ตอนที่แล้วตอนที่ 387+388 อัจฉริยะ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 391+392 สร้างเรื่องต่าง ๆ ขึ้น

ตอนที่ 389+390 การสนทนา


กำลังโหลดไฟล์

แม้ว่าลู่ชิงสีต้องการจะอยู่และพูดคุยกับเจียงเหยาต่อ แต่ด้วยบาดแผลและอาการบาดเจ็บทั่วร่างกายของเขา ในที่สุดเขาก็ยอมจำนนต่อความอ่อนล้าและหลับลึก

มือขอวาของเขายังคงจับมือเธอเบา ๆ หลังจากที่เขาผล็อยหลับไป ความอบอุ่นของเขาแผ่ออกมาจากปลายนิ้ว ผ่านฝ่ามือ สู่หัวใจของเธอ

ลู่ชิงสีไม่ได้ดูแตกต่างไปจากการนอนหลับทั่วไปมากนัก หว่างคิ้วของเขาคลายออกจากตำแหน่งที่คับแน่นเช่นในยามปกติ ท่าทางที่เยือกเย็นตามปกติก็อ่อนลงไปด้วย ทำให้เกิดบรรยากาศที่อ่อนโยน

เมื่อเห็นแบบนี้ เจียงเหยาก็จูบลงที่ริมฝีปากของเขาอย่างตรงไปตรงมา จูบรสไม่ดีนัก เขานอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลมาหลายวัน ริมฝีปากของเขามีรสเหมือนยา

“อะ!” สิ่งแรกที่เฉินซวีเห็นตอนเดินเข้ามาในห้องคือเจียงเหยากำลังจูบลู่ชิงสี เขาอุทานออกมาแล้วหันหลับกลับอย่างรวดเร็ว พร้อมกับผลักกู้ฮ่าวอวี้และผู้อำนวยการโรงพยาบาลออกไปนอกห้องด้วย “พี่ลู่ เจียงเหยา ถ้าจูบกันเสร็จแล้ว ตะโกนบอกเราที” เขาตะโกนจากอีกฟากหนึ่งของประตู

เจียงเหยาฟังการล้อเลียนของเฉินซวีเหยาอย่างเชื่องช้าก่อนจะห่มผ้าให้กับลู่ชิงสีและเดินออกจากห้องไป

“เขาหลับไปแล้ว” เจียงเหยามองไปที่เฉินซวีเหยาและกู้ฮ่าวอวี้ “ฉันคิดว่าพวกคุณกลับไปแล้วเสียอีก”

“เราจะทำอย่างนั้นได้ยังไงกัน? พวกเรารู้นะว่าพี่ลู่มองว่าพวกเราเป็นก้างขวางคอ เขาแค่อยากจะอยู่คุยกับคุณตามลำพัง” เฉินซวีเหยาหัวเราะคิกคัก “แม้ เจียงเหยาคุณนี่ก็เบานะ แอบจูบพี่ลู่ตอนที่เขาหลับไปแล้ว!”

เมื่อสังเกตเห็นการจ้องมองเชิงตำหนิของกู้ฮ่าวอยี้ เฉินซวีเหยาก็ตระหนักว่าเขาล้ำเส้นเกินไป เขามองไปที่เจียงเหยาและตระหนักว่าเธอกำลังกลอกตาใส่เขาอยู่

เฉินซวีเหยาเกาศีรษะพยายามคิดหาข้ออ้างที่จะหันเหความสนใจ “อ้อจริงสิ ผู้อำนวยการลีมีเรื่องจะคุยกับคุณ”

“คุณลู่ ถ้าสะดวก เราไปคุยกันที่ห้องทำงานผมจะดีไหมครับ” แม้ตัวเองจะเป็นผู้อาวุโสกว่า ผู้อำนวยการลีกลับพูดออกมาอย่างจริงใจและสุภาพกับเจียงเหยา เพื่อยืนยันสถานะของเธอในฐานะภรรยาของลู่ชิงสี

เจียงเหยาเข้าใจสิ่งที่ผู้อำนวยการลีต้องการจะพูดด้วย เธอมองไปที่ทางเดินที่พลุกพล่าน พยักหน้าและเรียกกู้ฮ่าวอวี้กับเฉินซวีเหยา “ไปกันเถอะค่ะ!”

ผู้อำนวยการลียิ้มออกมาเมื่อเห็นเจียงเหยาให้ความร่วมมือ ดังนั้นเขาจึงไม่ใส่ใจกับความจริงที่ว่าจะมีผู้เข้าร่วมสนทนาด้วยอีกสองคน

ห้องทำงานของผู้อำนวยการอยูในอาคารหลังอื่น ห่างออกไปประมาณร้อยเมตรจากอาคารที่พวกเขาอยู่ในปัจจุบัน

เจียงเหยาต้องยอมรับหลังจากเข้ามาในห้องทำงานของเขาว่าโรงพยาบาลเฉิงอ้ายเทียบกับโรงพยาบาลแห่งนี้ไม่ได้เลยสักนิด ทุกอย่างดีกว่ามาก ตั้งแต่สิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์ ไปจนถึงบุคลากรทางการแพทย์ แม้แต่ห้องทำงานของผู้อำนวยการที่นี่ก็กว้างขวางกว่ามาก

สำนักงานที่ว่างเปล่าเมื่อพวกเขาเข้ามา ผู้อำนวยการลีปิดประตู และเริ่มชงชาให้กับแขกของเขา

เจียงเหยาหยุดเขาอย่างรวดเร็ว เธออธิบายว่า “ไม่ต้องชงชาก็ได้ค่ะ พูดรายละเอียดมาเลยจะดีกว่า ฉันต้องรีบกลับไปที่ห้องพักฟื้นและยังต้องตรวจคนไข้อีก”

“ได้ ได้!” ในขณะที่เขาพูด เขายังคงรินน้ำให้แขกแต่ละคน “ร้อยเอกลู่ฟื้นแล้วใช่ไหมครับ? ผมอยากรู้อาการของเขาว่าเป็นยังไงบ้าง เราควรตรวจเขาให้ครอบคลุม? ถ้าคุณต้องการ ผมจะแจ้งให้หมอเร่งกระบวนการตรวจร่างกายของเขา”

__

ตอนที่ 390 การปฏิเสธ

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ขอบคุณมากนะคะ อาการเขาทรงตัวแล้วค่ะ อีกไม่กี่วันก็หาย” เจียงเหยาได้วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ เธอปรุงยาให้กับลู่ชิงสีเองทั้งหมดจากห้องทดลองของระบบการแพทย์ และทำการเปลี่ยนยาของโรงพยาบาล เพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัยและปกปิดเรื่องยาของเธอ

ยาที่เธอปรุงขึ้นเองนั้นล้ำหน้ากว่ายาที่พบในโรงพยาบาล มันเป็นประโยชน์ต่อลู่ชิงสีในการรักษาให้หายเร็วขึ้น

การบอกผู้อำนวยการลีไปว่าอาการของลู่ชิงสีดีขึ้นอย่างรวดเร็ว จะทำให้ผู้อำนวยการไม่ตกใจเมื่อเห็นอาการของเขาดีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

เช่นเดียวกับเรื่องอื่น ๆ มากมาย ผลของการรู้อะไรล่วงหน้าและการพบข้อมูลในทันทีนั้นแตกต่างกันอย่างมาก

เมื่อได้ยินการปฏิเสธของเจียงเหยา ผู้อำนวยการลีก็แปลกใจเล็กน้อย ภายใต้สถานการณ์ปกติ โรงพยาบาลจะจัดให้มีการตรวจร่างกายเต็มรูปแบบสำหรับผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการผ่าตัดที่ซับซ้อนเช่นนี้ ยิ่งกว่านั้นกับอาการบาดเจ็บสาหัสของลู่ชิงสี

คุณนายลู่กลับปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เธอคิดอะไรอยู่กันแน่?

ทำไมเธอถึงมั่นใจว่าลู่ชิงสีไม่จำเป็นต้องตรวจอีกครั้งหลังจากการผ่าตัด?

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในเมื่อคู่สมรสของผู้ป่วยระบุอย่างชัดเจนถึงความตั้งใจของเธอ จึงไม่มีอะไรที่เขาจะสามารถทำได้อีกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้อำนวยการลีใจผ่ออยู่บ้าง เขาไม่รู้ว่าควรจะเชื่อเจียงเหยาอย่างไร แต่สุดท้าย เธอเป็นคนที่ช่วยเขาให้พ้นจากความตายและดูแลเขาให้หายจากอาการบาดเจ็บนั้น

“คุณนายลู่ครับ เหตุผลที่ผมเรียกคุณมาวันนี้ ยังมีเรื่องอื่นอีก” ผู้อำนวยการลีเลือกที่จะไม่ติดตามเรื่องนั้นต่อและเปิดเผยความตั้งใจที่แท้จริงของเขา

“อาการของร้อยเอกลู่นั้นสำคัญมาก ไม่มีใครในด้านการแพทย์สามารถทำการผ่าตัดได้สำเร็จและช่วยชีวิตผู้ป่วยในสภาวะวิกฤตเช่นนี้ได้ เราต้องการเชิญคุณเข้าร่วมสัมมนาเกี่ยวกับการผ่าตัดในครั้งนี้ของคุณ เราหวังว่าคุณจะสามารถแบ่งปันประสบการณ์และวิธีการของคุณให้กับเรา หวังว่าด้วยความรู้ความสามารถของคุณ เราจะสามารถทำการผ่าตัดช่วยชีวิตคนอื่น ๆ ได้อีกมากในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้”

นั่นคือสิ่งที่เจียงเหยาคิด

พูดตามตรง คำขอของผู้อำนวยการลีนั้นก็สมเหตุสมผล โดยไม่คำนึงถึงการผ่าตัดของพันเอกหลินและการผ่าตัดของลู่ชิงสี ถือเป็นครั้งแรกในวงการแพทย์

เป็นเรื่องปกติที่หมอต้องการเรียนรู้จากต้นแบบ เพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ของพวกเขา การอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนความรู้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากช่วยให้หมอได้ฝึกฝนทักษะของตนต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้การดูแลผู้ป่วยและสุขภาพให้ดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม...

เจียงเหยากำลังเผชิญกับสถานการณ์ของเธอเงอ เธอทำเช่นนั้นไม่ได้

เธอจะบอกทุกคนได้อย่างไรว่าเธอสามารถผ่าตัดได้สำเร็จเพราะระบบการแพทย์? มันอาจทำให้เธอได้เริ่มทำการวิจัยห้องปฏิบัติการ หรือแย่ไปกว่านั้นคือถูกส่งไปยังโรงพยาบาลจิตเวช

แม้แต่เธอเองก็กำลังแย่เหมือกนัน ไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องทั้งหมดนี้กับลู่ชิงสีได้อย่างไร ความจริงแล้ว ทุกสิ่งเกิดขึ้นนั้นไร้สาระและไม่น่าเชื่อเลย เธอเลือกที่จะปิดบังมันจากสามี ทำไมเธอถึงจะเปิดเผยทุกอย่างกับคนนอกอย่างผู้อำนวยการลีเล่า?

โชคดีที่แม้ว่าจะน่าสงสัย ลู่ชิงสีก็ไม่ได้กดดันให้เธออธิบายเพิ่มเติม หลังจากที่เธอแสดงออกให้เห็นว่าไม่เต็มใจจะพูดอะไรเพิ่ม เพื่อน ๆ ของพวกเขาก็มีน้ำใจไม่ต่างจากเขา พวกเขาไม่ถามอะไรอีกเลย

“ผู้อำนวยการคะ ฉันต้องขอโทษด้วยจริง ๆ แต่ฉันคงต้องปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมการสัมมนาของคุณค่ะ” เจียงเหยาปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา เธอยังคงต้องหาข้ออ้างเพื่อปกปิดการปฏิเสธของเธอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด