ตอนที่แล้ว453 - หลี่เหอซุย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป454 - อันเหมียวอี้

453 - ต้นกำเนิดมาจากพุทธะ


กำลังโหลดไฟล์

453 - ต้นกำเนิดมาจากพุทธะ

"วันนี้เรากำลังจะไปที่ตำหนักสราญรมย์ ครั้งนี้ข้าจะเลี้ยงเจ้าก่อนแต่ไม่ว่าอย่างไรครั้งหน้าเจ้าต้องเป็นคนเลี้ยงข้า เพราะค่าใช้จ่ายที่นี่ไม่น้อยเลยจริงๆ" หลี่เหอซุยกล่าวล้อเล่น

“ค่าจัดเลี้ยงที่นี่ต้องใช้เงินเท่าไหร่?” เย่ฟ่านถาม

“ระดับนั้นยากต่อการพิจารณา งานเลี้ยงที่ใช้งบประมาณน้อยที่สุดก็แค่ต้นกำเนิดไม่กี่จิน และงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยสาวงามรวมทั้งสิ่งของอย่างอื่นอาจต้องใช้ต้นกำเนิดหลายหมื่นจินเลยทีเดียว”

เย่ฟ่านได้ยินคำพูดเหล่านี้สูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ นี่มันฟุ่มเฟือยเกินไป อาหารหนึ่งมื้อต้องจ่ายด้วยต้นกำเนิดหลายหมื่นจิน เรื่องนี้เขารู้สึกทนไม่ได้อยู่บ้าง

"นี่มันเกินจริงไปหรือเปล่า"

“ไม่ใช่การพูดเกินจริงเลย โสมมังกร ปีกแห่งเผิงสวรรค์… เจ้าควรจะรู้ว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสมบัติที่หายากเพียงใด ยังมีชาแห่งการรู้แจ้งที่ทำให้กลายเป็นผู้สูงสุดได้ในการดื่มเพียงครั้งเดียว”

เย่ฟ่านอ้าปากพูดไม่ออกจริงๆ

"ใครเป็นเจ้าของวังเซียนแห่งนี้?"

“ตระกูลจินจากที่ราบแดนเหนือ พวกเขาคือตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดของดินแดนรกร้างตะวันออกอย่างไม่ต้องสงสัย วันนี้พวกเรามาดื่มกินให้อิ่มหนำกันเถอะ”

“งานเลี้ยงวันนี้คงยิ่งใหญ่อย่างยิ่ง บางทีแม้แต่ผู้สูงสุดก็ยังอาจจะเข้าร่วม” เย่ฟ่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ค่ำคืนของเมืองศักดิ์สิทธิ์นั้นแตกต่างออกไปจริงๆ พวกเขาเดินไปตามถนนสายเก่าแก่ราวกับความฝัน

ด้านหน้าเป็นทะเลสาบที่มีความสดใสราวกับผลึก แม้ว่าจะเป็นฤดูหนาวแต่อากาศของที่นี่ก็ยังอบอุ่นอย่างยิ่ง

ริมฝั่งทะเลสาบเต็มไปด้วยผู้คนมานาน ส่วนใหญ่เป็นเด็กหนุ่ม ทุกคนต่างกลั้นหายใจและรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ

"ทิวทัศน์ยามค่ำคืนนี้ดีจริงๆ"

ดอกไม้และพืชทุกชนิดบนชายฝั่งส่องแสงระยิบระยับซึ่งสะท้อนกับทะเลสาบสีครามทำให้บรรยากาศดูลึกลับและงดงามราวกับสวนสวรรค์ที่ตั้งอยู่ในโลก

เมื่อแสงจันทร์สีขาวเงินตกกระทบลงมา เรือหยกหลายสิบลำก็ลอยล่องไปในทะเลสาบ แต่ละลำมีความงามคล้ายกับว่ากำลังประชันความร่ำรวยกันอยู่

“ดูเหมือนว่ายอดฝีมือวัยเยาว์ของทั้งดินแดนรกร้างตะวันออกทั้งหมดต่างก็มาอยู่ที่นี่แล้ว” หลี่เหอซุยถอนหายใจ

เย่ฟ่านกล่าวว่า " มีเพียงไม่กี่คนในเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเปรียบเทียบกับพวกเขาได้ ความร่ำรวยนี้เป็นที่น่าอิจฉาจริงๆ"

“พวกเขาเพียงชอบอวดโอ่ตัวเองเหมือนเป็ดตัวผู้เท่านั้น แม้แต่เจ้าพวกที่มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่เว้น” หลี่เหอซุยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“อันเหมียวอี้งดงามก็จริง แต่นางควรมีคุณสมบัติบางอย่างที่ดึงดูดใจผู้คนให้มาที่นี่ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับความงามของนาง”

เย่ฟ่านไม่เชื่อว่าลูกหลานของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจะเป็นพวกที่ลุ่มหลงในความงามเพียงอย่างเดียว

“นี่คือหญิงงามอันดับหนึ่งของดินแดนรกร้างตะวันออก หากผู้ใดได้ครอบครองนางชื่อเสียงของพวกเขาก็จะโด่งดังไม่เป็นรองจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แม้แต่น้อย

แต่มันยากที่จะพูด ท้ายที่สุดแล้วอันเหมียวอี้นั้นแตกต่างจากเซียนจื่ออู๋ซวงที่เป็นเจ้าตำหนักคนก่อนหน้า แม้ว่านางจะมีความงดงามแต่ระดับบ่มเพาะของนางนั้นยังคงเป็นความลับอยู่

หากการฝึกฝนของนางไม่แข็งแกร่งเพียงพอ บางทีการแต่งงานกับนางอาจจะทำให้เด็กน้อยหน้าโง่เหล่านั้นไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย”

เย่ฟ่านยิ้มและพูดว่า “แล้วเจ้าล่ะ?”

“ข้าเหรอ... แน่นอนว่าหากสามารถโอบกอดหญิงงามเช่นนั้นเข้านอนทุกคืน ต่อให้มันไม่มีประโยชน์ในการบ่มเพาะของข้า ข้าก็ยังจะยินดีที่จะรับไว้” หลี่เหอซุยหัวเราะก่อนจะกล่าวต่อไปว่า

“ตัวข้านั้นเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่เหมือนกับตัวเจ้าน้องเย่ เจ้าต่างหากควรระวังใจของตัวเองไว้ สตรีของตำหนักสราญรมย์ไม่เหมือนผู้อื่น พวกนางสามารถทำให้ผู้คนลุ่มหลงโดยไม่รู้ตัว”

“ข้าจะจำไว้” เย่ฟ่านตอบแบบขอไปที

“เด็กน้อยเจ้าอย่าได้รับปากส่งๆเช่นนั้น ในอดีตปรมาจารย์รุ่นแรกของตำหนักสราญรมย์แม้แต่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังต่อสู้เพื่อแย่งชิงนาง ท่าทีที่ไม่ใส่ใจของเจ้าเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร”

เย่ฟ่านแสดงท่าทีเยาะเย้ยที่มุมปากของเขาและกล่าวว่า

"พี่หลี่แม้ว่าท่านจะไม่อยากเชื่อ แต่ข้ามีภูมิต้านทานต่อหญิงงามค่อนข้างมาก ข้าไม่ใช่คนที่จะหลงเสน่ห์ใครได้ง่ายๆ”

“ข้าจะรอดูก็แล้วกัน”

หลี่เหอซุยส่ายหน้ากับความคิดของเย่ฟ่าน

“เจ้าบอกว่าพวกเขามีความแข็งแกร่งไม่เป็นรองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หรือว่าพวกเขามีอาวุธเต๋าสุดขั้วและคัมภีร์โบราณระดับสูงสุดอยู่ด้วย?” เย่ฟ่านมีความสนใจต่อเรื่องนี้มากกว่า

"มันก็ไม่เชิงเช่นนั้น คัมภีร์โบราณของพวกเขานั้นเน้นหนักไปในทิศทางการบำเพ็ญคู่ หากให้ฝึกฝนเพียงลำพังจะไม่ได้รับผลดีเท่าที่ควร ว่ากันว่าคัมภีร์โบราณพวกนี้ต้นกำเนิดของพวกมันมาจากพวกนักบวชพุทธะที่อยู่ในทะเลทรายตะวันตก "

"การฝึกฝนคู่..." เย่ฟ่านเคยได้ยินเรื่องนี้แต่เขาไม่ค่อยเชื่อในทฤษฎีดังกล่าว

“เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเป็นยังไง หากเจ้ามีโอกาสเจ้าก็เล่าให้พวกเราฟังด้วย” หลี่เหอซุยยิ้มอย่างมีความหมาย

“พุทธะ...” เย่ฟ่านแตะคางโดยไม่พูดอะไร

ทันใดนั้นเสียงดนตรีก็ดังขึ้นจากเรือที่อยู่กลางน้ำ

"อันเหมียวอี้ปรากฏตัวแล้ว"

ในที่สุดอันเหมียวอี้ก็ปรากฏตัวขึ้น นางเป็นเหมือนเทพธิดาจันทราที่อยู่เหนือโลก นางยืนอยู่บนเรือที่ประดับประดาด้วยดอกไม้ภายใต้ชุดสีขาว

ผู้คนที่อยู่บนฝั่งเริ่มบ้าคลั่ง พวกเขาจ่ายเงินเป็นจำนวนมากเพื่อซื้อเรือลำเล็กๆหลายพันลำที่จอดอยู่ริมทะเลสาบ แน่นอนว่าเรือพวกนี้ก็ถูกจัดจำหน่ายโดยตำหนักสราญรมย์

เย่ฟ่านและหลี่เหอซุยก้าวไปข้างหน้าเพื่อถามราคาและต้องตกตะลึงกับราคาเรือลำเล็กๆพวกนี้ เพราะมันต้องใช้ต้นกำเนิดหลายพันจินในการซื้อแต่ละลำ

อย่างไรก็ตามหลายคนไม่สนใจ เพียงเพื่อพบกับอันเหมียวอี้แบบใกล้ชิดพวกเขายินยอมที่จะทุ่มสุดตัว

“ก็แค่พบหน้าอันเหมี่ยวอี้ไม่ใช่หรือ?”

หลี่เหอซุยพูดไม่ออก เขาไม่มีปัญญาซื้อเรือพวกนี้สักลำด้วยซ้ำ เขาไม่เข้าใจว่าผู้คนนับหมื่นที่อยู่บนฝั่งยินยอมทุ่มเทขนาดนี้ได้อย่างไร

“บินไปข้างบนไม่ได้หรือ?” เย่ฟ่านกล่าว

“นั่นมันน่าอายเกินไป การที่เจ้าทำแบบนั้นแค่เริ่มต้นเจ้าก็พ่ายแพ้ให้กับผู้อื่นแล้ว”

หลี่เหอซุยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วมองเข้าไปในฝูงชน ดวงตาของเขาเป็นประกายและพูดว่า

“ใช่ ข้ามีวิธีแล้ว”

เขาจ้องไปที่ศิษย์สำนักใหญ่ หัวเราะและกล่าวว่า

"นี่คือศิษย์คนที่เจ็ดของเจ้าสำนักวังห้าธาตุ ข้าเคยเห็นชายผู้นี้มาก่อน"

สำนักวังห้าธาตุมีเรือลำใหญ่ที่ราคาสูงเสียดฟ้า เรือมังกรของพวกเขากำลังจะแล่นออกจากท่า แต่หลี่เหอซุยก็เดินเข้าไปและเรียกลูกศิษย์ระดับต่ำของวังห้าธาตุที่กำลังขึ้นเรือออกมาพูดคุย

"เจ้าจะทำอะไร?!"

ผู้ฝึกตนของวังห้าธาตุหน้าคนนั้นหน้าเปลี่ยนและวิ่งขึ้นไปรายงานให้ศิษย์พี่ของเขาที่อยู่บนเรือทราบ

หลังจากนั้นไม่นานชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งก็เดินลงมาจากเรือด้วยสีหน้าดำมืด เขาประสานมือแสดงความเคารพต่อหลี่เหอซุยอย่างจำใจ

“พี่หลี่เชิญเถอะ เรือลำนี้ข้าขอยกให้เจ้า”

พูดจบเขาก็สะบัดแขนเสื้อและหันหลังจากไปด้วยท่าทีโกรธแค้น

หลี่เหอซุยเดินขึ้นเรือด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า จากนั้นเขาโบกมือให้เย่ฟ่านติดตามเขาขึ้นไป

คนรอบข้างมองดูความลึกลับที่ไม่อาจหยั่งรู้ พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุไฉนเรือลำค่าลำนี้ถึงได้เปลี่ยนเจ้าของอย่างง่ายดาย?

“เจ้าพูดอะไรกับเขา” เย่ฟ่านถาม

“ข้าบอกเขาว่าแม่เสือสาวที่เป็นคู่หมั้นของเขาก็อยู่ในบริเวณใกล้เคียงด้วย”

เย่ฟ่านมีความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการของหลี่เหอซุย

หลี่เหอซุยหัวเราะคิกคักและกล่าวว่า

" คู่หมั้นของเขาเป็นลูกสาวคนสุดท้องของประมุขวังห้าธาตุแม้ว่าเขาจะสงสัยคำพูดของข้า แต่รับรองว่าเขาย่อมไม่มีความกล้าที่จะอยู่ที่นี่ต่อ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด