ตอนที่แล้วเทพสงครามหวนคืน ตอนที่ 25 เดินทางกลับบ้าน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพสงครามหวนคืน ตอนที่ 27 ผิดแผน

เทพสงครามหวนคืน ตอนที่ 26 เรื่องที่ทำผิดพลาด


รั่วรัวที่กำลังยืนอยู่โดยใส่ชุดนักเรียนพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของเธอ " ฉันไปแล้วนะ " รั่วรัวพูดออกมาด้วยน้ำเสียฃกำลังโมโห

' จะไปไหนละเนี่ย นี่แค่เอาคนกลับมาบ้าน 2 คน ถึงกับต้องหนีกันเลยหรือไง ' หยางเฉินคิดในใจหลังจากที่รั่วรัวพูดออกมา แล้วก็ได้ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงปกติ " กำลังจะไปไหน ?? "

" ฉันจะไปอยู่บ้าน นิ้งเออร์สักประมาณ 2 - 3 วัน "

" ไม่ได้! " หยางเฉินรีบตอบปฏิเสธแบบเสียงแข็ง แล้วก็ทำสีหน้ทน่ากลัวใส่รั่วรัว " ทำไมละ " รั่วรัวตะโกนใส่หยางเฉินทำกำลังทำหน้าน่ากลัวอยู่อย่างสุดเสียง แล้วก็ลากกระเป๋าวิ่งออกไปจากบ้านพร้อมกับร้องไห้ไปด้วย

' แบบนี้ไม่ดีแล้วสิ ทั้งๆที่คิดเอาไว้ว่าจะไม่ทำให้เธอเสียใจอีกแล้วในชาตินี้ แต่กลับทำเธอร้องไห้ออกไปแบบนั้น แล้วอีกอย่างที่เธอกำลังไปก็คือตระกูลนิ้งด้วย เห้อ~ ' หยางเฉินคิดในใจขณะที่กำลังมองรั่วรัววิ่งร้องไห้ลากกระเป๋าออกจากบ้านไป แล้วก็ได้ถึงนึกเรื่องในอดีต

ในอดีตนั้นตระกูลนิ้งได้ทรยศรั่วรัวโดยจับตัวเธอไปส่งให้ตระกูล เพื่อรับความดีความชอบกับปรมจารย์ฟู่ที่เป็นคู่หมั่นของรั่วรัวเพราะในชาติที่แล้วเธอหนีออกจากบ้านไปอยูบ้านเช่าแถวนอกเมือง แต่กลับมาเพราะงานวันเกิดนิ้งเออร์ และโดนทางตระกูลนิ้งจับตัวส่งกลับไปตอนนั้นเราทำได้เพียงแค่ยืนดูเท่านั้น ' แต่ชาตินี้คงไม่เป็นอะไรแล้วละ เพราะยังไงคู่หมั่นของเธอหมอนั้นที่โดนเราจัดการไปก็ไม่คงไม่กล้ามาแต่งกับเธอหรอก แต่เพื่อความแน่ใจกันเอาไว้ก่อนดีกว่า ' หลังจากที่หยางเฉินคิดได้ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออกไป

" ครับปรมจารย์หยาง " เสียงที่ดังออกมาคือเสียงของหวังเฟ่ยที่ถามออกมาด้วยน้ำเสียงสงสัย

" ผมมีเรื่องจะให้คุณช่วยนิดหน่อย "

" ครับ! ถ้าเป็นเรื่องเดือนร้อนของปรมจารย์หยาง มันก็เป็นเรื่องเดือดร้อนของตระกูลหวังเหมือนกัน ท่านบอกมาได้เลยหวังเฟ่ยคนนี้จะช่วยเหลือท่านเองครับ "

" อื้ม! งั้นก็เข้าเรื่องเลยแล้วกัน คุณจำผู้หญิงที่ชื่อรั่วรัวที่ไปกับผมวันนั้นได้ไหม "

หลังจากที่หยางเฉินถามออกไปเสียงโทรศัพท์ก็เงียบไปสักพัก แล้วหวังเฟ่ยก็พูดออกมา " ...ครับ จำได้ครับ " เสียงของหวังเฟ่ยที่ตอบออกมาหยางเฉินก็รู้ทันทีว่าเป็นน้ำเสียงที่ผิดปกติ และได้ถามออกไปด้วยความสงสัย " เป็นอะไรหรือป่าว ทำไมเมื่อกี้ผมพูดถึงรั่วรัวคุณถึงได้เงียบไป "

" ....ระ เรื่องนั้นมันก็ " เสียงของหวังเฟ่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักใจ แล้วหยางเฉินก็ถามย้ำกลับไปด้วยน้ำเสียงแข็ง " ผมถามว่ามีเรื่องอะไรกับเธอ " เมื่อหยางเฉินถามย้ำอีกครั้ง ทางด้านของหวังเฟ่ยก็รีบตอบออกมาทันที " ท่านจำได้ไหมว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน ท่านสามารถเอาชนะปรมจารย์ฟู่ได้คนที่เป็นคู่หมั่นของผู้หญิงที่ชื่อรั่วรัวคนนั้น "

" แล้วมันยังไง " หยางเฉินถามกลับด้วยน้ำเสียงสงสัย

" ชายคนนั้นมีอาจารย์ชื่อว่า จ้าวหมิง แล้วพลังของชายคนนั้นก็อยู่ระดับสูงขั้นปลายแล้วครับ ผมคิดว่าถ้าเป็นไปได้ท่านอย่าไปยุ่งกับเธออีกเลย " เสียงของหวังเฟ่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง แต่เมื่อพูดจบหยางเฉินก็ตอบกลับไปทันที " จ้าวหมิงมันตายไปแล้ว ผมพึ่งฆ่ามันไปเมื่อกี้นี้ "

" ห่ะ!!! " เสียงของหวังเฟ่ยร้องออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจอย่างมาก แล้วก็รีบพูดออกมาทันที " ถ้าอย่างั้นผมจะรีบส่งคนไปดูแลเธอเองครั้บ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน "

" บ้านตระกูลนิ้ง "

" ครับ ! "

เมื่อคุยจบหยางเฉินก็ตัดสายจากหวังเฟ่ยไป แล้วก็หันไปหาอารีญาที่กำลังนอนหมดสติอยู่ ' ตามจริงก็อยากปลุกเธอขึ้นมาแล้วเอามาช่วยฝึกอยู่หรอก แต่เธอคงเจออะไรมาเยอะกว่าจะมาถึงที่ประเทศจีนได้ งั้นคงต้องปล่อยเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน ' หยางเฉินคิดในใจขณะที่มองอารีญาที่กำลังนอนอยู่ แล้วก็ไปนั่งที่โซฟาด้านตรงข้ามกับเธอ

ณ บ้านตระกูลหวัง

หวังเฟ่ยที่คุยกับหยางเฉินจบนั้นก็กำลังอยู่ในม่าทางกังวล ' นี่ปรมจารย์หยางเขาพูดจริงเหรอเนี่ย จัดการกับปรมจารย์จ้าวหมิงได้เนี่ยนะ เมื่อไม่ถึงเดือนเขายังพึ่งเข้าขั้นเริ่มต้นของผู้ฝึกตนเอง ' หวังเฟ่ยคิดในใจด้วยความสงสัย แต่ในระหว่างที่กำลังนั่งคิดอยู่นั้นเสียงเคราะประตูก็ดังขึ้นมา

ก๊อก ก๊อก ก๊อก !!!!

เสียงดังขึ้นมา 3 ครั้ง แล้วก็มีเสียงของเสี่ยวไป่พูดออกมา " คุณหวังมมีเรื่องที่ท่านต้องรู้ครับ "

" เข้ามาได้ " เสียงของหวังเฟ่ยพูดออกไป แล้วประตูห้องก็เปิดออกเสี่ยวไป่ที่อยู่ด้านนอกก็เดินเข้ามาทันทีด้วยหน้าตากำลังตกใจอยู่ " มีเรื่องอะไรทำไมทำหน้าตาตกใจแบบนั้น " หวังเฟ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงสงสัย หลังจากที่เสี่ยวไป่เดินมาถึงด้านหน้า แล้วเสี่ยวไป่ก็ตอบออกมา " เมื่อกี้นี้เราได้ข่าวมาจากตระกูลอู่ครับ ว่าปรมจารย์จ้าวหมิงโดนปรมจารย์หยางฆ่าไปแล้ว "

" อืม! " เสียงของหวังเฟ่ยตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติ แล้วทางเสี่ยงไป่ก็ถามออกมา " นี่ท่านไม่ตกใจเลยเหรอครับ ปรมจารย์จ้าวหมิงเป็นผู้ฝึกต้นพลังแห่งความมืดขั้นสูงเลยนะ "

" เมื่อกี้ปรมจารย์หยางพึ่งโทรมาบอกว่าสามารถจัดการไปได้แล้ว ตอนแรกฉันก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแต่พอนายมาบอกแบบนี้มันก็คงต้องเป็นความจริงแล้วละ " หวังเฟ่ยตอบกลับ แล้วก็เอามือจับที่คางตัวเองพร้อมกับคิดในใจไปด้วย ' ปรมจารย์หยางเป็นใครกันแน่ ทำไมพลังถึงได้เยอะขนาดนี้กันนะนับว่าโชคดีขนาดไหนแล้ว ที่ตระกูลหวังของเราผูกมิตรเอาไว้ก่อนตระกูลอู่ และตระกูลเฟ่ย '

หลังจากที่หวังเฟ่ยคิดสักพักก็หันหน้าไปหาเสี่ยวไป่ที่ยืนอยุ่ แล้วพูดออกไป " นายส่งคนของเราไปตระกูลนิ้งด้วย บอกพวกนั้นว่าไปรักษาความปลอดภัยให้กับเด็กผู้หญิงที่ชื่อรั่วรัว- ไม่สิ! คนอื่นมันไว้ใจไม่ได้นายไปเองเลยดีกว่า แล้วก็จำเอาไว้ว่าต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ต้องปกป้องเธอให้ได้ไม่งั้นตระกูลเราอาจโดนทำลายก็ได้ "

" ครับ ! " เสียงของเสี่บวไป่ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดังมาก แล้วก็เดินออกจากห้องไปทันทีในระหว่างที่กำลังเดินออกจากห้องก็คิดไปด้วย ' ผู้หญิงที่ชื่อรั่วรัวทำไมเธอถึงได้ไปอยู่บ้านตระกูลนิ้งได้กันนะ '

ณ บ้านตระกูลนิ้ง

ภายในห้องขนาดใหญ่ที่ประดับไปด้วยของสวยงานหรูหรามากมายกำลังมีคน 3 คน นั่งคุยกันอยู่ด้วท่าทางดีใจ " ฮาๆๆๆๆ ลูกเออร์ทำได้ดีมากเลยลูกที่พาผู้หญิงคนนั้นมานี่ได้ " เสียงของชายอายุประมาณ 40 ปี ใบหน้าเกลี้ยงเกาเหมือนกับผู้หญิงผมสีทองเข้มรูปร่างสมส่วน พูดออกมาพร้อมกับหัวเราะอยู่ด้วย ซึ่งชายคนนี้ก็คือ นิ้งโม่ ผู้นำตระกูลมิ้งคนปัจจุบัน

" นั่นสินะ ลูกทำได้ดีจริงๆ " เสียงที่ตอบออกมาก็คือผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่ผมสีทองยาวถึงเอวผิวสวยงานสวมเสื้อดูดีผ้าไหมสีทองทั่งร่างกาย มีชื่อว่า นิ้งหลี่

" แน่นอนสิ ค่ะ " เสียงเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 18 ปี รูปร่างสมส่วนสวยเหมือนนางแบบผิวขาวใสแววตากลมโต ใส่ชุดนักเรียนเสื้อขาวกระโปงสีฟฟ้าสั้น พูดออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นใจเธอก็คือ นิ้งเออร์

" ถ้างั้นพ่อจะติดต่อปรมจารย์ฟู่เอาไว้ก่อนเลยแล้วกัน ถ้าเราส่งตัวเธอให้กับเขาได้ ตระกูลนิ้งของเราต้องได้รับความดีความชอบเพิ่มอย่างแน่นอน " เสีียงของนิ้งโม่ผู้เป็นพ่อพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แล้วก็เดินออกจากวงสนทนาพร้อมกับโทรศัพท์ที่อยู่ในมือทันที

" ท่านแม่ แล้วแบบนี้รั่วรัวจะเป็นยังไง ค่ะ " นิ้งเออร์ถามแม่ตัวเองที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยน้ำเสียงสงสัย และนิ้งหลี่ก็ถามกลับออกมาด้วยน้ำเสียงแปลกใจ " แหม~ นี่ลูกกำลังจะบอกว่าเป็นห่วงผู้หญิงคนนั้นอยู่เหรอ "

" ฮาๆๆๆๆๆ " เสียงของหัวเราะของนิ้งเออร์หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงชอบใจ แล้วก็ได้พูดต่อ " ท่านแม่กำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ เป็นห่วงเหรอ? กลับกันเลยละถ้ายัยนั่นหายไปจากโรงเรียนได้ก็ดี เพราะแบบนั้นหนูก็จะได้จะเป็นดาวโรงเรียนเพียงคนเดียว " ในระหว่างท่นิ้งเออร์กำลังพูดอยู่ก็ยิ้มออกมาด้วยใบหน้าชั่วร้าย แล้วก็ได้คิดในใจไปด้วย ' อยู่ที่โรงเรียนต้องทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีของยัยนั้นมันเอื้อมจะตายอยู่แล้ว แต่ว่าในที่สุดความอดทนของเรามันก็มีความหมายจนได้ หึหึ...! '

ในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่นิ้งโม่ก็เดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแบบสบายใจเข้ามาด้วย " เป็นไงคะท่านพ่อ ปรมจารย์ฟู่ว่ายังไง " นิ้งเออร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอยากรู้ แล้วนิ้งโม่ก็ตอบออกมาด้วยท่าทางสบายใจ " มันก็แน่นอนสิลูก ปรมจารย์ฟู่บอกว่ากำลังมาที่นี่ "

" เท่านี้ตระกูลนิ้งก็ใหญ่ขึ้นแล้วสินะ ดีไม่ดีถ้ามีปรมจารย์ฟู่สนับสนุนพวกเราอาจจะใหญ่เท่าพวก 3 ตระกูลใหญ่อย่าง หวัง เป่ย แล้วก็อู่กันเลยก็ได้ " เสียงของนิ้งหลี่พูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก " นั่นสินะ ค่ะ " นิ้งเออร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเห็นด้วย

แต่ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังพูดกันอยู่เสียงของนิ้งโม่ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงค่อยๆ " แต่มันก็มีเรื่องแปลกอยู่นะ "

" ท่านพ่อหมายความว่ายังไง " นิ้งเออร์ถามกลับด้วยน้ำเสียงสงสัย และทางนิ้งโม้ก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหนักใจว่า...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด