติยศของเกมรุ่งอรุณและระบบอันดับของทหารนั้นค่อนข้างซับซ้อน ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆก็คืออันดับทหารจะเชื่อมโยงกับค่าเกียรติยศ : ค่าเกียรติยศ 100 จุดจะเป็นพลทหาร ค่าเกียรติยศ 100-500 จุดจะเป็นสิบโท ค่าเกียรติยศ 500-1000 จุดจะเป็นสิบเอกและค่าเกียรติยศ1000-2000 จุดจะเป็น จ่าสิบเอกระดับ 1 ทุกๆ 1000 แต้มเกียรติยศจะเพิ่มระดับขึ้น 1 ระดับและจะกลายเป็นผู้คุมทหารเมื่อแต้มเกียรติยศถึง 10000 จุด

หลังจากเป็นผู้คุมทหารแล้วจะยังมีอันดับต่อจากนั้นก็คือรองหัวหน้ากอง หัวหน้ากอง พลเอก จอมพล จอมพลอันดับหนึ่ง ผู้บัญชาการทหาร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ...

หากผู้เล่นถูกฆ่าตายในสนามรบพวกเขาจะสูญเสียแต้มเกียรติยศบางจุด ซึ่งมันค่อนข้างซับซ้อนในการคำนวณ อย่างไรก็ตาม ด้วยเรื่องนี้มันก็ได้ขัดขวางการจ้างคนเพื่อฟาร์มค่าเกียรติยศ

การฆ่าผู้เล่นในแต่ละระดับจะให้ค่าเกียรติยศที่แตกต่างกัน การฆ่าพลทหารหรือสิบโทจะให้ค่าเกียรติยศเพียงจุดเดียวและมีผู้เล่นอ่อนหัดหลายคนที่อยู่ในระดับพวกนี้ การฆ่าสิบเอกนั้จะให้แต้มเกียรติยศ 5 จุด ในกลุ่มนั้นที่ลูหลี่เพิ่งฆ่ามี 2 คนที่เป็นสิบเอก คนที่มียศประมาณนี้เริ่มมากขึ้นและมากขึ้นเป็นธรรมดา

การฆ่าจ่าสิบเอกระดับ 1 จะให้แต้มเกียรติยศ 10 จุดขณะที่การฆ่าผู้คุมทหารหรือสูงกว่านั้นจะได้รับรางวัลพิเศษ

น่าเสียดายที่แม้ว่าจะอยู่ในหุบเขาวอซองเป็นเวลา 3-4 ชั่วโมง ลูหลี่และทีมของเขาก็ไม่ได้ขึ้นไปอยู่ในระดับสิบเอก

โชคดีเพราะมีผู้เล่นอ่อนหัดจำนวนมาก ระดับของลูหลี่จึงสามารถที่จะกลับกลายมาเป็นพลทหารได้หลังจากผ่านไป 3 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นและความลำบากใจในค่าเกียรติยศที่ติดลบก็ได้หายไปแล้ว [ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมยศทหารแปลกๆนะครับ ไม่รู้จักยศเลย]

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด