ตอนที่ 100 นายกเทศมนตรีช็อค
ท่ามกลางเสียงประทัด แมคลาเรนพี1สีเขียวก็ได้นำทางเข้ามาท่ามกลางฝูงชนชาวบ้าน
คนที่ลงมาจากแมคลาเรนพี1สีเขียวคือผู้จัดการของบริษัทเซียวเซียวหรง
ตามมาด้วยชายวัยกลางคนที่ลงมาจากด้านหลังของรถออดี้สีดำ ใบหน้าปรากฎอยู่บนทีวีทุกวัน เย่ขุยและหม่าเหวินไฉที่เป็นผู้ปฏิบัติงานระดับรากหญ้าตกใจอ้าปากค้างจนคางแทบแตะพื้น
จากนั้นรถยนต์คันที่สามคันที่สี่คันที่ห้าก็มาถึงและตามมาด้วยหัวหน้าหน่วยงานสำคัญต่างๆ
คนที่ลงมาจากรถคันสุดท้ายคือพ่อบ้านอากวง เขาขับรถโรลส์รอยซ์ของชุมชนที่ให้ไว้ผู้อยู่อาศัยในชุมชนมา นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขามาหมู่บ้านหยิ่นหลงเพื่อรับพ่อแม่ของเจ้านายเย่กลับวิลล่าA1
ในอดีตเขาได้ทำผิดพลาดไปแต่จากนี้ไม่ว่าพ่อเย่กับแม่เย่ไปไหนเขาจะส่งคนตามไปด้วย
“ผู้ว่าการเย่? ทำไมพวกคุณถึงมาที่นี่ได้?” ในเวลานี้เย่ขุยที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านหยิ่นหลงมานานกว่า 20 ปีได้เห็นแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ
โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นผู้ว่าการเย่เหนียนและผู้ว่าการหวังอี้ที่ออกมาจากรถออดี้ เขากลัวว่าเรื่องในวันนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่
หรือว่าผู้ว่าการหวังอี้ที่มันจะยุ่งอยู่กับการเมืองก็มาเพราะเย่เทียนด้วย?
เกิดอะไรขึ้นกับเย่เทียนกันแน่ เขาหน้าใหญ่ถึงขั้นให้ผู้ว่าการหวังมาที่หมู่บ้านหยิ่นหลงได้เลยเหรอ?
ต่อให้รวยเขาก็ควรเป็นแค่นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสิ เขาไปเจอกับผู้ว่าการหวังตั้งแต่เมื่อไหร่
ด้วยความสัตย์จริง แม้แต่เขาที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านหยิ่นหลงมา 20 ปีก็ยังเห็นผู้ว่าการหวังจากข่าวในทีวีเท่านั้น เขาไม่ได้มีคุณสมบัติมากพอที่จะได้ใกล้ชิดกับผู้ว่าการหวังเหมือนในตอนนี้..
หม่าเหวินไฉมองเย่ขุยที่ตกใจกลัวอยู่ข้างหลัง ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะไปทางไหนดี พอมองไปรอบๆเหงื่อของเขาก็เริ่มไหลออกมา แม้แต่มือและขาต่างก็สั่นโดยไม่รู้ตัว
เขาเคยเจอผู้ว่าการหวังมาก่อน แต่ตอนนั้นพวกเขาอยู่ห่างกันมากจนเขาไม่มีโอกาสได้เข้าไปแนะนำตัว
เนื่องจากเย่ขุยจำผู้ว่าหวังอี้จากทางทีวีได้ เขาที่เป็นแค่หัวหน้าหมู่บ้านๆจะกล้าผิดใจกับผู้ว่าการหวังอี้ได้ยังไง?
เย่ขุยก้มหน้าเดินตามหลังผู้ว่าการโดยไม่กล้าเดินนำขึ้นอีก คนฉลาดมักจะไม่กล้าพูด
เซียวหรงมองผู้คนที่มีสีหน้าแตกต่างกัน เมื่อเธอมองเย่เทียนก็พบว่าเขากำลังมองเธออยู่ เธอไอด้วยความเขินและเริ่มแนะนำเย่เทียนให้ผู้ว่าการหวังอี้ “ผู้ว่าการหวัง นี่คือคุณเย่เทียนที่นำที่ดินในเขตพัฒนาภาคเหนือไปสร้างศูนย์กีฬาโดยไม่หวังกำไร คุณเย่เทียนเป็นผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมแท้จริงของบริษัทต้าเฟิงและเขาเป็นผู้ชนะในการประมูลที่ดิน 200,000 เฮกตาร์ในราคาสูงเสียดฟ้าก่อนหน้านี้ ทำไมฉันถึงไม่ได้สิบอันดับเยาวชนของเมืองบ้างนะ น่าอายจริงๆ”
จากนั้นเธอก็แนะนำผู้ว่าการหวังอี้ให้เย่เทียน “เย่เทียน นี่คือผู้ว่าการของเมืองไห่จิง ผู้ว่าการหวังใช้เวลาว่างจากตารางของเขามาที่นี่เพราะที่ดินในเขตพัฒนาภาคเหนือของคุณจะถูกใช้เพื่อสร้างศูนย์กีฬาไม่แสวงหากำไร”
หนึ่งชั่วโมงก่อนผู้ว่าการหวังโทรมาหาเธอที่สำนักงานของบริษัทเซียว เธอจึงบอกรายละเอียดเกี่ยวกับการสร้างศูนย์กีฬาไม่แสวงหากำไรในเขตพัฒนาภาคเหนือทันที
นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
เพียงเริ่มต้นในขั้นแรกผู้ว่าการก็โทรมาหาเธอและยังให้เธอจะได้รับรางวัลตำแหน่งสิบอันดับเยาวชนของเมือง แต่นอนว่าเธอไม่สามารถรับเกียรตินี้ไว้ได้
ที่ดินในเขตพัฒนาภาคเหนือถูกประมูลโดยเย่เทียนในราคาสูงเสียดฟ้า นอกจากนี้เขายังจ่ายเงินทั้งหมดในการสร้างศูนย์กีฬาไม่แสวงหากำไร หลังจากสร้างศูนย์กีฬาเสร็จแล้วเขายังจ่ายค่าบำรุงรักษาทั้งหมดด้วยตัวเองอีก
พูดตามตรงคือเธอกับหลิวหรูเยียนเป็นแค่ลูกน้องที่ทำงานให้เย่เทียนเท่านั้น
แต่เงินที่พวกเธอหาได้จากโครงการนี้มากกว่าโครงการทั้งหมดที่พวกเธอเคยทำรวมกันซะอีก
ยิ่งเซียวหรงคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งอึดอัดมากขึ้นเท่านั้น เธอกระแอมและพูดต่อ “เราไปที่บ้านของคุณแล้วแต่อากวงบอกว่าคุณกลับมาที่หมู่บ้าน ดังนั้นเราจึงมาที่นี่เพื่อมาหาคุณ”
เย่เทียนไม่ได้พูดอะไรมากและยื่นมือขวาไปหาหวังอี้ “ยินดีที่ได้รู้จักผู้ว่าการหวัง”
หวังอี้มองชายหนุ่มตรงหน้าซึ่งไม่ได้ถ่อมตนหรือเย่อหยิ่ง เขาจับมือของอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม “ยินดีที่ได้รู้จักคุณเย่เทียน ฉันไม่คิดว่าคุณเย่จะยังหนุ่มแบบนี้ ในเมืองของเรามีคนเก่งๆอย่างคุณที่ไม่สนเรื่องกำไรขาดทุนแบบนี้ฉันรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก ในวันที่ 10 ของเดือนหน้า เมืองจะจัดพิธีมอบรางวัลสิบอันดับเยาวชนของเมือง คุณเย่โปรดอย่าลืมมาเข้าร่วมด้วย”
เมืองไห่จิงมอบตำแหน่งกิตติมศักดิ์ให้แก่เยาวชนที่มีความสามารถจากทุกสาขาอาชีพ?
คนอย่างเย่เทียนต้องรับตำแหน่งกิตติมศักดิ์ด้วยเหรอ?
เย่เทียนส่ายหัวอย่างขบขันและปฏิเสธเจตนาดีของผู้ว่าการหวางอย่างสุภาพ “ขอโทษนะครับผู้ว่าการหวัง อันที่จริงฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเอาที่ว่างออกมาแล้วเอาเงินไปสร้างศูนย์กีฬาสำหรับ 10,000 คน คนที่ทำงานจริงๆเป็นผู้จัดการเซียวกับประธานหลิวต่างหาก ถ้าคุณอยากมอบตำแหน่งสิบอันดับเยาวชนของเมืองให้ใครสักคนจริงๆ คุณเอาไปให้สองคนนั้นดีกว่า!”
ถ้าสร้างศูนย์กีฬาแล้วมีปัญหาจนทำให้ผู้ว่าการมาแบบนี้เขาก็อยากปล่อยเขตพัฒนาภาคเหนือว่างไว้แบบนั้นดีกว่า
เย่เทียนดึงมือขวาออกและมองที่พ่อแม่ที่อึ้งกับฉากที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตรงหน้า เขาส่งสัญญาณให้พ่อบ้านอากวงให้พาพ่อแม่ไปนั่งในรถโรลส์-รอยซ์เพื่อไม่ให้พวกเขาต้องคุยกับคนในหมู่บ้านอีก
ถ้าวันนี้เขาไม่มาเขาก็คงไม่รู้ว่าคนชราทั้งสองที่สุขภาพไม่ค่อยดีนักถูกพวกชาวบ้านเยาะเย้ยรังแกแบบนี้
เฮอะ!
คนกลุ่มนี้ดีพอเห็นว่าลมเปลี่ยนทิศทุกคนก็อยากมาประจบพ่อแม่เขา!
นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้ว่าการหวังอี้เห็นคนในรายชื่อดูถูกรางวัลสิบอันดับเยาวชนของเมือง เขารู้ว่าตัวเองต้องถูกแทนด้วยคนหนุ่มสาวซึ่งถือได้ว่าเป็นความรุ่งโรจน์ของชีวิต แต่จะมีใครเหมือนเย่เทียนบ้างที่ไม่สนใจอะไรเลย
แม้ว่าจะเป็นแบบนั้นแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเสียหน้า ใบหน้าของเขายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ผู้จัดการเซียวกับประธานหลิวมีส่วนช่วยเหลือสังคมในเมืองไห่จิงอยู่แล้ว แต่ว่า...ตำแหน่งสิบอันดับเยาวชนของเมืองของเมืองต้องเป็นของ...”
“ถ้าอยากมอบตำแหน่งสิบอันดับเยาวชนของเมืองให้ฉันนัก ฉันจะยกเลิกการสร้างศูนย์กีฬา!” เย่เทียนคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นปัญหาเขาเลยพูดออกมาตรงๆ
ด้วยประโยคเดียวที่เย่เทียนพูดออกมาทำให้ผู้ว่าการหวังอี้ที่ยังพูดไม่จบหยุดพูดทันที!