ตอนที่แล้วการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 16 จงรัก! ภัคดี!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 18 หลายวันต่อมา

การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 17  แผนของขยะทั้งสอง


ตอนที่ 17  แผนของขยะทั้งสอง

ตุ๊บ!

“มันจะมากเกินไปแล้วนะไอเด็กนี่ แกคิดว่าแกจะไล่ฉะ-”

“เงียบก่อนท่านคาสัน!”

คาสันที่โมโหจนต้องเอามือทุบโต๊ะหยุดลงทันทีเมื่อโดนองค์หญิง เนร่า สั่งให้หยุด หน้าตาของมันแดงเหมือนกับโดนเอาสีทาหน้าไปแล้ว คงหมดความอดทนแล้วนั่นแหละ หึหึ!

กลับกัน ทางด้านองค์หญิง เนร่า กลับมาท่าทางที่เยือกเย็นกว่าอย่างเห็นได้ชัด เธอค่อยๆ มองมาทางผมหลังจากกำหลาบให้คาสันสงบลง ท่าทางแบบนั้นเป็นแบบที่ผมคิดเอาไว้จริงๆ พวกนี้ต้องมีแผนอีกแน่

“ถ้าคุยดีๆ ไม่รู้เรื่องก็ต้องด้วยแบบอื่น”

“เหอ! องค์หญิง… ท่านไม่คิดหรือไงว่ากำลังอยู่ในที่ของใคร คิดว่าระดับพลัง ราชาแท้จริง จะสามารถทำอะไรข้าได้ในบ้านของข้าหรือไง”

ถึงผมจะไม่ชอบยัยนี้เข้ากระดูกดำ แต่ก็มีหนึ่งอย่างที่ผมยอมรับ อายุ 18 ปี ระดับพลัง ราชาแท้จริง พลังขนาดนี้นับว่าเป็นผู้บ่มเพราะอายุน้อยที่มีอยุ่เพียงหยิบมือของจักรวรรดิเลยละ เท่าที่จำได้คนอายุไม่เกิน 20 ปี แต่มีพลังระดับนี้ทั่วทั้งจักรวรรดิมีไม่ถึง 10 คน และทั่วทวีปของมนุษย์ก็มีไม่ถึง 20 คน

“…อะไรกัน ข้าบอกตอนไหนว่าจะใช้กำลังกับท่าน ท่านแกนด์ดยุค”

“โอ้ว~ เช่นนั้นองค์หญิงก็ยังนับว่ามีสมองอยู่บ้าง ถ้างั้นจะทำยังไงกันละ ถ้าใช้กำลังกับข้าไม่ได้คงไม่ได้จะบอกว่าจะทำอะไรกับอาณาเขตทางเหนือหรอกใช่ไหม”

ใบหน้าทั้งสองแข็งค้างทันทีหลังผมพูดจบ จริงด้วย! เป็นแบบที่ผมคิดเอาไว้เลย ขยะทั้งสองคงเตรียมแผนเผื่อเอาไว้เมื่อคุยดีๆ ไม่รู้เรื่อง อาณาเขตทางเหนือถึงจะเป็นดินแดนของตระกูล วอเตอร์ แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะฟังคำสั่งผมทั้งหมด เมื่อคาสันกับยัยร่านอยู่ด้วยกันแบบนี้ผมก็พอเดารูปแบบพวกนี้ออกแล้ว แต่ว่า ผมเองก็ไม่ได้โง่ขนาดรอให้พวกนี้มาเอาเปรียบหรอก หึหึ!

“เหอ! เจ้าไม่รู้อะไรสินะว่าข้ากับองค์หญิงควบคุมขุนนางกว่า 40% เอาไว้หมดแล้ว”

“ใช่แล้วท่านแกนด์ดยุค ระหว่างที่ท่านไม่สนใจอะไร ข้าและท่านคาสันก็ได้ควบคุมขุนนางพวกนั้นไปแล้วกว่า 40% เพียงข้าและท่านคาสันออกคำสั่งขุนนางเหล่านั้นก็จะทำตามคำสั่งทันที แล้วก็ลองคิดดูว่าหลังจากที่ขุนนาง 40% ต่อต้านและพยามทำให้ท่านหลุดออกจากตำแหน่งมันจะเป็นยังไง ต่อให้เป็นอำนาจขององค์ จักรพรรดิสวรรค์ ก็ไม่สามรถช่วยท่านได้หรอก”

ต้องยอมรับๆ 40% ไม่คิดเลยว่าจะได้ข้อมูลมาง่ายๆ เช่นนี้  พวกกลุ่มขุนนางอาณาเขตทางเหนือของจักรวรรดิต่างก็อยู่ในการปกครองของผมกันทั้งนั้น แต่ว่า จักรวรรดิก็มีกฎในตัวของมัน นั่นคือ ถ้าขุนนางในอาณาเขตไม่พอใจก็สามารถรวมตัวเพื่อปลดแกนดยุคออกจากตำแหน่งได้ ถ้าแกนด์ดยุคทำหน้าที่ไม่ดีพอหรือแกนด์ดยุคไม่มีความสามารถในการปกป้องชายแดนได้

เพราะแบบนี้ส่วนมากแล้วแกนด์ดยุคแต่ละคนจะมีหนทางแตกต่างกันออกไป แต่รวมๆ ให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ถ้ามีกลุ่มขุนนางคิดรวมตัวต่อต้านจะสังหารทิ้งทันทีโดยโยนความผิดบางอย่างให้ ไม่ว่าจะได้ทำจริง หรือไม่ได้ทำ ขุนนางที่โดนจับได้ว่ากำลังรวมกลุ่มก็มีทางเดียวเท่านั้นที่รออยู่ แต่ว่า ด้วยการทำตัวของผมแบบไม่สนใจอะไรเลยทำให้พวกขุนนางรวมตัวกันได้ขนาดนี้ 40% ถ้าพวกมันต่อต้านคงสามารถปลดผมออกได้สบาย แต่

“เช่นนั้นข้าจะโดนปลดเพราะอะไรกันละ”

“นี่แกไม่ได้ฟังเลยสินะ โทษของแกก็คือไม่มีความสามารถดูแลอาณาเขตชายแดนไง!!!”

คาสันตะโกนออกมาสุดเสียง ด้วยท่าทางไม่พอใจ ได้ยินแบบนั้นผมก็หันไปทางยัยร่านต่ออีกคน

“ท่านเองก็คิดแบบนั้นด้วยหรือไง …องค์หญิง”

“นะ แน่นอนอยู่แล้ว”

“ฮาฮาฮา ข้าละตลกกับสิ่งที่พวกเจ้าทั้งสองกำลังทำกันจริงๆ ผู้หญิงไร้ยางอายกับผู้ชายจอมโลภ คำพูดพวกนี้เหมาะกับพวกเจ้าสองคนจริงๆ”

ตั้งแต่ที่พวกนี้คิดจะกดดัน ผมก็ไม่มีอะไรที่ต้องรักษาหน้าพวกมันอีกแล้ว

“ถ้าเป็นแบบที่บอกมา คนที่จะโดนลงโทษเรื่องนี้มันก็ไม่ใช่ข้า เพราะข้าพึ่งอายุ 18 ได้ไม่กี่เดือนเองไม่ใช่หรือไง ถ้าพูดถึงความสามารถก็ต้องพูดถึงผู้ดูแลตระกูลแทน อย่างเช่น คนจากตระกูล รอมเซอร์”

แผนที่สองคนนี้คิดมาสำหรับผมแล้วคิดว่าผ่านเลยละในการข่มขู แต่มันยังน้อยไป เอาเรื่องไร้สาระแบบนี้มาข่มขูจอมพลคนสุดท้ายแห่งจักรวรรดิงั้นเหรอ เหอๆ ช่างกล้ากันสะจริงๆ เมื่อก่อนจะย้อนกลับที่นี่ผมโดนพวกเผ่าเทพและเผ่าปีศาจข่มขู่จนนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว สองคนนี้ทำอะไรผมไม่ได้หรอก อีกอย่าง ที่ผมพูดไปมันก็เป็นความจริงที่ตอนนี้คนที่จะโดนลงโทษหลังจากขุนนางเหล่านั้นพยามต่อต้านให้ตระกูล วอเตอร์ ออกจากตแหน่ง มันไม่ใช่ผม แต่เป็น คาสัน รอมเซอร์ ที่เข้ามาทำหน้าที่แทนต่างหาก

ใบหน้าของพวกมันทั้งสองคนเปลี่ยนไปในทันที ใบหน้าแสยะยิ้มแบบผู้ชนะเมื่อครู่หายไปจนหมด

คาสันคงไม่ขุดหลุมฝังตัวเองหรอก ด้วยเหตุผลแบบนั้นพันธมิตรเรื่องผลประโยชน์ของทั้งสองคนนี้ก็พังทลายไปด้วยเช่นกัน ส่วนเรื่องอำนาจของคาสันก็คงจะโดนทำลายไปเอง หลังจากที่พวกขุนนนางที่อยู่ใต้อำนาจของมันรู้ข่าวเรื่องที่โดนไล่ออกจากตระกูล

เรียบร้อยตามแผน หึ!

“องค์หญิง เนร่า ข้าอยากจะเตือนอะไรบางอย่างให้เจ้าได้รับรู้เอาไว้ การที่เจ้าเสียอำนาจไปขนาดนี้คิดว่าจะมีใครสนับสนุนอีกไหม ขุนนาง พ่อค้าหรือพี่น้องในพระราชวัง… ไม่สิ! ตอนนี้สิ่งที่สนับสนุนเจ้าอยู่คงเป็นราชวงศ์ประเทศ เมเบอร์ แต่อีกไม่นานหรอก บอกให้พวกมันเตรียมการไปถึงของข้าได้เลย หึหึ!”

“เจ้า…”

แปะ!

ผมปรบมือเพื่อเรียกให้เซบาสเข้ามา หลังจากเรียกประตูก็เปิดออกทันที

“เอาแขกสองท่านออกไปจากคฤหาสน์ และหลังจากนี้ถ้าข้าไม่อนุญาตห้ามสองคนนี้เข้ามา”

“ครับท่าน”

ทั้งสองโดนเซลาสเอาตัวออกไปจากคฤหาสน์อย่างรวดเร็วตามคำสั่ง ส่วนผมก็ไปหาอลิสเล็กแล้วคุยด้วยน้อยเรื่องรับคนเข้าทำงาน ว่ามีอะไรผิดปกติไหม จากนั้นก็เข้าห้องตัวเองเพื่อทำสิ่งที่คิดได้ระหว่างการประมูลที่โรงประมูล ช่วงที่ผมประมูลอยู่ในเวลาก่อนจะออกมาผมสังเหตุเห็นหนังสือเป็นชุด ซึ่งพอลองถามพนักงานดูพนักงานก็บอกว่ามันเป็นนิยายที่ดีสนุกจนหลายประเทศยอมรับ พอเห็นแบบนั้น ผมก็คิดอะไรขึ้นมาได้

หนังสือ!

ถ้าผมเขียนเล่ามันผ่านนิยายที่สร้างขึ้นมาแล้วขายมันให้กับหลายประเทศทั่วทวีป ผมก็สามารถเตือนให้ทุกคนรู้ว่าพวกเผ่าปีศาจและเผ่าเทพมันมีตัวตนกันอยู่จริงๆ และอีกไม่นานพวกมันก็จะบุกมา ส่วนเรื่องจะดำเนินยังไงก็ไม่ต้องห่วง เพราะก่อนที่ผมจะโดนส่งมาที่โลกใบนี้ผมติดนิยายกำลังภายในตามเว็บอยู่แล้ว บางเรื่องคนเขียนก็เขียนเป็นพันเป็นหมื่นตอน และผมก็ไม่ได้อ่านเรื่องเดี่ยว ถ้าเอาความจำในชาติก่อนมาเปลี่ยนเรื่องราวนิดหน่อยคงสร้างนิยายดีๆ ออกมาได้แน่

ขอโทษด้วยนะครับที่ขโมยความคิดแบบนี้ แต่มันจำเป็นจริงๆ

แล้วก็อีกอย่าง หนังสือถึงจะไม่มีราคามากแต่มันก็มีราคาพอสมควร มันต้องสร้างกำไรมหาศาลให้ผมได้แน่ถ้าปล่อยขายออกไป หึหึ! ผมเริ่มลงมือเขียนทันทีหลังถึงห้อง โต๊ะทำงานที่ไม่เคยใช้ในห้องนอน ในที่สุดมันก็ได้ทำหน้าที่ของมันจนได้ …ดีใจด้วยนะเจ้าโต๊ะทำงาน เหอๆ

….

[คำเตือน]

[ท่านกำลังทำผิดกฎ ถ้ายังทำต่อระบบจะลบท่านออกจากโลกนี้ทันที โปรดหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ด้วย]

แบบที่คิดเอาไว้! ทันทีที่ผมเขียนถึงเผ่าปีศาจและเผ่าเทพลงไปในนิยายระบบก็แจ้งเตือนขึ้นมาทันที แต่ระหว่างเขียนเรื่ออื่นๆ มันก็ไม่ได้แจ้งเตือนขึ้นมา งั้นลองเปลี่ยนเป็นทวีปของมนุษย์อีกทวีปแล้วกัน…

ขีด เขียน ขีด เขียน….

ไม่มีการแจ้งเตือนอะไรออกมาจริงๆ ในที่สุดก็เข้าใจระบบการทำงานของพวกมันขึ้นมานิดหน่อยจนได้ ถ้าผมไม่เขียนอะไรที่แสดงถึงตัวตนพวกมันจนเกินไป ระบบก็ไม่แจ้งเตือนออกมา ตอนนี้ผมเปลี่ยนทวีปของพวกมันเป็นคล้ายๆ ทวีปมนุษย์อีกทวีป ที่เคยอ่านในนิยายกำลังภายในเมื่อชาติก่อนบ่อยๆ

เอาละ! ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ถึงเวลาปั่นงาน

….

หลังจากปั่นนิยายหลายขชั่วโมงเล่มที่ 1 ก็เสร็จเรียบร้อย เนื้องด้วยระยะเวลามีไม่มากและวิธีนี้จะทำได้แบบที่หวังหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมเลยคิดว่าเขียนมัน 1 เล่ม เพื่อเอาไปลองตลาดดูก่อน แต่จากเท่าที่จำได้โลกนี้วรรณกรรมมันยังไม่ทันสมัยเท่าไหร่ แล้วก็แน่นอน นิยายกลับชาติหรือย้อนเวลามันยังไม่มี ผมคิดว่านิยายที่ผมเขียนต้องเปลี่ยนแปลงการอ่านของยุคนี้กันแน่ หึหึ! ถึงจะพูดเหมือนชมตัวเองก็เถอะ แต่นิยายที่ผมเขียนอยู่ตอนนี้มันลอก… ไม่สิ! ได้แรงบันดาลใจจากนิยายที่มียอดวิวพันล้านวิวจากโลกที่ผมจากมาเลยนะ ขนาดผมแต่งเองแล้วมาลองอ่านดูยังคิดว่ามันสนุกเลย

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยผมก็ให้คนรับใช้เอาต้นฉบับไปให้ไกอาทันที แล้วบอกให้ไกอาส่งมันไปใหเร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิเพื่อให้เจ้าของที่นั้นอ่านมันดู ตามกฎหมายแล้ว ถ้าเจ้าของร้านสนใจก็จะมาคุยข้อเสนอเรื่องราคาและส่วนแบ่งกับผม แล้วด้วยตำแหน่งแกนดยุคที่ส่งหนังสือให้ไปแบบนี้ เจ้าของร้านคงจะเปิดอ่านมันทันทีเพราะมันเป็นขุนนางระดับสูงอย่างแกนด์ดยุค เพราะงั้นแทนที่จะรอเป็นเดือนตามคิวมันก็ไม่จำเป็นต้องรอขนาดนั้น

เอาละ! เมื่อเสร็จงานตรงนี้ต่อไปก็คือการเพิ่มพลัง

อึก!

ผมเอาโอสถที่ประมูลได้ออกมาและกินมันเข้าไป  ร้อนท้องในทันที ความร้อนของมันตอนนี้ไม่ใช่ร้อนธรรมดาแต่มันร้อนเพราะลมปราณมหาศาลที่ปล่อยออกมา สมแล้วที่เป็นโรงประมูลที่ดีที่สุดในจักรวรรดิ เรื่องคุณสมบัติของโอสถไม่ได้โกหกเลยจริงๆ ชักอยากจะรู้แล้วสิ ถ้าดูซับมันเสร็จพลังของเราจะไปถึงไหน!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด