ตอนที่แล้วร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 13 แพ็คเกจขยายร้านค้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 15 น้ำค้างฤดูใบไม้ผลิในทะเลลึก

ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 14 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่


กำลังโหลดไฟล์

ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 14 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

จิ่วเซินพยักหน้าอย่างสงบ “ใช่ ทำเลย”

- ติ๊ง!

- เริ่มขยายร้าน!

หลังจากได้ยินเสียงอันเคร่งขรึมของระบบจิ่วเซินก็เห็นบางสิ่งที่ทำให้เขาค่อนข้างประหลาดใจ ก่อนหน้านี้ภายในร้านนั้นมีขนาดค่อนข้างเล็ก เนื่องจากสามารถวางได้โต๊ะทั้งหมดสิบโต๊ะเท่านั้น แต่ฉากที่ตรงหน้าเขา พื้นที่ภายในร้านของเขากว้างขึ้นมากทีเดียว ตอนนี้มันใหญ่กว่าเมื่อก่อนมากกว่าเดิมห้าเท่าเสียอีก

เก้าอี้และโต๊ะไม้ถูกแทนที่ด้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่จิ่วเซินคุ้นเคยเป็นอย่างดี ริมฝีปากของเขากระตุกเมื่อเห็นวัสดุที่ใช้ถทำและเขาอดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเองด้วยความเสียใจ... “ที่จริงแล้วมันคือไม้สักศักดิ์สิทธิ์... แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับต้นไม้อีโอนิคอีเกิ้ลวูดแต่ก็ยังคงเป็นไม้ระดับเทพ - สมบัติที่ใช้ทำอาวุธระดับเทพ ใครจะไปคิดว่าจะใช้สมบัติสวรรค์เช่นนั้นทำเก้าอี้และโต๊ะ ช่างเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรสวรรค์อย่างไร้เหตุผลอย่างแท้จริง...”

“ระบบ เจ้าให้ไม้นี้แก่ข้าสักสิบกิโลกรัมได้หรือไม่ เจ้าต้องรู้ว่าแม้ว่าสถานที่นี้จะเป็นโลกมนุษย์ระดับต่ำก็ตาม เจ้าไม่ควรเพิกเฉยต่อความปลอดภัยของข้าใช่หรือไม่ ด้วยไม้สักศักดิ์สิทธิ์นี้สักสิบกิโลกรัม ข้าจะสามารถสร้างดาบไม้ระดับเทพขึ้นมาได้ อาวุธนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ข้าปลอดภัยได้ เจ้าคิดว่าอย่างไร?” จิ่วเซินถามด้วยรอยยิ้มที่ไร้ยางอายที่อยู่บนใบหน้าของเขา รูปลักษณ์ของผู้เชี่ยวชาญที่สงบและไม่แยแสก่อนหน้านี้ได้หายไปและถูกแทนที่ด้วยรูปลักษณ์ที่เจ้าเล่ห์

ระบบเงียบไปครู่หนึ่ง แต่แล้วแสงจ้าก็ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

จิ่วเซินยิ้มและหรี่ตา เขาเห็นโครงร่างของดาบหนักสีดำที่มีความยาวประมาณสองเมตร ตัวดาบนั้นถูกแกะสลักด้วยสัญลักษณ์สีแดงเลือดโบราณหลายอันซึ่งเปล่งออร่าศักดิ์สิทธิ์ออกมาที่ทำให้ทุกคนที่พบเห็นต้องกราบบูชา ด้ามดาบมีรูปแกะสลักมังกรแดงสองตัวกำลังพันกัน พวกมันดูราวกับมีชีวิตและเต็มไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว

เมื่อออร่าของแสงหายไป รูปลักษณ์ของดาบหนักสองเมตรก็ได้เปลี่ยนไป ตอนนี้มันดูราวกับดาบสีดำธรรมดา ขนาดของมันยังได้ลดลงครึ่งหนึ่งและตอนนี้เหลือเพียงดาบยาวหนึ่งเมตรเท่านั้น แม้ว่ามันจะทำมาจากไม้ แต่ก็ดูเหมือนไม่ได้ทำจากไม้เลยแม้แต่น้อย มันดูราวกับดาบที่ทำมาจากเหล็กสีดำ ใครก็ตามที่ได้เห็นจะไม่มีวันเชื่อเลยว่าดาบสีดำที่ดูธรรมดานั้นสร้างมาจากสมบัติสวรรค์ระดับเทพ

จิ่วเซินลูบไล้ดาบราวกับว่าเขากำลังลูบไล้หยกที่บอบบางที่สุดก็ว่าได้ เขาฉีกยิ้มจนถึงใบหูหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการหลอกลวงระบบ เขารู้สึกว่าหนึ่งเดือนที่เขาใช้ไปกับการผลิตไวน์นั้นไม่ได้สูญเปล่าเลยแม้แต่น้อย

ขณะที่จิ่วเซินกำลังจะขอบคุณระบบ เขาก็ต้องตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงภายในร้าน ทุกอย่างในร้านดูสูงส่งและดูสง่างามมากขึ้นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีกระถางต้นไม้เล็ก ๆ อีกสี่กระถางอยู่ทุกมุมของร้าน ทำให้บรรยากาศที่สดชื่นยิ่งขึ้น

จิ่วเซินมองดูต้นไม้เหล่านั้นอย่างดูถูกเหยียดหยามและพึมพำด้วยออกมาน้ำเสียงที่เหยียดหยาม “หึ เป็นแค่ต้นไม้มังกรกำเนิดปฐพีระดับ 9 เท่านั้น…”

หากผู้เชี่ยวชาญในโลกนูอาร์ได้ยินคำพูดของเขา พวกเขาคงจะรวมตัวกันเพื่อทุบตีจิ่วเซินอย่างแน่นอน ต้นไม้มังกรต้นกำเนิดปฐพีเป็นพืชวิญญาณระดับ 9 ผลไม้ที่ออกผลนั้นสามารถช่วยผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงของขอบเขตที่ 8 ระดับศักดิ์สิทธิ์ สามารถทะลวงไปสู่ขอบเขตที่ 9 ระดับนักบุญได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นมันจึงเป็นสมบัติล้ำค่าที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนต่างใฝ่หา

จิ่วเซินยักไหล่และเดินไปตรวจสอบห้องครัว ทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในห้องครัว เขาเห็นสาวงามที่ความงามที่สามรถโค่นล้มได้ทั้งกาแล็กซี เธอได้สวมชุดสีขาวที่โปร่งแสงและได้มองมาที่เขาด้วยความเคารพ โครงร่างศักดิ์สิทธิ์ที่จืดจางของเธอค่อนข้างมองเห็นได้ชัดเจน ชายใดก็ตามที่เห็นเธอจะมีเลือดกำเดาไหลออกมา แม้จะเป็นเพียงชั่วขณะหนึ่งก็ตาม เธอได้ก้มศีรษะลงเบา ๆ แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เคารพ “สวัสดี นายท่าน”

จิ่วเซินตกตะลึงเมื่อเห็นการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเธอ จากนั้นเขาก็จ้องมองความงามของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมยาวสีแดงเพลิงของเธอได้ยาวถึงเอวของเธอ และใบหน้าที่งดงามของเธอก็เต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบ แม้แต่ธิดาผู้น่าภาคภูมิใจในสวรรค์จากอาณาจักรเทพบรรพกาลก็ยังไม่กล้าที่จะพูดว่าพวกเธอสวยกว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขา

จิ่วเซินได้ถอนสายตากลับและสายของเขาก็เปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์ที่ดูไม่แยแสตามปกติ เขาเหลือบมองสาวงามอย่างใจเย็นแล้วถาม “เจ้าเป็นใคร?”

สาวงามผมแดงยิ้มและกล่าวด้วยความเคารพ “คนรับใช้ของนายท่านที่มีนามว่าเฮสเทีย”

“เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร” จิ่วเซินถาม

เฮสเทียกระพริบตาคู่สวยของเธออย่างสับสน “นายท่าน ข้าจำได้แค่ว่าข้านั้นเป็นคนรับใช้ของท่าน ไม่มีอะไรอยู่ในความทรงจำของข้าอีกแล้ว”

“ระบบ นี่คืออะไรกัน เธอเป็นใคร” จิ่วเซินรู้ว่าดีระบบจะตเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอ

- ติ๊ง!

- โฮสต์โปรดใจเย็น เธอเป็นคนที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาโดยระบบเพื่อให้บริการท่าน ในฐานะเทพแห่งไวน์ในอนาคต ทำไมท่านจึงต้องปรุงอาหารเองในเมื่อท่านสามารถให้ใครสักคนปรุงอาหารให้ท่านได้?

จิ่วเซินพูดไม่ออกกับคำตอบของระบบ จากนั้นเขาก็พิจารณาเฮสเทียอย่างละเอียด ทำให้เธอเริ่มหน้าแดงขึ้นมา ‘ทำไมนายท่านถึงมองข้าแบบนั้น? เป็นไปได้ไหมว่า...’ เมื่อคิดได้อย่างนั้น เธอก็ยิ่งหน้าแดงมากขึ้นไปอีก

จิ่วเซินพยักหน้าหลังจากตรวจสอบรูปลักษณ์ของเฮสเทียอย่างละเอียดถี่ถ้วน เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตที่ 8 ระดับศักดิ์สิทธิ์ หากพิจารณาจากโลกนูอาร์แล้วเธอค่อนข้างดี “จากนี้ไปหน้าที่ของเจ้าคือทำอาหารที่ลูกค้าสั่งและยังเป็นพนักงานเสิร์ฟของร้านอีกด้วย ส่วนเจ้าจะนอนที่ไหนนั้น... คืนนี้เจ้าสามรถไปนอนห้องของข้าได้ชั่วคราว...”

เฮสเทียยิ่งเขินอายมากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของเขา “ตามประสงค์ของนายท่าน”

จิ่วเซินไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ถ้าหากเขารู้ เขาอาจจะทำแบบที่เธอคิดจริง ๆ

จิ่วเซินพยักหน้าและบอกให้เธอพักผ่อนสักครู่ จากนั้นเขาก็ตรวจสอบห้องเก็บไวน์ของเขา เขาประหลาดใจที่เห็นการเปลี่ยนแปลงในห้องเก็บไวน์ อันที่จริงมันได้ขยายมากกว่าห้าเท่าเช่นกัน แม้แต่น้ำค้างฤดูใบไม้ผลิใต้ฝนทะเลลึกก็ได้จัดแสดงอยู่ในชั้นวางเช่นกัน

จิ่วเซินหยิบไวน์หนึ่งขวดออกมาแล้วใส่กลับเข้าที่ “พรุ่งนี้เช้าข้าจะลองชิมดู”

ขณะที่เขากำลังจะขึ้นไปนั้นเอง เขาก็รู้สึกถึงได้ออร่าที่ไม่คุ้นเคยอยู่ด้านนอกร้านของเขา เขาเหลือบมองยังทางทิศทางนั้นอย่างและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่แล้วก็ไม่ต้องซ่อนตัวอีกต่อไป แสดงตัวออกมาเสีย!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด