ตอนที่แล้วข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 24 หมอกควันสีเลือด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 26 อัจฉริยะวิถีกระบี่

ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 25 คัมภีร์กระบี่แสงวิจิตร


กำลังโหลดไฟล์

ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 25 คัมภีร์กระบี่แสงวิจิตร

คงหนิงควบม้าสีเหลืองพุทราอย่างช้าๆ ออกจากคฤหาสน์ตระกูลสวี และมุ่งหน้าไปทางตอนใต้ของเมือง

ทางใต้ของเมืองเป็นพื้นที่ห่างไกลและยากจนที่สุดในเมือง พื้นที่ส่วนมากเป็นลานโล่งและหลายแห่งก็แห้งแล้ง

คงหนิงขี่ม้าของเขาผ่านบ้านทรงเตี้ยไป ในไม่ช้าก็ไปโผล่อยู่ตรงหน้าแปลงผัก

หลังจากเดินผ่านแปลงผักไปแล้ว เดินเข้าไปอีกหน่อยก็ถึงบ้านร้างตระกูลเถียน

ตระกูลเถียนเคยเป็นตระกูลเล็กๆ ที่น่านับถือในเขตเมือง แต่ก็ค่อยๆ ตกต่ำลงเรื่อยๆ ในท้ายที่สุดทุกคนในตระกูลก็ตาย ไม่เหลือผู้รอดชีวิต

บ้านร้างตระกูลเถียนจึงกลายเป็นพื้นที่ที่มีข่าวลือเรื่องผีสางมากที่สุดในเมือง

การเลือกมาหลบซ่อนที่นี่นับเป็นความคิดที่ดี

ม้าสีเหลืองพุทราถูกควบผ่านแผงประตูที่ถูกรื้อถอนออกไปนานแล้ว สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคงหนิงคือสนามหญ้ารกชัฏเต็มไปด้วยวัชพืช ตัวบ้านทั้งสองข้างของลานนั้นทึบทึมรกร้าง อากาศมีกลิ่นเหม็นหืนจางๆ

ประตู หน้าต่าง และเครื่องเรือนภายในบ้านร้างตระกูลเถียนถูกย้ายออกไปนานแล้วโดยชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ บ้านร้างตระกูลเถียนทุกวันนี้ไม่มีอะไรเหลือนอกจากห้องโล่งๆ

คงหนิงผูกม้าสีเหลืองพุทราไว้ที่ข้างกำแพงที่สลักลวดลายเสือหมอบ เดินเข้าไปด้านในโดยแขวนมีดสั้นโบราณติดตัวเอาไว้

หลังจากผ่านลานสองชั้นนอกเข้ามาแล้ว ก็ได้เห็นเด็กสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ภายในลานชั้นที่สาม กำลังฝึกวิชายุทธอยู่

ลานชั้นนี้ได้รับการทำความสะอาดอย่างดีไม่เหมือนกับสองชั้นก่อนหน้า วัชพืชภายในลานถูกตัดทิ้ง เผยให้เห็นชั้นโคลนด้านล่าง และที่แผ่นหินกลางลาน หญิงสาวในชุดสีขาวกำลังคุกเข่าหลับตา บ่มเพาะพลังทางจิตวิญญาณอยู่

การปรากฏตัวของคงหนิงทำให้หญิงสาวลืมตาขึ้น และรอยยิ้มที่แสดงให้เห็นถึงความสุขก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง

“หัวหน้ามือปราบหนิง”

เด็กสาวกระโดดลงจากแผ่นหินอย่างเริงร่าแล้วพูดว่า “ข้ารอท่านอยู่นานแล้ว”

เด็กสาวดึงแขนคงหนิงด้วยความกระตือรือร้นพร้อมกล่าวว่า “พวกเราเริ่มกันเลยดีไหม? เมื่อคืนข้าจัดเตรียมวิชากระบี่ที่เหมาะสมสองสามวิชาที่พอจะสอนให้เจ้าได้ เจ้าจะเรียนอันไหนก่อน?”

ทันทีที่หญิงสาวเปิดปากพูด นางก็ต้องการจะสอนคงหนิงในทันที ไม่ได้ปฏิบัติเหมือนคงหนิงเป็นคนนอกเลยสักนิด

คงหนิงพูดไม่ออกเล็กน้อย “นี่.......สืบทอดวิชาได้ตรงๆ เลย? ไม่ต้องมีขั้นตอนอะไรเลยหรือ?”

คำถามดังกล่าวทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้ง “เอ๋? ขั้นตอน? ขั้นตอนอะไร?”

“......” คงหนิงมองหญิงสาวตรงหน้าเงียบๆ พยายามยืนยันให้ชัดว่านางไม่ได้พูดเล่น

หญิงคนนี้มาหาเขาเพื่อให้เขาเข้าร่วมนิกาย อย่างไรก็ตาม กลับไม่ต้องมีพิธีการ ไม่ต้องมีขั้นตอนใดๆ สืบทอดวิชากันได้โดยตรง?

เมื่อไม่แน่ใจ คงหนิงจึงถามว่า “ขอบังอาจถามหว่านเอ๋อ เจ้าต้องการให้ข้าเข้าร่วมนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับ.......จะให้เข้าร่วมในฐานะใด?”

คงหนิงคิดว่าหญิงสาวร่างเล็กผู้นี้กำลังวางแผนจะรับเขาเป็นศิษย์ ไม่ก็ศิษย์ในนาม

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้คิดเรื่องนี้มาก่อนเลยใช่หรือไม่?

ต่อหน้าสายตาที่ดูสับสนของคงหนิง หญิงสาวก็พยักหน้าให้ทันที “โอ้โอ้โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว หัวหน้ามือปราบหนิงไปขบคิดมาแล้ว และตัดสินใจจะเข้าร่วมกับนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับ? ไม่เป็นไรหรอก ข้าเองก็ไม่ใช่ศิษย์จริงๆ ทั้งยังไม่มีอาจารย์ด้วย ไม่สามารถเป็นตัวแทนของนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับในการรับศิษย์ได้”

“แต่ถ้าหัวหน้ามือปราบหนิงเต็มใจ ก็สามารถเข้าร่วมนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับ และฝึกฝนวิชากระบี่สวรรค์ได้เหมือนกันกับข้า”

“เพียงแต่ว่าไม่ใช่ตอนนี้”

หญิงสาวกล่าวว่า “วิชากระบี่สวรรค์นั้นไร้เทียมทานยิ่ง หากหัวหน้ามือปราบหนิงต้องการเรียนรู้ อันดับแรกต้องทำลายปราณยุทธในร่างแล้วเริ่มใหม่จากศูนย์ หากสามารถสังหารปีศาจได้ ปราณยุทธของหัวหน้ามือปราบหนิงคงอยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงขอบเขตแล้ว หากปราณยุทธหายไป แหล่งกำเนิดพลังจะได้รับความเสียหาย และต้องพักฟื้นไปนานถึงสิบวันครึ่งเดือน”

“เมื่อหัวหน้ามือปราบหนิงสูญเสียพลังไป แหล่งกำเนิดได้รับความเสียหาย และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพักฟื้น ย่อมไม่สามารถซ่อนเรื่องราวจากปีศาจภายในบ้านได้อย่างแน่นอน หากนางรู้ว่าหัวหน้ามือปราบหนิงกำลังฝึกเคล็ดบ่มเพาะเซียน ย่อมต้องตกอยู่ในอันตรายเป็นแน่”

“ดังนั้น ก่อนที่จะแก้ปัญหาปีศาจที่คอยกวนใจอยู่ได้ หัวหน้ามือปราบหนิงไม่สามารถฝึกฝนเคล็ดบ่มเพาะเซียนได้ ข้าจึงจะสอนเคล็ดกระบี่ให้กับหัวหน้ามือปราบหนิงก่อน”

“ข้ามีเคล็ดวิชากระบี่อยู่สามเล่มตอนนี้ แม้ว่ามันจะไม่ใช่มรดกของนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับ แต่ก็เป็นเคล็ดกระบี่ชั้นหนึ่ง หัวหน้ามือปราบหนิงสามารถใช้เพื่อทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนได้ หากสามารถเข้าใจได้ดีในระดับหนึ่ง หว่านเอ๋อจะส่งต่อเคล็ดกระบี่สวรรค์ให้แก่เจ้าอีกครั้ง.......เจ้าคิดเห็นอย่างไรบ้างหัวหน้ามือปราบหนิง?”

หลังจากที่หญิงสาวกล่าวจบ นางก็รอคอยคำตอบของคงหนิงอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อคงหนิงได้ยินเช่นนั้นเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

การฝึกฝนวิชากระบี่สวรรค์ต้องยกเลิกการบ่มเพาะดั้งเดิมอย่างนั้นหรือ?

หลังจากที่คงหนิงได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ไม่ได้วางแผนจะฝึกฝนวิชากระบี่สวรรค์ พลังปีศาจเจ็ดสิบปีของเขานั้นได้รับมาอย่างยากลำบาก และเขาก็มีไหดำลึกลับอยู่กับตัว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเคล็ดบ่มเพาะดังกล่าว

สิ่งที่คงหนิงต้องการคือเคล็ดกระบวนท่าที่ใช้ในการต่อสู้และป้องกันศัตรูเท่านั้น

ข้อเสนอของหญิงคนนี้ตรงกับความต้องการของคงหนิง

ดังนั้นคงหนิงจึงยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ไม่มีปัญหา ถ้าเช่นนั้นข้าจะเรียนรู้เคล็ดกระบี่ทั้งสามที่หว่านเอ่อบอกมาก่อน......ไม่ทราบว่าเคล็ดกระบี่ทั้งสามเป็นวิชาใดบ้าง?”

หญิงสาวตอบกลับไปว่า “หัวหน้ามือปราบหนิงโปรดดูเถิด”

เมื่อพูดออกมาเช่นนั้น หญิงสาวก็หยิบแผ่นหยกออกมาสามแผ่น หยกแต่ละชิ้นเปล่งรัศมีออกมาจางๆ

หญิงสาวยื่นแผ่นหยกทั้งสามมาให้คงหนิง แล้วกล่าวว่า “วิชาทั้งสามนี้คือ <เคล็ดกระบี่สายฟ้า> <เคล็ดกระบี่เปลวฟ้า> และ<คัมภีร์กระบี่แสงวิจิตร>”

“มันไม่ใช่มรดกของนิกายกระบี่สวรรค์ลี้ลับของข้า แต่มันก็ปรากฏอยู่ภายในห้องลับ อยู่รวมกับวิชากระบี่สวรรค์ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเคล็ดกระบี่ชั้นยอด”

“หัวหน้ามือปราบหนิงสามารถทดลองพวกมันทีละอันได้ และดูว่าอันไหนที่เจ้าสามารถเรียนรู้ได้” หญิงสาวกล่าวต่อ “การฝึกฝนวิชากระบี่ต้องใช้โชค หากหัวหน้ามือปราบหนิงไม่สามารถเรียนรู้วิชากระบี่ทั้งสามได้ พวกเราก็จะหาทางอื่นอีกที”

คำพูดสุดท้ายของหญิงสาวทำให้คงหนิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง

“ลองดูว่าเรียนรู้วิชาไหนได้บ้าง?” มันสะดวกสบายเพียงนี้เชียว? หรือการเรียนรู้เคล็ดกระบี่ทั้งสามนี้จะยากจริงๆ ไม่ว่าจะเรียนรู้อันไหนก็ต้องใช้โชคของตนเอง?

คงหนิงถือแผ่นหยกทั้งสามไว้ในมือ แล้วกล่าวว่า “ขออนุญาตถามหว่านเอ๋อว่าข้าจะใช้สิ่งนี้อย่างไร?”

หญิงสาวกล่าวตอบ “มีสองวิธีในการใช้แผ่นหยกนี้ วิธีทั่วๆ ไปคือถ่ายเทพลังวิญญาณเข้าไป จะสามารถอ่านเนื้อหาของเคล็ดวิชากระบี่ที่อยู่ภายในได้ทีละนิด และค่อยๆ ทำความเข้าใจไป”

“แต่วิธีนี้ไม่เหมาะกับหัวหน้ามือปราบหนิง มีปีศาจคอยสอดส่องอยู่ภายในบ้านของเจ้า ดังนั้นเจ้าจึงไม่อาจบอกให้นางรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของแผ่นหยกได้”

“ดังนั้นพวกเราจะใช้วิธีที่สอง ดูดซับพลังวิญญาณในแผ่นหยก เอาพลังวิญญาณภายในแผ่นหยกเข้าสู่ร่างกายโดยตรง และเนื้อหาของเคล็ดกระบี่จะสะท้อนอยู่ในใจเจ้าตลอดเวลา สามารถเรียกดูเมื่อไหร่ก็ได้”

“นี่เป็นวิธีการที่รวดเร็ว ดังนั้นจึงต้องมีข้อกำหนดที่เข้มงวด เช่น ความถนัด พรสวรรค์ และความเข้ากันได้กับวิชา หัวหน้ามือปราบหนิงสามารถลองใช้ทีละอันดูว่าเคล็ดกระบี่ประเภทใดในสามอันนี้ที่เหมาะกับท่านบ้าง”

คำแนะนำของหญิงสาวทำให้คงหนิงแปลกใจ “ดูดซับพลังวิญญาณโดยตรง? แล้วหลังจากดูดซับเสร็จ......”

“ถูกต้อง หลังที่พลังวิญญาณหมดลง แผ่นหยกนี้ก็จะไร้ประโยชน์” หญิงสาวยิ้มใจเย็น “แต่ถ้าหัวหน้ามือปราบหนิงสามารถใช้แผ่นหยกทั้งสามชิ้นนี้ได้จริง สำหรับพวกเราในตอนนี้ถือเป็นเรื่องน่ายินดี อย่างน้อยก็พิสูจน์ให้เห็นว่าหัวหน้ามือปราบหนิงมีพรสวรรค์ในการฝึกฝนบ่มเพาะและมีความเข้าใจในวิถีกระบี่”

หญิงสาวผู้นี้ใจดีมาก และแม้แต่แผ่นหยกอันล้ำค่าที่ใช้บรรจุเคล็ดวิชาก็ยังเต็มใจจะมอบให้คงหนิง

แต่ให้ดูดซับพลังวิญญาณภายในออกมาโดยตรงน่ะหรือ.......

ตอนนี้คงหนิงถือแผ่นหยกสามชิ้นไว้ในมือ ใคร่ครวญอยู่ในใจ เขากำลังจะทำตามที่หญิงสาวบอก แต่ตอนนั้นเอง ไหดำลึกลับภายในตันเถียนของเขาก็มีปฏิกิริยาเกิดขึ้น

หัวใจของคงหนิงกระตุกเล็กน้อย

“ขอบังอาจถามหว่านเอ๋อ ว่าเคล็ดกระบี่ชนิดใดในสามอันนี้ที่ทรงพลังที่สุด?” คงหนิงถามด้วยรอยยิ้ม

เด็กสาวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “เคล็ดกระบี่ทั้งสามนี้ล้วนเป็นเคล็ดกระบี่ชั้นยอด พวกมันไม่ได้ต่างกันมากนัก แต่ถ้าอันที่ทรงพลังที่สุด......ควรจะเป็น”<คัมภีร์กระบี่แสงวิจิตร> หัวหน้ามือปราบหนิงสามารถเริ่มต้นจาก<คัมภีร์กระบี่แสงวิจิตร> ได้ เพราะ<คัมภีร์กระบี่แสงวิจิตร> นั้นเริ่มฝึกได้ยากที่สุดเช่นกัน”

หลังจากที่หญิงสาวพูดจบ คงหนิงก็พยักหน้า

หลังจากถือแผ่นหยกของ <คัมภีร์กระบี่แสงวิจิตร> ไว้ในมือเดียว คงหนิงก็สัมผัสได้ถึงไหดำลึกลับในตันเถียนของเขา เมื่อพลังปีศาจในทะเลปราณโคจร ไหดำลึกลับก็เปิดออกอีกครั้ง

แผ่นหยกในมือของคงหนิงส่องสว่างออกมาเป็นสีฟ้าจางๆ ไอพลังอ่อนโยนไหลออกมาจากตัวหยก ผ่านเส้นลมปราณของคงหนิง ในที่สุดก็ไหลเข้าไปในไหดำลึกลับซึ่งอยู่ภายในตันเถียนของคงหนิง

หญิงสาวที่อยู่ด้านข้าง เมื่อได้เห็นฉากนี้ก็เบิกตาโพลง แสดงอาการไม่อยากเชื่อ

นี่......เร็วอะไรเช่นนี้?

จากความเข้าใจของนาง แม้ว่าความถนัด พรสวรรค์ และความเข้ากันได้ของคงหนิงจะเป็นไปตามข้อกำหนดของแผ่นหยก ก็ยังต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งเค่อ[1]ในการสื่อสารและกระตุ้นแผ่นหยกอย่างช้าๆ เพื่อดูดซับพลังวิญญาณจากภายใน แต่ทันทีที่คงหนิงหยิบแผ่นหยกขึ้นมา เขาก็ดูดซับมันได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องกระตุ้นแผ่นหยกด้วยซ้ำ

---เป็นไปได้ไหมว่าหัวหน้ามือปราบหนิงที่อยู่ตรงหน้านี้ เป็นอัจฉริยะวิถีกระบี่ที่ในร้อยล้านคนจะมีสักคน?

ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถอธิบายฉากตรงหน้าที่อยู่เหนือสามัญสำนึกนี้ได้!

----------------------

[1] เค่อ หน่วยนับเวลาของจีนสมัยโบราณ 1 เค่อ = 15 นาที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด