ตอนที่แล้วEp.6 - อาวุธก็อบลิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.8 - อัพเลเวล

Ep.7 - มอนสเตอร์ชั้นยอด


Ep.7 - มอนสเตอร์ชั้นยอด

ก็อบลินสามตัวสุดท้ายไม่เหมือนตัวอื่นๆ

ตัวแรกมีเครา ผิวหนังเหี่ยวย่น ดูคล้ายคนแก่ ในมือถือไม้เท้ายาวกว่าหนึ่งเมตร

ก็อบลินตัวต่อมามีรอยสักเต็มตัว สวมเสื้อคลุมหนังสัตว์และเครื่องประดับที่สร้างจากกระดูกต่างๆ เหมือนพวกมีหน้าที่ประกอบพิธีต่างๆประจำเผ่า

แต่ทั้งสองตัวนี้ยังไม่เท่าไหร่ พวกมันเป็นแค่ลูกน้องเท่านั้น ก็อบลินตรงกลางที่ทั้งคู่ขนาบข้างต่างหากที่ควรให้ความสนใจ

มันคือก็อบลินกล้ามโตที่ดูแข็งแรง มีส่วนสูงเกือบเท่าจางเสี่ยวเฉียง อาจเรียกได้เลยว่าเป็นอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์แห่งเผ่าก็อบลิน

ณ เวลานี้ ก็อบลินอาร์โนลด์กำลังพาดกระบองเขี้ยวหมาป่าที่ชวนให้ผู้พบเห็นรู้สึกหวาดกลัวไว้บนไหล่ โดยมีลูกกระจ๊อกประกบซ้ายขวา มันทำตัวเหมือนเพิ่งกลับจากงานเพาะกาย และคว้าแชมป์มาได้ ดูเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ แค่วิธีการเดินก็น่าหมั่นไส้แล้ว!

ฮังอวี่ลดเสียงลงแล้วพูดว่า “ทางด้านซ้ายคือก็อบลินนักเวทย์ระดับสามัญ ส่วนทางขวาคือก็อบลินนักบวชระดับสามัญ สองตัวนี้เป็นมอนสเตอร์ระดับสามัญเลเวล 1 แม้จะพิเศษกว่าตัวอื่นแต่ก็ยังธรรมดา ที่ยากสุดคือก็อบลินนักรบที่อยู่ตรงกลาง มันคือมอนสเตอร์ชั้นยอดเลเวล 1”

เจียงหนานโพล่งถามทันทีว่า “แล้วมอนสเตอร์ชั้นยอดนี่ทรงพลังมากไหม?”

“สิ่งมีชีวิตในโลกวิญญาณจะมีตั้งแต่ระดับต่ำจนถึงระดับสูง ได้แก่ ระดับสามัญ , ระดับชั้นยอด , ระดับเจ้าถิ่น , ระดับทรราชย์ , ระดับราชันย์ , ระดับมหากาพย์ , ระดับตำนาน , ระดับเทพ”

“สิ่งมีชีวิตยิ่งมีระดับสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีพลังรบมากขึ้นเท่านั้น สติปัญญาก็เช่นกัน ... ถึงแม้มอนสเตอร์ชั้นยอดจะมีระดับสูงกว่ามอนสเตอร์สามัญแค่ขั้นเดียว แต่พลังรบไม่ใช่สิ่งที่มอนสเตอร์สามัญจะเทียบได้”

“ก็อบลินนักรบตัวนี้เป็นมอนสเตอร์ขั้นบรอนซ์เลเวล 1 พลังรบไม่ด้อยไปกว่ามอนสเตอร์เลเวล 3-4 ในระดับสามัญ ค่าพลังชีวิตของมันสูงมาก ค่าสเตตัสก็สูงกว่าปกติเช่นกัน แถมยังมีสกิลสำหรับต่อสู้อีก เป็นไง ฟังดูร้ายกาจมากเลยใช่ไหม?”

และระดับของมอนสเตอร์ยังมีผลต่อสติปัญญาด้วย หากก็อบลินระดับสามัญมีสติปัญญาเท่ากับคนปัญญาอ่อนขั้นรุนแรงแล้วล่ะก็ ก็อบลินนักรบจะมีสติปัญญาเทียบเท่ากับเด็กอายุ 8-9 ขวบ

แน่นอน ระดับของก็อบลินตัวนี้ยังไม่สูงอะไร มันเป็นแค่ขั้นบรอนซ์ชั้นยอดเท่านั้น ยังไม่ปลุกความสามารถในการตระหนักรู้ของตัวเอง หรือก็คือไม่สามารถเรียนรู้ภาษาและเขียนอักษรได้ แทบไม่ต่างไปจากกอริลลาที่ฉลาดกว่าตัวอื่นๆ

จ้าวหมิง เจียงหนาน และจางเสี่ยวเฉียงต่างตกตะลึง พวกเขาล่าก็อบลินธรรมดามาหลายสิบตัว กว่าจะสร้างความเชื่อมั่นได้ก็ยากเย็นแสนเข็ญ ตอนนี้พอได้เผชิญกับก็อบลินนักรบ ความฮึกเหิมที่มีก็กระจัดกระจายหายไปอีกครั้ง

จางเสี่ยวเฉียงรีบพูดว่า “พวกเราไม่มีทางโค่นก็อบลินที่ทรงพลังขนาดนี้ได้หรอก! ครั้งนี้พวกเรากอบโกยได้มากพอแล้ว ไอ้หีบสมบัตินั่นช่างมันเถอะ ... เอาไว้รอจนพวกเราแข็งแกร่งกว่านี้ แล้วค่อยกลับมาก็ยังไม่สาย!”

แม้ในใจเจียงหนานน้อยจะดูถูกเจ้าคนขี้ขลาดผู้นี้มากก็ตาม แต่คราวนี้เธอเห็นด้วยกับเขา พยายามเกลี้ยกล่อมเสียงนุ่มว่า “ก็อบลินนักรบดูร้ายกาจจริงๆ  ฉันคิดว่าด้วยเลเวลและอาวุธของพวกเราในตอนนี้ ไม่มีทางที่จะกำจัดมอนสเตอร์ทรงพลังแบบมันได้”

ก็อบลินนักรบก็น่ากลัวมากพอแล้ว ไหนจะก็อบลินอีกสองตัวที่ดูไม่ธรรมดานั่นอีก

แม้พวกมันยังไม่ถึงขั้นระดับชั้นยอด แต่อย่างน้อยก็แข็งแกร่งกว่าก็อบลินลาดตระเวนและก็อบลินหน่วยเสบียงข้างนอก แล้วแบบนี้จะสู้ได้ยังไง?

จ้าวหมิงเมินข้อเสนอของทั้งสองที่ให้ถอยกลับ เขาหันมาถามฮังอวี่ตรงๆ

“นายมีความคิดว่าไง?”

“สู้ได้!” ฮังอวี่กล่าวอย่างไม่ลังเล “และเพราะมันเสี่ยงมากนี่แหละ พวกเราถึงต้องลองพยายามดู”

จางเสี่ยวเฉียงพอได้ฟังก็อยากจะแทรกว่า ก็เพราะมันเสี่ยงมากไม่ใช่รึไง พวกเราถึงไม่ควรลงมือ เลือกเก็บกางเกงสุดรักไว้ไม่ดีกว่าหรอ?

จ้าวหมิงครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามว่า “แล้วมันคุ้มค่าที่จะเสี่ยงไหม?”

ฮังอวี่พยักหน้า “ก็ถ้ามันไม่คุ้ม ผมคงไม่มาอยู่ที่นี่”

จ้าวหมิงพยักหน้า “งั้นนายคิดว่าพวกเราควรสู้ยังไง?”

ฮังอวี่รีบพูดทันที “ทั้งสองคนเห็นเหล่าจ้าวไหม? ถึงเขาจะอายุมากที่สุด แต่ความกล้าไม่ได้ลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้นเลย”

“เอาล่ะ ฉันจะอธิบายให้ฟัง ก็อบลินนักรบมีพลังชีวิตสูงมาก พลังป้องกันทางกายภาพก็แข็งแกร่ง ด้วยความสามารถในการโจมตีระยะประชิดของพวกเราในตอนนี้ ยากที่จะสร้างความเสียหายกับมัน แต่ก็อบลินนักรบมีพลังป้องกันเวทย์ต่ำ ลูกไฟของเสี่ยวเฉียงค่อนข้างมีผล ดังนั้นภารกิจก็คือ ฉันกับลุงจ้าวจะเข้าไปก่อกวนก็อบลินนักรบ ไม่ปล่อยให้มันมีโอกาสโจมตีเสี่ยวเฉียง”

“ลุงจ้าวเข้าไปดึงดูดความสนใจก่อน ต่อให้เห็นก็อบลินนักเวทย์ร่ายคาถาโจมตีก็อย่าพึ่งตื่นตระหนก เพราะถึงยังไงก็อบลินนักเวทย์ก็เป็นแค่มอนสเตอร์ระดับสามัญ การโจมตีด้วยเวทมนต์ใช้ได้ครั้งเดียวในระยะเวลาหนึ่งนาที หลังจากถูกโจมตีด้วยเวทมนต์แล้ว ขอให้คุณถอยกลับทันที แล้วแทะผลเบอร์รี่เพื่อฟื้นฟูพลังชีวิต”

“ส่วนเสี่ยวเฉียง นายไม่ต้องสนใจก็อบลินนักรบกับก็อบลินนักเวทย์ เป้าหมายแรกของลูกไฟนายคือก็อบลินนักบวช ฆ่ามันให้ตายโดยเร็วที่สุด เพราะก็อบลินนักบวช มีคาถาเพิ่มความเร็วและฟื้นฟูพลังชีวิต ถ้ามันกับก็อบลินนักรบคอมโบกัน พวกเราคงได้แต่ยอมรับชะตากรรมที่ต้องสูญเสียกางเกงไป”

ไม่เอาน่า นี่เขาจะสู้จริงๆงั้นหรอ? อ๊าาาา!

เจียงหนานพูดแทรกขึ้นมา น้ำเสียงของเธอสั่นเล็กน้อย “แล้วหน้าที่ของฉันล่ะ?”

ฮังอวี่ตอบว่า “หลังจากเสี่ยวเฉียงฆ่านักบวช ฉันจะไปหลอกล่อก็อบลินนักรบ ช่วงนั้นคงไม่ได้สนใจอย่างอื่นแล้ว หน้าที่ของเธอคือต้องรับประกันไม่ให้ก็อบลินนักเวทย์ร่ายคาถาอีกเด็ดขาด ใช้หน้าไม้ฆ่ามันก่อนให้จงได้”

จางเสี่ยวเฉียงรู้สึกหมดความมั่นใจ “แบบนี้มันยากเกินไปไหม? จะเป็นไปได้จริงๆน่ะหรอ!”

“นายมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องทำดาเมจเท่านั้น ในทางเทคนิคแล้วเป็นงานง่ายสุด อย่าบ่นนักเลย!” ฮังอวี่ถลึงมองเจ้าขี้ขลาดนี่

“นายยังอยากจะม้วนหางกลับไปเป็นคนขี้แพ้เหมือนเดิม หรือต้องการก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของชีวิตล่ะ? ไม่อยากร่ำรวย มีสาวสวยอยู่ข้างกายหรอ? ไม่สนใจมีบ้านหรูหรือเรือสำราญไว้ซักลำรึไง? --ถ้าอยากพลิกชีวิต ตรงหน้านายนี่แหละคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง ฟังแบบนี้แล้วยังอยากจะยอมแพ้อีกไหม?”

จางเสี่ยวเฉียงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฮังอวี่ตบเพี๊ยะลงบนหน้าผากเขา “หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว พวกเรามาไกลถึงขนาดนี้ ถ้านายไม่ทำก็ไปซะ!”

จางเสี่ยวเฉียงหดคอและไม่กล้าพูดอะไรอีก

ถูกต้อง! ชีวิตก็เหมือนการเดิมพัน แม้มันจะความเสี่ยง แต่บางครั้งก็ต้องมีความกล้าที่จะมุ่งไปข้างหน้า!

สถานการณ์เลวร้ายสุดก็แค่เสียกางเกงและเดินตัวเปลือยในป่าใหญ่ สำหรับคนอย่างจางเสี่ยวเฉียงแล้วเทียบกับสิ่งที่อาจได้มา นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย

“เอาล่ะๆ หยุดพล่ามได้แล้ว มาเริ่มกันซักทีเถอะ!”

เขายื่นผลเบอร์รี่ฟ้าที่ช่วยเพิ่มค่าพลังจิตสองลูกให้จางเสี่ยวเฉียง แล้วหยิบผลเบอร์รี่แดงอีกสองลูกที่ช่วยเพิ่มค่าพลังชีวิตให้จ้าวหมิง

จ้าวหมิงพยักหน้าให้ฮังอวี่ จากนั้นก้มตัวย่องไปข้างหน้าเหมือนแมวเวลาคลานเข้าหาเหยื่อ

หลังจากเข้าใกล้ก็อบลินทั้งสามตัว เขาก็เปิดใช้งานเกราะเหล็กศักดิ์สิทธิ์ทันที

เมื่อเปิดใช้งานเกราะเหล็กศักดิ์สิทธิ์ ก็อบลินทั้งสามพลันตอบสนองพร้อมกัน ทุกตัวหันขวับมาทางเขา

ก็อบลินนักเวทย์เปล่งเสียงเป็นพยางค์แปลกๆในปากมัน แล้วจู่ๆก็ยกไม้เท้าในมือขึ้น ชี้ไปทางจ้าวหมิงที่อยู่ระยะไกล เกิดแสงจรัสพุ่งเป็นเส้นตรง ปะทะโล่ป้องกันของเขา

ได้ยินเพียงเสียงเพล้ง!ดังก้อง ภายใต้แรงระเบิด โล่ป้องกันของจ้าวหมิงแหลกสลายลงทันที

เขาเกิดความรู้สึกร้อนผ่าวที่หน้าอก หลังจากกระสุนแสงทะลุโล่ป้องกันมาได้ มันยังไม่หายไปทันที ตรงเข้ากระแทกหน้าอกเขาอย่างจัง

จ้าวหมิงล้มกลิ้งไถลไปข้างหลังไกลกว่าสามเมตร ค่าพลังชีวิตลดลงจาก 10 หน่วยเหลือ 5 หน่วยในคราเดียว

ให้ตายเถอะ! ฮังอวี่ไม่ได้บอกเขาซักหน่อยว่าจะต้องเจอสถานการณ์แบบนี้!

ก็อบลินนักรบและก็อบลินนักบวชวิ่งเข้ามา จ้าวหมิงบังคับตัวเองให้ฝืนทนต่อความเจ็บปวดอย่างรุนแรงจากบาดแผลที่ได้รับ กลิ้งถอยออกมา หนีเอาชีวิตรอดอย่างน่าอนาถ

จางเสี่ยวเฉียงเฝ้ารอจนพวกก็อบลินเข้าสู่ระยะโจมตี และเหมือนจะเห็นว่าก็อบลินนักบวชกำลังเตรียมร่ายคาถา เขาก็ตระหนักได้ทันทีว่าหากไม่ลงมือตอนนี้ ทุกอย่างคงจบสิ้น

ก็อบลินนักรบเดิมก็เคลื่อนไหวได้ว่องไวกว่าก็อบลินหน่วยเสบียงระดับสามัญอยู่แล้ว หากมันได้รับเวทย์เพิ่มความเร็วจากก็อบลินนักบวชอีกล่ะก็ น่ากลัวว่าคงไม่มีใครเป็นคู่มือของเจ้าหมอนี่ได้

โชคดีที่ลูกไฟของจางเสี่ยวเฉียงสามารถยิงออกได้ในทันที อำนาจทำลายล้างของมันระเบิดออกไป แผดเผาเสื้อคลุมของก็อบลินนักบวช

เปลวเพลิงอันน่าสยดสยองเปลี่ยนก็อบลินนักบวชให้กลายเป็นลูกไฟอมนุษย์!

บอลไฟของจางเสี่ยวเฉียงสามารถสร้างความเสียหายได้มหาศาลในพริบตาเดียว ซึ่งนั่นมากพอที่จะสังหารมอนสเตอร์เลเวล 1 ระดับสามัญได้ในไม่กี่วินาที

อีกทั้งด้วยค่าพลังชีวิตของก็อบลินนักบวชที่ไม่ได้สูงนัก ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าชีวิตมันคงจบสิ้นแล้ว!

“ลุงจ้าวรีบแทะผลเบอร์รี่ทั้งสองลูกเร็ว!” จางเสี่ยวเฉียงคอยสนับสนุนระยะไกล เจียงหนานก็เริ่มโจมตีก็อบลินนักเวทย์ทันที

“ลุย!” ฮังอวี่พุ่งเข้าใส่ก็อบลินนักรบ เขาจดจ่ออยู่กับการเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของมัน การเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ชั้นยอด มันให้ความรู้สึกราวกับกำลังเหยียบบนพื้นน้ำแข็งบางๆ ต้องระมัดระวังตลอดเวลา

และเนื่องจากทั้งสี่ยังเป็นผู้เล่นใหม่ในเลเวล 1 ดังนั้นหากถูกก็อบลินนักรบโจมตีเข้าทีเดียว โดยพื้นฐานแล้วคงได้ดับดิ้นทันที ดังนั้นไม่อาจละสมาธิได้

ภายใต้คำสั่งของฮังอวี่ ก็อบลินนักบวชถูกฆ่าตายก่อนที่มันจะทันได้ร่ายเวทย์เพิ่มความเร็ว นี่ช่วยลดทอนภัยคุกคามของก็อบลินนักรบลงครึ่งหนึ่ง

ก็อบลินนักรบโดยรวมแล้วเป็นมอนสเตอร์ชั้นยอดที่มีพลังโจมตีและป้องกันสูง แต่ความว่องไวต่ำ ดังนั้นขอแค่ไม่ประมาท ก็น่าจะสามารถพัวพันกับมันได้