ตอนที่ 29 มุ่งหน้าสู่จงซาน
ตอนที่ 29 มุ่งหน้าสู่จงซาน
เฉิงชงยิ้มและพยักหน้า
เขารู้สึกพึงพอใจ
จนถึงตอนนี้ แม่ทัพที่โดดเด่นที่สุดสามคนในปิ้งโจวได้เข้าร่วมกับเขาหมดแล้ว!
ลิโป้เป็นนักรบที่ไม่มีใครเทียบได้
เตียวเลี้ยวเป็นแม่ทัพมากพรสวรรค์
โกซุ่นเป็นอัจฉริยะด้านการฝึกทหาร
ทั้งสามมีลำดับความสำคัญของตนเองและส่งเสริมซึ่งกันและกัน!
......
พริบตาเดียวก็ผ่านไปหนึ่งเดือน
โกซุ่นลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ และพาครอบครัวย้ายไปยังจงหลิง
เฉิงชงได้ส่งจดหมายลับไปถึงกุยแกแล้ว
ให้เขาระดมทรัพยากรทั้งหมดในจงหลิงเพื่อสนับสนุนโกซุ่น
ที่นั่นจะทำให้โกซุ่นใช้ความสามารถและทฤษฎีต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เขาจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อสร้างยอดนักรบในการเขย่าปฐพี!
กองพันม้าเพลิงอัสนี ภายใต้การฝึกของลิโป้และเตียวเลี้ยว พวกเขาเชี่ยวชาญค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้าและพลังโจมตีเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
หน่วยเทพเกาทัณฑ์ที่เริ่มต้นสร้างมีจิวฉองควบคุม ซึ่งก็ประสบความสำเร็จในระดับเบื้องต้น
พวกเขาพอจะเข้าใจทฤษฎีของค่ายกลปีกกระเรียนขั้นเทพเจ้า
ทหารราบสองพัน ทหารม้าสองพัน และพลธนูหนึ่งพัน
อาจกล่าวได้ว่าความแข็งแกร่งของเฉิงชงขยายไปสู่ระดับที่น่าสะพรึงอย่างยิ่ง
มีบุคคลพิเศษดูแลในทุก ๆ ด้าน และเฉิงชงก็มีความสุขในการพักผ่อน
ภายใต้การบริการของตู้ซือ เขาได้เดินไปตามตรอกซอกซอยของถนนในจินหยางทั้งวัน
“วันนี้วันอะไร?”
เฉิงชงจิบชาและเอ่ยถามเบา ๆ
ตู้ซือยิ้มพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“นายท่าน วันนี้คือวันที่ยี่สิบเดือนเมษายน”
เฉิงชงพยักหน้า “สถานการณ์ของกบฏโพกผ้าเหลืองตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
แม้ว่าตู้ซือจะเป็นหญิงสามัญชน แต่นางก็มีความฉลาด
ดังนั้นเฉิงชงจึงมอบงานข่าวกรองและให้นางฝึกวิเคราะห์สถานการณ์ไปในตัว
ตู้ซือก้มศีรษะและกล่าวอย่างไพเราะ
“เรียนคุณชาย ราชสำนักแต่งตั้งโลติดแม่ทัพแห่งจงหลางเป็นผู้บัญชาการเพื่อเข้าสู่จี้โจวในการรบกับเตียวก๊ก ผู้นำของกบฏโพกผ้าเหลือง และตอนนี้แม่ทัพโลติดกำลังอยู่ในทางตัน!”
“ผู้บัญชาการกบฏโพกผ้าเหลืองจางเมิ่นเฉิงยึดหนานหยางได้และประหารนายอำเภอทิ้ง”
“จูฮีและฮองฮูสงพ่ายแพ้กบฏโพกผ้าเหลืองจนต้องถอยไปตั้งหลัก”
“โหยวโจว จี้โจว อวี้โจว หยันโจว ชิงโจว สถานการณ์ตอนนี้อึดอัดอย่างมาก กองทัพของกบฏโพกผ้าเหลืองรุกรานราวกับน้ำป่า ทางราชสำนักไม่สามารถทำอะไรได้เลย”
“มีเพียงในปิ้งโจวของเราที่พวกกบฏโพกผ้าเหลืองพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ตู้ซือมองไปยังเฉิงชงด้วยสายตาชื่นชม
นางทราบดีว่าเหตุใดในแคว้นปิ้งโจวถึงกำจัดความวุ่นวายนี้ได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่เพราะกองกำลังโพกผ้าเหลืองมีจำนวนน้อย หรือไม่เก่งเหมือนที่อื่น
แต่เพราะที่นี่มีคุณชายของนางอยู่!
เฉิงชงพยักหน้าและยิ้มเบา ๆ
ยกเว้นปิ้งโจว สถานที่อื่นยังคงเป็นไปตามบริบททางประวัติศาสตร์
กองทัพของราชสำนักถอยหนีอย่างต่อเนื่อง และราชวงศ์ฮั่นใกล้จะล่มสลาย
นี่คือสิ่งที่เฉิงชงอยากเห็น
เพราะมีเพียงจักรพรรดิที่ต้องเห็นความน่ากลัวของกบฏโพกผ้าเหลืองด้วยตัวเองเท่านั้น เขาถึงจะให้ความสนใจมากขึ้น
และจะให้ความสนใจต่อเฉิงชงที่เป็นคนธรรมดา แต่มีส่วนสนับสนุนอย่างมากในการปราบกบฏโพกผ้าเหลือง
นี่เป็นวิธีเดียวเขาจะผงาดขึ้นได้!
“ไปเถอะ บอกให้เฟิ่งเซียนและเวิ่นหยวนเตรียมตัวทำสงคราม”
เฉิงชงกล่าวเบา ๆ
ตู้ซือเผยแววตาประหลาดใจ
“คุณชาย ท่านหมายว่าจะออกไปทำสงครามงั้นหรือ?”
เฉิงชงพยักหน้า
มันใกล้จะถึงเวลาแล้ว
แม้ว่ากบฏโพกผ้าเหลืองจะทรงพลัง แต่อีกไม่นานรัศมีของพวกเขาก็จะถูกชนชั้นสูงจากทุกหัวมุมร่วมมือกันปราบ
ในไม่ช้ากองทัพฮั่นที่นำโดยโลติดจะเข้าต่อสู้กับกบฏโพกผ้าเหลืองที่นำโดยเตียวก๊ก
หากเฉิงชงไม่ออกเดินทางตอนนี้ เช่นนั้นจะตามการต่อสู้หลักไม่ทัน!
การต่อสู้ทุกครั้งหมายถึงแต้มสงครามมากมาย
แน่นอนว่าเขาจะพลาดไม่ได้
คำสั่งถูกกระจายออกไป
ลิโป้ เตียวเลี้ยว และจิวฉองต่างก็พากันตื่นเต้น
หลังจากการฝึกทหารมาตลอดหนึ่งเดือน
พวกเขาก็ตั้งตารอสงครามที่จะมาถึง
เพียงไม่นานก็รวบรวมกำลังพลและพร้อมออกเดินทาง
เฉิงชงบอกลาเต๊งหงวน จากนั้นได้ยกทัพไปยังจี้โจว!
......
จี้โจว(กิจิ๋ว)
รัฐจงซาน
ตระกูลเจิ้น
หัวหน้าตระกูลเจิ้นอี้กำลังเดินไปมาอย่างกระสับกระส่าย
“เป็นแบบนี้ได้อย่างไร?”
“ข้าเพิ่งได้ยินมาว่ากบฏโพกผ้าเหลืองยึดหลิงชิวและก๋วงช่างได้แล้ว และตอนนี้กำลังมุ่งมาที่จงซานของข้า!”
“มีทหารรักษาการณ์เพียงสองพันคน และถึงแม้จะมีทหารของตระกูลเจิ้นร่วมด้วย มากที่สุดก็แค่สามพันเท่านั้น!”
“ข้าจะหยุดกบฏโพกผ้าเหลืองที่โหดเหี้ยมเหล่านี้ได้อย่างไร!”
ตระกูลเจิ้นเป็นตระกูลที่มั่งคั่งและมีชื่อเสียงกว้างขวาง ความร่ำรวยของพวกเขานับว่าสูงอย่างมาก
เมื่อกบฏโพกผ้าเหลืองเหล่านี้มุ่งหน้ามายังจงซาน พวกเขาจะต้องเล็งมาที่ตระกูลเจิ้นแน่นอน
เมื่อเมืองถูกยึด ตระกูลเจิ้นจะต้องแบกรับภาระอันหนึ่งอึ้งและถูกปล้นอย่างเลี่ยงไม่ได้!
ฮูหยินเจิ้นถอนหายใจอย่างหนักพร้อมใบหน้าที่มืดมนเล็กน้อย
นางได้ยินข่าวจากเมืองอื่น
กบฏโพกผ้าเหลืองนั้นโหดเหี้ยมอย่างมาก พวกเขาไร้ซึ่งความปรานีเมื่อเจอคนที่มั่งคั่ง
ยิ่งตระกูลไหนร่ำรวยมากเพียงใด ยิ่งตายเร็วมากขึ้นเท่านั้น!
“ท่านพ่อ!”
เจิ้นเหยียนบุตรชายคนโตของตระกูลเจิ้นลุกขึ้นยืนพร้อมใบหน้าที่หนักแน่น
“ข้าได้ยินมาว่าโลติดแม่ทัพแห่งจงหลางนำทหารกว่าห้าหมื่นคนมาถึงก๋วงจงแล้ว!”
“ท่านพ่อรีบส่งคนไปกวงจงเพื่อขอความช่วยเหลือเถอะ!”
“โลติดและตระกูลเจิ้นของพวกเรามีสัมพันธ์อันดีต่อกันมานาน หากทราบว่าตระกูลเจิ้นมีปัญหา เขาจะต้องส่งคนมาช่วยแน่!”
เจิ้นอี้ยิ้มอย่างขมขื่นก่อนจะสะบัดมือ
“เหยียนเอ๋อ ข้าก็คิดวิธีนี้มาก่อนแล้ว”
“แต่เวลานี้แม่ทัพโลติดกำลังเผชิญหน้ากับเตียวก๊กผู้นำกบฏโพกผ้าเหลืองที่มีทหารกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นคน แค่ป้องกันตัวเองยังลำบากเลย!”
“ส่วนตระกูลเจิ้นของพวกเราคงไม่มีใครสามารถให้ความช่วยเหลือได้แล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจิ้นเหยียนทำได้เพียงเผยใบหน้าหดหู่
ปกป้องเมืองก็ไม่ได้ ปกป้องตระกูลก็ไม่ได้ เช่นนั้นคงทำได้แค่รอความตายเพียงอย่างเดียว!
บรรยากาศแห่งความสิ้นหวังปกคลุมในบ้านตระกูลเจิ้น
ทันใดนั้นก็มีเสียงที่คมชัดราวกับนกขมิ้นดังขึ้น
“ท่านพ่อไม่ลองขอความช่วยเหลือจากแคว้นอื่นดูงั้นหรือ?”