ตอนที่แล้วการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 6 ภาษีฟุ่มเฟื่อย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 8 จัดระเบียบตระกูล

การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 7 คำเตือนจากระบบ


ตอนที่ 7 คำเตือนจากระบบ

“ถ้าพวกท่านเข้าใจแล้วข้ามีอีกหนึ่งระ-”

[ คำเตือน ]

[ ท่านกำลังทำผิดกฎของระบบ ถ้าท่านไม่หยุดระบบจะลบท่านออกจากโลกนี้ทันที โปรดหยุดสิ่งที่ท่านกำลังจะทำทันที ]

เอ่ะ?!?!? นี่กำลังจะบอกว่าไม่สามารถบอกเรื่องเผ่าเทพและเผ่าปีศาจกับคนอื่นได้เหรอ ไม่ผิดแน่! เรื่องที่เราจะพูดเมื่อกี้มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับพวกมันที่พยามจะเตือนสองคนนี้

ตอนนี้ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าสิ่งนี้คืออะไร แต่ระบบนี้คงไม่ได้ล้อเล่นแน่ที่จะลบเรา ชิ! ชักเป็นเรื่องยุ่งยากแล้วสิ ถ้าเป็นแบบนี้ก็หมายความมีเราคนเดียวเท่านั้นสินะที่เตรียมตัวและเตรียมกำลังรบเอาไว้สู้กับพวกมันได้

โลกในยุคนี้เรื่องเผ่าเทพหรือเผ่าปีศาจมันเป็นเพียงนิทานหลอกเด็กเท่านั้น จนในอีกสิบปีต่อมานับตั้งแต่วันนี้ เรื่องที่ทุกคนคิดว่าเป็นนิทานหลอกเด็กมันกลับเป็นเรื่องจริงขึ้นมา แค่คิดว่าจะพูดยังไงให้คนอื่นเชื่อว่าพวกมันมีตัวตนจริงๆ ก็ยากลำบากมาพออยู่แล้ว ไม่คิดเลยว่าจะโดนระบบห้ามแบบนี้อีก

ถ้างั้นเตือนเป็นอย่างอื่น คงไม่เป็นอะไร….

“เป็นอะไรไป มีเรื่องอะไรอีก?”

อัครเสนบดี ไอรอน ถามออกมาด้วยหน้าตาสงสัย

เมื่อกี้ผมหยุดไปกลางคันถามแบบนี้ก็ไม่แปลก แต่ยังไงตอนนี้ก็ต้องเตือนอะไรบางอย่างให้รู้เอาไว้ ยังไงดีนะ….? ต้องบอกแบบไหน…? ชิ! ไม่คิดเลยว่าต้องมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้ บอกเรื่องพวกเผ่า… จริงสิ! ถ้าเรื่องพวกมันไม่ได้แต่เรื่องในทวีปคงไม่น่าจะมีปัญหา

“ข้าคิดว่าพวกเราควรฝึกฝนทหารเพิ่มครับ ข้าได้ข่าวมาว่าประเทศรอบๆ กำลังเคลื่อนไหว”

อื้ม! ไม่มีข้อความแจ้งเตือนอะไร แบบนี้แปลว่าได้สินะถ้าไม่พูดถึงเกี่ยวกับพวกมัน

“ข้าคิดว่าตอนนี้ประเทศรอบๆ และสามประเทศใหญ่กำลังวางแผนอะไรบางอย่างกันอยู่ ตอนนี้ได้ข่าวมาว่าชายแดนก็เกิดการปะทะเล็กๆ น้อยๆ ปรากฏขึ้นมาแล้วเหมือนกันยิ่งช่วงอาณาเขตทางเหนือที่ตระกูลข้าดูแลก็สู้หลายร้อยครั้งแล้วในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ถึงจะเป็นการต่อสู้เล็กๆ แต่นี้มันอาจเป็นสัญญาณเตือนการต่อสู้ใหญ่ที่กำลังจะมาถึงก็ได้”

ตามความจำหลังจากวันนี้ผมก็เดินทางออกจากเมืองหลวงเพื่อกลับอาณาเขตทางเหนือที่เป็นเขตปกครองของตระกูล วอเตอร์

เหตุผลที่เดินทางออกไปก็เพราะอายจากงานวันเกิดองค์หญิง เนร่า พอไปถึงก็ต้องเจอกับสภาพไม่สู้ดีที่นั่น อาณาเขตทางเหนือของจักรวรรดิมีอากาศหนาวเย็นมากอยู่แล้ว ถึงปกติจะไม่มีหิมะตกแต่อากาศก็หนาวมาพอที่จะฆ่าคนได้ ถ้าไม่ได้อยู่ในบ้านหรือที่ที่อบอุ่นเพียงพอ และเมื่อมีการต่อสู้ขึ้นอีกอาณาเขตทางเหนือของจักรวรรดิจึงขาดแคลนทั้งกำลังทหารและอาหาร

สมัยก่อนผมไม่ได้สนใจแล้วยังกลับไปใช้ชีวิตไม่สนใจอะไรอีก คิดถึงเรื่องนั้นทีไรก็เสียใจจริงๆ ที่ปล่อยให้ทหารและประชาชนในเขตของตัวเองเดือนร้อนแบบนั้น

“เจ้าเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ…”

จักรพรรดิสวรรค์ พูดออกมาด้วยสีหน้ายิ้มหน่อยๆ น้ำเสียงก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นออกมาด้วย

“ข้าเองก็คิดเหมือนกับท่าน ไคล์ วอเตอร์ ผู้ไม่สนใจอะไร การเรียนไม่เอา การงานไม่สน การทหารไม่ยุ่ง แต่ดูตอนนี้สิ เขากำลังเป็นห่วงประชาชนและทหารในอาณาเขตของตัวเองอยู่ องค์จักรพรรดิช่วยบอกข้าทีว่าวันนี้ข้าไม่ได้ฝันไป”

เดี๋ยวๆ มันจะอะไรขนาดนั้น แต่ที่สองคนนี้พูดออกมามันก็ความจริงทั้งหมด …เถียงอะไรไม่ออกเลย

“ไอรอนเจ้าไม่ได้ฝันไปหรอก ไคล์กำลังจะเหมือนพ่อและปู่ของตัวเองแล้ว”

“นั่นสินะครับ…”

หลังจากคุยกันเรื่องผมได้ไม่นาน จักรพรรดิสวรรค์ ก็หันมาทางผมที่ยืนฟังอยู่

“เอาละถ้านั้นเจ้าต้องการอะไร กำลังทหารหรืออาหารเพื่อสนับสนุน?”

ว่าแล้ว สมแล้วที่เป้นจักรพรรดิสวรรค์สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ทันที

ที่ผมยกตัวอย่างดินแดนของผมไปไม่ได้จะเตือนแค่อย่างเดียวแบบนั้นหรอก เรื่องแบบนี้ส่วนอื่นๆ ของจักรวรรดิก็คงเกิดเรื่องแบบนี้เหมือนกัน การยกเรื่องอาณาเขตตัวเองไปพูดแบบนี้เป็นเพราะต้องให้ส่งกำลังไปสนับสนุนต่างหาก

ที่อาณาเขตตอนเหนือของจักรวรรดิตอนนี้เรียกได้ว่าเละเทะไม่เป็นท่า ด้วยการบริหารของแกนดยุคไม่ได้เรื่องบางคนที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้ เวลานี้ที่นั่นมันเต็มไปด้วยไฟสงครามทั้งภายในและภายนอก แล้วเพราะการนั้นวิธีที่จะหยุดสงครามทั้งหมดต้องพึ่งพากำลังที่แข็งแกร่ง

“ข้าขอบคุณอย่างยิ่งที่จักรพรรดิสวรรค์เมตตา เช่นนั้นข้าก็ไม่เกร็งใจ ทหารกองทัพหลวงสองแสนนาย พร้อมกับจอมพลกองทัพหลวง 1 คน ข้าต้องการให้ท่านส่งทหารไปช่วยเหลือเป็นเวลาหนึ่งปี”

“ไคล์นี้เจ้าจะมากปะ-”

“หยุดก่อนไอรอน!!”

จักรพรรดิสวรรค์ ชูมือเพื่อหยุดเอาไว้ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความจริงจังแบบไม่เคยเป็นมาก่อน

ตั้งแต่ที่ผมมีชีวิตอยู่ผมพึ่งเคยเจอเขาทำสีหน้าแบบนี้ครั้งแรกนี่แหละ ความอบอุ่น ความใจดี ตอนนี้มันหายไปจนหมด เหลือแต่แววตาที่แหลมคมมองมาที่ผมเท่านั้น ถ้าเป็นผมเมื่อก่อนคงกลัวจนไม่กล้าพูดเรื่องอะไรแบบนี้ออกมาเป็นแน่

กองทัพหลวง!

กองทัพนี้เป็นกองทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิ ทหารทุกคนต่างมีระดับพลังอยู่ที่ ราชานักรบ ทหารพวกนี้ตามความจำของผมมีจำนวนเพียงห้าแสนคนเท่านั้น และยังเป็นกองกำลังที่ขึ้นตรงต่อจักรพรรดิเพียงคนเดียว การขอกำลังรบพวกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่ก่อตั้งจักรวรรดิ แถมยังเป็นการขอกำลังเกือบครึ่งของกองทัพหลวงอีกด้วย แต่ว่า ตอนนี้ยังไงกำลังรบนั่นก็จำเป็น

“ข้าสามารถมอบให้เจ้าได้”

“องค์จักรพรรดิแบบนั้นมัน!!!”

“เงียบก่อนไอรอน!!!”

เสียงของจักรพรรดิสวรรค์ตะโกนออกมาดังลั่น ทันใดนั้นอัครเสนบดีที่กำลังโมโหก็เงียบลงไปทันที บรรยากาศในห้องก็มีแรงกดดันมหาศาลขึ้นมาแบบฉับพลัน ก็ไม่รู้หรอกว่าจักรพรรดิสวรรค์พลังบ่มเพราะอยู่ระดับไหน แต่ที่ผมแน่ใจตอนนี้ก็คือ ชายคนนี้ พลังเหนือกว่าระดับพระเจ้า!!!

“ข้าให้ไปเจ้าต้องรับผิดชอบทั้งหมดในเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าเงินเดือน ค่าอาหาร ค่าที่พัก และเงินชดเชยหลังจากการยืมทหารหนึ่งปีในจำนวนหนึ่งแสนเหรียญทอง …เจ้าตกลงหรือไม่?”

หึ! สมแล้วที่เป็นจักรพรรดิผู้รวมจักรวรรดิให้เป็นหนึ่ง ไม่ยอมให้ง่ายๆเลยสินะ ผมชีกยิ้มทันทีหลังได้ยินข้อแม้ที่ได้ฟัง แล้วตอบไปว่า

“ตกลงครับ”

“ดี! เช่นนั้นเจ้าก็ออกไปได้และหวังว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย”

“ครับมันจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีกแน่…. เช่นนั้นข้าขอลา”

……

บนรถม้า

ฮูว….. เป็นการเข้าพบครั้งแรกที่เล่นเอาเหนื่อยจริงๆ

หลังจากขึ้นมาบนรถม้าได้ผมก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที การข้อกำลังรบขนาดนั้นมันเป็นปัญหาใหญ่อย่างมาก การให้กำลังรบจำนวนมากต่อแกนดยุคมันไม่ต่างอะไรจากการขุดหลุมฝังตัวเองเพราะแกนดยุคมีอำนาจมากในประเทศ การที่จักรพรรดิสวรรค์ให้กำลังกว่าแสนสองคนมาแบบนี้มันเป็นการเสียกำลังรบครั้งใหญ่ของราชวงศ์ แต่ว่า ถึงจะโดนเอาออกมาสองแสนก็ยังเหลือกองทัพหลวงกว่าสามแสนคนและกำลังทหารปกติอีกนับล้านคนปกป้องเมืองหลวงอยู่ดี

เฮ้อ~ เพราะการช่วยเหลือครั้งนี้อาณาเขตทางเหนือคงอยู่รอดได้อีก 1 ปี

อีกอย่างหลังการไปถึงของกองทัพหลวงสงครามภายในที่พวกขุนนางจอมโลภก่อขึ้นคงจะจบลงในทันที  มันไม่มีพวกบ้าที่จะต่อสู้กับกองทัพหลวงทั้งสองแสนคนหรอก แถมคนบัญชาการกองทัพทั้งสองแสนยังเป็นจอมพลเพียงคนเดียวของจักรวรรดิอีก เหอๆ ถ้าพวกมันฉลาดพอคงมีสมองว่าต้องทำยังไง

ตอนนี้ถ้าผมจำไม่ผิดจอมพลคนเดียวของจักรวรรดิจะชื่อว่า โรเจอร์ แมคซีออล  เป็นคนที่มีพลังบ่มเพราะอยู่ระดับพระเจ้าแบบผมเมื่อชาติก่อน ก่อนที่จะระเบิดตัวเอง แถมเขายังมีผลงานมากมายใจสนามรบนับไม่ถ้วน ที่จักรพรรดิสวรรค์ไม่พอใจแบบนั้นผมคิดว่าคงเรื่องชายคนนี้แหละ ด้วยพลังของชายคนนี้ทำให้ตระกูลแกนดยุคทั้งหมดไม่กล้าเคลื่อนไหวหรือทำให้ราชวงศ์ไม่พอใจ การให้คนระดับนี้รับใช้คนอื่นคงเป็นเรื่องบ้าที่สุดที่เขาเคยทำเลยก็ได้

แต่เอาเถอะ ตอนนี้มาตรวจสอบ [ร้านค้า] ก่อนดีกว่า

ก็ไม่รู้เพราะอะไร เวลาผมนึกถึงระบบมันก็มีปุ่มร้านค้าปรากฎด้านหน้าของผมทันที ตอนนี้เรื่องอาณาเขตก็เรียบร้อยไปแล้ว ต้องทำความเข้าใจกับระบบนี่ก่อน หลังตัดสินใจได้ผมก็โยนเรื่องปวดหัวที่กำลังคิดอยู่ทิ้งไปจนหมดแล้วกดปุ่มด้านหน้าทันที

แปะ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด