ตอนที่ 5 สังหารแม่ทัพ
ตอนที่ 5 สังหารแม่ทัพ
เพียงชั่วพริบตา กบฏโพกผ้าเหลืองหลายร้อยคนก็ถูกสังหารกลางสนามรบ
สำหรับทหารของเมืองจงหลิงกลับไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่ครึ่ง!
ขวัญกำลังใจของกบฏโพกผ้าเหลืองเริ่มสั่นคลอนเมื่อเห็นเช่นนั้น
แม่ทัพตู้ชางมองดูฉากนี้พร้อมเผยจิตสังหารอันรุนแรงออกมา
เขาทราบว่าต้องรีบลงมือ!
เขาต้องรีบทำทุกวิถีทางเพื่อปราบกองทหารรักษาการณ์ของจงหลิงก่อนจะสายเกินไป
มิเช่นนั้นขวัญกำลังใจของฝั่งตนจะลดลงเรื่อย ๆ และท้ายที่สุดก็จะต้องพ่ายแพ้!
“ส่งพวกมันไปลงนรก!”
เขาตะโกนออกมาอย่างดุดันขณะกระโจนไปข้างหน้า
หลังจากนั้นเขาได้เหวี่ยงแขนสุดกำลังไปยังทหารของจงหลิง!
เสียงตัดอากาศดังขึ้นจากแรงเหวี่ยง
การโจมตีของเขาดูรุนแรงและดุดันอย่างมาก!
ทันใดนั้นได้มีทหารสามคนเข้ามาต้านการโจมตีนี้พร้อมกัน
เคล้ง!
เสียงประสานของโลหะดังขึ้น
ดาบยาวของตู้ชางแกว่งไปมา แรงกระแทกกลับนั้นรุนแรงจนเขาแทบจะตกจากหลังม้า
แต่ทหารทั้งสามของจงหลิงกลับไม่ถอยแม้แต่ครึ่งก้าว
“เป็นไปได้อย่างไร?”
ใบหน้าของตู้ชางเปลี่ยนสีอย่างมาก
ในฐานะแม่ทัพอันดับที่สามสิบหกของกบฏโพกผ้าเหลือง เขาย่อมไม่ใช่คนธรรมดา
พละกำลังของเขานับว่าสูงกว่าทหารทั่วไป อย่างต่ำก็แม่ทัพระดับสาม
การโจมตีสุดแรงเกิดของเราเมื่อครู่ถูกสกัดได้โดยทหารธรรมดาเพียงสามคนจริงหรือ?
ประสิทธิภาพของกองทัพนี้น่าสะพรึงถึงระดับไหนกัน?
ชั่วขณะหนึ่ง ตู้ชางค่อย ๆ ถอยหลังกลับโดยสัญชาตญาณ
เขาสะกิดม้าเพื่อค่อย ๆ ถอยออกไป
แน่นอนว่าทหารจงหลิงย่อมไม่ปล่อยเขาไปง่าย ๆ
ทหารคนหนึ่งเข้าไปตัดขาของม้า และอีกคนกระชากเข็มขัดของตู้ชาง
พวกเขาดึงตัวของตู้ชางลงมาจากหลังม้าโดยตรง!
ทันทีที่ตกถึงพื้น คมดาบนับสิบก็เข้ามาทักทายเขา
เพียงไม่นาน กบฏโพกผ้าเหลืองผู้หล่อเหลาก็กลายเป็นก้อนเนื้อ!
ในช่วงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต ตู้ชางเห็นเฉิงชงกำลังมองลงมาอย่างเย็นชา
หัวใจของเขารู้สึกสั่นไหว
บุรุษหนุ่มผู้นี้ร้ายกาจมาก!
บางทีต่อให้เป็นอาจารย์ของเขาก็ยังไม่อาจสู้ได้!
เฉิงชงที่เห็นว่าตู้ชางสิ้นลม
มันทำภายในใจของเขานั้นตื่นเต้นอย่างมาก
ผลของค่ายกลนี้เหนือกว่าที่เขาจินตนาการไว้หลายเท่า
ทราบหรือไม่ว่าค่ายกลเกล็ดปลาขั้นเทพเจ้านี้ยังเป็นอยู่แค่ระดับที่ต่ำที่สุด!
ในอนาคตนั้นยังมีช่องว่างสำหรับพัฒนาอีกแน่นอน
เพียงแค่ทหารธรรมดาสามคนที่ได้รับพลังจากค่ายกลยังสามารถสังหารตู้ชางได้อย่างง่ายดาย!
หากระดับของมันเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
บางทีทหารธรรมดาเพียงสองสามคนอาจทำให้แม่ทัพระดับสูงอย่างลิโป้ กวนอู หรือเคาทูไม่อาจต่อสู้ได้อย่างอิสระ!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ มันทำให้เลือดลมของเขาถึงกับเดือดพล่าน!
กบฏโพกผ้าเหลืองเป็นเพียงกลุ่มคนยากไร้มารวมตัวกัน
หลังจากที่ตู้ชางถูกสังหารกลางสนามรบ ขวัญกำลังใจของพวกเขาจึงตกสู่จุดต่ำสุดทันที
ภายใต้การโจมตีอันดุเดือดของทหารจงหลิง กบฏโพกผ้าเหลืองก็แตกกระเจิงอย่างสมบูรณ์
พ่ายแพ้อย่างหมดท่า!
กบฏโพกผ้าเหลืองจำนวนมากโยนชุดเกราะทิ้งและเริ่มหลบหนีอย่างสิ้นหวัง
ยังมีกบฏโพกผ้าเหลืองอีกมากที่วางดาบและคุกเข่ายอมจำนน
สถานการณ์การรบปรากฏออกมาอย่างชัดเจน!
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับชัยชนะ!”
“การศึกครั้งนี้สูญเสียเพียงเล็กน้อย และสามารถสังหารแม่ทัพศัตรูได้อย่างงดงาม!”
“คะแนนโดยรวมครั้งนี้คือ D คุณจะได้รับแต้มสงครามหนึ่งร้อยแต้ม!”
“แต้มสงครามสามารถใช้พัฒนาค่ายกลและปลดล็อคค่ายกลใหม่ได้ หรือสามารถใช้แลกเปลี่ยนไอเทมพิเศษต่าง ๆ”
เสียงของระบบดังขึ้น
เฉิงชงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
แต้มสงคราม?
หรือมันคือสกุลเงินของระบบ
หากเฉิงชงต้องการจะแข็งแกร่งขึ้น เขาจะต้องได้รับแต้มสงครามอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้แลกรางวัลต่าง ๆ
ปัจจุบัน วิธีได้รับแต้มสงครามคือการชนะสงคราม
เฉิงชงเปิดแผงระบบขึ้นมาดู
แต้มสงครามที่ใช้สำหรับปลดล็อคค่ายกลใหม่คือสามร้อยแต้ม
ส่วนแต้มสำหรับอัปเกรดค่ายกลเกล็ดปลาขั้นเทพเจ้านั้นต้องใช้หนึ่งพันแต้ม
สำหรับสิ่งของพิเศษบางอย่างเช่นเมล็ดพันธุ์หัวมัน ราคายิ่งสูงลิบลิ่ว
ตอนนี้เฉิงชงยังไม่กล้านึกถึงมันมากนัก
“หนทางยังอีกยาวไกล!”
เฉิงชงยิ้มอย่างขมขื่น
ขณะที่เขากำลังไตร่ตรอง กองทหารของเจียงหลิงได้จัดการสนามรบเรียบร้อย
เชลยของกบฏโพกผ้าเหลืองทั้งหมดได้มารวมกัน
“ท่านเฉิง!”
“สนามรบถูกจัดการเรียบร้อย”
“ในสงครามครั้งนี้ พวกเราสังหารศัตรูไปได้กว่าแปดร้อยคน และจับเชลยได้กว่าสามพันคน!”
“สำหรับพี่น้องของพวกเรามีจำนวนที่เสียชีวิตไม่ถึงสิบ!”
“พวกเราชนะแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่ชนะธรรมดา แต่ยังเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่!”
นายกองเจี้ยงเฟิงกล่าวด้วยความตื่นเต้น
เขาตะโกนพูดข้อมูลทั้งหมดออกมาในครั้งเดียว
จนถึงบัดนี้ เขายังรู้สึกว่ากำลังอยู่ในความฝัน
“พวกเราชนะ พวกเราชนะจริง ๆ จงหลิงปลอดภัยแล้ว!”
เสียงเฮดังสนั่น
ไม่ว่าจะเป็นทหารจงหลิงกว่าสามร้อยคน หรือชาวบ้านที่อยู่บนกำแพงต่างก็โห่ร้องยินดี
ไม่นาน ทุกสายตาได้จับจ้องไปทางเฉิงชง
พวกเขาตระหนักได้ว่าคงไม่ได้สัมผัสกับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ หากปราศจากชายหนุ่มผู้นี้
ทันใดนั้นเจี้ยงเฟิงได้ปักธงศึกลงบนพื้นอย่างหนักแน่น
เขาได้เดินตรงไปหาเฉิงชงก่อนจะคุกเข่าลง
“ท่านเฉิง ไม่สิ นายท่าน!”
“เจี้ยงเฟิงขอทำตามสัญญา จากนี้ไปข้าจะขอลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ข้าจะไม่ใช่นายกองของเมืองนี้อีก แต่จะเป็นข้ารับใช้ของนายท่าน!”
“ขอให้พี่น้องทุกคนอยู่ภายใต้การดูแลของนายท่าน!”
ทหารรักษาการณ์ทั้งสามร้อยคนคุกเข่าลงพร้อมกัน
ฉากนี้เต็มไปด้วยความซื่อสัตย์และจริงใจ
พวกเขาพูดขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
“พวกเราพร้อมตายเพื่อนายท่าน!”
พวกเขาเป็นเพียงคนหยาบกร้านและไม่ค่อยเข้าใจกฎหมายบ้านเมือง
แต่พวกเขาก็รักบ้านเกิดเมืองนอนยิ่งกว่าสิ่งใด
เมื่อพวกเขาต้องตกอยู่ในอันตราย แต่เจ้าหน้าที่ของราชวงศ์ฮั่นกลับไม่ปรากฏตัว หรือแม้แต่นายอำเภอก็หนีเอาตัวรอด
มันทำให้พวกเขารู้สึกเย็นชาต่อราชสำนักอย่างสมบูรณ์
เฉิงชงกลับเป็นชายผู้เข้ามาช่วยชีวิตเมืองจงหลิง และทำให้ครอบครัวของพวกเขาปลอดภัย!
แค่เท่านี้ พวกเขาก็เต็มใจที่จะเป็นทหารรับใช้ส่วนตัวของเฉิงชงแล้ว!
ดวงตาของเฉิงชงกำลังลุกเป็นไฟ
ส่วนหนึ่งที่เขาฝึกค่ายกลให้เหล่าทหารก็เพื่อปกป้องเมืองและตนเองจากกบฏโพกผ้าเหลือง
แต่ขณะเดียวกันก็มีความเห็นแก่ตัวปะปนอยู่ด้วย
เขาคุ้นเคยกับประวัติศาสตร์สามก๊กดี หลังจากสิ้นสุดยุคของกบฏโพกผ้าเหลือง ราชวงศ์ฮั่นก็จะเริ่มเสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ
การเอาชีวิตรอดในโลกที่โกลาหลนี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่เขาก็ต้องการมีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์และสร้างชื่อเสียงของตน!
เขาไม่ได้มาจากตระกูลใหญ่อย่างอ้วนเสี้ยว ไม่ได้มั่งคั่งอย่างโจโฉ หรือไม่ได้เป็นเชื้อพระวงศ์อย่างเล่าปี่
มันเป็นการเริ่มต้นด้วยตัวเองอย่างแท้จริง!
ต้นทุนทั้งหมดต้องสร้างด้วยตัวเอง!
ทหารสามร้อยคนที่อยู่ตรงหน้าคือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด!
แน่นอนว่าเขาจะไม่ปฏิเสธ
เขาเดินก้าวไปข้างหน้าและพยุงเจี้ยงเฟิงขึ้น
จากนั้นได้มองดูเหล่าทหารด้วยสายตาที่จริงใจก่อนจะพูดขึ้นเสียงดัง
“ทุกคนโปรดวางใจ”
“เมื่อเฉิงชงอยู่ที่นี่ อำเภอจงหลิงจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด!”
“ไม่ว่าจะพวกกบฏผ้าเหลือง หรือพวกเซียนเป่ย* ใครก็ตามที่กล้าเข้ามารุกราน พวกเราชาวจงหลิงจะสังหารให้หมดสิ้น!”
ทุกคำถูกเอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น!
*เซียนเป่ย ปัจจุบันเหมือนจะเป็นพวกมองโกเลีย