ตอนที่ 20 พลังของค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้า จับจิวฉองทั้งเป็น!
ตอนที่ 20 พลังของค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้า จับจิวฉองทั้งเป็น!
เป็นกองกำลังของเฉิงชงที่โจมตีค่ายกบฏโพกผ้าเหลือง
เตียวเลี้ยวนำทหารม้าร้อยคนในรูปแบบค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้าเข้าบุกค่ายเป็นกองแรก
ทหารราบอีกสองพันคนถูกแยกออกเป็นส่วน ๆ ภายใต้การจัดการของเฉิงชง
โดยแบ่งออกเป็นยี่สิบกอง
หนึ่งร้อยคนจากแต่ละกองใช้ค่ายกลเกล็ดปลาขั้นเทพเจ้าเข้าขนาบด้านข้างโดยทิศทางที่แตกต่างกัน
หลังจากเตรียมการเสร็จ แม้กองทัพจะมีคนไม่มาก แต่มันก็สามารถลวงตาราวกับเป็นกองทัพใหญ่
สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อจิตใจกบฏโพกผ้าเหลืองและทำให้พวกเขาเสียขวัญอย่างรวดเร็ว
ตราบใดที่ขวัญกำลังใจทั้งหมดพังทลาย กบฏโพกผ้าเหลืองหนึ่งหมื่นคนก็เป็นเพียงแกะที่รอเฉิงชงมาเชือดเท่านั้น!
เตียวเลี้ยวถือทวนเหล็กพร้อมเผยแววตาอันมุ่งมั่น
ก่อนหน้านี้เขาถูกนายอำเภอหม่าอี้กดขี่และไม่สามารถสร้างผลงานได้
แต่ตอนนี้เขาออกจากหม่าอี้และทำงานภายใต้คำสั่งของเฉิงชง ไม่ว่าจะบุกน้ำหรือลุยไฟเขาก็ทำได้!
การโจมตีค่ายทหารกบฏโพกผ้าเหลืองเป็นผลงานชิ้นแรกของเขา!
แน่นอนว่าเขาต้องทุ่มสุดตัว
หลังจากการต่อสู้ในวันนี้ ชื่อของเตียวเลี้ยวจะเขย่าโลกทั้งใบ!
เมื่อเผชิญหน้ากับความฮึกเหิมของเตียวเลี้ยว จิวฉองเองก็เปลี่ยนท่าทีเช่นกัน
เขาสัมผัสได้ถึงความพิเศษของทหารม้ากลุ่มนี้
แม้จำนวนจะดูเล็กน้อย แต่แรงกดดันนั้นมหาศาลอย่างยิ่ง
จิวฉองกัดฟันและตะโกนออกคำสั่งอย่างสุดชีวิต
“อย่าได้กลัวไปเลยพี่น้องข้า พวกมันเป็นทหารม้าและจุดอ่อนก็ชัดเจน!”
“ย้ายกำแพงเขากวางทั้งหมดมาเชื่อมกัน จากนั้นจงสร้างแนวป้องกันและหยุดการเคลื่อนไหวของทหารม้าให้ได้!”
“คนที่เหลือจงสร้างค่ายกลด้วยหอกและเข้าโจมตีระยะประชิด!”
“ตราบใดที่เราอดทนจนพี่น้องคนอื่นได้สติ เช่นนั้นการต่อสู้ครั้งนี้จะไม่พ่ายแน่!”
ภายใต้คำสั่งของเขา กลุ่มทหารโพกผ้าเหลืองได้เคลื่อนตัวกันอย่างรวดเร็ว
เขากวางถูกนำมาเชื่อมต่อกัน
พลหอกทั้งหมดเข้ามารวมตัว
หลังจากได้ยืนอยู่หลังการป้องกันอันแน่นหนา จิวฉองจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาก
แม้จะเป็นทหารม้าที่เก่งที่สุดก็ต้องอิงหลักแห่งความเป็นจริง!
เขากวางทั้งหมดเมื่อรวมกับกองทัพหอก มันก็เพียงพอจะหยุดยั้งทหารม้าจนถึงตายได้!
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วของทหารโพกผ้าเหลือง ดวงตาของเตียวเลี้ยวได้สั่นไหวเล็กน้อย
เขาตอบสนองโดยพลันพร้อมสงบสติอารมณ์
ดูเหมือนว่าเจ้าเมืองเต๊งหงวนจะกล่าวถูกต้อง กองทัพของกบฏโพกผ้าเหลืองครั้งนี้พอจะมีฝีมืออยู่จริง!
ยิ่งกว่านั้นผู้ออกคำสั่งยังมีความสามารถและความรู้อยู่ไม่น้อย
หากเป็นกองทหารม้าอื่น เช่นนั้นการรับมือกับเขากวางและหอกตรงหน้าถือว่าเป็นฝันร้าย
แต่น่าเสียดาย
กบฏโพกผ้าเหลืองเหล่านี้เลือกเป้าหมายผิด!
พวกเขาไม่ใช่ทหารม้าธรรมดา
มันเป็นทหารม้าที่ปกคลุมไปด้วยออร่าของค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้า!
ผลของออร่าที่สอง
ม้าพุ่งเร็วขึ้นห้าเท่า!
หลังจากได้รับผลของพลังนี้ เหล่าทหารม้าจะได้รับการพัฒนาอย่างมาก
ผลของออร่าที่สาม
ความสามารถในการทำลายสิ่งกีดขวางต่าง ๆ เช่นเขากวางและหอกเพิ่มขึ้นสามเท่า!
เมื่อออร่าทั้งสองซ้อนทับกัน ความเสียหายของมันจึงน่าสะพรึงอย่างแท้จริง
สิ่งกีดขวางตรงหน้าพวกเขากลายเป็นเพียงของเล่นเด็กเท่านั้น!
เตียวเลี้ยวเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน จากนั้นได้เหวี่ยงทวนเหล็กในมือเพื่อทำลายเขากวางตรงหน้าจนเป็นหักสองซีกทันที!
ม้าขนสีทองของเขากระโดดข้ามเศษซากเขากวางได้อย่างง่ายดาย
ทหารม้าคนอื่น ๆ ก็ทำเช่นเดียวกัน ทันทีที่สะบัดหอกในมือ สิ่งกีดขวางตรงหน้าได้ถูกทำลายหมดสิ้น!
การป้องกันของกบฏโพกผ้าเหลืองพังทลายอย่างง่ายดาย
ทหารม้าทั้งรอยคนนี้สามารถบดขยี้ได้เพียงชั่วพริบตา!
ประสิทธิภาพในการทำลายล้างทำให้จิวฉองตกตะลึง
“นี่ใช่ทหารม้าจริงหรือ?”
“มันช่างร้ายกาจนัก!”
เตียวเลี้ยวหัวเราะและเดินตรงไปยังจิวฉอง จากนั้นได้ยกทวนเหล็กขึ้น
คมดาบปลายทวนฟาดลงมาโดยตรง!
จิวฉองได้สติกลับมาและรีบยกดาบขึ้นกำบังการโจมตีของเตียวเลี้ยว
ตู้ม!
เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่ว!
จิวฉองถอยหลังไปสี่ถึงห้าก้าว ดาบยาวของเขาถูกฟันแตกเป็นสองท่อน ปากของเขามีเลือดไหลซึมตามออกมา
“เป็นไปได้อย่างไร!”
ในเวลานี้จิวฉองรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย!
ค่าพลังของตนและเตียวเลี้ยวแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
เตียวเลี้ยวหัวเราะเสียงดังและเหวี่ยงทวนเหล็กอีกครั้ง
ปลายทวนราวกับอสรพิษพุ่งเข้าหาจิวฉองโดยตรง
จิวฉองถูกกระแทกออกมาและหมดสติ ไม่มีใครทราบว่าเขายังมีลมหายใจอยู่หรือไม่
“เอาเชือกมัดเขาไว้!”
“ชายผิวสีผู้นี้มีความรู้และความสามารถ บางทีนายท่านอาจจะถูกใจ!”
ทันใดนั้นทหารม้าหม่าอี้ได้เข้าไปมัดตัวจิวฉอง
เตียวเลี้ยวหันไปมองค่ายของกบฏโพกผ้าเหลืองอีกครั้ง จากนั้นได้บุกเข้าไปสังหารต่อทันที
ทหารทั่วค่ายเริ่มส่งเสียงร้องโหยหวนจากความทรมาน
ขณะเดียวกัน ทหารราบกองอื่น ๆ ก็ได้เข้าโจมตีทันทีที่เห็นกองทหารม้าบุกสำเร็จ
เสียงกรีดร้องดังมาจากทุกสารทิศ
ฉิวช่วยได้ยินเสียงอันไม่พึงประสงค์ เขาขยี้ตาและเดินออกมาจากกระโจมด้วยความงุนงง
ลมราตรีอันหนาวเหน็บพัดเข้ากระทบใบหน้า เป็นผลให้เขาตื่นขึ้นทันที
เขามองไปรอบด้านด้วยความหวาดกลัว
“เหตุใดถึงมีเสียงการบุกรุกจากทุกที่?”
“พวกมันมากันเท่าไหร่?”
“ไม่ ข้าต้องรีบหนี!”
เขากลืนอาการตื่นตระหนกลงท้อง และพยายามจะหนีออกจากค่าย
เขาวิ่งไปชนกับทหารราบที่กำลังบุกเข้ามา
ทหารราบใช้มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อของเขาและใช้ดาบอีกข้างแทงทะลุหน้าอกโดยตรง!