ตอนที่แล้ว418 - ภัยอันตรายของหมู่บ้านหิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป420 - พี่ชายของราชานกยูง

419 - นักพรตเฒ่าที่น่ากลัว


กำลังโหลดไฟล์

419 - นักพรตเฒ่าที่น่ากลัว

ในตอนเช้าของวันเย่ฟ่านพาหวังซู่เดินทางออกไปซื้อของในพื้นที่สีเขียวบริเวณใกล้เคียง ในตอนที่เขากลับมาเขาเห็นผู้คนมากมายยืนอยู่ที่ด้านหน้าของหมู่บ้าน

"เกิดอะไรขึ้น?" เย่ฟ่านถาม

“มีนักพรตเฒ่าคนหนึ่งชื่นชอบหินโม่ของท่านปู่ห้าในขณะเดียวกันเขาก็ชื่นชอบหินโม่ของเอ้อหรงจื่ออีกด้วย เขาต้องการที่จะซื้อมันไม่ว่าราคาจะแพงแค่ไหนก็ตาม”

ดวงตาของเย่ฟ่านเปล่งประกายอย่างเย็นชา นักพรตเฒ่าคู่นี้มีสายตาที่ชั่วร้ายอย่างยิ่ง

เย่ฟ่านค่อนข้างมั่นใจว่าหินโม่ของท่านปู่ห้าและเอ้อหรงจื่อไม่มีอะไรแปลกประหลาดอย่างแน่นอน แต่นักพรตเฒ่าจำเพาะเจาะจงไปยังบ้านของคนทั้งสอง เห็นได้ชัดว่าชายชรามองเห็นอะไรบางอย่าง

เย่ฟ่านใจสั่นเขาก็รีบเดินไปข้างหน้า มีนักพรตเฒ่าอยู่ในฝูงชน เสื้อผ้าของเขาเก่าคร่ำคร่า ดูเหมือนจะไม่ถูกซักล้างมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว

หัวใจของเย่ฟ่านเต้นระรัว รูปแบบของเสื้อคลุมนักพรตนั้นคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

เย่ฟ่านพยายามทำตัวสงบแต่มีความกลัวอยู่ในใจของเขา สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาบอกว่าที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ไม่ใช่ยอดฝีมือธรรมดา ความกดดันที่เขาได้รับมันไม่แตกต่างจากประเชิญหน้ากับมังกรตัวใหญ่

อย่างไรก็ตามในทันใดนั้นความกดดันที่เย่ฟ่านได้รับก็ดูเหมือนจะหายไปในทันที เห็นได้ชัดว่านักพรตเฒ่ามีเจตนาจะแสดงการข่มขู่เท่านั้น

นี่คือนักพรตที่มีผมสีขาวแก่ชราอย่างยิ่ง เขาดูมีอายุประมาณเจ็ดสิบถึงแปดสิบปี ในตอนนี้เขากำลังดูหินโม่ที่อยู่หน้าบ้านเอ้อหรงจื่อด้วยสีหน้าจริงจัง

“ข้าจะให้ต้นกำเนิดสิบจิน ข้าต้องการหินโม่นี้”

นักพรตเฒ่าพูดกับพ่อแม่ของเอ้อหรงจื่อ

ต้นกำเนิดสิบจิน? นี่เป็นจำนวนที่มากมายอย่างยิ่ง ทุกคนรอบตัวต่างก็แตกตื่นตกใจอย่างถึงที่สุด

แม้แต่เย่ฟ่านก็ยังงงงวย เขาเฝ้าดูหินโม่นี้อย่างระมัดระวัง แต่เขาไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติอะไร

ในท้ายที่สุดนักพรตเฒ่าก็ซื้อหินโม่ใบนั้นและลงมือตัดเปิดต่อหน้าทุกคน

เศษหินกำลังโบยบิน เขาลงมืออย่างระมัดระวังเพราะกลัวจะตัดสมบัติบางอย่าง การกระทำของเขาดูเหมือนจะใช้แรงน้อยอย่างยิ่ง แต่เศษหินยังคงบินขึ้นฟ้าอย่างวุ่นวาย

อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดหินโม่ก็กลายเป็นหินก้อนหนึ่งโดยไม่มีอะไรมากกว่านั้น นักพรตเฒ่าขมวดคิ้วเขาชี้นิ้วไปยังก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่หน้าบ้านท่านปู่ห้าและกล่าวว่า

“ยี่สิบจินข้าจะขอซื้อหินโม่ก้อนนั้น”

“นี่…” ผู้คนในหมู่บ้านหินต่างตกใจมาก

“ท่านปู่หินโม่เหล่านี้มาจากที่ใด?” เย่ฟ่านถามท่านปู่ห้าด้วยเสียงต่ำ

“ข้าไม่รู้ว่ามันมาจากไหน แต่บรรพบุรุษของข้าก็ใช้มาหลายชั่วอายุคนแล้ว”

ทันใดนั้นการแสดงออกของท่านปู่ห้าก็เปลี่ยนไป เขาและเย่ฟ่านมองหน้ากัน พวกเขาคิดถึงความเป็นไปได้หนึ่ง หรือบรรพบุรุษของท่านปู่ห้าจะทิ้งบางอย่างไว้?

ต้องเข้าใจว่าบรรพบุรุษของท่านปู่ห้าคือปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ ของที่เขาทิ้งไว้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นสมบัติวิเศษ

"มันเป็นศิลาต้นกำเนิดหรือไม่" เย่ฟ่านถาม

"ตอนแรกข้าไม่คิดเช่นนั้น ตอนนี้ข้ากลับไม่มั่นใจแล้ว"

นักพรตเฒ่าคนนี้คือใครกันแน่?

“หินโม่นี้เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของข้าตกทอดมาให้หลายร้อยปีแล้วและข้าไม่มีแผนจะขายมัน” ท่านปู่ห้าปฏิเสธอย่างแนบเนียน

นักพรตเฒ่าที่แผ่นหลังงองุ้มอยู่แต่เดิม ฉับพลันทันใดนั้นร่างกายของเขาก็เหยียดตรงขึ้น ดูเหมือนจะฟื้นคืนความเยาว์วัยกลับมาเล็กน้อย

“นักพรตเฒ่าผู้น่าสงสารคนจะนี้ไม่เอาเปรียบเจ้า ข้าจะให้ต้นกำเนิดห้าจินแก่เจ้า และถ้ามีสมบัติพิเศษบางอย่างอยู่ในหินก้อนนี้เมื่อตีเป็นราคาตลาดแล้วข้าจะมอบมันให้เจ้าครึ่งนึง”

ท่านปู่ห้ารู้สึกกังวลเล็กน้อย จากท่าทีของเย่ฟ่านเขาก็รู้ดีว่านักพรตเฒ่าคนนี้มีทักษะการฝึกฝนที่ไม่ธรรมดา หากเขาปฏิเสธอย่างเด็ดขาดก็มีโอกาสสูงที่ฝ่ายตรงข้ามจะแย่งชิงมันไปโดยตรง

"เรื่องนี้..."

"บูม!"

ในขณะมีเสียงดังที่ปลายขอบฟ้า ควันและฝุ่นทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าและมีความผันผวนของพลังงานที่รุนแรงมาก

มันมาจากภูเขาสีม่วงนั่นเอง!

นักพรตเฒ่าหันกลับมาอย่างรวดเร็วและมองไปสุดขอบฟ้าด้วยดวงตาที่ขาวขุ่นสองเม็ด ทันใดนั้นร่างกายที่แห้งแล้งของเขาก็ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัว

ตอนนี้สภาพของเขาไม่เหมือนกับมนุษย์แม้แต่น้อย มันเหมือนกับอสุรกายที่หลบซ่อนตัวจากโลกมนุษย์มานานกว่าหมื่นปี ชาวบ้านหมู่บ้านหินผาที่สัมผัสกับกลิ่นอายของเขาล้มลงกับพื้นด้วยความกลัว

นักพรตเฒ่าไม่ได้สนใจเรื่องนี้เขาโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นแขนเสื้อของเขาก็ม้วนกวาดก้อนหินแทบจะทั้งหมดในหมู่บ้านหินถูกดูดเข้าไปในแขนเสื้อของเขา

หนังศีรษะของเย่ฟ่านชาหนึบ ความแข็งแกร่งของนักพรตเฒ่าพรุ่งนี้น่ากลัวเกินไป เขาเพียงแค่สะบัดแขนเสื้อเบาๆโดยไม่เจตนา แต่พลังของมันนั้นไม่ทราบว่าเมื่อเทียบกับราชานกยูงแล้วจะเป็นอย่างไร

นักพรตเฒ่ากลายเป็นหมอกสีเทาและพุ่งตรงไปยังภูเขาสีม่วง ทำให้ท้องฟ้าสั่นสะเทือนราวกับมังกรที่แท้จริงบินผ่านท้องฟ้า

"ดินแดนรกร้างตะวันออกนั้นใหญ่เกินไป ไม่รู้ว่ายังมียอดฝีมือมากมายแค่ไหนที่หลบซ่อนตัวอยู่ ดูเหมือนแท้ที่จริงแล้วดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้มีอำนาจถึงขนาดนั้น" เย่ฟ่านพูดกับตัวเอง

ดินแดนรกร้างตะวันออกนั้นไร้ขอบเขต ด้วยความแข็งแกร่งระดับของเย่ฟ่านต่อให้เขาใช้เวลาเดินทางทั้งชีวิตก็ไม่แน่ว่าจะบินจากอีกฝั่งนึงไม่ถึงอีกฝั่งนึงได้

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่” หลายคนในหมู่บ้านหินรู้สึกประหม่าอย่างมาก

“รีบไปเก็บข้าวของซะ พวกเราต้องอพยพออกจากที่นี่เดี๋ยวนี้”

เย่ฟ่านบอก เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นจึงลอยขึ้นไปในอากาศและมุ่งหน้าเข้าสู่ภูเขาสีม่วงอย่างไม่ลังเล

ภูเขาสีม่วงตั้งตระหง่านสูงราวกับกระบี่สีม่วงที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า มีรอยมีดและเครื่องหมายจากอาวุธมากมาย มันตั้งอยู่ตรงนี้เป็นเวลาหลายแสนปีแล้ว แต่ถึงจะอย่างนั้นมันก็ยังไม่มีร่องรอยของการสึกหรอแม้แต่น้อย

หลังจากที่ดินเข้าใกล้ในที่สุดเย่ฟ่านก็มองเห็นว่าอะไรคือต้นกำเนิดของเสียงระเบิดเมื่อสักครู่นี้ สายตาของเขาเหลือบมองไปยังมังกรดำตัวใหญ่ที่กำลังมัดภูเขาโดยพละกำลังอันดุร้าย

ยักษ์ตัวนี้กำลังบิดภูเขาให้แตกออกด้วยลำตัวของมัน ลักษณะการเคลื่อนไหวของมันน่ากลัวมาก เย่ฟ่านใบหน้าซีดขาวไม่กล้าเข้าใกล้อีกแม้แต่จ้างเดียว

“มังกรดำตัวนี้ข้าเคยเห็นมันในคัมภีร์โบราณมาก่อน” เย่ฟ่านขมวดคิ้ว “แดนศักดิ์สิทธิ์ยังไม่มาแต่อสูรศักดิ์สิทธิ์ปกป้องนิกายของพวกเขามาถึงแล้ว”

“โฮก!!!”

นักพรตเฒ่าส่งเสียงคำรามจนท้องฟ้าสั่นสะเทือนราวกับจะแตกออก

บนภูเขาสีม่วงร่างกายที่ใหญ่โตของมังกรดำหยุดการเคลื่อนไหวในทันที

มังกรดำหันหน้ากลับมามองอย่างช้าๆ เมื่อเห็นว่าคนที่ส่งเสียงคำรามนั้นคือนักพรตเฒ่ามันก็รีบคลายตัวจากการยึดเกาะภูเขาสีม่วงพร้อมกับตะเกียกตะกายไปอีกฝั่งหนึ่งของภูเขาด้วยความหวาดกลัว

แม้ว่านักพรตเฒ่าจะดูแก่ชราอย่างยิ่ง แต่เมื่อเขายืนอยู่กลางอากาศพลังความกดดันที่ออกมาจากร่างกายของเขามันไม่ใช่สิ่งที่ผู้สูงสุดธรรมดาจะต้านทานได้

"ทุกท่านจะให้เดรัจฉานตัวนี้ทดสอบความอดทนของอาตมาหรือไม่" นักพรตเฒ่ากล่าวอย่างใจเย็น

ในทันใดนั้นชายชราสามคนก็ปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่า ลักษณะภายนอกของพวกเขานั้นมีอายุประมาณเจ็ดสิบแปดสิบปีจนคล้ายกับว่าเท้าข้างหนึ่งได้เดินเข้าสู่ประตูนรกไปแล้ว

“สหายเต๋าคือใคร?”

ชายชราคนหนึ่งถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา คำพูดของเขานั้นแฝงไปด้วยเต๋าผู้ยิ่งใหญ่มีอำนาจคุกคามให้ผู้คนหวาดกลัว

“ข้ามีชีวิตอยู่มานานเกินไปจนแม้กระทั่งชื่อของตัวเองก็ยังลืมไปแล้ว” นักพรตเฒ่ากล่าวอย่างเฉยเมย

“สหายเฒ่าเจ้าหยิ่งผยองเกินไปแล้ว สถานที่แห่งนี้ไม่มีเจ้าของการที่พวกเราจะทำอะไรจำเป็นด้วยเหรอที่ต้องขออนุญาตเจ้า…”

“อย่างนั้นหรือ?”

นักพรตเฒ่าดูเหมือนจะไม่ต้องการพูดอะไรอีก ทันใดนั้นฝ่ามือขนาดใหญ่ของเขาก็ตกลงมาจากท้องฟ้ามันกระแทกเข้าใส่ชายชราทั้งสามอย่างรวดเร็วจนสายตาของเย่ฟ่านไม่อาจมองทัน

ปัง ปัง ปัง!

เสียงระเบิดดังต่อเนื่องขึ้นสามครั้ง ในช่วงเวลาเสี้ยวลมหายใจก็มีหมอกเลือดสีแดงสามกองที่สาดกระจายไปทั่วฟ้า!

"ความแข็งแกร่งเช่นนี้มันคืออะไรกันแน่?" เย่ฟ่านที่เฝ้าดูเหตุการณ์จากระยะไกลใบหน้าซีดขาวด้วยความกลัว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด