ตอนที่แล้วตอนที่ 20 พลังของค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้า จับจิวฉองทั้งเป็น!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 22 ความเย่อหยิ่งของลิโป้

ตอนที่ 21 ปลดล็อกค่ายกลปีกกระเรียนขั้นเทพเจ้า


ตอนที่ 21 ปลดล็อกค่ายกลปีกกระเรียนขั้นเทพเจ้า

แม่ทัพใหญ่ของศัตรูถูกสังหาร

ผู้บัญชาการจิวฉองถูกจับ

ผู้นำทั้งสองของกองทัพโพกผ้าเหลืองหายไปจากการต่อสู้ทันที

กบฏโพกผ้าเหลืองที่เหลืออยู่ไม่มีขวัญกำลังใจที่จะสู้อีกต่อไป

พวกเขากลายเป็นแมลงวันไร้หัววิ่งไปมารอบค่าย

ภายใต้การนำของเฉิงชง ช่องว่างทั้งหมดถูกปิดโดยค่ายกลของเขา

กบฏโพกผ้าเหลืองส่วนใหญ่ถอยไปทางอำเภออู่เซียน

“ไม่ต้องไล่ตามกบฏเหล่านั้น จับเชลย ม้าศึก และยึดเสบียงอาหารทั้งหมด”

เฉิงชงมองไปยังค่ายที่โกลาหลตรงหน้าพร้อมออกคำสั่ง

ขณะเดียวกัน เสียงของระบบได้ดังขึ้นในหูของเฉิงชง

"ติ๊ง! คุณตัดสินจิตวิทยาของศัตรูสำเร็จอย่างงดงาม ใช้กลยุทธ์การโจมตีตอนกลางคืน ใช้พลังของค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพพระเจ้า และค่ายกลเกล็ดปลาขั้นเทพพระเจ้าเพื่อเอาชนะกบฏโพกหัวเหลืองสำเร็จ"

“คะแนนของคุณคือ B !”

“รับสามร้อยแต้มสงคราม!”

B !

แต้มสงครามเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และมากถึงสามร้อยแต้ม

สิ่งนี้มีโอกาสทำให้เขาสร้างค่ายกลใหม่เพิ่ม

เขาเริ่มเลือกอย่างไม่ลังเล!

“ติ๊ง! ใช้สามร้อยแต้มสงครามเพื่อสร้างค่ายกลใหม่!”

“รับค่ายกล: ค่ายกลปีกกระเรียนขั้นเทพเจ้า (ระดับที่1)!”

......

“ค่ายกลปีกกระเรียนขั้นเทพเจ้า (ระดับที่1)!”

“อาวุธที่ใช้ได้สำหรับค่ายกลคือกองกำลังโจมตีระยะไกล!”

“ผลของออร่าที่หนึ่ง ความเสียหายจากการยิงเพิ่มขึ้นห้าเท่า!”

“ผลของออร่าที่สอง ระยะยิงเพิ่มขึ้นสามเท่า!”

......

เมื่อมองได้ชั่วครู่ เฉิงชงก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นเรื่อย ๆ

มันเป็นค่ายกลที่เหมาะสมกับพลยิงระยะไกล

ส่วนพลังของค่ายกลนี้...

กล่าวได้ว่าเรียบง่ายและร้ายกาจ!

โดยทั่วไปแล้ว กองทหารระยะไกลคือกองทหารที่สร้างความเสียหายได้มากที่สุดในสนามรบ

สิ่งที่สำคัญที่สุดของกองกำลังนี้คือล้มศัตรูก่อนเข้าประชิด

ออร่าของค่ายกลปีกกระเรียนขั้นเทพเจ้านั้นเสริมให้สองสิ่งนี้โดยตรง

ใคร ๆ ก็นึกภาพออกว่ากองกำลังระยะไกลของเฉิงชงจะน่าสะพรึงขึ้นมากหากเสริมค่ายกลนี้!

มันราวกับเครื่องบดเนื้อกลางสนามรบ!

“ดูเหมือนว่าจะถึงเวลาสร้างกองทหารฝ่ายเกาทัณฑ์แล้ว”

เฉิงชงเกาศีรษะและหรี่ตาลง

การมีทหารม้า ทหารราบ และพลเกาทัณฑ์ มันเป็นรูปแบบกองทัพที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ

“นายท่าน!”

เสียงของเตียวเลี้ยวดังขึ้น

เขาขี่ม้าศึกพุ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว ชุดเกราะของเขาเปรอะไปด้วยโลหิตศัตรู

ปลายหอกของเขาชโลมไปด้วยสีแดงที่กำลังไหลย้อยลงมา

เมื่อเห็นสภาพของเตียวเลี้ยว เฉิงชงจึงเผยรอยยิ้ม

“เวิ่นหยวน เป็นอย่างไรบ้าง สงครามครั้งนี้ประสบผลสำเร็จหรือไม่?”

เตียวเลี้ยวยิ้มกลับ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม

“ด้วยแผนการอันชาญฉลาดและการคาดการณ์ที่แยบยลของนายท่าน ชัยชนะอย่างต่อเนื่องของพวกกบฏโพกผ้าเหลือง ทำให้พวกมันได้ใจและไม่มีแนวป้องกันเลย!”

“ข้าสังหารกบฏโพกผ้าเหลืองไปเยอะมาก ข้าไม่ได้สังหารมากมายขนาดนี้มานานแล้ว!”

“อย่างไรก็ตาม นายท่าน ข้าสามารถจับเชลยได้เช่นกัน”

เมื่อกล่าวจบ เตียวเลี้ยวได้สะบัดมือ

ทหารด้านหลังพาตัวจิวฉองเข้ามาทันที

จิวฉองกัดฟันและไม่โวยวายสิ่งใดขณะรอเฉิงชงพิจารณาโทษ

เตียวเลี้ยวกล่าวเบา ๆ

“นายท่าน แม้ชายผิวสีคนนี้จะเป็นกบฏโพกผ้าเหลือง แต่ความสามารถและความรู้ของเขาไม่เลว ขณะเผชิญหน้ากับการโจมตีแบบกะทันหัน เขายังสงบและไม่เสียสติ อีกทั้งยังเร่งจัดการป้องกันได้อย่างรวดเร็ว”

“หากไม่ใช่เพราะค่ายกลที่พวกเราใช้ เช่นนั้นพวกเราอาจจะสูญเสียมากกว่าที่คิด!”

“ข้าเห็นว่านายท่านเพิ่งเริ่มสร้างกองทัพ และต้องการคนมีความสามารถ ดังนั้นข้าจึงจับเขามาให้นายท่าน”

เฉิงชงพยักหน้าและเหลือบมองจิวฉอง

เขาเริ่มครุ่นคิดภายในใจ

ถึงแม้กบฏโพกผ้าเหลืองส่วนใหญ่จะเป็นคนไม่มีความสามารถ แต่ก็ยังมีคนที่มีความสามารถปะปนอยู่

สามพี่น้องเตียวก๊กที่เป็นผู้นำของกบฏโพกผ้าเหลืองเองก็มีพรสวรรค์

ชั่วขณะหนึ่ง เฉิงชงรู้สึกสงสัยว่าชายตรงหน้าคือผู้ใด

“เจ้ามีชื่อว่าอะไร?”

จิวฉองตอบกลับ

“จิวฉอง!”

เฉิงชงตกตะลึง

จับชายคนนี้ได้ด้วยความบังเอิญงั้นหรือ?

จิวฉองมีชื่อเสียงอย่างมากในประวัติศาสตร์สามก๊ก

เขาเริ่มต้นในกองทัพกบฏโพกผ้าเหลือง ต่อมาได้ถูกปราบโดยกวนอู และเข้าเป็นทหารรับใช้กวนอูมาตลอดชีวิต

หลังจากกวนอูพ่ายแพ้และถูกประหาร เขาเองก็ฆ่าตัวตายตาม

เป็นชายที่มีความจงรักภักดีอันดับต้น ๆ

หากสามารถนำคนเช่นนี้มาเป็นลูกน้องได้ เช่นนั้นก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี

ถึงแม้จิวฉองจะไม่แข็งแกร่งเท่าเตียวเลี้ยว แต่เขาก็มีศักดิ์เป็นถึงแม่ทัพระดับสอง

หากมีเขาคอยคุ้มกัน เช่นนั้นโจรกระจอกที่คิดจะเข้ามาใกล้ย่อมต้องวิ่งหนี

หลังจากคิดได้เช่นนี้ เฉิงชงจึงเอ่ยเบา ๆ

“จิวฉอง จิวหยวนฟู(ชื่อรอง) เจ้าเต็มใจที่จะสวามิภักดิ์หรือไม่?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จิวฉองจึงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยและเงยหน้าขึ้น

ประสบการณ์อันยาวนานของเขาในกองทัพโพกผ้าเหลือง ทำให้เขากลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของทางการ

ในอดีต หากแม่ทัพนายกองของกบฏโพกผ้าเหลืองถูกจับได้ เช่นนั้นจะต้องถูกตัดเพื่อนำไปแลกรางวัลโดยตรง

เฉิงชงยิ้มเบา ๆ

“ข้าทราบว่าเจ้าเป็นคนมีความสามารถ แต่กลับใช้มันในกองทัพกบฏโพกผ้าเหลือง เจ้าไม่คิดว่ามันน่าอายบ้างหรือ?”

“เจ้ามีสายตาที่ดี ดังนั้นคงจะเห็นว่าแม้กองทัพโพกผ้าเหลืองจะแข็งแกร่งตอนนี้ แต่ไม่นานก็ต้องถูกราชสำนักฮั่นปราบ”

“เจ้าอยากจะใช้ชื่อกบฏโพกผ้าเหลืองเหมือนหมูข้างถนน และกลายเป็นโจรปล้นสะดมไปชั่วชีวิตหรืออย่างไร?”

จิวฉองกำหมัดแน่นและก้มหน้าลง

ทุกคำที่เฉิงชงกล่าวมามันกระทบจิตใจของเขาอย่างแม่นยำ

แน่นอนว่าเขาต้องการจะมีส่วนร่วมและสร้างชื่อเสียงให้บรรพบุรุษ

เฉิงชงก้าวไปข้างหน้าและปลดเชือกที่มัดร่างจิวฉองออก

“หยวนฟู(ชื่อรองจิวฉอง) ข้าเสียดายความสามารถของเจ้านัก”

“ข้าสัญญา ภายในสามปีนี้ ทั่วโลกจะรู้จักชื่อจิวฉอง จิวหยวนฟูของเจ้า!”

จิวฉองมองไปที่เฉิงชงอย่างลึกซึ้ง แววตาของสั่นเทาเล็กน้อย

ทันใดนั้นเขาได้คุกเข่าลงกับพื้น

“หากท่านไม่รังเกียจสถานะโจรโพกผ้าเหลืองของข้า เช่นนั้นข้าก็เต็มใจจะรับใช้”

“จิวฉองคนนี้จะขอติดตามนายท่านไปชั่วชีวิต!”

“ในอนาคตหากนายท่านสั่งให้ไปทิศตะวันออก ข้าก็จะไม่ไปทางทิศตะวันตก!”

เมื่อพูดจบเขาได้โขกศีรษะลงกับพื้น!

เฉิงชงเผยรอยยิ้ม

เขารู้นิสัยของจิวฉองดี

เมื่อตัดสินใจมอบความจงรักภักดี ชีวิตนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอีก!

อย่างไรก็ตาม ผลที่ได้อีกทางคือทำให้กวนอูขาดลูกน้องที่จงรักภักดี

ถือได้ว่าเป็นการตัดกำลังของกวนอูไปแล้วหนึ่งส่วน!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด