ตอนที่ 21 ปลดล็อกค่ายกลปีกกระเรียนขั้นเทพเจ้า
ตอนที่ 21 ปลดล็อกค่ายกลปีกกระเรียนขั้นเทพเจ้า
แม่ทัพใหญ่ของศัตรูถูกสังหาร
ผู้บัญชาการจิวฉองถูกจับ
ผู้นำทั้งสองของกองทัพโพกผ้าเหลืองหายไปจากการต่อสู้ทันที
กบฏโพกผ้าเหลืองที่เหลืออยู่ไม่มีขวัญกำลังใจที่จะสู้อีกต่อไป
พวกเขากลายเป็นแมลงวันไร้หัววิ่งไปมารอบค่าย
ภายใต้การนำของเฉิงชง ช่องว่างทั้งหมดถูกปิดโดยค่ายกลของเขา
กบฏโพกผ้าเหลืองส่วนใหญ่ถอยไปทางอำเภออู่เซียน
“ไม่ต้องไล่ตามกบฏเหล่านั้น จับเชลย ม้าศึก และยึดเสบียงอาหารทั้งหมด”
เฉิงชงมองไปยังค่ายที่โกลาหลตรงหน้าพร้อมออกคำสั่ง
ขณะเดียวกัน เสียงของระบบได้ดังขึ้นในหูของเฉิงชง
"ติ๊ง! คุณตัดสินจิตวิทยาของศัตรูสำเร็จอย่างงดงาม ใช้กลยุทธ์การโจมตีตอนกลางคืน ใช้พลังของค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพพระเจ้า และค่ายกลเกล็ดปลาขั้นเทพพระเจ้าเพื่อเอาชนะกบฏโพกหัวเหลืองสำเร็จ"
“คะแนนของคุณคือ B !”
“รับสามร้อยแต้มสงคราม!”
B !
แต้มสงครามเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และมากถึงสามร้อยแต้ม
สิ่งนี้มีโอกาสทำให้เขาสร้างค่ายกลใหม่เพิ่ม
เขาเริ่มเลือกอย่างไม่ลังเล!
“ติ๊ง! ใช้สามร้อยแต้มสงครามเพื่อสร้างค่ายกลใหม่!”
“รับค่ายกล: ค่ายกลปีกกระเรียนขั้นเทพเจ้า (ระดับที่1)!”
......
“ค่ายกลปีกกระเรียนขั้นเทพเจ้า (ระดับที่1)!”
“อาวุธที่ใช้ได้สำหรับค่ายกลคือกองกำลังโจมตีระยะไกล!”
“ผลของออร่าที่หนึ่ง ความเสียหายจากการยิงเพิ่มขึ้นห้าเท่า!”
“ผลของออร่าที่สอง ระยะยิงเพิ่มขึ้นสามเท่า!”
......
เมื่อมองได้ชั่วครู่ เฉิงชงก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นเรื่อย ๆ
มันเป็นค่ายกลที่เหมาะสมกับพลยิงระยะไกล
ส่วนพลังของค่ายกลนี้...
กล่าวได้ว่าเรียบง่ายและร้ายกาจ!
โดยทั่วไปแล้ว กองทหารระยะไกลคือกองทหารที่สร้างความเสียหายได้มากที่สุดในสนามรบ
สิ่งที่สำคัญที่สุดของกองกำลังนี้คือล้มศัตรูก่อนเข้าประชิด
ออร่าของค่ายกลปีกกระเรียนขั้นเทพเจ้านั้นเสริมให้สองสิ่งนี้โดยตรง
ใคร ๆ ก็นึกภาพออกว่ากองกำลังระยะไกลของเฉิงชงจะน่าสะพรึงขึ้นมากหากเสริมค่ายกลนี้!
มันราวกับเครื่องบดเนื้อกลางสนามรบ!
“ดูเหมือนว่าจะถึงเวลาสร้างกองทหารฝ่ายเกาทัณฑ์แล้ว”
เฉิงชงเกาศีรษะและหรี่ตาลง
การมีทหารม้า ทหารราบ และพลเกาทัณฑ์ มันเป็นรูปแบบกองทัพที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ
“นายท่าน!”
เสียงของเตียวเลี้ยวดังขึ้น
เขาขี่ม้าศึกพุ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว ชุดเกราะของเขาเปรอะไปด้วยโลหิตศัตรู
ปลายหอกของเขาชโลมไปด้วยสีแดงที่กำลังไหลย้อยลงมา
เมื่อเห็นสภาพของเตียวเลี้ยว เฉิงชงจึงเผยรอยยิ้ม
“เวิ่นหยวน เป็นอย่างไรบ้าง สงครามครั้งนี้ประสบผลสำเร็จหรือไม่?”
เตียวเลี้ยวยิ้มกลับ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม
“ด้วยแผนการอันชาญฉลาดและการคาดการณ์ที่แยบยลของนายท่าน ชัยชนะอย่างต่อเนื่องของพวกกบฏโพกผ้าเหลือง ทำให้พวกมันได้ใจและไม่มีแนวป้องกันเลย!”
“ข้าสังหารกบฏโพกผ้าเหลืองไปเยอะมาก ข้าไม่ได้สังหารมากมายขนาดนี้มานานแล้ว!”
“อย่างไรก็ตาม นายท่าน ข้าสามารถจับเชลยได้เช่นกัน”
เมื่อกล่าวจบ เตียวเลี้ยวได้สะบัดมือ
ทหารด้านหลังพาตัวจิวฉองเข้ามาทันที
จิวฉองกัดฟันและไม่โวยวายสิ่งใดขณะรอเฉิงชงพิจารณาโทษ
เตียวเลี้ยวกล่าวเบา ๆ
“นายท่าน แม้ชายผิวสีคนนี้จะเป็นกบฏโพกผ้าเหลือง แต่ความสามารถและความรู้ของเขาไม่เลว ขณะเผชิญหน้ากับการโจมตีแบบกะทันหัน เขายังสงบและไม่เสียสติ อีกทั้งยังเร่งจัดการป้องกันได้อย่างรวดเร็ว”
“หากไม่ใช่เพราะค่ายกลที่พวกเราใช้ เช่นนั้นพวกเราอาจจะสูญเสียมากกว่าที่คิด!”
“ข้าเห็นว่านายท่านเพิ่งเริ่มสร้างกองทัพ และต้องการคนมีความสามารถ ดังนั้นข้าจึงจับเขามาให้นายท่าน”
เฉิงชงพยักหน้าและเหลือบมองจิวฉอง
เขาเริ่มครุ่นคิดภายในใจ
ถึงแม้กบฏโพกผ้าเหลืองส่วนใหญ่จะเป็นคนไม่มีความสามารถ แต่ก็ยังมีคนที่มีความสามารถปะปนอยู่
สามพี่น้องเตียวก๊กที่เป็นผู้นำของกบฏโพกผ้าเหลืองเองก็มีพรสวรรค์
ชั่วขณะหนึ่ง เฉิงชงรู้สึกสงสัยว่าชายตรงหน้าคือผู้ใด
“เจ้ามีชื่อว่าอะไร?”
จิวฉองตอบกลับ
“จิวฉอง!”
เฉิงชงตกตะลึง
จับชายคนนี้ได้ด้วยความบังเอิญงั้นหรือ?
จิวฉองมีชื่อเสียงอย่างมากในประวัติศาสตร์สามก๊ก
เขาเริ่มต้นในกองทัพกบฏโพกผ้าเหลือง ต่อมาได้ถูกปราบโดยกวนอู และเข้าเป็นทหารรับใช้กวนอูมาตลอดชีวิต
หลังจากกวนอูพ่ายแพ้และถูกประหาร เขาเองก็ฆ่าตัวตายตาม
เป็นชายที่มีความจงรักภักดีอันดับต้น ๆ
หากสามารถนำคนเช่นนี้มาเป็นลูกน้องได้ เช่นนั้นก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี
ถึงแม้จิวฉองจะไม่แข็งแกร่งเท่าเตียวเลี้ยว แต่เขาก็มีศักดิ์เป็นถึงแม่ทัพระดับสอง
หากมีเขาคอยคุ้มกัน เช่นนั้นโจรกระจอกที่คิดจะเข้ามาใกล้ย่อมต้องวิ่งหนี
หลังจากคิดได้เช่นนี้ เฉิงชงจึงเอ่ยเบา ๆ
“จิวฉอง จิวหยวนฟู(ชื่อรอง) เจ้าเต็มใจที่จะสวามิภักดิ์หรือไม่?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จิวฉองจึงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยและเงยหน้าขึ้น
ประสบการณ์อันยาวนานของเขาในกองทัพโพกผ้าเหลือง ทำให้เขากลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของทางการ
ในอดีต หากแม่ทัพนายกองของกบฏโพกผ้าเหลืองถูกจับได้ เช่นนั้นจะต้องถูกตัดเพื่อนำไปแลกรางวัลโดยตรง
เฉิงชงยิ้มเบา ๆ
“ข้าทราบว่าเจ้าเป็นคนมีความสามารถ แต่กลับใช้มันในกองทัพกบฏโพกผ้าเหลือง เจ้าไม่คิดว่ามันน่าอายบ้างหรือ?”
“เจ้ามีสายตาที่ดี ดังนั้นคงจะเห็นว่าแม้กองทัพโพกผ้าเหลืองจะแข็งแกร่งตอนนี้ แต่ไม่นานก็ต้องถูกราชสำนักฮั่นปราบ”
“เจ้าอยากจะใช้ชื่อกบฏโพกผ้าเหลืองเหมือนหมูข้างถนน และกลายเป็นโจรปล้นสะดมไปชั่วชีวิตหรืออย่างไร?”
จิวฉองกำหมัดแน่นและก้มหน้าลง
ทุกคำที่เฉิงชงกล่าวมามันกระทบจิตใจของเขาอย่างแม่นยำ
แน่นอนว่าเขาต้องการจะมีส่วนร่วมและสร้างชื่อเสียงให้บรรพบุรุษ
เฉิงชงก้าวไปข้างหน้าและปลดเชือกที่มัดร่างจิวฉองออก
“หยวนฟู(ชื่อรองจิวฉอง) ข้าเสียดายความสามารถของเจ้านัก”
“ข้าสัญญา ภายในสามปีนี้ ทั่วโลกจะรู้จักชื่อจิวฉอง จิวหยวนฟูของเจ้า!”
จิวฉองมองไปที่เฉิงชงอย่างลึกซึ้ง แววตาของสั่นเทาเล็กน้อย
ทันใดนั้นเขาได้คุกเข่าลงกับพื้น
“หากท่านไม่รังเกียจสถานะโจรโพกผ้าเหลืองของข้า เช่นนั้นข้าก็เต็มใจจะรับใช้”
“จิวฉองคนนี้จะขอติดตามนายท่านไปชั่วชีวิต!”
“ในอนาคตหากนายท่านสั่งให้ไปทิศตะวันออก ข้าก็จะไม่ไปทางทิศตะวันตก!”
เมื่อพูดจบเขาได้โขกศีรษะลงกับพื้น!
เฉิงชงเผยรอยยิ้ม
เขารู้นิสัยของจิวฉองดี
เมื่อตัดสินใจมอบความจงรักภักดี ชีวิตนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอีก!
อย่างไรก็ตาม ผลที่ได้อีกทางคือทำให้กวนอูขาดลูกน้องที่จงรักภักดี
ถือได้ว่าเป็นการตัดกำลังของกวนอูไปแล้วหนึ่งส่วน!