ตอนที่แล้วตอนที่ 22 ความเย่อหยิ่งของลิโป้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 24 ศิลปะการซื้อใจคนของเฉิงชง

ตอนที่ 23 แพ้เดิมพัน


ตอนที่ 23 แพ้เดิมพัน

ใบหน้าของลิโป้ถึงกับแข็งทื่อ

เขาชะงักอยู่ที่เดิม

ผ่านไปชั่วครู่ก็ยังไม่มีคำพูดใด

หลังจากมองอยู่นานเขาก็เอ่ยถาม

“เจ้ามาก่อนแล้วงั้นหรือ?”

เตียวเลี้ยวยิ้มพร้อมพยักหน้า

“ด้วยแผนของนายท่าน พวกเราเอาชนะกบฏโพกผ้าเหลืองที่ผิงเถาได้แล้ว”

“ดูเหมือนว่าจะเร็วกว่าเฟิ่งเซียนเล็กน้อย ข้าต้องขออภัยจริง ๆ”

“หากทราบว่าเฟิ่งเซียนจะมาช้าถึงเพียงนี้ พวกเราจะไม่รีบร้อนนัก”

คำไม่กี่คำ แต่มันเป็นเหมือนคมมีดแทงเข้าหน้าอกของลิโป้อย่างหนัก

ในช่วงเวลาหนึ่งลิโป้รู้สึกท้อใจขึ้นมา และไม่สามารถหาทางแก้ไขมันได้เลย

มันทำให้เขาลืมหายใจไปพักใหญ่!

เขาภาคภูมิใจในความสามารถของตนมาโดยตลอด และจะไม่ยอมแพ้ใครในการต่อสู้

แต่ความจริงที่เฉิงชงชนะวันนี้ ทำให้เขาถึงกับสะอึก!

เตียวเลี้ยวกล่าวอย่างสงบ

“เดิมพันเล็กน้อยเช่นนี้ ท่านคงไม่คิดจะปฏิเสธใช่หรือไม่?”

ใบหน้าของลิโป้เปลี่ยนเป็นสีขาว

เขาสามารถปฏิเสธได้หรือ?

การเดิมพันนี้มีเจ้าเมืองเต๊งหงวนเป็นพยาน

หากเขากล้าปฏิเสธอย่างเปิดเผย เช่นนั้นต้องกลายเป็นตัวตลกของคนทั้งโลกแน่นอน!

ทุกคนคงบอกว่าลิโป้เป็นคนใจแคบและไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ เขาไม่ใช่วีรบุรุษที่แท้จริง

เมื่อมีชื่อเสียนี้ติดตัว ในอนาคตย่อมทำการใหญ่ลำบาก!

อาจจะรุนแรงไปถึงทหารม้าสองพันคนที่พามาด้วย พวกเขาอาจจะเสียความเคารพ

ราคานี้เป็นสิ่งที่ลิโป้ไม่สามารถจ่ายไหว

ในขณะนี้ลิโป้ก็ตระหนักได้ว่ามันอยู่ในการคำนวณของเฉิงชงมาแต่แรกแล้ว!

ฮึ่ม ไอ้บัดซบ!

ลิโป้สูดหายใจลึกและกัดฟันแน่น

“ข้ายินดีที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ ข้าไม่คิดจะปฏิเสธ!”

“มันเป็นแค่อาวุธ ข้าลิโป้เฟิ่งเซียนยอมเสียได้อยู่แล้ว!”

“เมื่อการต่อสู้นี้จบลงและได้กลับเมืองจินหยาง ข้าจะมอบง้าวกรีดนภาให้กับเฉิงชงเอง!”

เตียวเลี้ยวหัวเราะ

“นายข้าเอาชนะที่ผิงเถาได้แล้ว ส่วนเฟิ่งเซียนเอาชนะที่เจี่ยซิว ทหารหนีทัพทั้งหมดกำลังมุ่งไปยังอู่เซียน”

“เวลานี้เหล่ากบฏโพกผ้าเหลืองในอู่เซียนจะต้องตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนก ซึ่งเป็นเวลาที่เปราะบางที่สุดที่จะบดขยี้!”

“นายท่านได้นำกองกำลังไปดักซุ่มบนเนินเขาทางเหนือของอู่เซียนแล้ว เมื่อกองกำลังของเฟิ่งเซียนมาถึง เขาจะทำการโจมตีทั้งเหนือและใต้พร้อมกันและยึดอู่เซียนกลับมา!”

“เฟิ่งเซียน กองทัพของท่านพร้อมหรือยัง?”

ลิโป้ตอบอย่างโกรธเคือง “หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว โจมตี!”

เตียวเลี้ยวพยักหน้าและยกมือออกคำสั่ง

ทันใดนั้นทหารได้จุดไฟเผากองฟืนที่เตรียมไว้

แสงไฟพุ่งทะยานทะลุผ่านความมืดมิดในยามค่ำคืน

ในเวลาเดียวกับที่ไฟถูกจุด ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องของการสังหารที่เนินเขาทางเหนือ

ทหารราบสองพันคนที่อยู่ในค่ายกลเกล็ดปลาขั้นเทพเจ้าทำการบุกสังหารทันที

เฉิงชงและจิวฉองได้เปิดฉากโจมตีแล้ว!

“จะไปด้วยกันหรือไม่เฟิ่งเซียน?”

เตียวเลี้ยวหัวเราะและควบม้าวิ่งออกไป

ทหารม้าทั้งร้อยคนวิ่งตามออกไปในรูปแบบค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้า มันดูสง่างามราวกับสายรุ้ง!

“พี่น้องทั้งหมด ตามข้าไปสังหารให้หมด!”

ลิโป้แผดเสียงออกคำสั่งและพุ่งเข้าไปพร้อมลูกน้อง

เวลานี้เขาโกรธอย่างมาก

มันบรรเทาได้ด้วยการฆ่าเท่านั้น

เมื่อไม่สามารถทำอะไรเฉิงชงได้ เช่นนั้นก็ต้องระบายความโกรธกับกบฏโพกผ้าเหลืองเหล่านี้!

กองทหารของกบฏโพกผ้าเหลืองพยายามเข้ามาหยุดลิโป้

แต่ลิโป้ได้ยกง้าวกรีดนภาขึ้น และเหวี่ยงไปมาจนเกิดแสงสีขาว

ทันใดนั้นกองทัพโพกผ้าเหลืองตรงหน้าก็ถูกผ่าครึ่ง!

ลิโป้ที่โกรธจัดการเป็นเทพแห่งการสังหารไปแล้ว!

ต่อให้เป็นแม่ทัพระดับหนึ่งก็ยากจะต่อกร

แล้วทหารโพกผ้าเหลืองเหล่านี้จะสู้ได้อย่างไร?

ภายใต้การโจมตีจากทางเหนือและใต้ เพียงไม่นานกบฏโพกผ้าเหลืองก็พินาศ

แม่ทัพของกบฏโพกผ้าเหลืองเสียชีวิตภายในความโกลาหล

ในการต่อสู้ครั้งนี้ เฉิงชงสามารถเอาชนะได้และคะแนนเป็น B อีกครั้ง

แต้มสงครามเพิ่มขึ้นสามร้อยแต้ม

แต่เฉิงชงยังไม่คิดจะปลดล็อกค่ายกลใหม่

เขามีอยู่แล้วสามค่ายกลทั้งค่ายกลเกล็ดปลา ค่ายกลทรงลิ่ม และค่ายกลปีกกระเรียน

มันคือการใช้ทหารราบ ทหารม้า และพลเกาทัณฑ์

หากนำมาผสมผสานกัน มันจะสมบูรณ์แบบอย่างมาก

มันจึงยังไม่ถึงเวลาของค่ายกลใหม่

ตอนนี้เขาเพียงแค่เก็บสะสมแต้มเพื่อที่จะยกระดับของค่ายกลทั้งสาม

นั่นเป็นทางเลือกที่ฉลาดกว่า

......

เมืองจินหยาง

แม้จะเป็นเวลาดึกดื่น แต่จวนที่พักของผู้ว่าการยังคงสว่างไสว

เต๊งหงวนเป็นเหมือนมดที่อยู่บนกระทะร้อนเดินไปรอบ ๆ อย่างกระสับกระส่าย

แม้ว่าเขาจะไม่ได้เข้าร่วมการจู่โจมตอนกลางคืน แต่เขากังวลอย่างมากเกี่ยวกับผลลัพธ์!

สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเมืองจินหยาง

หากเฉิงชงและลิโป้ล้มเหลว เช่นนั้นก็ไม่มีใครหยุดกบฏโพกผ้าเหลืองได้อีก

ในเวลานั้นเมื่อจินหยางแตก เขาที่เป็นเจ้าเมืองก็ต้องถูกสังหารไปด้วย!

เสียงฝีเท้าดังขึ้น

“นายท่าน!”

“มีข่าวดี!”

“ทหารอาสาทั้งสองกลับมาแล้ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้เต๊งหงวนก็ดีใจมาก เขารีบลุกขึ้นยืนและสวมผ้าคลุมวิ่งออกไป

ประตูถูกเปิดออก

เฉิงชงและลิโป้กำลังเข้ามาในเมืองพร้อมของที่ยึดได้

“อู๋ฮวย เฟิ่งเซียน!”

เต๊งหงวนเข้ามาทักทายด้วยใบหน้าที่มีความสุข

“ผลเป็นอย่างไรบ้าง?”

เฉิงชงเปิดปากด้วยรอยยิ้ม

“รายงานท่านข้าหลวง ข้าปฏิบัติภารกิจสำเร็จ การจู่โจมยามวิกาลได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่!”

“กบฏโพกผ้าเหลืองที่อยู่ในสามอำเภอแตกพ่ายหมดสิ้น”

“ถึงจะเหลือซากอยู่ แต่พวกมันก็ไม่ต่างจากสุนัขข้างถนน แค่ส่งทหารไปเก็บกวาดก็พอแล้ว”

“เมืองจินหยาง ไม่สิ แคว้นปิ้งโจวสามารถอยู่อย่างสงบสุขและไร้กังวลไปอีกนาน!”

เต๊งหงวนถอนหายใจด้วยความโล่งอก มันราวกับได้ดึงก้อนหินขนาดใหญ่ออกมาจากท้อง

เขาหัวเราะอย่างไม่อายและเอ่ยชมทันที

“อู๋ฮวย เฟิ่งเซียน พวกท่านคือวีรบุรุษอายุน้อยของข้า!”

“ไม่ต้องห่วง ข้าจะตอบแทนน้ำใจในครั้งนี้แน่นอน เมื่อพวกท่านช่วยปกป้องจินหยาง ข้าย่อมไม่ปฏิบัติกับพวกเจ้าไม่ดี!”

“ทั้งเสบียงอาหาร หรือทหารบาดเจ็บสามารถพักฟื้นและเติมได้ที่นี่”

“นอกจากนี้ข้าจะรายงานไปยังราชสำนัก และจะมอบชื่อเสียงให้พวกท่านอย่างเหมาะสมแน่นอน!”

ใบหน้าของลิโป้เต็มไปด้วยความปีติยินดี

เขาทำงานปราบศัตรูอย่างหนักก็เพื่อชื่อเสียง!

“ไปกันเถอะ! ข้าได้จะจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองชัยชนะครั้งนี้!”

เต๊งหงวนเปิดปากด้วยรอยยิ้ม

ทันใดนั้นเหมือนเขาจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้

“อย่างไรก็ตามหากข้าจำไม่ผิด พวกท่านมีเดิมพันกันอยู่ใช่หรือไม่?”

“หึหึ ไม่ต้องกลัว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้ใหญ่ เดิมพันแค่นี้ย่อมมีเป็นเรื่องที่ดีของลูกผู้ชาย!”

“บอกข้าให้ทราบทีว่าใครเป็นผู้ชนะ!”

5 1 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด