ตอนที่ 33 การบดขยี้ของกองทหารม้าเพลิงอัสนี
ตอนที่ 33 การบดขยี้ของกองทหารม้าเพลิงอัสนี
เมฆทมิฬปกคลุมดวงจันทร์
ทุกที่เต็มไปด้วยความมืดมิด
ค่ำคืนนี้ถูกลิขิตให้เป็นคืนแห่งการนองเลือด!
ชาวโพกผ้าเหลืองส่วนใหญ่ยังคงมีความสุข
แต่หลังจากปิดล้อมมาทั้งวัน พวกเขาก็เหนื่อยล้าเช่นกัน
มีเพียงทหารรักษาการณ์ที่กระจัดกระจายอยู่รอบค่าย
ทิศทางหลักของพวกเขายังคงมุ่งเน้นไปทิศเหนือเพื่อป้องกันกองทัพของเฉิงชง
“ท่านแม่ทัพ! ทุกอย่างเรียบร้อยดี!”
“ทางทิศเหนือเต็มไปด้วยคนเฝ้าระวัง!”
“ไม่ว่าพวกมันจะทำอะไร พวกเราก็สามารถทราบได้ทันที”
อวี้ถูพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“ทำได้ดี!”
นายกองกังวลเล็กน้อยจึงเอ่ยถาม
“ท่านแม่ทัพ แล้วทางทิศใต้ล่ะ ท่านต้องการให้พี่น้องไปเฝ้าระวังหรือไม่?”
อวี้ถูโบกมืออย่างไม่สนใจ
“ไม่ต้อง! แม่ทัพและทหารของพวกมันอยู่ทางเหนือ พวกมันจะไปทางใต้ได้อย่างไร?”
แต่อวี้ถูกลับคาดไม่ถึง
บนถนนสายหลักทิศใต้ ทหารม้าสองพันคนกำลังพร้อมโจมตี
กีบเท้าทั้งหมดห่อด้วยผ้าหนา
ปากของม้าถูกยัดด้วยผ้าเล็กน้อย
ความเงียบบังเกิดขึ้นในกองทัพ จิตสังหารค่อย ๆ ปรากฏออกมาในความเงียบนี้
ลิโป้จ้องไปยังกระโจมด้านล่างด้วยรอยยิ้มอันเย็นเยือก
ง้าวกรีดนภาในมือของเขาถูกยกขึ้น
นี่คือคำสั่ง
ทหารม้าเพลิงอัสนีค่อย ๆ เคลื่อนที่เข้าใกล้ค่ายของกบฏโพกผ้าเหลืองอย่างเงียบเชียบราวกับกลุ่มเทพมรณะ
สามพันก้าว
สองพันก้าว
หนึ่งพันก้าว!
ระยะทางเท่านี้สำหรับทหารม้านั้น เป็นระยะที่เหมาะสมในการพุ่งเข้าชน!
ลิโป้ส่งเสียงคำราม จากนั้นปลายง้าวได้ชี้ไปทางค่ายของกบฏโพกผ้าเหลือง!
“กองทัพทั้งหมด โจมตี!”
ทหารม้าทั้งสองพันคนไม่สามารถทนได้อีก พวกเขาคำรามเสียงดังขณะบุกโจมตี
เสียงคำรามแทบจะทำลายเมฆดำบนท้องฟ้า!
พวกเขาเข้าสู่ค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้าและเร่งความเร็วโดยพลัน
รัศมีพลังของค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้า : ความเร็วในการพุ่งชนเพิ่มขึ้นห้าเท่า!
ในเวลานี้ม้าศึกทุกตัวกำลังวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว!
ระยะทางหนึ่งพันก้าวหายไปในพริบตา
ทหารม้าเพลิงอัสนีพุ่งเข้าไปในค่ายของกบฏโพกผ้าเหลือง หอกพุ่งผ่านอากาศ ประกายแสงจากคมดาบ และเริ่มเข่นฆ่ากันอย่างบ้าคลั่ง
ทหารโพกผ้าเหลืองจำนวนมากถูกสังหารอย่างรวดเร็วขณะนอนหลับ
ตะเกียงและเทียนทุกชนิดถูกขว้างใส่กระโจมเพื่อจุดไฟเผา
ทหารม้าทั้งหมดราวกับดาบคมฉีกฟันกระโจมค่ายอย่างง่ายดาย!
ส่วนลิโป้และเตียวเลี้ยวเปรียบเสมือนดาบที่คมที่สุดในการโจมตีครั้งนี้!
ทั้งคู่เป็นแม่ทัพที่ร้ายกาจเพียงพอจะสู้กับทหารหลายพัน
ไม่มีทหารโพกผ้าเหลืองคนใดสามารถหยุดการโจมตีนี้ได้!
เสียงอึกทึกปลุกอวี้ถูให้ตื่นขึ้น
“มีเสียงดังอะไรกัน!”
อวี้ถูเปิดประตูกระโจมอย่างร้อนใจที่จะออกไปดุด่า
แต่ก็ต้องตกตะลึงกับฉากตรงหน้า
มันเป็นการโจมตีของศัตรู!
“เป็นไปได้อย่างไร? กองทัพศัตรูอยู่ที่ทิศเหนือไม่ใช่หรือ! แล้วกองทัพพวกนี้คืออะไรกัน!”
อวี้ถูพึมพำกับตัวเองด้วยความสิ้นหวัง
จากนั้นเขาก็ได้สติกลับมา และมองดูค่ายทหารบนถนนเส้นหลักพร้อมอาการเย็นสันหลัง
เขาเข้าใจแล้ว
เขาเข้าใจทุกอย่างทันที
การกระทำที่โง่เขลาอย่างตีฆ้องและกลองเป็นเพียงกลอุบายเท่านั้น
มันเป็นอุบายในการใช้เสียงปิดหูคน
เป็นเรื่องน่าขันที่เขากลับคิดว่าแม่ทัพฝั่งศัตรูโง่เขลา
อย่างที่ทราบกันตอนนี้กลายเป็นเขาที่โง่เอง!
“บัดซบ!”
อวี้ถูกัดฟันแน่นและรีบกระโดดขึ้นหลังม้าอย่างสิ้นหวัง เขาพยายามรวบรวมทหารของตนที่กำลังวิ่งหนีออกจากค่าย
“ไม่ต้องตกใจไป! พวกมันไม่ได้มีกันมาก!”
“รวบรวมคนและจัดการตอบโต้พวกนี้เสีย!”
“พวกเราได้รับพรจากแม่ทัพใหญ่แล้ว พวกเราจะไม่แพ้!”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ลิโป้ก็หันศีรษะไปมอง
เขาจำชุดเกราะสีเหลืองบนร่างของอวี้ถูได้อย่างรวดเร็ว
เสียงหัวเราะดังขึ้น
“เวิ่นหยวน ข้าเจอปลาตัวใหญ่แล้ว! มันเป็นของข้า อย่ามาขวางทางล่ะ!”
ขณะพูด เขาได้หันม้าของตนไปอีกด้าน
ตรงไปยังแม่ทัพศัตรู!
ลิโป้ตวัดง้าวที่มาพร้อมแสงเย็นเยือกกลางอากาศ เขาฟันไปที่อวี้ถูทันที
อวี้ถูตระหนักถึงอันตรายที่เข้ามาและรีบยกหอกในมือเพื่อป้องกัน
แต่ลมหายใจต่อมาเขาก็เข้าใจถึงความน่ากลัวของลิโป้
เขาตระหนักดีว่าการป้องกันของตนนั้นไร้ประโยชน์
ตู้ม!
อาวุธทั้งสองปะทะกัน หอกในมือของอวี้ถูแตกออกทันที!
ง้าวกรีดนภาได้โอกาสฟันไปที่ศีรษะของอวี้ถูโดยตรงจนตายคาที่!
กบฏโพกผ้าเหลืองพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์
ทหารที่พ่ายแพ้ไม่ต่างอะไรจากแมลงวันหัวขาดที่วิ่งหนีกันอย่างไร้จุดหมายและบ้าคลั่ง
ทหารหนีตายจำนวนมากวิ่งมาทางค่ายของเฉิงชง
ภายใต้การจัดการของเฉิงชง พวกเขาได้เตรียมการไว้นานแล้ว
จิวฉองนำทหารราบปกป้องค่ายอย่างใกล้ชิด
ค่ายกลเกล็ดปลาขั้นเทพเจ้ากระจายไปทั่วทุกที่
กบฏโพกผ้าเหลืองถูกฟันทีละคน
หน่วยเทพเกาทัณฑ์กระหน่ำยิงธนูอย่างไร้ความปรานี
ในตอนนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องเล็ง เพียงแค่ยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า!
ด้วยพลังของค่ายกลปีกกระเรียนนั้น มันสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นห้าเท่า
ซึ่งหมายความว่าหากลูกธนูกระทบตัวกบฏโพกผ้าเหลือง มันจะสังหารพวกเขาในทันที!
เสียงร้องโหยหวนดำเนินต่อไปอย่างโกลาหล
เฉิงชงนั่งอยู่ในกระโจมจิบสุราอย่างสงบ
ราวกับว่าเสียงโหยหวนด้านนอกเป็นกับแกล้มในการดื่มสุราครั้งนี้
เจิ้นเจียงกลัวเล็กน้อยในตอนแรก
แต่เมื่อเห็นเฉิงชงสงบ ใจของนางก็สงบอย่างอธิบายไม่ถูก
ราวกับว่าเมื่ออยู่กับเฉิงชงแล้ว นางจะรู้สึกปลอดภัยแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!
การสังหารดำเนินไปจนถึงรุ่งสาง สนามรบค่อย ๆ สงบลง
จิวฉองนำทหารราบเก็บกวาดข้าวของในสนามรบ และตามจับเชลยที่รอดมาได้
เสียงเตือนของระบบดังขึ้น
“ติ๊ง! คุณใช้กลยุทธ์อย่างชาญฉลาด เรียกความสนใจจากศัตรูได้อย่างแม่นยำ เข้าโจมตีค่ายประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม และได้รับชัยชนะมากมาย!”
“ผลของการต่อสู้คือ A!”
“รับสี่ร้อยแต้มสงคราม!”