ตอนที่แล้วKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 218 แบบนี้สินะ! แบบนั้นเอง~
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 220 เป้าหมาย

King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 219 การพบเจอ


ตอนที่ 219 การพบเจอ

หลังจากที่เดินตามทหารมาสักพักก็มาพบกับบ้านหลังใหญ่หนึ่งหลังที่มีพวกทหารเผ่าราเมียกำลังยืนล้อมเอาไว้อยู่ เหมือนกับว่ามันเป็นที่อยู่ของพระราชาไม่มีผิด และที่ด้านหน้าประตูทางเข้าอิคริสหัวหน้าทหารก็กำลังยืนอยู่เพียงมองเห็นใบหน้าจากระยะไกลก็รู้ว่าไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก ออกไปทางหนักใจเลยด้วยซ้ำ

เมื่อผมเดินถึงหน้าประตู “ข้าว่าเรื่องมันจบยากแล้วละ” อิคริสก็พูดออกมาแบบสีหน้าจริงจังมาก พร้อมมองตาของผม

อยากถามอยู่หรอกว่าตอนแรกแกคิดว่าเรื่องมันจะจบง่ายๆ หรือไง แต่อย่าเลยดีกว่า เพราะทางผมเองก็คิดเอาไว้แล้วว่าถ้าคนเป็นพ่อรู้ว่าลูกสาวตัวเองโดนแบบนั้นคงไม่ยอมง่ายๆ ถึงมันจะเป็นเพียงการอุ้มเธอกลับมาก็เถอะ!

“ข้าเตรียมใจเอาไว้แล้วไม่ต้องห่วง”

เอ้อ~ …ที่ข้ากำลังเป็นห่วงไม่ใช่ท่านหรอก แต่เป็นเมืองนี้ต่างหาก”

ระหว่างพูดอิคริสก็กวาดสายตามองเมืองรอบๆ แต่ทำไมต้องเป็นห่วงขนาดนั้นหรือหมอนี่คิดว่าเราจะทำลายเมืองสินะ แต่เรื่องแบบนั้นมันไม่มีอยู่ในความคิดของข้าหรอกถ้าให้ฆ่าคนที่ไม่ใช่ทหารไม่มีทางทำเด็ดขาด ถ้ามันไม่สุดจริงๆ

“เมือง? เจ้าหมายความว่ายังไง”

“เอาเถอะถ้าเรื่องมันจบง่ายๆ ก็ดีไป แต่ถ้าเป็นไปได้ข้าอยากให้พวกท่านไปคุยกันนอกเมืองจริงๆ”

ถามแล้วไม่ตอบทีหลังก็ไม่ต้องทำให้สงสัยสิ เฮ้อ~ แต่ว่าพลังเวทย์ที่สัมผัสจากด้านในก็เป็นพลังขั้นตำนานที่น่ากลัวจริงๆ หรือไม่ก็มากกว่าขั้นตำนานไปแล้วก็ได้

*เพิ่มเติมระดับพลังนะครับ ต่อจากขั้นตำนานก็คือ ขั้นเทพ ขั้นพระเจ้า ขั้น…

เมื่อผมยืนคุยกับอิคริสสักพักผมก็เริ่มเดินเข้าไปในบ้านต่อ เพราะถึงคุยกับหมอนี่ต่อไปก็รังแต่จะเพิ่มความกังวลเปล่าๆ

เมื่อเข้ามาด้านในก็พบกับห้องขนาดใหญ่มากคล้ายห้องโถงของพระราชวัง สร้างขึ้นจากไม้ทั้งหมด ตามผนังก็เต็มไปด้วยคริสตันไฟที่ส่องแสงอยู่ แต่ว่ารูปร่างมันเป็นวงกลมเลยต่างกันนิดหน่อยจากห้องโถงปกติที่ผมเคยไป ตามมุมห้องหรือทางเดินเองก็ไม่มีทหารหรือเผ่าราเมียคนไหนอยู่เลยสักคน

แต่สุดปลายของห้องมีราเมียสองคนกำลังยืนจ้องมองมาทางผมอยู่ คนที่หนึ่งก็คือทาร์เลียที่มองมาแบบสีหน้าหนักใจ ส่วนอีกคนก็น่าจะเป็นพ่อของเธอที่พูดถึง

ขนาดตัวตอนแรกที่เห็นอิคเนอร์ที่พยามหาเรื่องก็คิดว่าหมอนั่นตัวใหญ่มากแล้วนะ แต่ชายที่กำลังยืนข้างทาร์เลียใหญ่กว่าอีก ถ้าให้เทียบก็คงใหญ่กว่าพวกราเมียปกติอย่างน้อยเท่าตัวเลย บนร่างกายก็สวมชุดเกราะหนักที่มีร่องรอยการต่อสู้เอาไว้ พร้อมกับหอกขนาดใหญ่ในมือขวาตั้งอยู่กับพื้น

ให้ความรู้สึกกดดันมากชายคนนี้ !

“ยินดีที่ได้พบครับข้าชื่อว่าดะ-”

“ออกไปก่อนทาร์เลียข้ามีเรื่องต้องคุยกับเจ้านี่ก่อน”

ผมยังพูดไม่ทันจบพ่อของทาร์เลียก็หันไปพูดกับเธอก่อน ให้ตายสิ! อย่างน้อยก็ให้แนะนำชื่อให้จบก่อนไม่ได้หรือไง ชิ!

“ทะ ท่านพ่อท่านคงไม่ได้จะฆ่าหรอกใช่ไหม…?”

ถามตรงประเด็นมาก แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ของเราเหมือนกันสินะลืมแนะนำไปเลย เหอะๆ แต่พ่อของเธอนะทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอก ไม่มีทางถึงพลังจะเยอะกว่าข้าก็เถอะ

“ข้าบอกให้ออกไป!!!”

“ค่ะ….”

เมื่อโดนขึ้นเสียงใส่แทนที่จะเป็นคำตอบทาร์เลียก็ตอบด้วยเสียงสลดแล้วตรงไปยังทางออกของบ้านที่ผมเดินเข้ามาเมื่อครู่ โดยก่อนที่จะออกไปเธอก็ส่งสายตาเป็นกังวลมาทางผมด้วย ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอเป็นกังวลว่าพ่อของเธอจะฆ่าผมหรือผมจะฆ่าหมอนั่นกันแน่

หลังจากที่ทาร์เลียออกไปแล้วพ่อของเธอก็กำลังมองหน้าผมอยู่แบบตาไม่กะพริบ มือขวาเองก็กำหอกเอาไว้แน่ เฮ้อ~ ถ้าหมอนี่จะสู้คงช่วยไม่ได้ ถึงจะสู้ไม่ไหวเราก็ค่อยบินหนีก็ได้ เพราะไม่ว่ายังไงมันก็ตามความเร็วของเราไม่ทันหรอกถ้าไม่สามารถบินตามได้

“ชื่อ”

“ครับ ?”

“ข้าถามว่าเจ้าชื่ออะไร?”

ออ แค่ถามชื่อไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นก็ได้มั้ง เหอะๆ

ใบหน้าของพ่อทาร์เลียตอนนี้ราวกับว่าเป็นใบหน้าของพวกที่กำลังอยากเข้ามาฆ่าผมชัดๆ

“ข้าชื่อดรารอน์”

“ส่วนช้าชื่อว่าทาร์รอส”

ทาร์? พวกนี้นิยมตั้งชื่อตระกูลเป็นคำหน้าเหรอ ระหว่างกำลังสงสัยกับชื่ออยู่ทาร์รอสก็ชี้นิ้วมาทางผมต่อ “เจ้ามันเป็นหนึ่งในคนที่สู้กับเฮาร์แมนไม่ใช่หรือไง?”

ทันทีที่มันพูดจบผมก็เอาขวานศึกด้านหลังออกมาเพื่อเตรียมสู้ทันที ชิ! ไม่ติดเลยว่ามันจะมีข้อมูลเยอะแบบนี้ ถ้ารู้ขนาดนั้นต่อให้โกหกต่อไปก็ไม่ได้อะไรแล้ว

โห่ว! พลังอยู่เพียงขั้นตำนานคิดจะมาสู้กับข้าคนนี้งั้นเหรอ”

ทาร์รอสแสยะยิ้มเล็กน้อยแล้วปล่อยพลังออร่าออกมา รุนแรง! หมอนี่พลังมันต้องมากกว่าขั้นตำนานไปแล้วแน่ๆ

บรรยากาศรอบตัวของผมตอนนี้หนักมาก หนักยิ่งกว่าตอนพิธีกลายเป็นร่างอสูรระดับห้าของราชินีภูติอีก ไม่ไหว! ถ้าเป็นแบบนี้มีแต่ต้องแปลงเป็นร่างจำแลงอสูรแล้วสู้หรือไม่ก็หนีเท่านั้นความต่างของระดับพลังมันมากเกินไป อีกอย่างเรามาแค่สืบข้อมูลไม่ได้คิดจะมาสู้ด้วย

ระหว่างโดนกดดันด้วยพลังเวทย์ผมก็เบนสายตามองซ้ายมองขวาเพื่อหาทางหนี แต่ระหว่างนั้นออร่าและแรงกดดันมันก็หายไป ตามมาด้วยเสียงที่ดังขึ้นมาของทาร์รอส

“ไม่คิดเลยว่าเจ้ามนุษย์ที่เฮาร์แมนบอกจะมีพลังเพิ่มขึ้นไว้ขนาดนี้”

ระหว่างพูดทาร์รอสก็ขยับเข้ามาหาผมแบบช้าๆ เอาไงดีโจมตีก่อนเลยดีไหม? ไม่สิ! ถ้าเปิดก่อนก็ใช่ว่าจะชนะเพราะถึงมันจะกำลังเข้ามาแต่ก็ไม่มีจุดอ่อน หรือช่องว่างให้โจมตีเลยสักนิด

“ขอร้องละ”

เห่ะ?!?!?! เมื่อมาถึงด้านหน้าของผมทาร์รอสก็ก้มหน้าให้แล้วพูดออกมา เกิดอะไรขึ้นไม่ใช่ว่าหมอนี่ต้องฆ่าเราหรอกเหรอ ไอ้ท่าทางแบบนี้หมายความว่ายังไง???

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด