ตอนที่แล้วตอนที่31 ต้องฆ่านาง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่33 ความเป็นจริงกับความฝัน

ตอนที่32 หากไม่ล้ำเส้นข้า ข้าก็ไม่คิดล้ำเส้นคนอื่น


ตอนที่32 หากไม่ล้ำเส้นข้า ข้าก็ไม่คิดล้ำเส้นคนอื่น

“จวิ๋นหลี่หวง! นังสารเลว! ข้าจะฆ่าเจ้า!!”

เมื่อได้ยินเสียงสามีเอ่ยขานนามอีกฝ่าย หานชิงก็หันควับจับจ้องหลี่หวงตาเขม็งขึงขัง

“ท่านแม่?”

จวิ๋นอี้ที่เดินจูงมือหลี่หวงอยู่กระนั้นก็เอ่ยเสียงอ่อนขึ้นคำหนึ่ง

ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ภายนอกเท่าไหร่

ส่วนฮั่วหยางเดินหลบไปมุมหนึ่งเปิดทางให้หลี่หวงเดินผ่าน

ฮั่วหยางเหลือบหน้าไปมองหลี่หวงเจือสีหน้าสงสัยว่า เจ้านายของมันคิดจะทำอะไร แต่พอเห็นนางเหลือบหางตาพร้อมพยักหน้าให้ มันก็ทำอะไรอื่นไม่ได้นอกจากต้องถอยออกไปอย่างเชื่อฟัง และถอดถอนเพลิงบัวโลหิตที่อยู่รอบกายออกไป

พอหานชิงเห็นว่าสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ถอนเปลวเพลิงสีแดงฉานที่ขวางเส้นทางออกไปแล้ว นางก็พุ่งปรี่เข้ามาราวกับอยากฆ่าหลี่หวงจนอดใจไม่ไหว

เบื้องหน้าเห็นว่าจวิ๋นอี้กำลังเดินจูงมือกับหลี่หวงเข้ามา ทันใดนั้นนางพลันหยุดชะงักฝีเท้าลง ดวงตาคู่แดงก่ำจับจ้องอีกฝ่ายอย่างระแวดระวัง

“จวิ๋นหลี่หวง! ส่งอี้เอ๋อร์คืนมา!”

นางไม่กล้าขยับเขยื้อนต่อแม้เพียงก้าวเดียว เพราะกลัวหลี่หวงจะทำร้ายบุตรชายของนาง

“...”

หลี่หวงอยากจะกลอกตามองบนใส่สักที

สักพักจวิ๋นจ้านเองก็เดินตามมาด้วยเช่นกัน

สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนดูจริงจังชั่วขณะ พร้อมเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมาว่า

“หลี่หวง ลุงจ้านได้ยินมาว่าเจ้าเป็นสตรีพิษ นี่เรื่องจริงหรอกรึ?”

สีหน้าการแสดงออกของหลี่หวงยังดูเย็นชาไม่แปรเปลี่ยน

“ใช่ แล้วจะทำไม?”

ส่วนประโยคคำกล่าวของหานชิง นางหาได้สนใจไม่เลย

“ท่านแม่...ข้าไม่เป็นไร”

แม้จะได้ยินแค่เสียง แต่จวิ๋นอี้รู้สึกสงสารแม่ของตนอย่างมาก

หานชิงจับจ้องไปที่จวิ๋นอี้ แววตาของนางค่อยๆ เผยแววตื่นตระหนกมากยิ่งขึ้น

“อี้เอ๋อร์! แม่อยู่ตรงนี้! เจ้ากำลังมองไปไหน? อี้เอ๋อร์...ตาเจ้าเป็นอะไรไป?”

จวิ้นจ้านที่รู้ความจริงอยู่แล้วว่า ดวงตาของจวิ๋นอี้มีปัญหา เขาจึงรีบหยุดไม่ให้หานชิงพุ่งเข้าไปหาทั้งสอง

“ลุงจ้าน ท่านไม่ได้บอกกับนางรึ?”

หลี่หวงเอ่ยถามน้ำเสียงเย็นประโยคหนึ่ง

“แต่ยามนี้ถือว่าเหมาะสมแล้วที่จะบอกความจริง ยังไงเสียตระกูลหานก็สูญสิ้นไปแล้ว ลุงจ้านไม่จำเป็นต้องกังวลอันใดอีกแล้วกระมัง?”

“นี่เจ้าเป็นคนฆ่าหานกวงจริงๆ ด้วย!”

จวิ้นจ้านที่ได้ยินแบบนั้นก็ชี้หน้าคำรามใส่หลี่หวงทันที ฟังจากน้ำเสียงเขาดูโกรธเกรี้ยวอย่างมาก

“ใช่ เป็นข้าเอง”

ทว่าหานชิงกลับไม่ได้สนใจในจุดนั้น นางรีบหันมากระชากเสื้อของจวิ้นจ้านโดยตรงและเอ่ยถามว่า

“ท่านพี่ ที่หลี่หวงกล่าวมาหมายความว่าอย่างไร? ท่านทราบรู้แล้วรึว่า...ดวงตาของอี้เอ๋อร์มัน...มัน...”

น้ำเสียงของหานชิงสั่นเทา

“ใช่ ข้าทราบแต่แรกแล้ว”

“สัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ตนนั้นเคยกล่าวไว้ว่า การจะขับพิษออกช่างง่ายดาย แต่ทว่า...ดวงตาของอี้เอ๋อร์กลับถูกพิษดังกล่าวกัดกินจนเสียหาย และไม่สามารถรักษาได้อีกต่อไป...”

หานชิงโผลงตาเบิกกว้าง จับจ้องไปที่จวิ๋นจ้านตัดสลับมายังจวิ๋นอี้เป็นระยะ นางพูดไม่ออกเลยสักคำ

“ไม่! มันไม่ต้องแบบนั้น! ทั้งหมดเป็นฝีมือของนังสารเลว!!”

หานชิงรีบดึงสติกลับมาและชี้นิ้วอันสั่นเทาไปทางหลี่หวง ยามนี้ดวงตาคู่นั้นสาดสะท้อนแววรังเกียจอย่างชัดเจน

“มันเป็นฝีมือของเจ้า! เพราะเจ้าคือสตรีพิษ! เจ้าวางยาพิษใส่อี้เอ๋อร์! แถมยังฆ่าพี่ชายข้าอีก! ข้าจะเอาชีวิตเจ้าเสียเดี๋ยวนี้! เอามาเซ่นดวงวิญญาณของพี่ชายข้า!!!”

หลี่หวงกะพริบตาปลิบหนึ่งอย่างไม่แยแส ผลักจวิ๋นอี้ไปหลบด้านหลังเล็กน้อย ก่อนจะใช้ฝ่ามือตบใส่หานชิงที่วิ่งเข้ามากระเด็นล้มคะมำกับพื้น

“พี่ชายเจ้าคิดลอบสังหารข้าเมื่อคืน ผู้ใดมีจิตสังหารต่อข้า ข้าไม่คิดเว้นชีวิต แต่พิษที่จวิ๋นอี้โดนกลับหาใช่ฝีมือของข้า”

“หลี่หวง เช่นนั้นเจ้าอธิบายให้ข้าฟังหน่อยได้หรือไม่? หรือเจ้าสามารถไปเชิญนักหลอมโอสถท่านนั้นออกมา? การที่เจ้ากล่าวปากเปล่าออกมาเฉกเช่นนี้ กลับเป็นเรื่องยากนักที่จะทำให้ป้าหานของเจ้าเชื่อถือ”

จวิ๋นจ้านก้มตัวไปผยุงร่างของหานชิงขึ้นมาพลางกล่าวถาม

ชั่วขณะแวบหนึ่ง เชาเหลือบมองไปทางจวิ๋นอี้ซึ่งเป็นบุตรชายที่กำลังยืนหลบอยู่ด้านหลังหลี่หวง ทว่าสายตาของเขากลับเต็มไปด้วยแววความผิดหวังและยอมแพ้กับเด็กคนนี้แล้ว

“ข้าไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ใครฟัง จะเชื่อหรือไม่กลับหาใช่ธุระของข้า”

หลี่หวงแอบเบี่ยงสายตาเฝ้าสังเกตจวิ๋นอี้ที่ทำได้เพียงยืนนิ่งไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเลย ใจหนึ่งก็รู้สึกสงสารกับชะตากรรมของเด็กน้อยคนนี้

“เสี่ยวอี้ เจ้าเลือกได้รึยัง?”

หลี่หวงเอ่ยถามคำหนึ่งออกไป นางสังเกตเห็นใบหน้าที่ดูจะทำอะไรไม่ถูกของจวิ๋นอี้ก็รู้สึกปวดใจ แต่แล้วอย่างไร จะเลือกอนาคตแบบไหนกลับเป็นเส้นทางที่ตัวเด็กน้อยคนนี้ตัดสินใจเองแล้ว

จะออกไปข้างนอกและกลับไปหาคนพวกนั้น หรือจะเลือกอยู่กับนางต่อไป

โอกาสเดียวเท่านั้นที่เด็กคนนี้จะมีสิทธิ์ถือครองด้วยมือตัวเองแล้ว

จวิ๋นอี้ลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่ง

“อี้เอ๋อร์! เจ้ากลับมานี่เร็ว! กลับมาหาแม่!”

หานชิงพยายามทรงตัวขึ้นมาอย่างทุลักทุเล แต่ก็ยังมองจวิ๋นอี้อย่างไม่ละสายตา

“ท่านแม่...”

จวิ๋นอี้เปล่งเสียงดังออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นคำว่า

“ท่านแม่เป็นคนสั่งฆ่าพี่หลี่หวงจริงๆ เหตุใดท่านแม่ถึงต้องการฆ่าพี่หลี่หวงด้วย?”

“เจ้าเรียกนังนั่นว่าอะไร? พี่หลี่หวงงั้นรึ?! อี้เอ๋อร์! เจ้ามีสติหน่อย! อย่าปล่อยให้นังจวิ๋นหลี่หวงหลอก! นางนั่นแหละคือคนวางยาพิษเจ้า ทั้งดวงตาและชีวิตของเจ้าถูกทำลายเพราะนังสารเลวนี่คนเดียว!”

“....”

จวิ๋นอี้ปิดปากเงียบไป โดยปกติแล้วท่านแม่จะเป็นคนที่มีเหตุผลตลอด แต่เพราะเหตุใดไม่ทราบทำไมครั้งนี้ท่านแม่กลับเจ้าคิดเจ้าแค้นพี่หลี่หวงถึงขนาดนี้กัน?

พี่หลี่หวงเป็นคนดีมาก ในความคิดของเขาคนอย่างนางไม่มีทางลงมือกับตนเด็ดขาด

เฉพาะเวลานี้จวิ๋นอี้เข้าใจได้ทันทีว่า ไฉนพี่หลี่หวงถึงยอมพาเขามาที่นี่ ปรากฏว่านางหมดคำพูดสำหรับเรื่องนี้แล้ว จึงพาตนมาเผชิญพบด้วยตนเองเป็นการดีกว่า

และมันก็ถูกต้องตามนั้น ในตอนนี้ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป เพราะปัจจุบันแม่ของนางไม่สามารถคุยด้วยเหตุผลรู้เรื่องแล้ว

แต่เพราะเหตุใดล่ะ? ไฉนท่านแม่ถึงต้องจ้องล้างจ้องผลาญพี่หลี่หวงอย่างเอาเป็นเอาตายขนาดนี้?

“ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านกลับไปเถอะ”

มือน้อยๆ ของจวิ๋นอี้กระตุกแขนเสื้อเรียกหลี่หวง เขาหันหน้าไปกล่าวกับนางด้วยน้ำเสียงใสซื่อว่า

“พี่หลี่หวง ต่อแต่นี้ข้าขอพักอาศัยในเรือนบุปผาโปรยปรายร่วมกับท่าน ต้องรบกวนด้วยแล้ว”

หลี่หวงพึงพอใจอย่างมากกับทางเลือกที่เด็กคนนี้ตัดสินใจ แต่ท่าทางการตัดสินใจของเด็กคนนี้ยังดูอ่อนโยนเกินไป ปราศจากความเด็ดขาด

อืม หลังจากนี้คงต้องเข้มงวดกับเด็กคนนี้ขึ้นหน่อยแล้ว...

“ฮั่วหยาง ส่งแขก!”

หลี่หวงจูงมือของจวิ๋นอี้หมุนตัวและเตรียมตัวเดินกลับเข้าเรือน

“เดี๋ยวก่อน!”

จวิ๋นจ้านรีบตะโกนเรียกหลี่หวงทันที

“มีอะไรอีกงั้นรึ?”

แม้หลี่หวงจะหยุดฝีเท้าลง แต่หาได้เหลียวกลับมามอง

“หลี่หวง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ที่ผ่านมาอี้เอ๋อร์ก็พักอาศัยอยู่กับลุงจ้านคนนี้ปกติไม่เห็นจะมีปัญหา แต่จู่ๆ ทุกอย่างกลับโกลาหลไปหมดภายในชั่วข้ามคืน นี่เจ้าไม่คิดจะอธิบายอะไรกับลุงจ้านคนนี้เลยรึ?”

“ไฉนจู่ๆ เจ้าถึงวางยาพิษ? ไยต้องฆ่าหานกวง? ไม่สิ...เจ้าเพิ่งเป็นมืออัญเชิญชั้นต้นเท่านั้น ในแง่ของระดับวรยุทธ์แล้วเจ้าไม่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้! แล้วเจ้าไปเป่าหูอันใดถึงทำให้อี้เอ๋อร์เชื่อฟังเจ้าขนาดนี้? ข้าว่าเจ้าต้องอธิบายเรื่องนี้โดยละเอียดให้ลุงจ้านคนนี้ฟัง มิฉะนั้น...”

“มิฉะนั้นอะไร? จะจัดการกับข้า? ...มีปัญญารึ? ลุงจ้านท่านจงจำเอาไว้ หากท่านไม่ทำอะไรข้า ข้าเองก็จะไม่ทำอะไรท่าน ส่วนคำอธิบาย ข้าก็พูดความจริงไปหมดแล้ว ไยต้องถามซ้ำให้มากความ?”

ฝีเท้าของหลี่หวงที่หยุดชะงักเริ่มก้าวเดินออกไปอีกครั้ง และค่อยๆ เคลื่อนออกไปไกลจากสายตาของจวิ๋นจ้านและหานชิง

“หากไม่ล้ำเส้นข้า ข้าก็ไม่คิดล้ำเส้นคนอื่น”

หลี่หวงทิ้งทวนคำกล่าวสุดท้ายเพียงประโยคสั้นกระชับให้ลอยเคว้งผ่านสายลมโชย ดังเข้าไปในรูหูของจวิ๋นจ้าน

ซึ่งประโยคนี้กลับทำเอาจวิ๋นจ้านสั่นสะท้านเสียวสันหลังวาบโดยไม่ตั้งใจ

หากไม่ล้ำเส้นข้า ข้าก็ไม่คิดล้ำเส้นคนอื่นเช่นกัน

แม้จวิ๋นจ้านจะดูเป็นชายวัยกลางคนที่ธรรมดามากคนหนึ่ง แต่ความจริงแล้ว ชั่วชีวิตของเขาพ้นผ่านประสบการณ์มากมายที่ถาโถมเข้ามาจนเจนจัด ดังนั้นจึงฟังออกถึงความขมขื่นที่เร้นซ่อนอยู่ในประโยคคำพูดนี้ของหลี่หวง

“อี้เอ๋อร์!!!”

เข่าทั้งสองข้างของหานชิงทรุดลงกับพื้นอีกครั้งอย่างไร้เรี่ยวแรง ได้แต่เฝ้ามองแผ่นหลังของจวิ๋นอี้จากด้านหลังที่ค่อยๆ ห่างไกลออกไป นางกรีดร้องออกมาราวกับคนเสียสติ

ไฉนจู่ๆ ลูกชายของนางถึงไม่ต้องการแม่คนนี้แล้ว!!

ต้องเป็นเพราะมัน! ลูกชายของเขาต้องโดยนังสารเลวนั่นล่อลวงด้วยคาถาอาคมแน่นอน!

สักวันข้าจะต้องฆ่านังสารเลวตัวนี้ให้ได้! พอถึงตอนนั้นลูกชายของข้าก็จะกลับมาหาข้าเอง!

“หานชิง พวกเรากลับกันเถอะ”

จวิ๋นจ้านพยุงร่างของหานชิงที่ทรุดอยู่กับพื้นขึ้นมา และรีบจากออกไปทันทีภายใต้สายตาอันฉุนเฉียวของฮั่วหยาง

“เจ้าแน่ใจแล้วกระมัง?”

เมื่อกลับมาถึงวานกว้างด้านหลังเรือน หลี่หวงก็ปล่อยมือน้อยๆ ของจวิ๋นอี้

“ข้า...”

จวิ๋นอี้ปริปากขึ้นมา แต่ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี

“รู้สึกเสียใจ?”

“...เปล่า ข้ารู้สึกโล่งมากเลยต่างหาก”

คำตอบนี้ของจวิ๋นอี้ทำให้หลี่หวงประหลาดใจเล็กน้อย แต่พอครุ่นคิดดูให้ดี มันกลับไม่ได้รู้สึกอัศจรรย์ใจเท่าไหร่เลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด