ตอนที่แล้วตอนที่48 เจ้าจิ้งจอกน้อย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่50 เดินทางถึงเมืองหลวง

ตอนที่49 พี่ใหญ่หวง?


ตอนที่49 พี่ใหญ่หวง?

“ข้าเองก็ไม่ทราบ”

หลี่หวงส่ายหน้าไปมา จวบจนบัดนี้นางเองก็ยังปั้นหน้ามึนงง ไม่รู้ถึงหมายเหตุว่าทำไมคนพวกนี้ต้องไล่ล่านาง

“ข้าไม่รู้ว่าพี่จิวกับเสี่ยวอี้จะเป็นยังไงบ้าง พวกเขาจะตกเป็นเหยื่อด้วยหรือไม่? หนีได้รึเปล่า? บาดเจ็บตรงไหนไหม?”

“พวกเขาเป็นใคร?”

เจ้าจิ้งจอกน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย

“เป็นครอบครัวของข้าเอง”

หลี่หวงยิ้ม

“ครอบครัว? ข้าไม่มีครอบครัวแล้ว...”

พอกล่าวถึงเรื่องนี้เจ้าจิ้งจอกน้อยหูตกทันทีด้วยความหดหู่ ส่ายหัวเล็กน้อยก่อนเอ่ยต่อว่า

“พี่ใหญ่หวง ท่านมาเป็นครอบครัวเดียวกับข้าเถิด!”

พี่ใหญ่หวง?

แค่ก! แค่ก!

หลี่หวงเกือบกระอักพ่นเลือดสดออกมาอีกคำโต เมื่อครู่มันเรียกข้าว่าอันใด?

พี่ใหญ่หวง? พี่ใหญ่นี่นะ?

นี่มิใช่ชื่อที่ใช้เรียกกันระหว่างสหายสนิทหรอกรึ?

“ไยเจ้าถึงต้องเรียกข้าว่าพี่ใหญ่หวง...”

“เพราะพวกเราเข้ากันได้ดีไง!”

เจ้าจิ้งจอกน้อยพยักหน้างึกงัก

“ตกลงหรือไม่? พี่ใหญ่หวงมาเป็นครอบครัวเดียวกับข้าสิ!”

“...”

หลี่หวงเองก็พูดไม่ออกเช่นกัน เห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายเป็นจิ้งจอกก็ควรจะเจ้าเล่ห์มิใช่รึ? ไฉนถึงไร้เดียงสาปานนี้?

“เช่นนั้นเจ้าต้องการทำพันธสัญญากับข้า?”

หลี่หวงเอ่ยถามหยั่งเชิงออกไปคล้ายโยนหินถามทาง จิ้งตอกน้อยตนนี้ดูท่าจะมิใช่สัตว์อสูรระดับสูงอะไร ได้มาก็คิดซะว่าเป็นสัตว์เลี้ยงแก้เบื่อ นี่เป็นความคิดที่ไม่เลว!

“ได้สิ!”

เจ้าจิ้งจอกน้อยเอ่ยตอบตกลงโดยทันที

หลี่หวงกัดนิ้วตนเองพร้อมหยดเลือดลงบนลิ้นของเจ้าจิ้งจอกตัวน้อย

ทันใดนั้นวงแหวนอาคมแห่งพันธสัญญาสีฟ้าลวดลายน้ำแข็งพลันปรากฏขึ้นใต้ขาทั้งสอง และเริ่มโคจรหมุนในบัดดล

หลี่หวงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันเย็นยะเยือกที่คืบคลาน เป็นเกล็ดน้ำแข็งชั้นบางเกาะลามขึ้นมาบนแข้งขา

จิ้งจอกตนนี้เป็นสัตว์อสูรธาตุน้ำแข็ง?

หลังจากวงแหวนอาคมแห่งพันธสัญญาจางหายไป ก็เป็นวงแหวนแห่งพัฒนาการที่ปรากฏขึ้นมาแทน เตรียมเข้าสู่กระบวนการเลื่อนระดับชั้น!

โคจรหนึ่งรอบ สองรอบ สามรอบ...

วงแหวนโคจรบรรจบครบทั้งหมดหกรอบถ้วน!

เมื่อวงแหวนแห่งพัฒนาการหยุดลง หลี่หวงถึงกับตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง!

คล้อยหลังจากทำพันธสัญญากับจิ้งจอกน้อยตนนี้ ระดับพลังของนางเพิ่มขึ้นถึงหกดาว?!

หกดาว!!

ปัจจุบันนางเป็นนักอัญเชิญชั้นสูงหนึ่งดาว ตอนนี้ได้พลังเพิ่มมาอีกหกดาว เท่ากับว่านางเลื่อนขั้นกลายมาเป็น นักอัญเชิญชั้นสูงเจ็ดดาวแล้ว!

เดี๋ยวก่อนนะ? เจ้าจิ้งจอกน้อยตนนี้เป็นสัตว์อสูรสายพันธุ์อะไรกันแน่?

“เทียนปิง เจ้ามีพลังอยู่ในระดับชั้นใด?”

ด้วยความสงสัยข้อนี้ หลี่หวงจำต้องเอ่ยถามขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“สัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์แปดดาว แต่อีกนิดเดียวก็จะเลื่อนขึ้นเป็นเก้าดาวแล้ว”

เจ้าจิ้งจอกน้อยเองก็ส่งเสียงร้องดีใจขึ้นมาเช่นกัน เพราะคล้อยหลังทำสัญญากับหลี่หวง พลังบ่มเพาะของมันก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แม้จะมิได้มากมาย แต่ก็ถือเป็นแนวโน้มที่ดี

สัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์!?

“สัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์?! เช่นนั้นเจ้าก็สามารถจำแลงกายได้?”

เจ้าจิ้งจอกน้อยเหม่อมองหลี่หวงเจือสีหน้าสงสัย มันกล่าวขึ้นคำหนึ่งว่า

“แน่นอน หากข้าจำแลงกายไม่ได้ แล้วจะพาท่านมาที่นี่ได้อย่างไร?”

หลี่หวงรู้สึกเก้อเขินชั่วขณะ เรื่องง่ายๆ เช่นนี้นางลืมคิดไปได้อย่างไร

“แล้วเจ้าเป็นจิ้งจอกเผ่าพันธุ์อะไร?”

หลี่หวงเอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“จิ้งจอกเหมันต์เก้าหาง”

เทียนปิงเอ่ยตอบน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“จิ้งจอกเหมันต์? จิ้งจอกเหมันต์เก้าหาง? นี่มิใช่สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสัตว์อสูรธาตุน้ำแข็งหรอกรึ? แต่เดี๋ยวก่อน...ในฐานะที่เป็นถึงจิ้งจอกเหมันต์เก้าหาง ไฉนถึงมาอาศัยอยู่ในป่าดิบชื้นแห่งนี้ได้?”

“เพราะพวกเราอ่อนแอเกินไป”

เจ้าจิ้งจอกน้องยกอุ้งมือปุกปุยของมันขึ้นมาปิดบังใบหน้าเล็กน้อยด้วยความอับอาย และกล่าวต่อว่า

“เผ่าพันธุ์ของเราอาศัยอยู่ในหุบเขาแห่งนี้มานับพันปีแล้ว แต่พอมาถึงรุ่นข้า กลับเหลือเพียงข้าแค่ตัวเดียว...”

“เจ้าหนู ต่อแต่นี้ไปข้าจะอยู่เป็นสหายเคียงข้างเอง”

สัตว์อสูรแต่ละตัวของนางล้วนแต่เป็นเด็กกำพร้าทั้งนั้น...เอาล่ะพวกเจ้าได้เพื่อนแล้ว!

จิ้งจอกน้อยรู้สึกตื้นตันใจอย่างมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น มันพยักหน้ารัวๆ

มันรู้สึกว่าครอบครัวใหม่ของมันไม่เพียงแค่อบอุ่นเท่านั้น แต่พี่ใหญ่ของมันยังทั้งสวยและจิตใจอ่อนโยนยิ่งกว่าอะไร...

“เจ้าโง่! ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่! อย่าถูกรูปลักษณ์ภายนอกของนางหลอกเอา! มิฉะนั้นจะโดนพิษตายไม่รู้ตัว นางน่ะ...”

โป๊กกก!!

เหยาอวี้ที่เห็นสีหน้าตื่นเต้นดีใจของเจ้าจิ้งจอกน้อย มันก็รีบโผล่ขึ้นมาจากอากาศเอ่ยปากเตือนในทันใด

ทว่ายังพูดไม่ทันจบกลับโดนมะเหงกไปทีหนึ่ง หัวของมันปูดเป็นลูกมะนาวเลยทีเดียว

........

“เหยาอวี้ เจ้าออกไปได้แล้ว”

“เฮ้ออ...เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว เชื่อมือข้าได้เลย”

หลังจากแนะนำตัวเสร็จสรรพ เหยาอวี้ก็ลอยออกจากถ้ำไป

หลี่หวงสั่งให้เหยาอวี้ออกไปตามหาจวิ๋นหลี่จิวกับเสี่ยวอี้ เพราะไม่ว่าจะยังไงเหยาอวี้เป็นเพียงร่างวิญญาณโปร่งใส ไม่มีใครสามารถแตะเนื้อต้องตัวได้ยกเว้นนาง ดังนั้นการให้มันออกไปตามหาคนอื่นๆ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว

“กลุ่มคนชุดคลุมดำยังไม่จากออกไป...”

เจ้าจิ้งจอกน้อยอาศัยความว่องไว ออกไปลาดตระเวนโดยรอบไม่ใกล้ไม่ไกล ก่อนจะกลับเข้ามาในถ้ำอย่างผิดหวัง

นี่ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว ไฉนพวกนั้นยังไม่ไปอีก?

คู่คิ้วของหลี่หวงขมวดแน่นถักเข้ามากันอีกครา

“หบุเขาทั้งลูกล้วนถูกพวกมนุษย์ทำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า จิตใจของพวกนั้นปราศจากคุณธรรมโดยสิ้นเชิง!”

จิ้งจอกน้อยโมโหอย่างมาก เผ่าพันธุ์ของมันดำรงอยู่ที่นี่มานับหลายพันปี ทว่าในท้ายที่สุดกลับถูกพวกมนุษย์ทำลายจนย่อยยับ

และประเด็นสำคัญคือ พวกมนุษย์มักเอาจำนวนเข้าสู้ หากเป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัว เผ่าพันธุ์จิ้งจอกเหมันต์เก้าหางย่อมกินขาด ทว่าพวกมนุษย์กลับมีเล่ห์กลสารพัดที่วางแผนไว้จัดการฆ่าพวกมันจนสิ้น

“หากพวกนั้นหาข้าไม่เจอ คงยากที่จะจากไป”

“เป้าหมายเดียวของพวกมันเกรงว่าจะเป็นข้าเท่านั้น”

หลี่หวงเอ่ยเสียงเรียบ

ใครกันแน่ที่ต้องการตามล่านางให้ถึงตาย?

“หากคิดไม่ออก เช่นนั้นก็อย่าคิดให้ปวดเศียรเลย”

จิ้งจอกน้อยเอ่ยกล่าวเจือน้ำเสียงเป็นห่วง เมื่อเห็นเจ้านายของมันระดมสมองครุ่นคิดตลอดชั่วยามไม่หยุดหย่อน มันเองก็อดใจเอ่ยเตือนมิได้

หลี่หวงส่ายหน้าอาน ปลงตกในที่สุด

ช่างเถิด ยามนี้กลับไม่มีเงื่อนงำหรือเบาะแสใดแม้สักนิด คิดไปก็มีแต่เตลิดออกทะเลแถมยังเสียเวลาเปล่า

“ท่านควรพักผ่อนมากหน่อย สภาพร่างกายยังไม่ดีนัก บาดแผลช้ำในยังไม่ดีขึ้นเลย”

เจ้าจิ้งจอกน้อยจัดรังไหมขนาดย่อมให้สำหรับหลี่หวง และปล่อยให้นางนอนหลับพักผ่อนภายในนั้น

มันไม่ค่อยเข้าใจเรื่องสรีระร่างกายของมนุษย์สักเท่าไหร่ เพียงแค่ทราบว่า เจ้านายของมันบาดเจ็บสาหัส และหากไม่ยอมพักผ่อนให้ร่างกายฟื้นตัวเต็มที่ อาจส่งผลให้ก่อเกิดอาการเรื้อรังได้ในอนาคต

ในจุดนี้ มนุษย์ค่อนข้างคล้ายกับสัตว์อสูร

แผลที่ไม่ยอมรักษาให้ดีย่อมส่งผลเรื้อรังต่อเนื่อง

หลี่หวงคว้าตัวน้อยปุกปุยอย่างเจ้าจิ้งจอกมากอดในอ้อมแขนและหลับไปพร้อมกัน

ช่างเป็นคืนที่ฝันดี

เมื่อหลี่หวงตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็กลับกลายเป็นว่ายามนี้เป็นเวลาเที่ยงของอีกวันแล้ว!

จิ้งจอกน้อยที่กอดในอ้อมแขนยามนี้หายไปแล้ว หลี่หวงเดาว่า เจ้าตัวน้อยน่าจะไปหาอาหารให้ตนเองทานอยู่กระมัง

มันเป็นจิ้งจอกที่พิเศษจริงๆ

ใสซื่อไร้เดียงสา แต่ก็น่ารักยิ่งกว่าอะไร!

ฮั่วหยางในขณะนี้กำลังหลับอยู่ในห้วงสัตว์อสูรอยู่

ท่าทางค่อนข้างเหนื่อยล้า แถมยังมีบาดแผลตามตัว ทำให้หลี่หวงที่เห็นดังนั้นมิทาจอยู่เฉยได้

“พี่ใหญ่หวง ท่านตื่นแล้วรึ?”

หลี่หวงกลับมานั่งในรังตำแหน่งเดิม ไม่นานจิ้งจอกน้อยก็กลับมาจากการหาอาหารมาให้ทาน

“ข้ามีผลไม้สดๆ ตั้งมากมาย ท่านลองชิมดู อร่อยมาก!”

จิ้งจอกน้อยเร่งหยิบผลไม้สดออกจากห้วงมิติส่วนตัวของตนเอง และมอบมันให้แก่หลี่หวงราบกับสมบัติล้ำค่า

หลี่หวงคลี่ยิ้มบางให้ ก่อนจะหยิบขึ้นมาทาน

เห็นหลี่หวงทานอย่างเร็ดอร่อยแบบนั้น เจ้าจิ้งจอกน้อยก็หูตั้งดีใจ!

“จริงสิ พี่ใหญ่หวง คนพวกนั้นไปแล้ว”

เจ้าจิ้งจอกน้อยที่เพิ่งนึกขึ้นได้ จึงรีบเอ่ยให้หลี่หวงฟัง

“อืม แค่จากไปก็น่าจะปลอดภัยแล้ว”

หลี่หวงพยักหน้าตอบอย่างพึงพอใจ ทันใดนั้นก็มีสุ้มเสียงจากเหยาอวี้ส่งตรงเข้ามาในห้วงความคิด

‘นายท่าน บอกให้จิ้งจอกโง่นั่นคลายม่านพลังลงซะ พวกข้าจะเข้าไป!’

ดวงตาคู่สวยของหลี่หวงเป็นประกายเจิดจ้า จวิ๋นหลี่จิวกับจวิ๋นอี้มาถึงที่นี่แล้ว!

หลี่หวงจดจำได้แม่น เจ้าจิ้งจอกน้อยเคยกล่าวว่า ตนได้กางม่านพลังเอาไว้และต้องให้ตัวมันอนุญาตเท่านั้นจึงจะถอนออกได้

“เทียนปิง เจ้าพาคนในครอวครัวของข้าเข้ามาได้หรือไม่?”

“ครอบครัว?”

เทียนปิงกระพริบตาปริบๆ เผยสีหน้าตื่นเต้นดีใจยิ่งก่อนจะกล่าวต่อว่า

“ครอบครัวของพี่ใหญ่หวงก็คือครอบครัวของข้า เดี๋ยวข้าจะออกไปรับเดี๋ยวนี้แหละ!”

หลี่หวงหัวงเราะคิกคักเสียงเบา เมื่อเห็นถึงความน่ารักของเทียนปิงที่รีบสะบัดหางปุกปุยของมันและรีบพุ่งออกไป

“น้องหลี่หวง!”

“พี่หลี่หวง!”

“เจ้าไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม?!”

แทบจะชั่วอึดใจเดียวกัน สุ้มเสียงของทั้งสองก็ดังกึกก้องเข้าใส่ในรูหูของนาง

พอเห็นท่าทีอันสุดแสนจะวิตกกังวลของสองคนนั้น นางก็พลางส่ายหน้าและเอ่ยว่า

“ข้าสบายดี ขอโทษทีที่ต้องทำให้ทั้งคู่ต้องกังวล!”

จวิ๋นหลี่จิวกับจวิ๋นอี้รีบวิ่งตรงไปหานาง กวาดสายตาสำรวจมองตั้งแต่หัวจรดเท้า

“น้องหลี่หวง เจ้าทำข้ากลัวแทบตาย! หากรู้แต่แรกว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ ข้าคงไม่ยอมปล่อยให้เจ้ากลับโรงเตี๋ยมตามลำพัง!”

จวิ๋นหลี่จิวกระดกสุราดื่มอึกหนึ่ง เอ่ยโทษตัวเองพร้อมสีหน้าหม่นหมอง

4 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด