ตอนที่แล้วEp.13 - การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกมนุษย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.15 - ร่วมมือทำธุรกิจ

Ep.14 - นักปั่นล่าไก่


กำลังโหลดไฟล์

Ep.14 - นักปั่นล่าไก่

เมืองเจียงเฉิงเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดในภาคกลาง นี่คือเมืองใหญ่ที่คึกคัก ถูกจัดอยู่ในอันดันต้นๆของจีน

แม้จะเทียบไม่ได้กับหยานจิง โม่ตู่ , หรือเซินเจิ้น แต่ก็ไม่ด้อยไปกว่ากันมากนัก

ทว่าตอนนี้ แค่มองปราดเดียว ก็จะเห็นว่าถนนที่เดิมทั้งกว้างขวางและราบเรียบ เวลานี้ถูกแทนที่ด้วยรอยแตกร้าวเต็มไปหมด มีวัชพืชไม่ทราบที่มาผุดงอกจากรอยแตกเหล่านั้น

ตึกรามที่ตั้งเรียงรายกัน ปรากฏพุ่มไม้ก่อตัวในทุกๆชั้น ราวกับไม่มีใครมาดูแลมัน ถูกทิ้งร้างมาเป็น 20-30 ปี ผนังด้านนอกตึกถูกปกคลุมไปด้วยชั้นตะไคร่น้ำ หน้าต่างถูกบดบังไปด้วยเถาวัลย์เล็ก ทั้งยังมีนกทำรังอยู่บางจุด

สัมผัสแรกที่กวาดสายตามอง คล้ายเมืองทั้งเมืองไม่ใช่ย่านเศรษฐกิจที่คึกคักและเต็มไปด้วยผู้คนอีกต่อไป มันกลายเป็นเมืองกึ่งถูกทิ้งร้าง ความมีชีวิตชีวาถูกแทนที่ด้วยความเสื่อมโทรม ราวกับธรรมชาติที่ถูกมนุษย์กดขี่มาเป็นเวลานับพันปีกลับมาแก้แค้นในข้ามคืนเดียว

ฮังอวี่รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่!  ทุกสิ่งเริ่มตั้งแต่ช่วงที่โลกวิญญาณแทรกซึมเข้ามา โลกแห่งความจริงได้พังทลายลง พลังงานและข้อมูลในโลกวิญญาณค่อยๆกัดเซาะ นำมาซึ่งกระบวนการพังทลายของโลกจริง

ฮังอวี่ไม่กล้าขึ้นรถไฟใต้ดิน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่ารถไฟจะยังเปิดให้บริการอยู่หรือเปล่า ใครจะรู้ว่าถ้าลงไปจะเจออะไรใต้อุโมงค์นั่น!

โชคดีที่สถานที่นัดหมายอยู่ไม่ไกล ฮังอวี่ตัดสินใจขึ้นขี่จักรยานสาธารณะ คาดว่าไม่นานคงถึงที่หมาย

ทว่าไปได้ไม่ไกล เบอร์ของผังต้าไห่ก็โทรเข้ามาเสียก่อน  เมื่อกดรับ ฮังอวี่พบว่าปลายสายเต็มไปด้วยเสียงดัง และหากฟังดีๆจะมีเสียงหวีดร้องแทรกเข้ามา ได้ยินเพียงเสียงของผังต้าไห่ร้องตะโกนว่า “เชี่ยเอ๊ย! ที่นี่ไม่ปกติ มองไปทางไหนก็มีแต่อันตราย นายห้ามเข้ามาเด็ดขาด!”

ฮังอวี่เกิดความสับสน “เกิดอะไรขึ้น? ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน?”

ผังต้าไห่กล่าวด้วยความร้อนรนว่า “ฉันถูกทำร้าย! ตอนนี้ติดแหง่กอยู่ในร้านเคเอฟซี โทรขอความช่วยเหลือก็ไม่ติด นายช่วยแจ้งตำรวจมาช่วยฉันที ทางฝั่งนี้จะต้านไม่ไหวแล้ว!”

บ้าจริง!

เขาถูกทำร้าย?

ได้ยังไงกัน??

เจ้าอ้วนวางสายไปโดยไม่อธิบายอะไรเพิ่มอีกซักคำ แล้วแบบนี้ฉันจะรู้ได้ไงว่าที่ทำร้ายนาย มันคือคนหรือสิ่งมีชีวิตที่แทรกซึมเข้ามาจากทางฝั่งโลกวิญญาณ

บอกให้โทรแจ้งตำรวจ?

อย่ามาล้อเล่นน่า!

ทั่วทั้งเมืองตกอยู่ในความอลหม่านแบบนี้ น่ากลัวว่าสายโทรศัพท์สถานีตำรวจคงไหม้ไปนานแล้ว แล้วทางตำรวจจะจัดกำลังคนมาช่วยเหลือได้อย่างไร?

ฮังอวี่กระโดดขึ้นขี่จักรยานสาธารณะ ด้วยร่างกายที่เวลานี้แข็งแกร่งกว่านักกีฬาเหรียญทอง สองขาของเขาปั่นจึงสามารถปั่นด้วยความเร็ว 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมาถึงลานจตุรัสได้ในเวลาไม่กี่นาที

ฉากที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า ทำให้เขาต้องตะลึงงันอีกครั้ง

จตุรัสที่ครั้งหนึ่งเคยถูกพวกป้าๆที่ชอบเต้นแอโรบิคยึดครองพื้นที่ไปกว่าครึ่ง เวลานี้ถูกปกคลุมไปด้วยขี้นกและวัชพืชทุกหนแห่ง ขณะเดียวกันมันได้ถูกครอบครองโดนสิ่งมีชีวิตอื่น พวกมันดูเหมือนนก คล้ายคลึงกับห่าน บนตัวเกือบทั้งหมดปกคลุมไปด้วยขนสวย ดูงดงามน่าชื่นชมมาก

อย่างไรก็ตาม เจ้าพวกนี้มีกรงเล็บที่แข็งแกร่งพอๆกับจะงอยปาก ทั้งยังมีความสามารถในการบินในระยะสั้นๆ และมีจำนวนที่ค่อนข้างมาก กะด้วยสายตาแล้วคาดว่าไม่ต่ำกว่าร้อยตัว

เป็นไก่ภูเขา!

พวกมันคือฝูงไก่ภูเขา!

ไก่ภูเขาในโลกวิญญาณคือมอนสเตอร์เลเวล 1 ยังสามารถนับได้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่อ่อนแอที่สุด ปกติพวกมันไม่ค่อยก้าวร้าว แต่จะตอบโต้เฉพาะเวลารู้สึกถึงภัยคุกคามเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับไก่ป่าบนโลกมนุษย์แล้ว พวกมันมีขนาดใหญ่กว่า และดุร้ายกว่ามาก ใครจะกล้าเชื่อว่าในเมืองที่เคยคึกคัก จู่ๆจะมีฝูงไก่ภูเขากลุ่มใหญ่จากที่ไหนไม่รู้เข้ายึดครอง

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ และที่ชวนให้อ้าปากค้างยิ่งกว่านั้นก็คือ ในเวลานี้ไก่ภูเขาตัวใหญ่หลายสิบตัวกำลังอาละวาดอยู่หน้าร้านเคเอฟซี !

เอาล่ะสิ ร้านนี้มีทั้งน่องไก่ทอด ปีกไก่ทอด เบอร์เกอร์ไก่  ไก่ทาโก้เม็กซิกัน และอีกมากมาย ถึงทุกอย่างที่พูดมาจะเป็นของอร่อย แต่เวลานี้มันกำลังถูกญาติของเหยื่อที่โดนจับไปทำเป็นอาหารกลับมาล้างแค้น!

ฮังอวี่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเกิดสถานกาณณ์เช่นนี้ขึ้น หากเป็นตนที่ติดอยู่ข้างในก็คงฝืนหนีออกมาได้ แต่เจ้าคนที่ติดอยู่ข้างในดันสู้ไม่เป็นเนี่ยสิ! ขืนทะเล่อทะล่าออกมาคงถูกฉีกกินทั้งเป็นแน่ๆ!

เขาหยิบมือถือขึ้นมา แล้วเลือกดาบสั้นแห่งป่า กัดฟันจ่ายสองหินคริสตัลขาว

บังเกิดแสงสีขาวสว่างวาบ  ทันทีที่อาวุธจากโลกวิญญาณถูกส่งมาอยู่ในมือ ฮังอวี่รู้สึกได้ถึงกระแสพลังงานพลุ่งพล่านไปทั่วร่างกายเขา

เนื่องจากอาวุธชิ้นนี้ช่วยเพิ่มค่าความว่องไว เขาเลยรู้สึกว่าร่างกายคล่องแคล่วและการตอบสนองรวดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

การมีอุปกรณ์จากโลกวิญญาณไว้สวมใส่ มันต่างกับไม่มีอย่างชัดเจน!

ดาบสั้นเล่มนี้แข็งแแกร่งกว่าอาวุธคมเดียวใดๆที่ทำจากเหล็กของโลกมนุษย์ ต่อให้เป็นดาบที่ดีที่สุดในโลก เมื่ออยู่ต่อหน้ามัน ก็เป็นได้แค่ของเล่นเท่านั้น

ฮังอวี่กุมแฮนด์จักรยานด้วยมือซ้าย  มือขวาถือดาบสั้น พริบตานั้นตัวเขาดั่งอัศวินขี่จักรยานผู้กล้า ตวัดดาบฟันไก่ภูเขาออกเป็นสองส่วน แยกร่างมันง่ายดายราวกับตัดเต้าหู้

ไก่ภูเขาตัวอื่นๆเมื่อเห็นแบบนี้ ก็ยอมรามือจากร้านเคเอฟซี  หันหัวกลับและวิ่งเข้าจู่โจมเขาพร้อมร้องเสียงประหลาด

ฉากตรงหน้าบอกตามตรงว่ามันค่อนข้างดูอันตรายเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม อย่าหาว่าฮังอวี่คุยโว แต่เขาสามารถขี่จักรยานได้ตั้งแต่ตอนอายุ 5 ขวบ!

จะตอนเรียนประถม , มัธยมต้น หรือมัธยมปลาย  ไม่ว่าจะร้อนหรือหนาว แม้แต่วันที่มีพายุเข้า เขาก็ยังสามารถขี่จักรยานไปโรงเรียนได้!

วันเวลานับสิบปีที่ได้ขัดเกลาตัวเอง สิบปีที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ส่งผลให้ทักษะในการขี่จักรยานได้บรรลุถึงขอบเขตที่ตัวคนและจักรยานได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว!

ฮังอวี่ปั่นสองขาอย่างดุดันเพื่อรักษาความเร็วไม่ให้ถูกไก่ภูเขาปิดล้อม ขณะเดียวกันก็คอยกวัดแกว่งดาบสั้นอันคมกริบในมือ เก็บเกี่ยวชีวิตศัตรู

ไก่ภูเขาร้องคร่ำครวญ เลือดไก่เจิ่งนองไปทั่วพื้น

ฮังอวี่รู้สึกราวกับว่าเวลานี้ตัวเองกำลังถูกวิญญาณจูล่งเข้าสิง หนึ่งคน หนึ่งดาบ หนึ่งจักรยาน ขี่วนไม่กี่รอบก็สามารถสังหารไก่ภูเขาไปได้หลายสิบตัว

ไม่นาน บนพื้นจุตรัสก็เต็มไปด้วยศพของไก่ภูเขากว่าครึ่งฝูง ตามรายทางถูกปูไปด้วยขนไก่

ด้วยสถานการณ์นี้ ต่อให้เป็นฮังอวี่ก็ยังไม่อาจรักษาสมดุลไว้ได้!

เขาอยู่ในสภาวะต้องคอยต่อสู้อย่างดุเดือดตลอดเวลา ตอนนี้เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้านิดหน่อยแล้ว ส่งผลให้ความเร็วเชื่องช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

และในเวลานั้นเอง ภายในฝูงไก่ ไก่ภูเขาตัวที่มีขนาดใหญ่กว่าห่านกระพือปีกกระโดดออกมา

เห็นได้ชัดว่าไก่ภูเขาตัวนี้แตกต่างจากตัวอื่นๆ! มันไม่เพียงมีขนาดใหญ่กว่าไก่ภูเขาตัวอื่นถึงสองเท่า ทว่าขนของมันยังมีสีสันสดใสยิ่งกว่า ให้ความรู้สึกสูงส่งเป็นอย่างยิ่ง

เจ้าตัวนี้คือหัวหน้าของฝูงไก่ภูเขา แต่ถ้าจะพูดให้ฟังดูดีหน่อย มันคือราชาไก่!

ราชาไก่ภูเขาบุกเข้าจู่โจมอย่างฉับพลัน ฮังอวี่ไม่มีเวลาทันได้หลบ โดนกรงเล็บที่คมกริบเหมือนนกอินทรีกรีดเข้าที่อก

พละกำลังของมันมหาศาลอย่างน่าเหลือเชื่อ ถึงกับทําให้ทั้งคนทั้งรถล้มคว่ำลงกับพื้น

ไอ้บ้าเอ๊ย! นี่มันเป็นแค่ไก่ภูเขาจริงๆน่ะหรอ?

น่ากลัวว่าจะมีพละกำลังมากกว่าอินทรียักษ์ซะอีก!

ฮังอวี่สัมผัสได้ว่ากรงเล็บอันแหลมคมของมันแทงทะลุเข้าไปในหน้าอก

ราชาไก่ภูเขาไม่รอช้า มันกระโจนเข้าใส่ฮังอวี่ที่ล้มลง แล้วใช้จะงอยแหลมเล็งจิกลงบนตาเขาทันที

สมแล้วที่เป็นราชาไก่ภูเขา การจิกนี้ทั้งแม่นยำ โหดเหี้ยม และรวดเร็ว!

หากฮังอวี่ตอบสนองช้าไปครึ่งจังหวะ ลูกตาของเขาคงถูกเดรัจฉานตัวนี้กินไปแล้ว

ฮังอวี่เอียงศีรษะหลบการโจมตี จะงอยราชาไก่ภูเขาเฉียดผ่านแก้มเขา เฉือนหน้าราวกับมีดกรีดเนื้อ สร้างบาดแผลที่ทำให้เกิดการเสียโฉมได้

บัดซบ! กล้าดียังไงมาทำให้หน้าฉันเป็นแผล!

คิดหรือว่าบิดาจะเป็นคนที่ถูกหาเรื่องได้ง่ายๆ!

ไก่ภูเขาเป็นมอนสเตอร์ระดับต่ำสุด ราชาไก่ภูเขาเองก็ไม่ใช่มอนสเตอร์ชั้นยอด เอาจริงๆมันก็เหมือนกับก็อบลินระดับต่ำ เพียงแต่แค่ว่าเป็นก็อบลินนักเวทย์ก็เท่านั้น หรือง่ายๆคือทรงพลังกว่ามอนสเตอร์ระดับสามัญทั่วๆไปอยู่เล็กน้อย

ขณะที่ปัจจุบัน ฮังอวี่มีเลเวล 2 ดังนั้นมันไม่นับว่าคณามือเขา

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เขาจะไม่กลัวว่าการต่อสู้ตัวต่อตัวระหว่างราชาไก่ภูเขา แต่ฮังอวี่ไม่กล้าประมาท

รอบกายราชาไก่ภูเขาเต็มไปด้วยลูกหลานของมัน หากถูกล้อมอยู่กลางวงนานเกินไป แล้วไก่แต่ละตัวผลัดกันเข้าโจมตี ต่อให้เขาเป็นคนเหล็กก็เกรงว่าจะทนไม่ไหว

ดาบสั้นแทงเข้าใส่ช่วงท้องของราชาไก่ภูเขาอย่างดุเดือด ราชาไก่ร้องลั่นด้วยความปวดร้าว มันกางปีกและพยายามจะบินขึ้นฟ้า ขณะเดียวกันใช้กรงเล็บจิกคว้าตัว ฮังอวี่เอาไว้แน่น

ฮังอวี่ที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 ปอนด์ถูกยกตัวลอยเป็นครึ่งเมตรในพริบตาเดียว และยังคงลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ

ฮังอวี่โตมาขนาดนี้แล้ว ยังไม่เคยถูกกรงเล็บแหลมทิ่มแทงเข้าเนื้อหนังอย่างโหดร้ายขนาดนี้มาก่อน แต่เขาบังคับตัวเองให้ฝืนทนต่อความเจ็บปวด กำดาบสั้นในมือแน่น แล้วตัดเข้าที่ลำคอของราชาไก่ภูเขา

สมแล้วที่ดาบสั้นแห่งป่าเล่มนี้เป็นอาวุธสีขาว!

คอของราชาไก่ภูเขาที่หนาไม่ด้อยไปกว่าคอนกรีตเสริมเหล็ก ยังคงถูกตัดขาดโดยคมกล้าของมัน

หัวไก่ปลิวกระเด็นออกไปหลายเมตร

ฮังอวี่ไม่กล้าประมาท  เขาเคยเห็นในข่าวจากในเน็ต ว่าไก่ยักษ์ในต่างประเทศเคยถูกเจ้านายของมันตัดหัว แต่กลับยังมีชีวิตต่อมาได้นานถึง 18 เดือน

หากในกรณีที่ราชาไก่ภูเขาตัวนี้ยังไม่ตายสนิท โชคร้ายจะต้องตกมาที่ตนอย่างแน่นอน

ดังนั้นไม่รอช้า เขาใช้ดาบสั้นจ้วงแทงลงบนร่างของราชาไก่ภูเขาอีกครั้ง ถึงจุดนี้ ต่อให้ราชาไก่ภูเขาทนทายาดเหมือนกับในข่าว มันก็ไม่มีทางรอดจากอาการบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ได้

พริบตานั้นมันร่วงลงจากฟ้า นอนตายคาพื้นอย่างหมดจด

ไก่ภูเขาตัวอื่นๆที่กำลังปิดล้อมและเตรียมเข้ามาโจมตี เมื่อเห็นหัวหน้าของพวกมันตายต่อหน้า ต่างกระพือปีกบิน ไม่ก็วิ่งหนีกระเจิงออกไปทันที

ไม่คิดโจมตีฮังอวี่ที่ได้รับบาดเจ็บอีกต่อไป

ฮังอวี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก

เวลานี้ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยเลือด ส่วนหนึ่งเป็นเลือดของไก่ภูเขา อีกส่วนเป็นเลือดของตัวเอง

ในเวลานี้ประตูร้านเคเอฟซีเปิดออก ชายร่างอ้วนรีบวิ่งออกมา จากรูปร่างของเขา คาดว่ามีน้ำหนักอย่างน้อยมากกว่า 200 กิโลกรัม ดูเหมือนว่าการมาเยือนของโลกวิญญาณจะไม่ช่วยให้น้ำหนักของเขาลดลงเลย

ร่างกายอวบอ้วน หน้าตาภายนอกดูเรียบง่ายซื่อตรง

คนๆนี้ไม่ใช่ใครอื่น เป็นรูมเมทตอนเรียนมหาลัยของฮังอวี่ --ผังต้าไห่

ผังต้าไห่มีรูปร่างอ้วนฉุ ด้วยหุ่นของเขา เลยได้รับฉายาในมหาลัยว่าเจ้าอ้วนไห่ และยังมีอีกหลายฉายา

แต่อย่ามองว่าเจ้าหมอนี่เป็นแค่คนซื่อๆเชียวๆ เอาจริงๆเขาถือว่าเป็นคนดังคนหนึ่ง ได้รับฉายาเป็นจอมพลประจำหอพักมหาวิทยาลัยเพราะเคยแอบขายหนังสือลามกและทำวีรกรรมไว้อีกมากมาย!

“ให้ตายเถอะ! นี่นายบ้าไปแล้วรึไง? ฉันก็บอกไปแล้วไม่ใช่หรอว่าอย่ามา?” ผังต้าไห่บ่นอุบ แต่เมื่อเห็นว่าฮังอวี่เต็มไปด้วยเลือด กระทั่งใบหน้ายังถูกกรีดเป็นแผลยาว เสียงบ่นของเขาก็หายไป

เจ้าตัวหันไปหันมาแบบทำอะไรไม่ถูก ก่อนร้องตะโกนว่า “นายเป็นอะไรรึเปล่า? รีบโทรเรียกรถพยาบาล ....”

“ไม่จำเป็น”

ฮังอวี่ยกมือหยุดต้าไห่ หยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดสองครั้ง ผลเบอร์รี่สีแดงปรากฏขึ้นในมือเขา แล้วเริ่มแทะมัน

‘ไอ้หมอนี่อาการหนักขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ตกใจกลัวเลย? แถมยังมีอารมณ์มายืนแทะผลไม้กินอีก? หรือสมองของมันจะเพี้ยนไปแล้ว?’

“เฮ้ๆ นี่มันบ้าชัดๆ ทำไมนายยังมัวมายืนกินผลไม้เล่นอ--”

ผังต้าไห่พูดได้ครึ่งประโยค ทันใดนั้นเขาก็ต้องพบกับเรื่องน่าประหลาดใจ

เพราะหลังจากฮังอวี่กินผลไม้เข้าไปแล้ว เลือดบริเวณสองแผลใหญ่ที่หน้าอกและใบหน้าเริ่มหยุดไหล บาดแผลค่อยๆสมานกันและหายเป็นปกติด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า

ใช้เวลาไม่ถึงสองนาที สะเก็ดแผลก็หลุดออกมาแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงรอยตื้นจางๆ และไม่นานก็กลับมาเป็นผิวหนังปกติ

ผังต้าไห่ตะลึงงัน “เฮ้ๆ อย่าบอกนะว่าที่นายกินคือผลไม้เซียนเหมือนกับถั่วของโงกุนในดราก้อนบอล?”

ฮังอวี่ไม่คิดอธิบาย “ก็ประมาณนั้น แต่อย่าพูดเรื่องนี้เลย ฉันต้องไปเก็บกวาดสนามรบก่อน มีเนื้อดีๆมากมายขนาดนี้ จะปล่อยให้เสียเปล่าไม่ได้”

แล้วผังต้าไห่ก็ได้เห็นภาพอันน่าอัศจรรย์ ฮังอวี่วางมือลงบนศพของราชาไก่ภูเขา จากนั้นเกิดชั้นแสงระยิบระยับปกคลุมศพราชาไก่ ก่อนที่มันจะเหือดแห้งในเวลาไม่กี่วินาที แล้วแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเหมือนกับรูปปั้นดินเหนียวที่ผุกร่อน

ลำแสงที่สาดออกมาเรืองรองอยู่บนฝ่ามือของฮังอวี่ ก่อนจะกลายเป็นอกไก่สดใหม่ชิ้นใหญ่ และน่องอวบอั๋นอย่างละสองชิ้น

ให้ตายเถอะ! นี่มันบ้าอะไรกัน? ผังต้าไห่ไม่อยากเชื่อสายตา