ตอนที่แล้วKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 149 รอพบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปKing X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 151 ถอนหมั้น

King X King เมื่อได้เกิดเป็น องค์รัชทายาทลำดับสุดท้าย ตอนที่ 150 คำยืนยัน


" เรื่องจริงครับ! "

" นี่เจ้ารู็ตัวไหมว่าทำเรื่องอะไรลงไป ไปอยู่ประเทศภูติแบบนั้นรู้ไหมมันจะสร้างความเสียหายให้ประเทศนี้ขนาดไหน แล้วตัวข้าที่เป็นพ่อของเจ้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนถ้าพวกขุนนางภายในประเทศรู้เรื่องนี้กัน ห่ะ!! "

หลังจากที่ผมตอบยืนยันไปดิวนีสันก็รั่วคำพูดใส่ผมด้วยหน้าตาที่ใส่อารมณ์มาแบบเต็มที่ ตั้งแต่เกิดมาพึ่งเคยเห็นอาการของมันเป็นขนาดนั้นนี่แหละ ไม่คิดเลยว่าคนที่ดูเหมือนใจเย็นอย่างหมอนี้จะแสดงท่าทางแบบนี้ออกมา เพราะอย่างนี้สินะพวกขุนนางเลยไม่มีใครอยู่ในห้องโถงเลย เพราะมันรู้วว่าตัวเองต้องสติแตกแบบนี้หลังจากที่ได้ฟังคำยืนยันจากผม

ขนาดพวกองครักษ์ทั้งสามคนที่ยืนอยู่ก็ยังพากันหันไปมองเลย แปลว่าที่ดิวนีสันต์มันเป็นแบบนี้ไม่ใช่เรื่องปกติจริงๆ ...ไม่สิ! ใครมันจะไปคิดว่าเป็นเรื่องปกติกันละเมื่อได้รู้เรื่องแบบนั้นก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา แต่ว่าตอนนี้มันกำลังเข้าใจอะไรผิดอยู่

" ท่านพ่อท่านกำลังพุดอะไร "

ผมเริ่มถาม

" นี่เจ้ายังไม่เข้าใจอีกเหรอว่าการทำแบบนี้มะ- "

" ข-ข้าก็ถึงได้ถามไง! ว่าตอนนี้ท่านกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ เสียหายกับประเทศ? ขุนนางรู้? แล้วไอเรื่องพวกนั้นมันมาเกี่ยวข้องอะไรกับข้าด้วย มันไม่ใช่ปัญหาของข้าเลย แล้วอีกอย่าง ท่านคงยังไม่ได้ลืมเรื่องที่ข้าบอกเอาไว้เมื่อตอนอายุ 3 ขวบ หรอกใช่ไหมที่ข้าไม่ต้องการตำแหน่งราชาของประเทศนี้ต่อจากท่าน "

ตามจริงก็ไม่อยากพูดเรื่องนั้นตอนนี้หรอก แต่ยังไงเรื่องมันก็มาขนาดนนี้แล้วยังไงก็ขอพูดเอาไว้ให้มันกระจ่างหน่อยแล้วกัน ว่าคำพูดของผมเมื่อหลายปีก่อนในตอนนี้มันก็ยังมีผลอยู่ เพราะบางครั้งมันอาจจะคิดไปเองว่าตอนนั้นผมเป็นเพียงแค่เด็กเลยพูดออกมาโดยไม่รู้อะไร มันก็เลยไม่ได้จริงจังในการเลือกคนสืบทอดจากหมายเลข 1- 4 เท่าไหร่นัก และอีกอย่าง ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วก็น่าจะเล่าเรื่องของเฮาร์แมนที่เราไปเจอมาที่ประเทศภูติสักหน่อยว่ามันเป็นยังไง มันจะได้เข้าใจว่าทำไมผมต้องเดินทางไปฝึกที่ประเทศภูติ

เมื่อตัดสินใจได้

" ท่านพ่อองครักษ์ทั้งสี่ของท่่าน ช่วยให้ออกไปได้ไหม? "

ผมเริ่มพูดต่อแต่ครั้งนี้พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและมองเข้าไปในดวงตาทั้งสองของดิวนีสันต์ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอาการไม่พอใจอยู่ แต่หลังจากที่ผมแสดงท่าทางออกไปให้มันเห็นว่าเรื่องที่ผมกำลังจะพูดต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงจังมันก็หันไปทางองครักษ์ แล้วพูดว่า " พวกเจ้าออกไปกันก่อน "

" องค์ราชาเรื่องแบบ- "

" ข-ข้าบอกให้ออกก็ออกไปสิ! "

ขณะที่องครักษ์หนึ่คนกำลังจะพูดขัดออกมาดิวนีสันต์ก็ขึ้นเสียงใส่ด้วยน้ำเสียงแข็ง จากนั้นพวกทหารองครักษ์ทั้งสี่คนก็พากันเดินออกไปจากห้องโถงทันทีตามคำสั่งของดิวนีสันต์แบบไม่มีใครขัดอะไรออกมา เพราะพวกนี้เองก็น่าจะรู้ดีว่าการขัดคำสั่งของดิวนีสันต์มันจะเป็นยังไง และอีกอย่าง ผมที่เป็นลูกของมันก็คงไม่ฆ่ามันทิ้งหรอกเพราะพวกองครักษ์น่าจะรู้เรื่องที่ผมไม่อยากเป็นราชาเหมือนกันเพราะตอนพูดเมื่อกี้นี้กับดิวนีสันต์ไมมีใครแสดงท่าทางแปลกใจหรือตกใจอะไรออกมาเลย

ถึงแม้ว่าเรื่องที่ผมกำลัจะคุยกับดิวนีสันต์มันจะไม่ได้เป็นความลับอะไรขนาดนั้น เพราะอีกไม่นานเรื่องนี้มันก็ต้องเป็นข่าวลือในหมู่ผู้คนทั่วทวีปแน่ แต่มทว่าก่อนจะถึงเวลานั้นผมก็อยากเก็บเอาไว้เป็นความลับให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ก็เลยต้องให้พวกองครักษ์ทั้งสี่คนของดิวนีสันต์ออกไปกันแบบนั้น

หลังจากที่พวกองครักษ์เดินออกไป

" มีเรื่องอะไร? "

ดิวนีสันตก็เริ่มถามมาทันที จากนั้นผมก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดกับเรื่องที่เจอกับเฮาร์แมนและข้ออเสนอของราชิณีภูติที่ให้ผมเดินทางไปประเทศทันที โดยระหว่างที่ฟังดิวนีสันต์มันก็ตั้งใจฟังมากไม่ถามอะไรออกมาเลยสักคำได้แต่นั่งพยักหน้าตามที่ผมพูดไปตลอด และพอให้ออกมาความคิดเห็นอะไรมันก็พูดออกมาว่า " เล่าให้ทั้งหมดก่อน " เพราแบบนี้ตลอดระยะเวลาหลายนาทีผมก็พูดอยู่คนเดียวถึงเรื่องที่ได้เจอมา

" จบแล้วครับ นี่เป็นเรื่องที่ข้าสามารถบอกกับท่านได้ในตอนนี้ เพราะเรื่องหลังจากนี้ถ้าข้าไม่แน่ใจก่อนก็ไม่สามารถบอกอะไรท่านได้ "

" แล้วสิ่งที่จะทำให้เจ้าแน่ใจได้ก็คือต้องไปเอาข้อมูลจากราชิณีพูดในอีกไม่กี่วันนับจากนี้สินะ "

" ครับ "

เข้าใจได้ง่ายแบบนี้มันก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องอธิบายอะไรให้มั่นยุ่งยาาก เพราะยังไงขืนเล่าเรื่องมากไปกว่านี้มันจะกลายเป็นพูดเกินจริงไป เพราะเรื่องที่ผมได้บอกกับดิวนีสันต์ไปมันก็มากกว่า 80% ที่ผมรู้ไปแล้ว ส่วนเรื่องที่เหลือย่างเรื่องคำพูดของเฮาร์แมนก่อนที่มันจะเดินทางกลับผมยังไม่ได้บอกไป เช่นเรื่องสามมัตว์เทพทรยศหรืิอเรื่องของวันเก็บเกี่ยว! เพราะเรืองพวกนี้ผมยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นเรื่องจริงมากน้อยขนาดไหน แต่ดิวนีสันต์รู้แค่นี้มันก็เกินพอแล้วละ

ดูจากสีหน้าของมันที่แสดงออกมาตอนนี้ก็เข้าใจได้เลยว่ามันกำลังคิดหนักออยู่ หลังจากที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดไป แต่เป็นใครก็ต้องคิดหนักทั้งนั้นแหละเรื่องที่ผมบอกมันไปเอาตามตรงมันเป็นเรื่องที่แปลกใหม่มาก ทั้งเรื่องเฮาร์แมนที่น่าจะศูนย์พันธ์ไปแล้ว และพังเวทย์ของมันที่สามารถจัดการผมได้อยู่หมัด เป็นใครก็ต้องหนักใจ เหอะๆ

ระหว่างนั้น

" ท่านมีเรื่องจะคุยกับข้าอีกไหมท่านพ่อ? "

ผมก็เริ่มถามต่อถึงเรื่องที่มันได้เรียกผมมาที่นี่ แต่หลังจากถามไปดิวนีสันต์ก็ส่ายหน้าไปมาแบบช้าๆ พร้อมกับพูดออกมาว่า " หลังจากที่ได้ฟังเรื่องที่เจ้าเล่ามาข้าก็ไม่มีเรื่องอะไรจะคุยแล้ว "

." ครับ! ถ้าท่านหมดเรื่องคุยแล้วต่อไปมันก็เป็นเรื่องที่ข้าต้องการจะคุยกับท่านก็แล้วกัน!!! "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด