ตอนที่ 31 ความคิดของเล่าปี่เซียนเต๋อ
ตอนที่ 31 ความคิดของเล่าปี่เซียนเต๋อ
กวงจง
ค่ายทหาร
ภายในกระโจมของโลติด
ตรงหน้าของโลติดมีสามคนนั่งอยู่
ชายคนแรกมีใบหน้าที่ขาว ไร้เครา หูใหญ่ และมือพาดยาวอยู่บนขา
อีกคนหนึ่งมีใบหน้าออกสีแดงก่ำราวกับพุทราจีน ส่วนอีกคนมีใบหน้าออกสีดำและดูดุร้าย
ทั้งสองมีร่างกายที่ใหญ่โตและแข็งแกร่ง
มองเพียงครั้งเดียวก็ทราบได้ว่าเป็นยอดคน
ทั้งสามคือพี่น้องเล่าปี่ กวนอู และเตียวหุย
พวกเขายกทัพออกมาจากเมืองจั่วเพื่อรอรับคำสั่งจากโลติด
แต่ทั้งทัพของโลติดและเตียวก๊กต่างตกอยู่ในทางตัน พวกเขาจึงไม่มีสงครามใหญ่เกิดขึ้น
ดังนั้นสามพี่น้องเล่าปี่จึงไม่มีประโยชน์อะไรในขณะนี้
ประตูกระโจมเปิดออกพร้อมคนเข้ามารายงาน
“ท่านแม่ทัพ มีคนอ้างว่ามาจากตระกูลเจิ้นจากจงซานขอเข้าพบท่าน!”
โลติดยกมือขึ้นอย่างไม่ลังเล “รีบให้เข้ามา!”
เล่าปี่ที่ยืนอยู่ด้านข้างหันไปมองเล็กน้อย ดวงตาของเขาสงสัยว่าโลติดคิดสิ่งใดอยู่
ไม่นานเจิ้นเหยียนก็เข้ามา
“แม่ทัพโลติด!”
โลติดยิ้มพร้อมกล่าว “ลมอะไรพัดพาหลานชายมาหาข้าที่นี่?”
เจิ้นเหยียนรีบกล่าว “ท่านแม่ทัพ กล่าวตามตรงที่ข้ามาครั้งนี้เพราะต้องการขอความช่วยเหลือ!”
“มีกบฏโพกผ้าเหลืองสามหมื่นคนบุกไปที่จงซาน ตระกูลเจิ้นของข้าจึงตกอยู่ในอันตราย!”
“ข้าหวังแค่ท่านแม่ทัพจะส่งคนไปช่วยตระกูลเจิ้นให้พ้นวิกฤตในครั้งนี้!”
โลติดขมวดคิ้วและมองออกไปอย่างลำบากใจ
“เหตุผลเช่นนี้เองถึงทำให้หลานชายของข้าเดินทางมาถึงที่นี่!”
“แต่ตอนนี้กองทัพของพวกเรากำลังทำศึกยืดเยื้อกับเตียวก๊ก และเอาแน่เอานอนไม่ได้ หากส่งกำลังพลไป เช่นนั้นพวกมันอาจบุกมาได้ตลอดเวลา!”
“ข้าอยู่ภายใต้คำสั่งของจักรพรรดิ ดังนั้นครั้งนี้ข้าไม่อาจช่วยได้จริง ๆ !”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สายตาของเจิ้นเจียงก็ดูผิดหวังทันที
แม้ว่าเขาจะเตรียมใจไว้ก่อนแล้ว แต่เมื่อได้ยินจากปากของโลติดตรง ๆ เขาก็รู้สึกหดหู่อย่างช่วยไม่ได้
ดวงตาของเล่าปี่กลับเป็นประกาย
ชื่อของตระกูลเจิ้นที่เขาเคยได้ยินมานั้นเป็นตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆ
ตอนนี้มันเป็นเวลาดีที่จะแสดงความเมตตา
หากในอนาคตเขาได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเจิ้น เขาจะสามารถบรรลุการใหญ่ได้แน่นอน!
ทราบหรือไม่ว่าเล่าปี่ เล่าเซียนเต๋อ(ชื่อรอง) ไม่ใช่คนธรรมดา
การปราบกบฏเป็นเหตุผลหนึ่งในการระดมพลครั้งนี้
ที่สำคัญกว่านั้นคือเขาต้องการทิ้งชีวิตที่เร่ขายรองเท้าและเสื่อเพื่อออกมาหาโอกาสกอบกู้ราชวงศ์ฮั่น!
ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีแล้วไม่ใช่หรือ?
เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่
“ตอนนี้สงครามกำลังปะทุ และแม่ทัพโลติดไม่สามารถออกไปช่วยได้! เช่นนั้นข้าจะออกไปช่วยเหลือเอง”
“แม่ทัพโลติดไม่จำเป็นต้องส่งทหารไป ก่อนข้าจะมา ข้าได้ระดมพลทหารอาสากว่าห้าพันคนมาด้วย ซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับจงซาน!”
“ยิ่งกว่านั้นน้องทั้งสองของข้ายังมีพละกำลังสู้กับคนนับหมื่นได้อย่างง่ายดาย พวกเขาจะปราบกบฏโพกผ้าเหลืองและช่วยจงซานได้แน่นอน!”
โลติดครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า
“ตกลง ข้าจะให้ท่านเซียนเต๋อออกไปช่วย!”
เจิ้นเหยียนรู้สึกปลายปลื้มใจมากจนพยักหน้าหลายครั้ง
“ขอบคุณท่านแม่ทัพเซียนเต๋ออย่างมาก ตระกูลเจิ้นของเราไม่ใช่พวกขี้เหนียว หลังจากท่านแม่ทัพขับไล่กบฏโพกผ้าเหลืองได้สำเร็จ ตระกูลเจิ้นจะมอบรางวัลให้ท่านเซียนเต๋ออย่างแน่นอน!”
“พูดได้ดี พูดได้ดี!”
เล่าปี่สะบัดมือพร้อมเผยใบหน้าสงบนิ่ง
แต่ในใจของเขาได้เริ่มนึกถึงรางวัลล้ำค่าแล้ว!
ตระกูลเจิ้นเป็นตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆ ของโลก ดังนั้นของขวัญที่จะได้ย่อมไม่ใช่สิ่งเล็กน้อย มันสามารถทำให้เขาเริ่มสร้างอนาคตได้!
อย่างไรก็ตามยังมีสิ่งที่เล่าปี่ไม่ทราบ
เฉิงชงได้ก้าวนำไปก่อนแล้วหนึ่งก้าวในการตกปลาตัวใหญ่อย่างตระกูลเจิ้น!
......
อีกด้านหนึ่ง
เจิ้นเจียงนำทหารของตระกูลและทหารรักษาการณ์เข้าร่วมปกป้องเมือง
กองทัพทั้งหมดได้เดินทางไปเมืองจงซาน
ขณะเดียวกันเฉิงชงได้ส่งหน่วยสอดแนมออกไปตรวจสอบสถานการณ์ในเมืองจงซานดูก่อน
ไม่นานนักหน่วยสอดแนมก็กลับมา
“นายท่าน! การสอดแนมเสร็จสิ้นแล้ว!”
“กองทัพโพกผ้าเหลืองที่บุกมาครั้งนี้เป็นของแม่ทัพอวี้ถู และตั้งค่ายอยู่ห่างออกไปหกสิบกว่าลี้!”
“มีทหารมากถึงสามหมื่นคนและได้ปิดล้อมจงซานมาสามวันแล้ว!”
เมื่อได้ยินรายงาน หัวใจของเจิ้นเจียงถึงกับสั่นสะท้าน
เขาตระหนักดีถึงสถานการณ์ในเมืองจงซาน
ทหารทุกประเภทรวมกันแล้วก็มีประมาณสามพันคนเท่านั้น
กองกำลังดังกล่าวต้องเผชิญหน้ากับกบฏโพกผ้าเหลืองสามหมื่นคน ความกดดันช่างมากโขอย่างแท้จริง!
“แม่ทัพเฉิง...”
เจิ้นเจียงหันศีรษะไปมองเฉิงชงด้วยสายตาอ้อนวอน
ด้านข้าง จิวฉองได้ส่งเสียงหัวเราะออกมา
“ข้าจะบอกอะไรให้ท่านเจิ้นเจียง! ในเมื่อเจ้านายของข้าสัญญาว่าจะช่วยจงซาน เขาจะไม่มีวันผิดสัญญา!”
“กบฏโพกผ้าเหลืองเพียงสามหมื่นคนนั้นแทบไม่ใช่ปัญหาของนายข้าเลย!
“เพียงศึกเดียวเขาก็เอาชนะได้ทั้งหมด!”
เฉิงชงหรี่ตาลงและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะออกคำสั่ง
“แบ่งกองกำลัง!”
“หยวนฟู่ออกคำสั่งให้ทหารราบทั้งหมดตีฆ้องและกลองไปตามถนน สะบัดธง ดึงดูดพวกกบฏโพกผ้าเหลืองให้ได้มากที่สุด!”
“เฟิ่งเซียน เวิ่นหยวน พวกท่านนำทหารม้าเพลิงอัสนีไปทางทิศใต้ของค่ายกบฏโพกผ้าเหลือง และเข้าโจมตีพวกมันจากด้านหลัง!”
“ข้าอยากให้พวกกบฏโพกผ้าเหลืองรู้สึกถึงความกลัวจากการถูกม้าเหล็กเหยียบย่ำ!”