ตอนที่แล้วตอนที่ 85 ร่วมมือกัน?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 87 เทพดนตรีชิ่งหนี

ตอนที่ 86 เสียงสวรรค์ของเย่เทียน


กำลังโหลดไฟล์

ในฐานะที่เฟยเฉิงเป็นรุ่นพี่ในวงการบันเทิง แม้ว่าเขาไม่รู้ว่าเย่เทียนทำอะไรไปแต่เขาก็ยิ้มไว้ก่อน

ที่ปรึกษาทั้งสี่มาถึงแล้ว รายการกำลังจะเริ่มอย่างเป็นทางการ

ซ่งชิวหรานกับหลี่ต้าไห่จงใจไม่ให้เย่เทียนที่เป็นที่ปรึกษาระดับรากหญ้ามีโอกาสได้แสดงความเห็น ทุกครั้งที่นักต้มตุ๋นจะแสดงความเห็นพวกเขาจะเป็นคนแรกที่ขัด“อาจารย์ซ่ง อาจารย์หลี่ พวกเรามาฟังความเห็นของอาจารย์เย่กันบ้างดีกว่า”

“เชิญอาจารย์เย่พูดเลย” ซ่งชิวหรานยิ้มเบา ๆ

นักต้มตุ๋นถอนหายใจ “ฉันคิดว่าทักษะการร้องเพลงของผู้เข้าแข่งขันคนนี้ยังไม่ดีเท่าไหร่ แต่เขามีความยืดหยุ่นและการคุมระดับเสียงได้ดี ถ้าเขาฝึกจนเป็นมืออาชีพได้ เขาต้องเป็นดาวดวงใหม่ในโลกดนตรีแน่นอน”

หน้าของผู้เข้าแข่งขันแดงด้วยความตื่นเต้น เขารีบขอบคุณนักต้มตุ๋น

หลี่ต้าไห่ “อาจารย์เย่พูดถูก ฉันก็ชอบผู้เข้าแข่งขันคนนี้เหมือนกัน แต่ตอนนี้เรากำลังพูดถึงการแสดงความสามารถและมันคือการแข่งขัน เราไม่ได้มีเวลามาพอที่จะรอให้เขาเติบโต ฉันทำได้แค่ลงคะแนนให้เขาตกรอบเท่านั้น...”

“ความคิดของฉันเหมือนกับอาจารย์หลี่ ฉันลงคะแนนให้ตกรอบ” ซ่งชิวหรานพูดต่อ

“เอ่อ…” นักต้มตุ๋นมองเย่เทียนและเฟยเฉิง “ถ้าอย่างนั้น…”

เย่เทียน “ฟังความรู้สึกของคุณสิอาจารย์ ถ้าคุณชอบผู้เข้าแข่งขันคนนี้ก็ให้เขาเข้ารอบเถอะ”

เฟยเฉิงได้ยินดังนั้นเขาจึงยกป้ายด้วยรอยยิ้ม “ฉันโหวตให้เข้ารอบ”

“ฉันโหวตให้เขาเข้ารอบ” นักต้มตุ๋นพูดอย่างเร่งรีบ

“ฮึ่ม!” หลี่ต้าไห่

“สองคนโหวตตกรอบ สองคนโหวเข้ารอบ ดังนั้นเราจะทำตามกฎของทางรายการ ผู้เข้าแข่งขันคนนี้ผ่านเข้ารอบ”

“อาจารย์สี่มาช้าแล้ว ผู้กำกับเตรียมที่พักผ่อนพิเศษไว้ให้พวกคุณแล้ว”

“ขอบคุณท่านผู้อำนวยการ”

ภายใต้การนำของผู้อำนวยการ อาจารย์ทั้งสี่ไปยังพื้นที่พักผ่อนของตน

เมื่อนักต้มตุ๋นเข้ามาในห้อง เฟยเฉิงก็เดินมาหาเย่เทียน “คุณเย่มาได้ยังไง?”

เย่เทียนหัวเราะ “ฉันเบื่อๆเลยมาร่วมสนุกน่ะ คุณเฉิงอย่าพึ่งเปิดโปงฉันนะ”

“ไม่หรอก แต่ถ้าคุณคือเย่เทียนแล้วเขาล่ะ”

“นักต้มตุ๋น”

“นักต้มตุ๋น?” เฟยเฉิงกลอกตา “สุดท้ายคุณก็ยังหาวิธีมาเล่นสนุกจนได้สินะ”

“...”

วันแรกของการแข่งจบลงอย่างราบลื่น

เย่เทียนนั่งไขว่บนโซฟาขณะดื่ม “พี่ชาย ฉันแสดงได้ดีเลยใช่ไหมล่ะ? ดูเหมือนครั้งนี้เราจะได้รางวัลกันเป็นล้านแล้ว”

“ในอนาคตพวกเราจะสร้างกลุ่มหาเงินด้วยกันและมีสาวๆร่วมด้วย นายคิดว่าไง?”

เย่เทียน “ฉันเคยได้ยินกลุ่มนักร้อง นักเต้น แต่ฉันไม่เคยได้ยินกลุ่มของนักต้มตุ๋นเลยนะ นายอยู่ในธุรกิจนี้มานานแค่ไหนแล้ว?”

“นี่จะขุดฉันเหรอเนี่ย?” เย่เทียนหรี่ตาลง จู่ๆเขาก็เศร้าลงเล็กน้อย “ฉันเองก็ไม่อยากทำเหมือนกัน ในช่วงปีแรกๆครอบครัวฉันค่อนข้างมั่งคั่ง ฉันไปลงทุนกับเพื่อนสองสามคนแต่มารู้ทีหลังว่าไอ้พวกพี่น้องนั่นมีแต่พวกหลอกลวงทั้งนั้น พวกมันหลอกฉันและทำลายครอบครัวฉัน พอทำธุรกิจไม่ได้ภรรยาก็พาลูกหนีไปด้วย ฉันเลี้ยงชีพตัวเองได้ด้วยการโกงคนอื่นเท่านั้น”

“แล้วนายล่ะ? ทำไมถึงเข้ามาในธุรกิจนี้?”

เย่เทียน “ฉันเป็นมือใหม่น่ะ หลอกคนเป็นบางครั้ง”

“โอ้ ดูเหมือนครอบครัวนายจะไม่ได้เลวร้ายมากนะ”

เย่เทียนเริ่มเปิดใจ เขาไปด้านข้างเย่เทียนแล้วหยิบกระเป๋าเงินออกมาให้เย่เทียนดูรูปถ่ายในนั้น ในรูปถ่ายเป็นครอบครัวสามคน ภาพถ่ายนี้น่าจะเป็นภาพเมื่อนานมาแล้ว ในเวลานั้นเย่เทียนยังเป็นหนุ่มหล่ออยู่

“ลูกสาวของฉัน เธอหน้าฉันเลย” เย่เทียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนโตขึ้นเธอต้องสวยมากแน่ น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้เจอเธอนานแล้ว”

“ทำไม?”

“แม่ของเธอพาออกไปแล้วไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลย” เย่เทียนถูเปลือกตาของเขา ทันใดนั้นก็ตบขาตัวเองและเริ่มด่า “บัดซบ รู้จักกันแค่วันเดียวทำไมฉันต้องเล่าให้นายฟังด้วย นอนนอน พรุ่งนี้ยังต้องไปแสดงอีก”

เย่เทียนเดินไปที่ห้องถัดไป

เย่เทียนตกอยู่ในห้วงความคิด เขาค่อนข้างเห็นใจเย่เทียนคนนี้

แต่พอคิดถึงคนบริสุทธิ์ที่ถูกเย่เทียนหลอก ความเห็นอกเห็นใจก็หายไปทันที

ในวันที่สองและวันที่สามการถ่ายดำเนินไปอย่างราบรื่น เย่เทียนยังอุทิศตนอย่างเต็มที่กับบทบาทของที่ปรึกษาและแสดงได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จากตอนแรกที่ใจสั่นจนต้องให้เฟยเฉิงช่วยแต่ตอนนี้เขาสามารถตัดสินได้ด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ดีอยู่ได้ไม่นาน

ในวันที่สี่ของการแข่ง

ทันทีที่ผู้เข้าแข่งขันลงจากเวที หลี่ต้าไห่ก็พูดขึ้น “อาจารย์เย่ พวกเราก็รู้จักกันมาหลายวันแล้วแต่ฉันยังไม่เคยได้ยินคุณร้องเพลงเลย ทำไมตอนนี้คุณไม่ร้องไห้พวกเราฟังสักหน่อยล่ะ?”

ซ่งชิวหรานปรบมือ “ใช่แล้วอาจารย์เย่ มาเปลี่ยนบรรยากาศกันดีกว่า ให้ผู้เข้าแข่งขันของเราได้เห็นความสามารถแท้จริงของคุณ พวกคุณคิดว่ายังไง?”

“เอาเลย!”

ผู้เข้าแข่งขันมากกว่าสิบตอบกลับ

“เอ่อ นี่...” เย่เทียนทรุดตัวทันที

เขาเก่งในการหลอกคน แต่ถ้าพูดถึงการร้องเพลง...แค่ไล่เสียงตัวโน๊ตยังเพี้ยนเลย!

“ฉันจะทำยังไงดี...” เย่เทียนถามเย่เทียนเพื่อขอความช่วยเหลือ

เย่เทียนลุกขึ้นด้วยรอยยิ้ม “อันที่จริงอาจารย์ของฉันเพิ่งผ่าตัดกล่องเสียงเมื่อไม่นานมานี้ หมอบอกให้เขาลดการใช้เสียงด้วย แต่ในเมื่อเป็นคำขอของที่ปรึกษาทั้งสอง ถ้าอย่างนั้นฉันขอร้องแทนอาจารย์แล้วกัน”

“ได้!”

“ไม่มีปัญหา!”

หลี่ต้าไห่และซ่งชิวหร่านพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “พวกเราอยากรู้เมหือนกันว่าการฟังเสียงE8สดๆเป็นยังไง”

เย่เทียนไม่กลัว เขาปฏิเสธไมที่ผู้อำนวยการยื่นให้

ผู้อำนวยการตะลึง “แล้วคุณ...”

“โอเปร่า”

“คุณมั่นใจแล้วใช่ไหม?”

“เวรเอ้ย นี่มันสุดยอดเลย!”

ผู้เข้าแข่งขันตกตะลึง

พวกเขาเป็นคนวงในจึงรู้ดีว่าการร้องโอเปร่ามันยากแค่ไหน

นักร้องหลายคนที่ต้องถ่ายจะรถคว่ำทันทีที่มาถึงที่ถ่ายทำ ในวงการมีชื่อเรียกอีกชื่อคือราชาแผ่นเพลง มีเพียงโอเปร่าเท่านั้นที่สะท้อนทักษะการร้องเพลงได้ดีที่สุด

“มาเริ่มกันเลย”

เย่เทียนสูดหายใจเข้าลึกสองสามครั้ง “อา...”

“!”

“!!!”

“!!!”

เสียงที่เป็นเหมือนเสียงจากธรรมชาติ เสียงนี้กระทบจิตวิญญาณของทุกคนที่อยู่ที่นี่

แม้แต่เฟยเฉิงหรือที่รู้จักกันในชื่อเทพดนตรีก็ยังตะลึง

จะมีเสียงที่สมบูรณ์แบบอย่างนี้อยู่ในโลกได้ยังไง!

หลี่ต้าไห่กับซ่งชิวหรานต่างอึ้ง พวกเขาถูกโน้มน้าวจากภายในโดยสมบูรณ์ และเมื่อเพลงถึงจุดไคลแม็กซ์แก้วน้ำที่อยู่หน้าพวกเขาก็เริ่มสั่น!!

“นี่มัน...!”

“นี่ไม่ใช่E8แล้ว นี่มันE10! มันสูงยิ่งกว่า!”

“พระเจ้า ดูแก้วนั่นสิ!”

ขณะที่ผู้อำนวยการเปลี่ยนมุมกล้อง ผู้คนต่างตกใจเมื่อเห็นรอยแตกบนแก้วหน้าหลี่ต้าไห่!!