ตอนที่ 83 ภารกิจใหญ่
คนเป็นถูกเทียบกับคนตาย สิ่งต่างๆล้วนมีข้อดีข้อเสียไม่เหมือนกัน
นี่คือความจริงของโลก
หลังจากการแสดงที่เหมือนทิ้งระเบิดของเย่เทียน ไม่ว่าผู้เข้าแข่งขันคนหลังจะร้องดีแค่ไหนกรรมการก็ไม่ได้ชม
อันที่จริงไม่ใช่แค่กรรมการเท่านั้น แม้แต่ผู้เข้าแข่งขันบางคนก็ยังยอมแพ้เพราะพวกเขารู้ดีว่าต่อให้พยายามแค่ไหนพวกเขาก็ไม่ใช่คู่แข่งของเย่เทียน
การคัดเลือกสิ้นสุดในครึ่งชั่วโมง กรรมการแลกวีแชทกับผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับการเลือกทั้งหมด เมื่อพวกเขามาถึงเย่เทียนการแสดงออกของพวกเขาก็ต่างไปโดยสิ้นเชิง พวกเขาให้เกียรติและถ่อมตนิ ย่างมาก “คุณเย่ ฉันขอวีแชทของคุณหน่อยได้ไหม จะได้สะดวกในการติดต่อกัน”
“ได้สิ”
เย่เทียนส่งวีแชทให้กรรมการ “แต่การแข่งรอบหน้าฉันคงไม่ได้เข้าร่วมแล้ว”
“เอ๋!?”
กรรมการตกใจ “ทำไมล่ะ?”
“ถ้าฉันเข้าร่วมการแข่งคนอื่นก็คงไม่ได้แข่ง ดังนั้นฉันขอปล่อยโอกาสให้พวกเขาดีกว่า”
ถ้าคำพูดพวกนี้มาจากคนอื่นเขาคนนั้นคงจะโดนด่าว่าบ้าแน่นอน แต่นี่เป็นคำพูดจากเย่เทียนซึ่งผู้เข้าแข่งขันทุกคนไม่ได้คิดว่าเขาบ้าแต่รู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดสมเหตุสมผลดี พวกเขาทั้งหมดมองเย่เทียนด้วยความชื่นชมแม้กระทั่งมือกีต้าร์ยังอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า
“ด้วยระดับของคุณ การให้มาเป็นที่ปรึกษาในรายการของเราคงเป็นปัญหาจริงๆนั่นแหละ คุณมีความสามารถเกินกว่าที่จะเข้าร่วมได้จริงๆ ถ้าคุณไปแข่งผู้เข้าแข่งขันคนอื่นคงไม่ได้แข่ง” กรรมการเข้าใจผิดว่าเย่เทียนเรื่องที่เย่เทียนพูดและพวกเขาหันไปคุยกันด้วยท่าทางจริงจัง “ถ้าอย่างนั้นขอพวกเรากลับไปคุยกับหัวหน้าก่อนแล้วดูว่าเราจะเพิ่มตำแหน่งที่ปรึกษาได้หรือเปล่า”
เย่เทียนกลอกตา ในใจพวกคุณกำลังมีความสุขอยู่สินะ
กลุ่มคนก็แยกย้ายไป
เย่เทียนมาที่ลานจอดรถตรงทางเข้าและเตรียมกลับบ้าน มือกีตาร์เดินมาตบที่ไหล่ของเย่เทียน “ท่านเทพจะไปไหน ให้ผมไปส่งคุณดีกว่า”
“ขอบคุณ แต่ฉันขับรถมาด้วย”
เย่เทียน “ทักษะการร้องเพลงของนายดีแล้ว ถ้าฉันไม่เข้าร่วมนายก็มีโอกาสได้แชมป์”
เขาไม่ได้รู้สึกแย่กับมือกีตาร์คนนี้
คนที่มีความสามารถมักจะอารมณ์ดี
ตามข่าวลือของคนทั่วไป ยิ่งคนที่มีความสามารถมากก็ยิ่งเหมือนรวงข้าวที่เต็มไปด้วยผล แต่นั่นเป็นเรื่องเหลวไหลล้วนๆ
เขาไม่ได้โกรธคุณเพราะคุณไม่ได้ทำให้เขาอารมณ์เสียจนถึงมาตรฐานของเขาต่างหาก...
“เอ็อ! ฉันจะเอาแชมป์แบบนี้ไปเพื่ออะไรล่ะ” มือกีตาร์ถอนหายใจ “วันนี้ฉันเข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูดกันแล้ว เหนือฟ้ายังมีฟ้า”
เย่เทียนยิ้มให้กับการถอนหายใจของอีกฝ่าย
“ใช่ ฉันไม่ได้กลับมาที่ไห่จิงมาหลายปีแล้วมันพัฒนาไปเยอะมากเลย มีแม้กระทั่งรถสปอร์ตที่มีราคาหลายล้านหยวน ไม่รู้ว่าจอมเผด็จการคนไหนเป็นเจ้าของมัน”
มือกีตาร์ระงับอารมณ์และเปลี่ยนเป็นพูดติดตลก
เย่เทียนยิ้มโดยไม่พูดอะไร เขาหยิบกุญแจรถออกมาแล้วกดมัน
ติ๊ด!
ประตูที่เหมือนปีกนางฟ้าเปิดออกช้าๆ
ชายหญิงที่ถ่ายรูปรถรีบวิ่งออกไป
มือกีตาร์ค่อยๆอ้าปากค้าง “เวร...”
ค่ำคืนได้ผ่านไป
เช้าวันรุ่งขึ้น พ่อแม่ของเย่เทียนออกไปเดินเล่นส่วนเย่เทียนกำลังนอนอืดอยู่บนโซฟาเพื่อรอลงชื่อเข้าใช้
แต่ก่อนจะลงชื่อโทรศัพท์ก็ดังขึ้นก่อน เป็นสายจากกรรมการตัดสินชื่อเฉินเฉินเมื่อวานนี้
“ข่าวดีค่ะคุณเย่!” เฉินเฉินพูดด้วยความตื่นเต้น “ฉันคุยกับหัวหน้าแล้ว หลังเขาดูวิดีของคุณเขาก็ตัดสินใจให้คุณเป็นที่ปรึกษาลับ!”
ให้เป็นที่ปรึกษา?
แน่นอนว่าเย่เทียนปฏิเสธ แต่ก่อนที่เขาจะปฏิเสธระบบก็ลงชื่อเข้าใช้ได้พอดี
[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ ได้รับบัตรประสบการณ์ชีวิตมหาเทพขั้นสูงx1]
[เวลาในการลงชื่อเข้าใช้อีกครั้งคือ ? ชั่วโมง ? นาที ? วินาที]
เฮ้ย!
ทำไมเวลาลงชื่อเข้าใช้หายไป?
เย่เทียนครุ่นคิด บัตรประสบการณ์ชีวิตมหาเทพขั้นสูง?
นี่คือสิ่งแรกที่ได้รับหลังจากอัพเกรดระบบ
ใช้เลย!
[ใช้บัตรประสบการณ์ชีวิตมหาเทพขั้นสูงสำเร็จ ภารกิจขั้นสูงเปิดใช้งาน]
[เนื้อหา: เป็นที่ปรึกษาลึกลับและมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการถ่ายรายการทั้งหมด หลังจากการถ่ายเสร็จสิ้นจะได้รับรางวัลตามประสิทธิภาพของโฮสต์ในรายการ ก่อนที่ภารกิจนี้เสร็จสิ้นระบบลงชื่อเข้าใช้จะอยู่ในสถานะคูลดาวน์]
[โฮสต์สามารถยกเลิกภารกิจได้ตลอดเวลาและจะไม่มีผลกระทบใดๆ]
หลังอ่านเนื้อหาแล้วเย่เทียนก็พยักหน้า
ไม่ใช่ว่าระบบลงชื่อเข้าใช้เสีย แต่ระบบถูกปิดผนึกไว้ในขณะที่ทำภารกิจอยู่
“คุณเย่ อยู่ไหมค่ะ?” เฉินเฉินถาม
“ตกลง ฉันจะเข้าร่วม” เย่เทียนตอบ
หลังจากวางสายเย่เทียนก็บอกข่าวนี้กับพ่อแม่ของเขา แน่นอนว่าเขาบอกจะเดินทางไปทำธุรกิจสักสองสามเดือนซึ่งพ่อแม่ไม่ได้แปลกใจกับเรื่องนี้นักเพราะเขามักจะออกเดินทางอยู่บ่อยๆ
อันที่จริงพ่อแม่ของเขาไม่เต็มใจที่จะให้เย่เทียนอยู่บ้านทุกวัน คนหนุ่มสาวควรทำงานหนักเพื่อดิ้นรนหาเงิน การอยู่บ้านทั้งวันช่างเป็นเรื่องน่าละอายจริงๆ
หลังคุยกับพ่อแม่เสร็จเย่เทียนก็ไปหาจื่อฉี เจียงเซิ่งเฟิงและฉินเยี่ยนโดยไปบอกว่าเขาจะเข้าร่วมในรายการใครคือนักร้อง ทุกคนไม่มีข้อโต้แย้งอะไรจะมีแค่ฉินเยี่ยนที่แสดงอาการตกใจเท่านั้น “พี่เย่ร้องเพลงได้ด้วยเหรอ?”
“ฉันไม่ได้ไปร้องเพลงแต่จะไปเป็นที่ปรึกษา” เย่เทียนหัวเราะ
จื่อฉีพูดด้วยความประหลาดใจ “ที่ปรึกษา? พูดจริงเหรอเนี่ย?! ใครคือนักร้องเป็นรายการอุ่นเครื่องของโรงงานทั้งสี่ในสงครามร้อยกองทหาร เพลงต้นฉบับจะถูกส่งไปให้สงครามร้อยกองทหาร คนที่จะเป็นที่ปรึกษาของรายการได้จะต้องเป็นเทพระดับทีมชาติเท่านั้น! คุณ...คุณไปเป็นที่ปรึกษาได้ยังไง?”
จื่อฉีเป็นนักร้องที่เก่งกาจจึงเป็นคนรับผิดชอบด้านเสียงของทีม เธอจึงให้ผู้จัดการไปติดต่อกับเสยเกอแต่ก็ถูกปัดตกตั้งแต่รอบแรก ตอนนั้นเธออามรมณ์เสียมากจึงไปตรวจสอบข้อมูลวงใน หลังจากนั้นเธอจึงได้รู้ว่ามีคนหนึ่งเป็นครูของนักร้องทีมชาติที่มีอายุมากกว่า 50 ปี และมีสองคนที่เป็นครูสอนเธอ เธอจึงรู้ได้ทันทีว่ารายการนี้ไม่ธรรมดา ไม่เกี่ยวกับเรื่องความนิยมของไอดอลแต่เป็นความสามารที่แท้จริง!
เย่เทียนยิ้ม “ใครจะไปรู้ บางทีอาจเป็นเพราะฉันหล่อก็ได้”
เรื่องในไห่จิงจัดการเรียบร้อยหมดแล้ว
เย่เทียนที่อยู่เครื่องบินคนเดียวกำลังมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วถอนหายใจ
หนทางยังอีกยาวไกลจากเงิน 100,000 ล้าน หวังว่าหลังถ่ายจากรายการนี้จบจะได้เงินมากพออัพเกรดระบบนะ
...
สนามบินนานาชาติเซี่ยงไฮ้
หากคุณอยากรู้ว่าเมืองนั้นพัฒนาไปมากหรือไม่ คุณสามารถดูได้จากสถานที่ที่เห็นได้ชัดสองแห่ง
อย่างแรกคือขนาดของสนามบิน อย่างที่สองคือค่าแท็กซี่เริ่มต้น
สมแล้วที่เซี่ยงไฮ้เป็นรองแค่เซิ่งจิง แค่ก้าวออกจากสนามบินเท้าเดียวก็สัมผัสได้ถึงความเร่งรีบและคึกคักของเมือง
“อาจารย์เย่! อาจารย์เย่!”
เย่เทียนได้แต่ถอนหายใจ เมื่อเขาได้ยินเสียงเรียก เขาจึงหันศีรษไปมองและเห็นสาวสวยถือป้ายพร้อมตะโกนเรียกอยู่ “อาจารย์เย่เทียน!”
“สวัสดี”
เย่เทียนเดินไป
“ในที่สุดฉันก็เจอคุณแล้ว พวกเราไปกันเถอะ” หญิงสาวเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและเข้าไปคว้าแขนเย่เทียนทันที ด้วยความกระตือรือร้นนี้จึงยากสำหรับเย่เทียนที่จะเอาแขนออกมา