ตอนที่แล้วตอนที่ 299+300 งานแต่งงานของตระกูลเหลียง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 303+304 ชิงสีไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย

ตอนที่ 301+302 ตาบอด


กำลังโหลดไฟล์

“คุณตาบอดเหรอ” เหลียงเยว่หวาตอบโดยไม่ให้เกียรติอีกฝ่าย เขาตอบในทันทีที่ภรรยาสาวพูดจบ เขากำลังชงชาทำให้มองไม่เห็นหน้าเขาชัดนัก อย่างไรเมื่อพิจารณาจากน้ำเสียงแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พูดเล่นแต่อย่างใด

เจียงเหยารู้สึกตกใจเล็กน้อย หลังจากที่เธอได้ยินคำพูดของเขาและมองไปยังทิศทางที่คุณนายเหลียงอยู่โดยไม่รู้ตัว ตามที่คาด การแสดงออกทางสีหน้าของคุณนายเหลียงขณะนี้เปลี่ยนไปในทันที

แต่ดูเหมือนคุณนายเหลียงจะชินกับมันแล้ว เธอเองก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วเช่นกัน เธอยิ้ม “ใช่สิ ฉันน่ะตาบอด ไม่อย่างนั้นฉันจะแต่งงานกับคุณได้ยังไง”

หลังจากตอบกลับแล้ว คุณนายเหลียงเม้มริมฝีปากและหัวเราะออกมาเบา ๆ เธอหัวเราะอย่างร่าเริง ใครก็ตามที่ไม่เข้าใจสถานการณ์อาจคิดว่าคุณนายเหลียงแค่ล้อเล่นกับสามี ทว่าเมื่อพิจารณาจากน้ำเสียงของเธอแล้ว คนอื่น ๆ อาจถึงกับคิดว่าพวกเขาเป็นคู่รักที่น่ารักทีเดียวเชียว

แต่เจียงเหยาสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าคุณนายเหลียงยอมรับทุกอย่างที่เหลียงเยว่หวากล่าวในตอนนี้

เจียงเหยาเอื้อมมือออกไปและลูบที่ฝ่ามือของลู่ชิงสี เธอกลัวว่าระหว่างเหลียงเยว่หวาและภรรยาของเขาอาจจะมีปัญหาในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้ง ๆ ที่ภายนอกดูปกติดี

“ครับ?” ความรู้สึกคันทำให้มือของลู่ชิงสีสะบัดกลับโดยไม่รู้ตัว เขาจับนิ้วที่กำลังดิ้นยุกยิกไปมาอยู่ในฝ่ามือของเขาและมองไปที่เจียงเหยา จากนั้นเขาก็ส่งชาให้กับเธอและพูดว่า “ลองชิมสิ ทั้งลุงเหลียงและพี่ใหญ่เหลียงต่างก็ชอบชาดี ๆ และหายาก การชงชานี่เป็นงานอดิเรกของพี่เหลียงเขา เวลาที่เขาว่างล่ะ”

“ฉันล่ะคิดว่าคนที่ไม่ค่อยมีเวลาว่างคงจะเป็นคนอื่น ฉันพูดถูกไหมล่ะ” เหลียงเหย่หวายิ้มอย่างอ่อนโยนและเอื้อมมือออกไปให้กับคนที่ยืนอยู่ข้างหลังลู่ชิงสี จากนั้นเขาก็ทักทายคน ๆ นั้นว่า “เฉินเฟยถัง เธอจะไปยืนอยู่ข้างหลังลู่ชิงสีเขาทำไมกัน ตั้งแต่เขาเดินเข้ามาก็ไปยืนข้างหลังอยู่ได้ เธออาสาเป็นผู้ดูแลของจ่าลู่แล้วหรือไง?”

เมื่อลู่ชิงสีได้ยินเหลียงเหย่หวาเรียกชื่อของคน ๆ นั้น เขาก็ขมวดคิ้วแต่ยังคงถามเจียงเหยาว่า “ขยับไปข้างในหน่อยสิ จะได้เหลือที่นั่งให้กับคุณเฉิน”

เจียงเหยาได้ยินเหลียงเหย่หวาพูดถึงผู้หญิงในชุดทหารที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา โดยเรียกเธอว่า เฉินเฟยถัง คำถามแรกที่เข้ามาในหัวของเธอคือ ผู้หญิงคนนี้เกี่ยวกับข้องเฉินเฟยไป่หรือไม่? ชื่อของเธอคล้ายกับชื่อชายฉกรรจ์คนนั้น

เหลียงเหย่หวาเรียกเฉินเฟยถังด้วยชื่อเต็มของเธอ อย่างน้อยก็บอกได้ว่าพวกเขาคุ้นเคยกันดี แต่เมื่อมาถึงลู่ชิงสี เขากลับเรียกเธอว่าคุณเฉิน

เจียงเหยาได้ยินอย่างชัดเจนว่าผู้หญิงคนนั้นเรียกลู่ชิงสีด้วยชื่อของเขาในตอนแรก สงสัยว่าพวกเขาคงรู้จักกันมานานแล้ว

“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ต้องการ มันขึ้นอยู่กับลู่ชิงสีต่างหากว่าเขาเต็มใจที่ยอรับฉันหรือเปล่า” เฉินเฟยถังนั่งลงยังพื้นที่ ที่ลู่ชิงสีเหลือไว้ให้ เธอนั่งใกล้เขามาก จากนั้นเธอก็พูดว่า “เราเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมาก่อน แต่ดูลู่ชิงสีสิเขาเรียกฉันซะเป็นทางการออกขนาดนั้น เรียกฉันว่า คุณเฉิน?”

“เฟยถาน ฉันจำได้ว่าเธอเป็นกองหลังให้กับลู่ชิงสีใช่ไหม” ภรรยาของเหลียงเหย่หวาที่เงียบอยู่ก็พูดขึ้น

“คุณนายเหลียงพูดถูกแล้วครับ” ลู่ชิงสีพยักหน้า “เราเรียนวิทยาลัยเดียวกัน แต่ไม่ใช่เพื่อนร่วมชั้นกัน อีกอย่างคุณเฉินยังอายุน้อยมีอนาคตอีกไกล ส่วนผมเป็นเพียงจ่าเท่านั้น คงรับการดูแลจากคุณเฉินไม่ได้หรอกครับ”

เมื่อเขาพูดจบ เขาก็ยืนขึ้นและพูดว่า “พี่ใหญ่เหลียง คุณนายเหลียง ผมกำลังจะพาภรรยาไปพบกับครอบครัวหลัว ขอตัวนะครับ”

จากนั้นลู่ชิงสีดึงเจียงเหยาขึ้นและเดินออกจากคฤหาสน์ของตระกูลเหลียง

เมื่อพวกเขาออกมาจากคฤหาสน์แล้ว ลู่ชิงสีไม่ได้พาเจียงเหยาไปที่เยี่ยมครอบครัวหลัว พวกเขากลับไปเดินเล่นรอบ ๆ คฤหาสน์แทน

“เกิดอะไรขึ้นระหว่าคุณกับคนที่ชื่อเฉินเฟยถังคะ?” เจียงเหยากระซิบถามลู่ชิงสี หลังจากเธอเอื้อมมือออกไปจิ้มที่แขนของเขา

“คุณสองคนทำตัวแปลก ๆ แม้แต่พี่ใหญ่เหลียงและภรรยาของเขาก็ทำตัวแปลก ๆ ด้วยเช่นกัน”

___

“เฉินเฟยถังเป็นลูกพี่ลูกน้องของเฉินเฟยไป่ เธอมีอนาคตที่ดีกว่าเขา เธอเป็นทหารหญิงคนเดียวในรุ่น ย้อนกลับไปตอนที่ผมยังเรียนอยู่ เราเรียนที่วิทยาลัยทหารเดียวกัน เธออายุน้อยกว่าผม ก็นั่นแหละ ไม่มีอะไรแปลกระหว่างเรา?” ลู่ชิงสีอธิบาย

“เธอเกี่ยวข้องกับเฉินเฟยไป่!” เจียงเหยาหัวเราะ “เฉินเฟยไป่เป็นคนที่ฉันจำได้เมื่อได้ยินชื่อของเธอ!”

เจียงเหยาสามารถบอกได้ชัดเจนว่าลู่ชิงสีปฏิบัติต่อเฉินเฟยถังอย่างเย็นชาเกินไปเช่นนี้ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือเขาตั้งใจจะเว้นระยะห่างจากเธอ เมื่อเจียงเหยารู้ว่าเฉินเฟยถังเป็นลูกพี่ลูกน้องของเฉินเฟยไป่ ในที่สุดเจียงเหยาก็เข้าใจทุกอย่าง

มีคำโบราณที่เคยว่าไว้ ‘ถ้าผู้ชายรักผู้หญิง เขาจะรักทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเธอ’ ในทางตรงกันข้าม เมื่อผู้ชายเกลียดใครสักคน อาจทำให้เขาเกลียดชังคนและสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวคน ๆ นั้น

เจียงเหยาสันนิษฐานว่าเฉินเฟยไป่เป็นสาเหตุที่ลู่ชิงสีปฏิบัติต่อเฉินเฟยไป่เช่นนั้น ทั้งหมดเป็นเพราะลู่ชิงสีไม่ชอบเฉิยเฟยไป่ ดังนั้นเขาจึงพาลไม่ชอบลูกพี่ลูกน้องของเฉินเฟยไป่ไปด้วย

“แล้วพี่ใหญ่เหลียงกับภรรยาของเขาล่ะคะ?” เจียงเหยาถาม “พี่ใหญ่เหลียงดูเมหือนเขาหมายความอย่างนั้นตอนที่บอกว่าภรรยาของเขาตาบอด แม้แต่ภรรยาของเขาก็ดูจริงจังด้วย”

“ทั้งคู่...” มันเป็นฉากที่หายากที่จะได้เห็นลู่ชิงสีแสดงอารมณ์มากมายบนใบหน้าของเขาเช่นนี้ “มันเป็นการแต่งงานทางการเมืองระหว่างสองครอบครัวน่ะ เท่าที่ได้ยินเยวี่ยจือเล่า ภรรยาของพี่ใหญ่เหลียงมคนรักก่อนที่เธอจะแต่งงานกับเขา แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาถูกครอบครัวของเธอตัดจนขาด หลังจากล้มเหลวนับไม่ถ้วนในการต่อต้านคำสั่งของครอบครัว ในที่สุดเธอก็ถูกบังคับให้แต่งงานกับพี่ใหญ่เหลียง”

ดังนั้นคนสองคนที่ไม่มีความรู้สึกต่อกันจึงถูกผูกไว้ด้วยกันเพราะครอบครัวของพวกเขา นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงแม้ร่างกายของพวกเขาจะถูกผูกไว้ด้วยกัน แต่จิตวิญญาณของพวกเขาไม่เคยผูกกันมาก่อน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างพี่ใหญ่เหลียงและภรรยาของเขาจะออกแปลก ๆ เช่นนั้น

เมืองจินโดในเดือนตุลาคมไม่ร้อนอีกต่อไปแล้ว พระอาทิตย์อยู่บนท้องฟ้าสูง แต่ทำให้คนรู้สึกเพียงอบอุ่นเท่านั้น

เจียงเหยาถามคำถามอีกสองสามข้อเหมือนเด็กที่อยากรู้อยากเห็น หลังจากได้รับคำตอบทั้งหมดแล้ว เธอทำได้เพียงถอนหายใจและเดินต่อไปพร้อมกับลู่ชิงสี

ในความเป็นจริง ลู่ชิงสีเงียบเกือบตลอดเวลา ถ้าเธอไม่ถามอะไรหรือพูดอะไรออกมา เขาจะนิ่งเงียบเหมือนเคย

ในทางตรงกันข้าม เจียงเหยาเป็นคนช่างพูดมากเกือบตลอดเวลา ก่อนที่เธอจะแต่งงานกับลู่ชิงสี เธอเป็นคนเดียวที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับครอบครัวของเธอ เธอใช้คำพูดได้ดีตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และทำให้ทุกคนต่างพากันชื่นชอบเธอมาก

นานมากลแว ก่อนที่เธอจะได้เห็นเจตจำนงของเขาและก่อนที่เธอจะได้เห็นเวลาที่เขาได้ช่วยชีวิตของเธอโดยไม่คิดถึงตัวเอง เธอเคยไม่ชอบเขาที่ไม่รู้ว่าจะใช้คำพูดของเขาหรือพูดจาไพเราะออกมาได้อย่างไร เธอเกลียดบุคลิกหน้าตาบูดบึ้งของเขา

อย่างไรก็ตาม สำหรับในตอนนี้ เธอกำลังเดินอยู่ใต้ดวงอาทิตย์โดยมีเขาเดินอยู่เคียงข้าง แม้ว่าทั้งคู่จะไม่พูดอะไร แต่ก็ไม่รู้สึกอึดอัดเลย ไม่มีความไม่สบายใจระหว่างพวกเขา แม้ว่าบรรยากาศโดยรอบจะเงียบมาก

เธอกำลังเลียนแบบฝีเท้าของเขา เธอเริ่มต้นด้วยเท้าซ้ายแล้วตามด้วยเท้าขวา เขาปรับความเร็วในการเดินให้เหมาะสมกับก้าวเล็ก ๆ ของเธอ เพื่อที่เขาจะได้ไม่เดินเร็วจนเกินไป สำหรับการเล่นแบบนี้ เด็กสามขวบอาจจะไม่ชอบ แต่เธอชอบนัก

ใช้เวลานานกว่าที่ลู่ชิงสีจะสังเกตเห็นว่าเจียงเหยาให้ความสนใจกับเขาของเขา ขณะที่เขาเห็นเธอพยายามเลียนแบบวิธีที่เขาเดินเคียงข้างเธอ ริมฝีปากของเขาก็โค้งขึ้นอย่างเงียบ ๆ

เธอเป็นเด็กหญิงอายุสิบเก้าปีที่ยังไม่โตเต็มที่ และเธอรู้วิธีสนุกจริง ๆ ทำให้เขาประหลาดใจ เธอไม่ได้บ่นว่าเขาไม่เปิดปากพูด

เจียงเหยาสนุกกับตัวเองมากจนเธอไม่ได้สังเกตว่าลู่ชิงสีกำลังสังเกตเธออยู่ เธอก้มศีรษะลงและซ่อนรอยยิ้ม เธอใช้วิธีของตัวเองในการวัดน้ำหนักและความยาวของขั้นตอนทั้งหมดที่เขาเดิน

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด