ตอนที่แล้วข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 45 โคมผีสีเขียวหม่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 47 เทพประจำเมือง!

ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 46 หมื่นกระบี่รวมเป็นหนึ่ง


กำลังโหลดไฟล์

ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 46 หมื่นกระบี่รวมเป็นหนึ่ง

“หว่านเอ๋อ!”

คงหนิงที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาวิ่งตะโกนขึ้นว่า “โคมไฟพวกนี้มันคืออะไร?”

สิ่งนี้มันช่างน่ากลัวจนเกินไป!

แม้แต่ผีตัวม่วงกับผีตัวเขียวก็ยังหวาดกลัว และพวกมันมีอยู่ทั่วเมืองผี คงหนิงวิ่งเต็มฝีเท้า มองดูโคมกระดาษส่องแสงสีเขียวที่เห็นในลานสายตา เพียงแค่นั้นก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นมาถึงแผ่นหลัง

ตอนที่เขาเข้ามาในเมืองผีครั้งแรก เขาคิดว่าโคมที่ลอยอยู่ทั่วทุกแห่งมันก็ดูสวยดี

แต่ไม่ได้คาดหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะน่าขนลุกมากเหลือเกิน

ทั้งสองวิ่งหนีอย่างสุดกำลังอยู่ภายในเมืองผี หลบหนีไปในทิศทางของสะพานชิงป่านอย่างไม่คิดชีวิต

ด้านหลังของพวกเขา โคมกระดาษสีเขียวหม่นจำนวนมหาศาลกำลังไล่ตามพวกเขาอย่างดุเดือด ส่งเสียงร้องโหยหวน ดุจสายน้ำที่ไหลเชี่ยว โหมกระหน่ำเข้าหาคงหนิง

และโคมกระดาษที่ลอยอยู่แถวด้านหน้าก็ค่อยๆ ลดระดับลงมาเรื่อยๆ โคมหลายตัวก็ลอยต่ำจนเกือบจะชนหัวคงหนิงอยู่แล้ว

คงหนิงรู้สึกว่าถ้าเขาวิ่งช้าลงอีกนิด เขาอาจจะวิ่งออกจากเมืองผีรกร้างแห่งนี้ไปไม่ได้

หากโคมสีเขียวทั้งหมดในลานสายตากลายเป็นสีเขียวทั้งหมด เส้นทางหลบหนีของตัวเขาและหว่านเอ๋อจะถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์

คงหนิงดูกังวลมาก ส่วนหว่านเอ๋อก็กลายเป็นแสงเงากระบี่วูบไหวติดตามคงหนิงมาอย่างใกล้ชิด

แล้วกล่าวว่า “ข้าก็ไม่รู้!”

หญิงสาวดูกังวลและตระหนักถึงอันตรายจากสถานการณ์ที่นางได้พบ

“ข้าไม่เคยเห็นอะไรที่ดูเหมือนสิ่งนี้เลยในบันทึกของสำนักผู้วิเศษ!”

เห็นได้ชัดว่านิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับไม่ได้มีข้อมูลความรู้ทั้งหมด เป็นไปไม่ได้ที่จะบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างในโลกแห่งการบ่มเพาะเอาไว้ได้ทุกรายละเอียด

สิ่งเดียวที่ทั้งสองรู้ในตอนนี้คือ วิ่งหนีซะ! ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี!

ลำแสงกระบี่อันเย็นเยียบของคงหนิงกวาดออกไปด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง

โคมสีเขียวหม่นถูกคงหนิงกระแทกออกไป

อย่างไรก็ตาม โคมสีเขียวหม่นก็พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง

ไม่นาน โคมไฟสีเขียวหม่นก็กลับมาอยู่บนถนนเส้นเดียวกับที่คงหนิงกำลังวิ่งไป

คำกล่าวที่บอกว่าถูกโอบล้อมไว้ทุกด้าน ยังไม่เพียงพอจะอธิบายสถานการณ์ของทั้งสองคนในเวลานี้

โชคดีที่สะพานชิงป่านซึ่งเหมือนแสงไฟส่องสว่าง ได้ปรากฏให้เห็นอยู่สุดขอบของลานสายตา อยู่ตรงปลายถนนเส้นยาวสายนี้แล้ว

เพียงแต่ถนนเส้นยาวนี้ เต็มไปด้วยโคมไฟสีเขียวหม่นอยู่นับร้อย

ช่วงเวลาที่คงหนิงและหว่านเอ๋อปรากฏตัว โคมไฟสีเขียวหม่นเหล่านั้นก็โบยบินเข้ามาราวกับเหล่าฉลามที่ได้กลิ่นเลือด

พลังปีศาจโคจรทั่วทั้งร่าง ไหลทะลักเข้าสู่กระบี่ปราบวิญญาณ และอักขระแปลกๆ สีแดงเข้มก็สว่างขึ้นบนตัวกระบี่สีดำในมือของคงหนิง

กระบี่แหลมคมปล่อยพลังอันเย็นยะเยือก ทันใดนั้นมันก็กลายเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ พุ่งตรงตัดผ่านถนนสายยาวด้านหน้า

คัมภีร์กระบี่แสงวิจิตร---หมื่นกระบี่รวมเป็นหนึ่ง!

กระบวนท่านี้ในเคล็ดกระบี่แสงวิจิตรนับเป็นกระบวนท่าที่ทรงพลังที่สุด แต่พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของกระบวนท่ากระบี่ก็ทำให้สูญเสียพลังงานไปมากที่สุดเช่นกัน ลำแสงกระบี่สีขาวที่เต็มไปด้วยพลังหยินส่องสว่างไปทั่วทั้งเมืองผี

เหมือนดวงอาทิตย์ส่องแสงท่ามกลางความมืด ฉับพลัน ถนนสายยาวที่อยู่ในลานสายตาเบื้องหน้าก็ถูกกวาดทิ้งไป

โคมทั้งหมดถูกเป่าสลายหายไป

ถนนด้านหน้าคงหนิงและหว่านเอ๋อไม่เหลือสิ่งกีดขวางใดๆ ในทันที

ท่าทีของหว่านเอ๋อดูตกตะลึงอย่างมาก

“หัวหน้ามือปราบหนิง......” ระดับการบ่มเพาะของเจ้าเพิ่มขึ้นอีกครั้งได้อย่างไร?!

เป็นไปได้ไหมว่าสิ่งที่หัวหน้ามือปราบได้กล่าวไว้เป็นความจริง? เขาสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้เมื่อฝ่าฟันความยากลำบากจากการต่อสู้?

หญิงสาวตกใจเป็นอย่างมาก และคงหนิงซึ่งใช้พลังปีศาจจนหมดล้มพับไปบนหลังของนาง แล้วพูดอย่างอ่อนแรงว่า “ไปเถอะ!”

แต่ความจริงคงหนิงไม่จำเป็นต้องกระตุ้นให้หญิงสาวดำเนินการใดๆ แม้ว่าหญิงสาวจะตกใจกับพลังของกระบี่เมื่อครู่ แต่นางก็ไม่ลืมว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย

ช่วงเวลาที่คงหนิงล้มพับไปบนหลังของนาง นางก็กลายเป็นลำแสงกระบี่อีกครั้ง ทะยานวูบไหวไปด้านหน้า พาคงหนิงข้ามถนนทั้งเส้นนี้ไปอย่างรวดเร็ว

พุ่งตรงไปที่สะพานหินตรงสุดปลายถนน

และหมอกที่ปลายสะพานก็ปั่นป่วน!

พรึ่บ---

เสียงอู้อี้แปลกๆ ดูเหมือนจะดังก้องอยู่ในหูของคงหนิง

ขณะโคมสีเขียวมากมายไล่หลังมาเกือบจะทันแล้ว ตัวเขาและหว่านเอ๋อก็ทะยานเข้าไปในหมอกที่ปลายสะพานหินได้สำเร็จภายในเวลาเดียวกัน

ความรู้สึกเหมือนทะลวงผ่านเยื่อกั้นบางอย่างเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

ครู่ต่อมา ร่างของคงหนิงที่กำลังสั่นสะท้านก็ถูกหว่านเอ๋อแบกออกมาจากหมอกมืดแปลกประหลาดนั่น

สิ่งที่ปรากฏในสายตาคือเขตชานหลานยามค่ำคืน และสะพานหินที่ทั้งมืดและเงียบ

ฐานการบ่มเพาะของหว่านเอ๋อไม่ได้สูงอะไรนัก ดังนั้นนางจึงไม่สามารถโบยบินด้วยกระบี่ได้จริงๆ

ทันทีที่ทะยานออกจากเมืองผีโดยแบกคงหนิงไว้บนหลังได้สำเร็จ หญิงสาวก็เหวี่ยงคงหนิงลงจากหลังของนางทันที หันกลับมาและยืนถือกระบี่ ร่ายกระบวนท่ากระบี่ออกมา

“เร็วเข้า!”

กระบี่โบราณขนาดใหญ่พุ่งขึ้นไปทันที ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ ก่อตัวเป็นค่ายกลกระบี่ ปิดทางเข้าออกเมืองผีโดยสมบูรณ์

เมื่อถึงจุดนี้ เด็กสาวก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก มองไปยังคงหนิงที่อยู่ด้านหลังของนางแล้วกล่าวว่า “หัวหน้ามือปราบหนิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

คงหนิงซึ่งถูกหญิงสาวเหวี่ยงลงกับพื้นอย่างลวกๆ ลูบไปที่ก้นของตนเอง ค่อยๆ ค้ำยันดันตัวเองขึ้นมากับบันไดของสะพานหิน ถอนหายใจออกมา “โชคดีที่ก้นไม่หัก แล้วก็เป็นเรื่องที่ดีมากที่หนีออกมาได้อย่างปลอดภัย”

คงหนิงยืนอยู่บนสะพานชิงป่านอันเงียบสงบและมืดมิด มองดูเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบในลานสายตา คงหนิงถอนหายใจยาวพร้อมกับกล่าวว่า

“หลังจากที่เข้าไปในเมืองผีเมื่อครู่แล้วหนีออกมาได้ แม้แต่เขตเมืองที่เต็มไปด้วยปีศาจก็ยังนับว่าดูสวยงาม......เมืองผีในโลกวิญญาณ ช่างน่ากลัวเสียจริง”

แม้พวกของคงหนิงจะพบเจอผีร้ายอยู่ไม่กี่ตัว แต่ความอันตรายภายในนั้นก็ไม่สามารถตัดสินได้เพียงเพราะเรื่องแค่นี้

ภัยร้ายภายในเมืองผี ไกลเกินความคาดหมายไปไม่น้อย

คงหนิงเดินไปหาหญิงสาวแล้วกล่าวว่า “เจ้าปิดผนึกทางเข้าไว้แล้วใช่ไหม? โคมสีเขียวข้างในจะไม่ไล่ตามออกมาแล้วใช่หรือไม่?”

เด็กสาวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “ไม่ควรจะออกมาได้ ถ้าโคมไฟเหล่านั้นสามารถเข้าสู่โลกนี้ได้ มันก็น่ากลัวเกินไปแล้ว เขตเมืองแห่งนี้คงจะกลายเป็นซากปรักหักพังในชั่วข้ามคืน”

คำตอบดังกล่าวทำให้คงหนิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ขณะยืนอยู่บนสะพานหินสีดำ เมื่อหันกลับไปมองเขตเมืองที่อยู่ด้านหลัง กลิ่นควันไฟในอากาศลอยเข้ามาทำให้รู้สึกสบายใจอย่างอธิบายไม่ถูก

คงหนิงยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า “กลับไปอาบน้ำดีกว่า หวังว่าหลังจากอาบน้ำ นางปีศาจภายในบ้านจะไม่สังเกตเห็นว่าพวกเราได้สัมผัสร่างกายกัน”

ซูหยานสามารถสังเกตเห็นว่าคงหนิงสัมผัสกับหญิงอื่นได้อย่างไร เรื่องนี้คงหนิงไม่อาจทราบได้

แต่การกลับไปอาบน้ำเป็นสิ่งเดียวที่เขาทำได้ในเวลานี้

โชคดีที่ปีศาจสาวจะไม่กลับบ้านจนกว่าจะรุ่งสาง เวลานี้ยังคงดึกอยู่มาก คงหนิงยังพอมีเวลา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด