ตอนที่ 101 เธอคนนี้เป็นสาวน้อยของเรา
คนที่เป็นผู้ว่าการได้จะเป็นคนโง่เหรอ?
หลังจากได้ยินเย่เทียนปฏิเสธหวังอี้ก็ไม่ได้โกรธ เขาพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้มและแนะนำรองผู้ว่าการให้เย่เทียน “คุณเย่ ฉันขอแนะนำให้รู้จัก เขาชื่อถานเฟยเป็นรองผู้ว่าการอย่ามองว่ารองผู้ว่าการถานอายุน้อย ยังไงแล้วผู้นำเมืองต้องไม่ขาดความสามารถ” หลังพูดจบหวังอี้ก็ไม่ลืมขยิบตาให้ถานเฟย
ความสามารถในการทำงานของถานเฟยดีมากและยังเป็นเด็กมีพรสวรรค์ที่เขาปั้นมากับมือ เขารู้ว่าเย่เทียนเป็นมังกรที่ไม่ยอมอยู่แค่ในสระน้ำแน่นอน ดังนั้นหวังอี้จึงให้ถานเฟยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเย่เทียนไว้ก่อน
บางทีถานเฟยอาจเดินเส้นทางการเมืองได้สะดวกขึ้นแต่มันก็ขึ้นอยู่กับเย่เทียนว่าจะช่วยเขายกระดับอำนาจกับชื่อเสียงหรือเปล่า
ถานเฟยที่ได้รับสายตาจากหวังอี้ก็ก้าวขึ้นไปข้างหน้าทันที เขายื่นมือขวาไปหาเย่เทียน “สวัสดีครับคุณเย่ ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้พบคนมีความสามารถอย่างคุณ”
“สวัสดี” เย่เทียนที่โดนผู้นำเมืองกับรองผู้นำผัดกันประกบด้วยทัศนคติที่ไม่ธรรมดาจึงยื่นมือไปจับมือถานเฟย “ไห่จิงคือบ้านของฉันเหมือนกัน ถ้าต้องการฉันต้องช่วยแน่นอน!”
“ผู้ว่าการหวัง รองผู้ว่าการถาน ผู้อำนวยการเหยียน ผู้อำนวยการจ้าว...ผมคิดว่าพวกคุณน่าจะมีเรื่องสำคัญมากมายที่จะคุยกับเย่เทียน ผมขอเชิญเข้าไปที่สำนักงานหัวหน้าหมู่บ้านที่ต่ำต้อยของผม…”
“ไม่จำเป็น ฉันคิดว่าผู้ว่าการหวังกับพวกเขาคงมีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการต่อ ไว้พบกันใหม่แล้วกัน ฉันไม่ส่งนะ!” เย่เทียนเหลือบมองเย่ขุยที่ดูถูกเหยียดหยามเขาตั้งแต่เด็ก ในเมื่อเย่ขุยอยากเสแสร้งต่อหน้าผู้นำเมืองเขาก็จะขัดขวาง
ผู้ว่าการหวังที่ถูกไล่ไม่ได้โกรธแม้แต่น้อย ยังไงแล้วเป้าหมายการมาเจอกับมหาเทพเย่เทียนที่ทำตัวติดก็สำเร็จแล้ว เขายื่นมือขวาไปหาเย่เทียนอีกครั้ง “ขอบคุณที่คุณเย่เข้าใจ มีหลายอย่างเลยที่ฉันต้องกลับไปจัดการ ไว้พบกันใหม่คุณเย่”
หวังอี้ดึงมือขวากลับแล้วไปนั่งเบาะหลังของรถออดี้
จากนั้นรองผู้ว่าการถานเฟยก็ก้าวไปจับมือเย่เทียน หลังจากพูดคุยอีกไม่กี่คำเขาก็ขึ้นรถอีกคันไป
กรรมการและผู้นำหน่วยงานรัฐบาลที่ยังไม่มีโอกาสสนทนากับเย่เทียนก็เข้ามาจับมือด้วยและจากไป
การกระทำสำคัญกว่าคำพูด
สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญคือเย่เทียนที่จ่ายเงินมหาศาลสร้างประโยชน์ส่วนรวมให้สังคม
เมื่อเย่เทียนเห็นรถหลายคันออกจากหมู่บ้านหยิ่นหลง เขาจึงหันไปมองเซียวหรงด้วยสายตาไม่สบายใจอีกครั้ง
จนกระทั่งเซียวหรงเห็นว่าเขารู้สึกไม่สบายใจเธอจึงกลอกตาให้เขา
เซียวหรงเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ เธอเดินไปที่ด้านข้างของโรลส์-รอยซ์และเคาะหน้าต่างเบาๆ หลังจากหน้าต่างลดลงเซียวหรงก็ทักทายพ่อเย่แม่เย่
“สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า นี่คงเป็นครั้งแรกที่เราพบกัน ฉันชื่อเซียวหรงเป็นผู้จัดการของบริษัทเซียวคุณลุงคุณป้าเรียกฉันว่าหรงหรงก็ได้ ความสัมพันธ์ของฉันกับเย่เทียนคือ...คือ...” ผ่านไปสักพักแต่เธอก็บอกไม่ได้อยู่ดีโดยไม่รู้ว่าทำไม
ความสัมพันธ์ของเธอกับเย่เทียนอธิบายได้ง่ายๆแค่สี่คำ: ไม่ยุติธรรม
พวกเขาเป็นคู่แต่งงานกันแต่ยังไม่เคยนอนเตียงเดียวกันด้วยซ้ำ แล้วนับประสาอะไรกับเรื่องที่คู่รักทำกัน
ก่อนหน้านี้เย่เทียนบอกว่าเขาต้องการหย่ากับเธอ แต่พอเธอฟ้องหย่าสารเลวเย่เทียนดันเปลี่ยนใจไม่เห็นด้วยแล้วยังบอกอีกว่ามีแต่เขาเท่านั้นที่ทิ้งเธอได้
จนเรื่องการหย่ามันล่าช้ามาถึงตอนนี้
คนคำนวนไม่สู้ฟ้าลิขิต
ทั้งเรื่องในงานฉลองวันเกิดของคุณย่าและเรื่องช่วยตระกูลเซียวให้ผ่านวิกฤตครั้งใหญ่ด้วยการลงทุน 500 ล้านหยวนให้บริษัทเซียว...
ความคับข้องใจและความพัวพันเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนยากที่จะจากไปทันที เซียวหรงต้องชั่งน้ำหนักทั้งสองเรื่องนี้ให้ดีก่อน
สิ่งสำคัญที่สุดคือหลังจากเหตุการณ์ต่างๆ ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเย่เทียนก็เปลี่ยนจากดูถูกเหยียดหยามสุดขีดในตอนแรกมาเป็นความรู้สึกสับสนในตอนนี้
ยิ่งเธอรู้จักเขามากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่เข้าใจเขามากขึ้นเท่านั้น ดูเหมือน...เย่เทียนจะไม่ได้ผิวหนาที่ทำได้แค่ขายเครปเหมือนอย่างที่เธอคิดไว้
ในเวลาสั้นๆความรู้สึกของเธอต่อเย่เทียนก็ซับซ้อนจนอธิบายไม่ถูก
แต่พวกเรายังไม่ได้หย่ากัน เธอเป็นภรรยาของเย่เทียนและเป็นลูกสะใภ้ของผู้อาวุโสเย่ทั้งสอง
โดยเฉพาะหลังจากเห็นพ่อเย่แม่เย่แต่งตัวเรียบง่ายและใจดีจนถูกชาวบ้านรังแกจนตาแดง เธอจึงรู้ว่าพวกเขาไม่ใช่จิ้งจอกที่รับมือยาก
พ่อแม่ของเย่เทียนกลับกลายเป็นคนแก่ที่เรียบง่ายและอ่อนแออย่างคาดไม่ถึง
เซียวหรงหยิบนามบัตรจากกระเป๋าของเธอแล้วยื่นให้พ่อเย่ “นี่เป็นนามบัตรของฉัน ถ้าคุณต้องการอะไรสามารถโทรหาฉันได้ทุกเมื่อ”
พ่อเย่ที่มีกลิ่นหอมอยู่ในดูบัตรในมือซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากนั้นก็ยื่นให้ภรรยาดู “แม่หนู นามบัตรของเธอเขียนไว้ว่าผู้จัดการของบริษัทเซียว เธอได้เป็นผู้จัดการบริษัทตั้งแต่อายุยังน้อยแบบนี้คงมีอนาคตไกลแน่นอน หรือว่าเธอจะเป็นเจ้านายของเสี่ยวเทียน? บ้านหลังใหญ่ๆที่เราอยู่นั่นเป็นบ้านของเธอหรือเปล่า? แล้วทำไมเธอต้องรีบมาช่วยเสี่ยวเทียนกับสามีภรรยาแก่ๆอย่างเราด้วย?”
เซียวหรงมองพ่อเย่แม่เย่ที่มีสายตาคาดหวังจากนั้นจึงหันไปมองเย่เทียน อยู่ๆเธอก็นึกอยากเล่นสนุกขึ้นมาเธอจึงจงใจลดเสียงลงและพยักหน้าให้คนชราทั้งสอง “เฮ้อ คุณลุงคุณป้าเพึ่งรู้สินะ เย่เทียนเพิ่งเรียนจบมหาลัยปีนี้ทุกอย่างจึงยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ถ้าคนอื่นรู้ว่าเขาพึ่งพาผู้หญิงเกรงว่าเขาคงทำได้แต่ก้มหน้าแน่ แต่พวกคุณไม่ต้องห่วงเลย ฉันจะพยายามช่วยเขาอยู่เบื้องหลังเอง”
หลังจากได้ยินแบบนั้นพ่อเย่แม่เย่ก็รีบมองหา‘แฟน’ของเซียวหรงซึ่งเป็นลูกชายไร้ความสามารถของพวกเขา
พ่อเย่มองผ่านกระจกรถตรงและส่งสายตาไม่พอใจให้เย่เทียน เขาหันมาพูดกับเซียวหรงอย่างนุ่มนวล “สาวน้อย ถึงเราจะไม่มีความรู้เหมือนเสี่ยวเทียนแต่หนูไม่ต้องห่วงนะเพราะหนูมีลุงกับป้าสนับสนุนอยู่ ถ้าลูกชายสารเลวนั่นทำให้หนูเสียใจแม้แต่นิดเดียว ตาแก่คนนี้จะไปทุบตีมันให้ตายเอง!”