ตอนที่แล้วKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 190 [บันทึกของลาฟเชียร์] ขอร้อง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 192 เริ่มการเคลื่อนไหว

King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 191 สามเดือนต่อมา


ตอนที่ 191 สามเดือนต่อมา

3 เดือนต่อมา

ณ ประเทศของภูติ

ตูม!!!!

เสียงร่างสัตว์อสูรซาลาแมนเดอร์อายุร้อยปีล้มลงไปกับพื้น ขนาดตัวของมันใหญ่ราวบ้านขนาดใหญ่หนึ่งหลัง พื้นที่โดยรอบตัวของผมเองก็เต็มไปด้วยร่องรอยการต่อสู้ระหว่างผมกลับมัน ฮูว… สู้กับสัตว์อสูร 1,000 ปี โดยไม่ได้ใช้ร่างจำแลงอสูรมันยากกว่าที่คิดเอาไว้จริงๆ

เจ้าสัตว์อสูรที่กำลังล้มลงอยู่ด้านหน้าของผมตอนนี้ก็คือซาลาแมนเดอร์ 1,000 ปี  ที่ตามหามานานหลายวันแล้ว ซึ่งตามจริงมันก็คงอายุมากกว่าพันปีแล้วละเพราะจุดที่ผมสัมผัสได้มันมีตั้งเกือบสองหมื่นจุดในคริสตันกลางหัวของมัน อันที่จริงถ้าแปลงเป็นร่างอสูรเข้าสู้ก็คงจัดการได้ไม่ยากแต่ทว่าครั้งนี้ผมอยากทดสอบขีดจำกัดของร่างกายก็เลยสู้แบบนี้

“เอาอีกแล้วเหรอ~ วันนี้ฉันแพ้อีกแล้วเหรอเนี่ย ชิ!

ระหว่างที่กำลังมองสัตว์อสูรด้านหน้าเสียงของเฮสเฟียร์ก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของผม พอหันกลับไปก็เจอเธอกำลังถือถุงที่เต็มไปด้วยคริสตันประมาณ 20 - - 30 ชิ้น อยู่ในมือ

“แน่นอนอยู่แล้วอย่างเธอไม่มีวันชนะข้าคนนี้ได้หรอก วันนี้ก็อย่าลืมเดินกลับบ้านพร้อมกับพูดว่า [ท่านดรารอน์เก่งที่สุด] แบบอย่างเคยด้วยละ”

ผมกับเธอตั้งกฎเอาไว้กับการล่า โดยใครแพ้ต้องพูดชมคนชนะจนกว่าจะเดินถึงบ้านซึ่งตั้งแต่ที่เริ่มมาเธอก็ยังไม่เคยชนะเลยสักครั้ง

“สักวัน… มันต้องมีสักวันสิ!”

แล้วมันวันไหนกันละ เห็นเธอพูดแบบนี้มาตั้งแต่วันแรกที่แพ้แล้วไม่ใช่หรือไง

ผ่านไปสักพักผมก็พูดออกไปต่อ โดยระหว่างที่กำลังพูดก็เงยหน้ามองท้องฟ้าไปด้วยเพราะมันเริ่มเย็นมากแล้ว “ถ้างั้นพวกเรากลับบ้านดีกว่าตอนนี้ก็ลืมมืดแล้วด้วย”

อื้ม! เห็นวันนี้ลาฟเชียร์บอกเอาไว้ว่ามือเย็นวันนี้เป็นเนื้อย่างสูตรเด็ดของเธอด้วย”

“ไปรู้มาได้ยังไง?”

ปกติแล้วเรื่องอาหารลาฟเชียร์จะจริงจังมาก เพราะเธอบอกเอาไว้ว่า [ลุ้นว่าจะได้กินอะไรมันสนุกกว่า] ผมเองก็เห็นด้วยกับความคิดแบบนี้เลยไม่ได้คัดค้านอะไร ก็มันสนุกกว่าจริงๆ ช่วยเพิ่มสีสันชีวิตที่น่าเบื่อตอนนี้ได้เยอะเลย

หึหึหึ! ฉันไปถามพวกภูติที่เป็นคนรับใช้มานะสิ”

เฮสเฟียร์กอดอกอย่างมันใจระหว่างตอบ

ออ! เข้าใจแล้ว

พวกภูติที่เข้ามาทำงานเมื่อสามเดือนก่อนตอนแรกก็คิดอยู่จะทำยังไงกับพวกเธอดี แต่พอกลับไปถึงบ้านก็รู้ว่าลาฟเชียร์จ้างทำงานไปแล้ว ผมก็เลยหมดห่วงและปล่อยให้มันดำเนินต่อไปจนมาถึงวันนี้ก็ยังทำงานกันอยู่

แต่ถึงจะผ่านมาสามเดือนแล้วก็ตามพวกนั้นยังไม่คุยกับผมสักคำ พอถามอะไรไปก็ได้รับคำตอบ “…” เป็นใบหน้านิ่งเชย บางครั้งก็วิ่งแอบแล้วส่งสายตาอยากคุยออกมาแต่ไม่กล้าเข้าคุย

ถึงมันจะเป็นแบบนั้นผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะพวกเธอเจออะไรมาบ้างก็รู้อยู่แก่ใจ ถ้าเป็นคนใช้คนอื่นผมไล่ออกไปแล้วเพราะค่าแรงก็ให้ตั้งสองเท่าของแรงงานธรรมดาด้วย เฮ้อ~  ลาฟเชียร์ไปเอาเงินมากมายมาจากไหนกันนะ???

จากนั้นเมื่อคุยกับเฮาเฟียร์จบผมก็เริ่มจัดการกับศพของสัตว์อสูรด้านหน้าทันทีเพื่อเอาคริสตันเวทย์ออก แต่ระหว่างที่กำลังเอาออกมาอยู่นั้นก็มีเสียงฝีเท้าของคนกำลังวิ่งเข้ามาด้วยความเร็ว

“นั่นมันทหารที่ราชินีทิ้งเอาไว้ มาทำอะไร???”

เฮสเฟียร์พรึมพรำเสียงแปลกใจ ระหว่างกำลังมองทหารคนนั้น

เธอถามออกมาแบบนั้นคือรอเอาคำตอบจากฉันหรือไง ไม่เห็นเหรอกว่านั่นเป็นคนของเธอ อยากจะพูดใส่เฮสเฟียร์แบบนี้อยู่หรอกแต่อย่าดีกว่ามันเสียเวลาเปล่า แต่ท่าทางของทหารที่กำลังวิ่งด้วยความเร็วและหน้าตาตื่นแบบนั้นคงเป็นเรื่องที่ต้องรีบรายงานนั่นแหละ ถ้าให้เดาก็น่าจะเป็นเรื่องของราชินีภูติที่ชนะสงคราม หรือไม่ก็คำสั่งเร่งด่วนอะไรถึงเฮสเฟียร์อีก

อย่าสนเลยดีกว่า!  เมื่อคิดได้ผมก็เริ่มทำตามภารกิจของตัวเองต่อไป

ทางด้านของทหารเมื่อวิ่งมาถึงด้านหน้าของลาฟเชียร์ก็หยุดลงแล้วเริ่มพูดว่า “แย่แล้วครับท่านเฮสเฟียร์!!!”

“อย่าบอกนะว่ารหัส 00”

ใช่ครับ!

“ดรารอน์วันนี้ฉันมีเรื่องจะบอกเกี่ยวกับคำสั่งของราชินะ-”

“อย่ามาเล่นละคร! คิดว่าฉันไม่รู้เกี่ยวกับรหัสลับของพวกเธอหรือไง บอกมาได้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับลาฟเชียร์”

ผมหยุดทันทีเมื่อได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ รหัส 00 ที่เฮสเฟียร์คุยกับทหารเมื่อครู่

เมื่อสามเดือนก่อนกลางดึกผมแอบฟังพวกนี้ประชุมกันแต่ได้ยินเพียงช่วงท้ายเท่านั้นที่มันเกี่ยวกับลาฟเชียร์ ถึงจะสงสัยว่าทำไม่ต้องมีรหัสแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรกลับไปเพราะผมเข้าใจดีว่าพวกนี้ไม่ทำอะไรลาฟเชียร์หรอก แล้วตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้ยินคำนี้อีกเลย

แต่สถานการณ์ตอนนี้มันต่างออกไป บวกกับทหารที่พูดว่า[แย่แล้ว]ด้วยน้ำเสียงตื่นแบบนั้นมันไม่ปกติแน่

เมื่อผมถามไปเพราะรู้ทันรหัสของลับเฮสเฟียร์ก็มีท่าทางเป็นกังวล ทางทหารเองก็เช่นกันกำลังก้มหน้าหลบตาผมเอาไว้อยู่ ชักไม่ดีแล้ว

“รีบบอกมา ถ้ายังเสียเวลาแบบนี้ข้าจะกลับไปหาเธอเองแล้วดูว่ามันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น!”

เริ่มรู้สึกว่าเรื่องนี้มันจะกลายเป็นปัญหาสะแล้วสิ!

“ระ เรื่องนั้นฉันคิดว่ามันออกที่จะ-”

“ข้าไม่ได้ต้องการคำตอบแบบนี้ ที่ต้องการรู้ก็คือมันเกิดอะไรขึ้นกลัลาฟเชียร์ต่างหากรีบบอกมา!!!”

ผมตะโกนเสียงแข็งออกไปเพราะคำตอบที่เฮาเฟียร์กำลังบอกออกมาเมื่อครู่มันไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ สิ่งที่ต้องการตอนนี้ก็คือมันเกิดอะไรขึ้นกับลาฟเชียร์ต่างหาก

ให้ตายสิ! เมื่อกี้ก็นึกว่าเป็นเรื่องของราชินีภูติเลยไม่สนใจ

หลังจากที่ผมเสียงแข็งใส่ไปไม่นาน เฮสเฟียร์ก็หันไปทางทหารด้านหลัง

“พูดออกมาเลย”

“ท่านเฮสเฟียร์ถ้าทำแบบนั้นมันจะ…”

ถึงแม้ว่าทหารจะมีท่าทางห้ามออกมาแต่ก็ต้องหยุดลงเมื่อสบตากับผม เพราะอารมณ์ของผมตอนนี้พูดตามตรงเริ่มโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลาฟเชียร์พวกทหารที่ป้องกันบ้านอยู่ผมจะฆ่าพวกมันให้หมดเลย เชื่อว่าความรู้สึกของผมตอนนี้มันต้องแสดงออกไปทางใบหน้าด้วยเช่นกันก็เลยทำให้ทหารมีท่าทางเป็นกังวลแบบนั้น

จากนั้นทหารก็เริ่มมาว่า….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด