ตอนที่แล้วตอนที่ 6 ทางเลือกสามทางของเหล่าเชลย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8 ความคิดเห็นและการทดสอบจากกุยแก

ตอนที่ 7 การมาเยือนของกุยแก การต้อนรับด้วยเท้าเปล่า


ตอนที่ 7 การมาเยือนของกุยแก การต้อนรับด้วยเท้าเปล่า

ที่ว่าการอำเภอจงหลิง

นายอำเภอแห่งนี้ได้หอบข้าวของหนีเอาตัวรอดไปแล้ว ในเขตสำนักงานจึงว่างเปล่า

ในฐานะผู้นำคนใหม่ของอำเภอจงหลิง เฉิงชงจึงย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่

เจี้ยงเฟิงเข้ามารายงาน

“ตามคำสั่งจัดการของนายท่าน กลุ่มเชลยโพกผ้าเหลืองได้รับการตั้งถิ่นฐานใหม่แล้ว”

“กลุ่มที่ต้องการทำสวนได้ถูกแยกออกไปยังพื้นที่รกร้าง”

“ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกองทัพได้รับการจัดลำดับอย่างละเอียด ซึ่งมีทั้งหมดประมาณหนึ่งพันเจ็ดร้อยคน!”

“นอกจากนี้หากรวมกับพี่น้องเดิมของพวกเรา ทหารภายใต้การบัญชาของนายท่านจะมีถึงสองพันคน!”

“อย่างไรก็ตามยังคงมีช่องว่างทางทรัพยากรอย่างเช่นอาวุธ และชุดเกราะ”

เฉิงชงพยักหน้า

เขาพึงพอใจกับผลลัพธ์อย่างมาก

“เจ้าทำได้ดี”

“ข้าจะหาวิธีเกี่ยวกับอาวุธและยุทโธปกรณ์เอง”

“อย่างไรก็ตาม พวกกบฏโพกผ้าเหลืองนั้นเป็นภัยต่อชาวบ้านอย่างแท้จริง มันยังมีกบฏโพกผ้าเหลืองอื่น ๆ อยู่ใกล้แถบนี้อีกหรือไม่?”

เจี้ยงเฟิงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบ

“ตามที่ลูกน้องของข้าทราบมา ยังคงมีกบฏโพกผ้าเหลืองอาละวาดอยู่”

“นอกจากกองทัพห้าพันคนที่โจมตีพวกเราแล้ว ยังมีกองทหารอีกเกือบหนึ่งหมื่นเข้าโจมตีอำเภอเมืองหม่าอี้ที่อยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งร้อยหกสิบลี้!”

*อำเภอเมืองหม่าอี้น่าจะเป็นอำเภอหลักในเขตนี้ เพื่อไม่ให้อ่านเยอะขัดตา ผมจะพิมเป็นอำเภอหม่าอี้แทนนะครับ

“การป้องกันของอำเภอหม่าอี้นั้นคล้ายกับจงหลิงของพวกเรา ที่นั่นมีทหารรักษาการณ์เพียงห้าร้อยนาย และสถานการณ์ยามนี้อันตรายอย่างมาก!”

ทหารรักษาการณ์ห้าร้อยนายย่อมไม่มีโอกาสต้านทานกองกำลังนับหมื่นของโจรโพกผ้าเหลืองได้

เพราะไม่ใช่ทุกแห่งจะมีอัจฉริยะอย่างเฉิงชงปรากฏตัว!

“อำเภอหม่าอี้?”

เฉิงชงพยักหน้าเบา ๆ

แววตาของเขาแข็งกร้าวเล็กน้อย

“เจ้าไปเตรียมการกับพี่น้องสามร้อยคนของพวกเรา ทิ้งหนึ่งร้อยคนไว้รักษาการณ์ที่เมืองนี้!”

“นอกจากนั้นให้ส่งต่อข้อมูลเกี่ยวกับค่ายกลไปยังทหารที่เข้าร่วมทัพใหม่ พวกเขาจะต้องเรียนรู้ให้เร็วที่สุด”

“สำหรับพี่น้องอีกสองร้อยคนที่เหลือ พวกเราจะมุ่งหน้าไปยังอำเภอหม่าอี้พรุ่งนี้!”

เจี้ยงเฟิงตกใจเมื่อได้ยิน

“นายท่านกำลังหมายความว่าจะไปช่วยอำเภอหม่าอี้ใช่หรือไม่?”

“แต่แค่สองร้อยคนจะไม่น้อยไป...”

เฉิงชงเหลือบมองไปที่เขา

“มีค่ายกลแล้วยังน้อยอีกหรือ?”

เจี้ยงเฟิงสะดุ้งพร้อมยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

ถูกต้อง

ทหารนั้นมีค่ากว่าพรสวรรค์

ด้วยพลังของค่ายกล พวกเขาก็คือกองทหารชั้นยอด

ทั้งสองร้อยคนนั้นสามารถสู้ได้เหมือนสิบต่อหนึ่ง!

มันอาจจะทำลายการรุกรานของกบฏโพกผ้าเหลืองได้หากร่วมมือกับกองทหารรักษาการณ์ของอำเภอหม่าอี้!

“ตกลง! ข้าจะรีบเตรียมการให้เดี๋ยวนี้!”

เจี้ยงเฟิงกล่าวตอบและรีบจากไป

เฉิงชงมองไปข้างหน้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือสงคราม!

มีเพียงสงครามเท่านั้นที่จะเพิ่มแต้มสงครามได้

กองทัพของกบฏโพกผ้าเหลืองไม่ได้แข็งแกร่งนัก มันจึงเป็นเป้าหมายที่ดีในการล่าแต้มสงคราม

อีกอย่างหากจำไม่ผิด

ในประวัติศาสตร์สามก๊ก แม่ทัพที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างเตียวเลี้ยวได้เกิดที่อำเภอหม่าอี้

ณ ตอนนี้ เตียวเลี้ยวน่าจะยังคงอยู่ในอำเภอหม่าอี้

เขาเป็นคนซื่อตรงและรักบ้านเกิดเป็นอย่างมาก

การส่งทหารไปช่วยอำเภอหม่าอี้ มันจะทำให้เตียวเลี้ยวโปรดปรานเฉิงชงเพิ่มขึ้นแน่นอน

บางทีเตียวเลี้ยวอาจจะยอมมารับใช้โดยตรง!

นั่นคือแม่ทัพที่มีฝีมือร้ายกาจ และจะมีบทบาทอย่างมากในอนาคตของยุคสามก๊ก!

ขณะกำลังนึกถึงเรื่องนี้ ได้มีผู้ติดตามเดินเข้ามารายงาน

“นายท่าน!”

“มีปราชญ์คนหนึ่งขอเข้าพบ!”

เฉิงชงขมวดคิ้ว

วันนี้เขาพบปราชญ์มามากกว่าสิบคน

พวกเขาทั้งหมดล้วนชอบเยินยอและเอาแต่ยกย่องเฉิงชง

เมื่อได้ยินเช่นนั้นบ่อยครั้งเข้า หูของเขาถึงกับชา

เขาโบกมือพร้อมกล่าวเบา ๆ

“วันนี้ข้าเหนื่อยแล้วอยากพักผ่อน ทิ้งข้อมูลเอาไว้แล้วบอกให้เขากลับไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยเข้ามาใหม่!”

ผู้ติดตามพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นได้วางข้อมูลของปราชญ์คนดังกล่าวไว้บนโต๊ะและจากไป

เฉิงชงเงยหน้าขึ้นและเหลือบไปมอง ทันใดนั้นดวงตาของเขาถึงกับเบิกกว้าง

“ชาวเมืองเองฉวน กุยแกฉายากุยเฟิ้งเซียวขอเข้าพบ”

กุยแก กุยเฟิ้งเซียว?

เป็นเขาจริงหรือ?

นี่คือยอดกุนซืออันดับต้น ๆ ในยุคสามก๊ก!

ในฐานะที่ปรึกษาทางการทหารของโจโฉ เขาคือผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่ทำให้โจโฉเป็นใหญ่ได้!

เหตุใดบุรุษผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้ถึงมายังจงหลิง?

เฉิงชงไม่มีเวลานึกถึงเรื่องนี้ เขารีบลุกขึ้นและวิ่งออกไปโดยไม่ทันแม้แต่จะสวมรองเท้า

ใครจะทราบว่าแท้จริงกุยแกเป็นคนนิสัยสันโดษและหัวสูง

มีเพียงไม่กี่คนในโลกนี้ที่เขายอมเข้าพบด้วยตนเอง

การส่งจดหมายขอเข้าพบเช่นนี้จึงเป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่ง

เมื่อมาถึงประตูเองเช่นนี้ จะให้เฉิงชงพลาดได้อย่างไร?

ณ ประตูที่ว่าการอำเภอ

เฉิงชงเดินออกมาอย่างรวดเร็ว

กุยแกกำลังยืนรออยู่หน้าประตู

เมื่อเฉิงชงเห็นกุยแก เขาจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

นี่คืออาลักษณ์ชุดขาวที่เราพบเมื่อไม่กี่วันก่อนไม่ใช่หรือ?

ดูเหมือนว่ากุยแกคนนี้จะสังเกตดูเรามาหลายวันแล้ว

ที่ผ่านมาก็คงแอบสังเกตการณ์เราอยู่ในความมืดสินะ

มาดูกันว่าเฉิงชงผู้นี้จะเป็นวีรบุรุษที่เขาอยากติดตามหรือไม่!

“พี่เฟิ้งเซียว(ชื่อรอง/ชื่อเล่น) คงรอนานแล้ว!”

เฉิงชงยกมือทั้งสองข้างขึ้นประกบกันเพื่อเป็นการทักทาย

กุยแกยิ้มตอบ

เมื่อเห็นเท้าเปล่าของเฉิงชง เขาจึงได้เผยแววตาประหลาดใจ

“น้องชาย รองเท้าของเจ้าอยู่ที่ใดแล้ว?”

เฉิงชงหัวเราะเช่นกัน

“เมื่อได้ยินว่าพี่เฟิ้งเซียวมาถึงประตูด้วยตัวเอง ข้าจะสวมรองเท้าได้อย่างไร?”

ร่างกายของกุยแกกระตุกเล็กน้อย ภายในดวงตาของเขารู้สึกได้ถึงบางอย่าง

เขาเห็นว่าความตื่นเต้นของเฉิงชงนั้นดูจริงใจอย่างมาก และมั่นใจว่ามันไม่ใช่การแสดงโดยเจตนา

มาทักทายด้วยเท้าเปล่า

น่านับถือนัก

มันจะต้องเป็นเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมแน่นอน!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด