ตอนที่แล้วการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 3 เริ่มต้นแผนแก้แค้น 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปการหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 5 การเข้าพบ จักรพรรดิสวรรค์ 2

การหวนคืนของจอมพลคนสุดท้าย ตอนที่ 4 การเข้าพบ จักรพรรดิสวรรค์


ตอนที่ 4 การเข้าพบ จักรพรรดิสวรรค์

ตอนนี้ต้องไปเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิแล้วบอกเรื่องยกเลิกงานแต่งกับยัยร่าน จากนั้นก็ต้องบอกเรื่องสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกสิบปีต่อจากนี้ และให้พระองค์เตรียมความพร้อมเอาไว้ทั้งหมด เฮ้อ~ การที่กลับมาแบบนี้ช่างเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ แต่ว่า มันก็เป็นปัญหาเหมือนกัน ถ้าเกิดอยู่ไปบอกว่าโลกนี้มีอีกสองทวีปนอกจากทวีปของมนุษย์ ซึ่ง มีเผ่าปีศาจและเผ่าเทพอาศัยอยู่ คงโดนหาว่าบ้าแน่ๆ

เหอๆ มันเหมือนง่ายนะ แต่มันไม่ง่ายเลยจริงๆ แต่เอาเถอะยังไงองค์จักรพรรดิก็เป็นคนรู้จักกับพ่อของผมและยังเป็นเพื่อนกันอีก การบอกแบบนัยๆ คงไม่อยากเกินความสามรถของผมขนาดนั้นหรอก

ตามปกติแล้วถ้าอยู่ มาขอเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิแบบนี้มันเข้าไม่ได้กันหรอก ด้านหน้าประตูที่ผมยืนอยู่ตอนนี้ก็มีทหารองค์รักษ์สองคนที่มีพลังระดับ ราชานักรบ ยืนเฝ้าอยู่

ถ้าคิดตามปกติพลังระดับนี้นับว่าสุดยอดแล้วในหมู่ทหารของจักวรรดิ แต่ถ้าไปเทียบกับเผ่าเทพและเผ่าปีศาจพลังระดับสองคนนี้เป็นได้แค่ทหารธรรมดาของพวกมันเท่านั้น คุณภาพและพลังของมนุษย์ตอนนี้มันน้อยเกินไป ถ้าไม่ทำอะไรแล้วโดนบุกอีกคนไม่ต้องพูดถึง

เหอๆ อย่างน้อยพวกทหารธรรมดาของมนุษย์ต้องมีพลังระดับราชานักรบเท่านั้นถึงจะสู้พวกมันได้ คิดแล้วก็งานหนักเลยแฮะ ระดับพลังปกติของทหารธรรมดาตอนนี้อยู่แค่ระดับ ลมปราณแท้จริง นี่ขนาดเป็นมาตฐานของจักรวรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ของมนุษย์นะ

[ขอแสดงความยินดี ท่านได้รับรางวัล 10 แต้ม]

[ ร้านค้า ]

หืม??? ระหว่างกำลังหนักใจก็มีข้อความในกรอบสี่เหลี่ยมปรากฏออกมาอีกแล้ว แต่ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมถึงได้มาขึ้นตอนนี้ด้วยนะ น่าจะขึ้นตั้งแต่ออกมาจากงานวันเกิดองค์หญิง เนร่า ไม่ใช่หรือไง แถมครั้งนี้ยังมีปุ่มร้านค้าขึ้นมาด้วยอีก มันเหมือนเกมเข้าไปทุกทีแล้วสิน่า ช่วยไม่ได้ลองเข้าไปดะ-

“ท่านดยุควอเตอร์”

ผมหันตามเสียงผมส่งเสียงเรียกผมทันที เมื่อหันไปมองก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมระบบถึงได้มาขึ้นเตือนตอนนี้ หึ! ไม่คิดเลยว่าเหล่าองค์หญิงและองค์ชายจะเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้ แถมคนที่อยู่ตอนหน้าของผมตอนนี้ยังเป็นองค์ชายลำดับที่ 1 แห่งจักรวรรดิ องค์ชาย ซิคฟรีส!

ชายคนนี้ไม่ได้เป็นเพียงองค์ชายเท่านั้นเพราะในอนาคตเขาจะได้ปกครองต่อจักรพรรดิสวรรค์ที่ตายไป  ด้วยการนำของเขาพวกเราเผ่ามนุษย์เลยสามารถสู้ได้หลายปี แต่ว่า ด้วยการรักษาความปลอดภัยที่อ่อนแอเกินไปเขาเลยตายในการต่อสู้ครั้งที่ 21 ครั้งที่เผ่าเทพบุกเข้ามาในเมืองหลวง

ถ้าพูดให้ถูก องค์ชายคนนี้เป็นคนที่น่านับถือคนหนึ่ง ถึงในความทรงจำผมจะขัดแย้งกับเขาตลอดก็เถอะ แต่เขาก็เป็นจักรพรรดิที่ดี ไม่มีปัญหาที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีเอาไว้ แต่จะไว้ใจหมดเลยก็ไม่ได้เพราะตอนนี้เข้ายังเป็นแค่องค์ชาย เข้ามาหาผมแบบนี้ก็คงเพราะผลประโยชน์ที่ตัวเองจะได้รับเท่านั้น ส่วนที่ระบบพึ่งแจ้งเตือนก็น่าจะเป็นเพราะเขาคนนี้เข้ามาคุยกับผม

อื้ม… ถือว่ามีเหตุผลพอสมควร การทีได้รับความสนใจจากองค์ชายลำดับที่ 1 คงทำให้สถานะในสังคมของผมเท่าเดิมหรือสูงขึ้น ไม่ถูกกรีดกันเหมือนกันแน่

แต่ขอดูหน่อยเถอะ ท่านจะมาไม้ไหน…

“ครับองค์ชายซิคฟรีส”

“โอ้ว! ท่านรู้จักข้าด้วยงั้นเหรอ”

“แน่นอนครับ พระองค์เป็นที่ไม่สิทธิ์ในบัลลังก์มากที่สุด ข้าในฐานะแกนดยุคแห่งอาณาจักรต้องเคยได้ยินชื่อเสียงของท่านมาก่อนอยู่แล้ว ความสามารถของท่านเหมาะกับองค์ชายอันดับที่ 1 จริงๆ”

องค์ชาย ซิคฟรีส เริ่มแสดงท่าทางไม่พอใจออกมาเล็กน้อย การที่ผมเน้นไปที่องค์ชายแบบนั้นก็แปลว่ายังไม่ยอมรับในตัวของเขา เขาไม่ใช่คนโง่ไม่มีทางที่จะไม่เข้าใจความหมาย อีกอย่าง องค์ชายที่ปกครองจักรวรรดิก็ไม่ได้มีเขาคนเดียวหลังจาก จักรพรรดิสวรรค์ ตายลงไป ผมคงยังไม่เลือกเขาข้างชายคนนี้ก่อนแน่ถ้ายังไม่เห็นองค์ชายอีกคนว่านิสัยตอนนี้เป็นยังไง

ในยุคหายะนะไม่ว่าใครจะขึ้นปกครองตอนนั้นมันก็ไม่ต่างกัน ราชาหรือจักรพรรดิมีตัวต้นเพื่อเป็นเครื่องยึดจิตใจของประชาชนเท่านั้น สมัยนั้นผมเอาแต่อยู่ในสนามรบเลยไม่ได้สนใจการเมืองเท่าไหร่นัก แต่ตอนนี้สามารถเลือกและสนับสนุนคนที่เหมาะสมที่สุดขึ้นครองบัลลังก์ได้ ถ้าเลือกได้ก็ควรเลือกดีกว่า

“ฮาฮาฮา… ท่านดยุคก็ชมข้าเกินไป วันนี้ข้าแค่อย่ามาเจอท่านเท่านั้น”

“ท่านก็ถ่อมต้นเกินไป ว่าแต่องค์ชายต้องการอะไรจากข้า?”

ผมเลือกเปิดเข้าประเด็นทันที แต่อันที่จริงไม่ต้องถามก็คงจะรู้ว่าที่มเพราะอยากได้การสนับสนุนจากตระกูลแกนดยุคของผมนั่นแหละ เท่าที่จำได้ตอนนี้องค์ชาย ซิคฟรีส มีตระกูลแกนดยุคสนับสนุนอยู่แล้วหนึ่งตระกูล ถ้าได้เข้าไปอีกหนึ่งคงสามารถการันตีตำแหน่งจักรพรรดิคนต่อไปได้ทันที ที่มาแบบนี้คงได้ข่าวเรื่องขององค์หญิง เนร่า ในงานวันเกิดไม่ผิดแน่

“อย่าจริงจังแบบนั้นสิท่านดยุค ข้าก็แค่มาทำความรู้จักกับท่านเท่านั้น เห็นว่าวันนี้ท่านอารมณ์ไม่ดีข้าเลยอยากจะชวนท่านไปเที่ยวเล่นที่วังของข้าสักหน่อย ข้าอยากทำให้ท่านอารมณ์ดีขึ้นแทนการสียมารยาทของน้องสาวของข้า”

“เช่นนั้นข้าตอบขอบคุณท่านมากจริงๆ แต่วันนี้ข้าเกรงว่าคงไม่เหมาะ เอาไว้ครั้งหน้าข้าจะไม่พลาดแน่นอน …แต่เรื่องครั้งนี้มันต้องดูการกระทำของท่านด้วยเช่นกัน ข้าหวังว่าองค์ชายจะเบามือสักหน่อยเพื่อให้ข้าได้สนุกด้วยตัวเองได้เมื่อถึงเวลาของข้า”

“โอ้ววว… ช่างใจดีเสียจริงๆ ถ้าเป็นข้าของเล่นที่ไม่เอาคงต้องทำลายทิ้ง”

องค์ชาย ซิคฟรีส แสยะยิ้มเล็กน้อย แปลว่าเข้าใจสิ่งที่ผมต้องการสื่อแล้ว

“ฮาฮา องค์ชายก็รีบเกินไป”

“ช่างเถอะๆ เอาเป็นว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องครั้งนี้ข้าจะทำให้ท่านสนใจแน่นอน แต่ข้าไม่รับรองเหมือนกันว่าของเล่นชิ้นนี้จะอยู่ครบ 32 ให้ท่านได้สนุกอีกครั้ง”

“แล้วแต่ท่านจะเมตตา”

แอ็ด….

ระหว่างที่ผมกับองค์ชาย ซิคฟรีส กำลังคุยกันอยู่ประตูห้อง จักรพรรดิสวรรค์ ก็เปิดออก เพียงเสียงที่เปิดออกก็เข้าใจถึงน้ำนักอันมหาศาลของมันได้ในทันที ฉับพลัน ก็มีทหารองครักษ์เดินออกมาหนึ่งคนตรงมาทางผมที่ยืนรออยู่

“ท่านแกนดยุค เชิญครับ”

“อ่า”

ผมตอบรับทหาร แล้วหันไปหาองค์ชาย ซิคฟรีส

“ถ้างั้นข้าขอตัวก่อนแล้วกัน หวังว่าท่านจะเบามือเอาไว้ด้วยอย่าให้มันมากเกินไป”

“แน่นอน… ท่านดยุคไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะบอกพี่น้องคนอื่นเช่นกันเกี่ยวกับสิ่งที่ท่านขอร้องเอาไว้”

หลังจากคุยกันรู้เรื่องผมก็เดินเข้าห้องทันที

……

‘แปลกไปจริงๆ ไม่คิดเลยว่าคนอย่างไคล์จะมีสมองขึ้นมาได้ขนาดนี้ แบบนี้เรื่องสังหารเนร่าคงต้องเว้นเอาไว้ก่อนเพราะยังไงการทำให้เขาคุ่นเครืองคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเท่าไหร่นัก’

องค์ชาย ซิคฟรีส คิดในใจหลังจากมองไคล์เดินเข้าประตูไป ในอดีตเขาคิดว่าตัวเองสามารถมองชายคนนี้ได้ทะลุหมดทุกอย่าง แต่ว่า เมื่อได้ยินเรื่องที่งานวันเกิดขององค์หญิง เนร่า เขาก็รีบมาตรวจสอบทันทีว่าเป็นความจริงไหมที่ไคล์ประกาศถอนหมั่นในงานต่อหน้าลูกหลานขุนนางนับร้อยคน แต่เมื่อได้คุย เขาก็สามารถเข้าใจได้ทันทีว่าอดีตที่คิดว่าตัวเองฉลาดนั้นมันเป็นเรื่องไร้สาระ

แถมไคล์ตอนนี้ยังน่ากลัวมากกว่านักฆ่าอีกด้วยซ้ำ ถึงองค์ชาย ซิคฟรีส จะรู้ว่าไคล์มีพบลังบ่มเพราะน้อยก็ตาม แต่ในระหว่างคุยก็สัมผัสถึงความน่ากลัวได้ตลอดเวลา

“ตระกูลวอเตอร์ คงกลับมามมีอำนาจในไม่ช้าเป็นแน่”

……

หลังจากที่ผมเดินตามทหารเข้ามาก็เข้ามาในสวน! ถูกต้องแล้ว! ที่ที่ผมโดนพามามันไม่ใช่ห้องโถงของจักรพรรดิสวรรค์หรือที่อะไรทำนองนั้น แต่มันเป็นสวนขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในวัง บรระยากาศก็ดีจนแทบไม่อยากจะเชื่อว่าตอนนี้ผมกำลังอยู่ในวังหลวง ถ้าให้พูดคงเหมือนสวนดูไม้ในความฝันมากกว่า

“เชิญท่านดยุค”

เดินมาได้สักพัก ทหารนำทางก็หยุดลงแบบทันที เมื่อมองไปด้านหน้าก็พบกับศาลาขนาดใหญ่มากที่ตั้งอยู่กลางส่วนดอกไม้แห่งนี้ บนศาลามีชายสองคนกำลังนั่งอยู่พร้อมกองเอกสารขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ข้างกายทั้งสองคน ให้ตายเถอะ! นี่เอางานมาทำกันในที่แบบนี้เลยหรือไง

สองคนที่นั่งอยู่มีจักรพรรดิสวรรค์ และ อัครเสนบดีของจักรวรรดิ ไอรอน ปกติแล้วทั้งสองคนเมื่ออยู่ด้านนอกจะกลายเป็นคนน่ากลัวในทันที แต่ตอนนี้กลับดูเหมือนคุณลุงใจดีที่กำลังนั่งทำงานอยู่เลย อีกอย่าง สองคนนี้เป็นเพื่อนพ่อของผมเหมือนกันทั้งสองคน ที่องค์จักรพรรดิให้ผมเข้าเฝ้าโดยไม่ได้นัดแบบนี้มันไม่ใช่ตำแหน่งของแกนดยุคหรือในฐานะตระกูล วอเตอร์ แต่เป็นเพราะความสัมพันธ์ในอดีตต่างหาก

“โอ้ว! มาแล้วงั้นรึ”

เมื่อเดินเข้าใกล้ จักรพรรดิสวรรค์ ก็เงยหน้าขึ้นมาพูดกับผมด้วยท่าทางอ่อนโยน

“ไอรอน หลานชายมาแล้วนายไม่คิดจะทักท้ายหน่อยหรือไง”

“หึ!”

อัครเสนาบดี ไอรอน ทำเสียงในลำต่อพรางใช้หางตามองผมเล็กน้อย

จากนั้นก็ไม่ได้ตอบอะไรแล้วก้มหน้ามองกระดาษด้านหน้าต่อด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่นัก อัครเสนาบดี ไอรอน ชายคนนี้ตามความทรงจำไม่ชอบผมเท่าไหร่นักเพราะอะไรก็รู้แก่ใจ งานไม่เอา เรียนไม่สน การทหารไม่ยุ่ง ผมในอดีตตอนช่วงเวลานี้มันเป็นตัวไร้สาระแบบนั้นแหละ เหอๆ

แต่ว่า ไอ้อาการไม่ชอบแบบนั้นมันไม่ใช่ความจริง ในช่วงที่ตระกูล วอเตอร์ โดนลดขั้นไปเป็นสามัญชนก็มีเขาคนนี้แหละที่เข้ามาช่วยเหลือหลายต่อหลายเรื่อง ที่ผมมีชีวิตอยู่ได้จนกลายเป็นจอมพลคนสุดท้ายของจักรวรรดิก็เป็นเพราะความช่วยเหลือของชายคนนี้

“เอาเถอะ อย่าไปสนใจไอรอนเลยหมอนี่คงเครียดกับงาน ว่าแต่วันนี้เจ้ามีอะไรถึงมาขอเขาพบกับข้าแบบนี้ ปกติถ้าไม่เรียกก็ไม่มาถึงเรียกก็ไม่อยากเข้าเฝ้าไม่ใช่หรือไง?”

จักรพรรดสวรรค์ พูดมาได้ตรงประเด็นจริงๆ เมื่อตอนนั้นที่ไม่อยากมาหาก็เพราะมาทีไรก็โดนด่าหรือโดรบ่นผมเลยไม่อยากมาหาท่านไงละ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว ถ้ายังทำตัวไรสาระแบบนี้จักรวรรดิแห่งนี้ก็ต้องล่มสลายและพวกเผ่าปีศาลกับเผ่าเทพก็จะชนะสงครามอีกครั้ง ผมจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก

“ข้าต้องขออภัยจริงๆ องค์จักรพรรดิสวรรค์ วันนี้ข้ามีเรื่องหนึ่งเรื่องต้องมาบอกให้ท่านรับรู้”

“หืม!”

หน้าตา จักรพรรดิสวรรค์ ที่ยิ้มให้กับผมเมื่อครู่จริงจังขึ้นมาทันที

“เจ้าไปทำอะไรมาในรอบนี้ ถ้าเรื่องของเลื่อนงานแต่งกับเนร่าข้าคงช่วยไม่ได้เพราะเรื่องแบบนี้มันต้องค่อยเป็นค่อยปะ-”

“ข้าต้องหารถอนหมั่นกับองค์หญิงเนร่าครับ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด