ตอนที่แล้วข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 23 ซูหยานกล่าวเตือน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 25 คัมภีร์กระบี่แสงวิจิตร

ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 24 หมอกควันสีเลือด


กำลังโหลดไฟล์

ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 24 หมอกควันสีเลือด

หลังจากที่ซูหยานจากไป คงหนิงก็เดินกลับเข้าไปในห้อง เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเข้านอน

แต่ก็นอนไม่หลับ

คงหนิงนอนอยู่ภายในผ้าห่ม ดึงพลังปีศาจในร่างออกมา ฝึกฝนด้วยวิชายุทธของตระกูล แม้ว่าการเติบโตของพลังปีศาจจะเพิ่มขึ้นน้อยมากแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย เขาไม่กล้าผ่อนปรนต่อตนเอง

โดยเฉพาะในตอนที่รับรู้ความอันตรายของโลกนี้มาแล้ว เขาก็ไม่สามารถฝึกฝนอย่างสบายๆ ได้อีก

ในโลกที่เลวร้ายนี้ ไม่มีผู้วิเศษซึ่งคอยปราบปีศาจให้พึ่งพา คนเดียวที่คงหนิงสามารถพึ่งพิงได้คือตัวเขาเองเท่านั้น

จนกระทั่งถึงช่วงครึ่งหลังของค่ำคืน คงหนิงซึ่งอ่อนล้าเนื่องมาจากการฝึกฝน ถอนหายใจอออกมา หยุดโคจรพลังปีศาจแล้วเริ่มหลับตาลงพักผ่อน

เขาไม่ได้นอนนานมากเท่าไหร่นัก เมื่อถึงรุ่งสางเขาก็รู้สึกได้ถึงปีศาจสาวที่เพิ่งกลับมา

อีกฝ่ายค่อยๆ เปิดประตู เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเคลื่อนกายเข้ามาในผ้าห่ม

คงหนิงคุ้นชินกับสิ่งนี้แล้ว เขาจึงพลิกตัวแล้วนอนต่อ

ในจมูกได้กลิ่นเลือดจางๆ และปีศาจสาวก็นอนอยู่ในผ้าห่ม ไม่ได้เข้ามากอดเขา

ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะได้รับบาดเจ็บอีกครั้งในคืนนี้

ยิ่งใกล้วันสารทจีนมากเท่าไหร่ ปีศาจสาวก็ยิ่งบาดเจ็บมากขึ้นเท่านั้น แต่นางกลับอารมณ์ดีขึ้น ดูเหมือนว่าจะมีความคืบหน้าบางอย่างเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างปีศาจภายในเมือง?

คงหนิงที่นอนอยู่บนเตียงก็นอนต่อไปโดยไม่ได้ถามอะไรสักคำ

หลังจากตื่นนอนในตอนเช้า เขาก็รับประทานอาหารร่วมกับซูหยานแล้วขี่ม้าสีเหลืองพุทราตัวผอมเดินทางไปรายงานตัวที่ศาลาว่าการ

ตอนนี้ผู้รับผิดชอบหน่วยกิจการสายตรงได้เปลี่ยนมือมาเป็นคงหนิงแล้ว แม้ว่าทุกคนจะยังคงพูดคุยหัวเราะร่า แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาก็เคารพคงหนิงมาก ท้ายที่สุดคงหนิงก็ต้องได้เป็นหัวหน้ามือปราบอย่างแน่นอน เพียงแค่รอข่าวคราวจากจางหรง

และระหว่างวันในศาลาว่าการเป็นช่วงที่ผ่อนคลายที่สุดของวันสำหรับคงหนิง

ไม่มีปีศาจมาคอยยืนมองอยู่ข้างๆ สามารถพูดคุยและเล่นไพ่กับเพื่อนร่วมงานได้ตามใจ ช่างดีต่อสุขภาพกายสุขภาพใจอย่างยิ่ง

และหลังจากช่วงรายงานตัวเสร็จสิ้น แทนที่จะเล่นไพ่กับเพื่อนร่วมงานต่อ เขาก็หาข้ออ้างออกจากศาลาว่าการไปด้านนอก

ในเรื่องนี้เพื่อนร่วมงานภายในศาลาว่าการต่างไม่แปลกใจ ท้ายที่สุดคงหนิงก็เดินลาดตระเวนอยู่ข้างนอกเกือบทุกวัน

นี่คือเรื่องราวที่คงหนิงเตรียมพร้อมเอาไว้ล่วงหน้า เขาสงสัยว่าอาจจะมีปีศาจซ่อนตัวอยู่ในศาลาว่าการเพื่อตรวจจับตำแหน่งคร่าวๆ ของเขาเอาไว้ ดังนั้น ในทุกๆ วัน แม้คงหนิงจะไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ก็ยังคงขี่ม้าสีเหลืองพุทราไปรอบๆ เมืองอยู่ตลอด

เพราะฉะนั้นถ้าหากคงหนิงมีเหตุให้ออกจากศาลาว่าการจริงๆ ก็จะไม่ดึงดูดความสนใจจากผู้คน

และวันนี้ แม้ว่าคงหนิงจะเดินทางไปหาหว่านเอ๋อ แต่เขาก็ไม่ได้เดินทางไปทางทิศใต้ของเมืองโดยตรง ตอนแรกเขาควบม้าไปที่ริมฝั่งแม่น้ำว่างเจียง เดินลัดเลาะไปตามริมฝั่งแม่น้ำด้วยความเกียจคร้าน และในที่สุดก็พบที่สงบๆ ให้ได้นั่งพัก

จิตใจของเขาจมดิ่งลงสู่จุดตันเถียน

ด้านในทะเลปราณ ภายในตันเถียนของคงหนิง ไหสีดำลึกลับลอยคว้างอยู่เงียบๆ หมอกสีขาวสะสมจนเต็มที่แล้ว และคงหนิงสามารถใช้พลังในการค้นหาของไหสีดำได้อีกครั้ง

เรื่องนี้สำคัญยิ่งกว่าการไปหาหว่านเอ๋อ

หลังจากตั้งสติอยู่ครู่หนึ่ง คงหนิงก็ถ่ายเทปราณปีศาจเจ็ดสิบปีทั้งหมดลงในไหดำลึกลับทันที

ในไม่ช้า ฝาของไหดำลึกลับก็เปิดออก ไอพลังเย็นยะเยือกไร้รูปร่างซึ่งมีจุดศูนย์กลางมาจากคงหนิงก็กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ค้นหาเป้าหมายที่คงหนิงสามารถสังหารได้ภายในเขตเมือง

วิสัยทัศน์โดยรอบของคงหนิงถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีฟ้าจางๆ อีกครั้ง

ไอปีศาจที่ปกคลุมเขตชานหลานมีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง

แต่คราวนี้คงหนิงได้พบบางสิ่งที่แตกต่างออกไป

นอกจากไอปีศาจสีฟ้าที่กระจายอยู่ทั่วทุกที่แล้ว ดูเหมือนจะมีหมอกสีเทาจางๆ อยู่ในชั้นบรรยากาศของเขตเมืองอีกด้วย?

หมอกสีเทาพวกนี้หมายถึงสิ่งใด? คราวที่แล้วทำไมเขาถึงไม่เห็นมัน?

คงหนิงรู้สึกประหลาดใจ แต่ในขณะนี้จิตใจของคงหนิงพลันตกตะลึง ในขอบเขตการมองเห็นของเขา ควันจางๆ สีแดงเลือดก็ปรากฏขึ้น นำทางเขาไปยังเป้าหมายที่กำลังค้นหา

หืม? ควันสีแดง?

คงหนิงตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นควันสีแดงเลือดนกกลุ่มนี้

ทำไมไม่ใช่สีขาว?

หลังจากที่เขารับสัมผัสจากไหดำลึกลับ ก็พลันเข้าใจทุกอย่างขึ้นมา

ในการค้นหานี้ ไม่พบปีศาจที่อ่อนแอกว่าคงหนิงภายในเมือง สิ่งเดียวที่จับตำแหน่งได้ก็คือปีศาจที่แข็งแกร่งกว่าคงหนิง แต่ปีศาจตนนี้ก็ไม่ได้มีข้อได้เปรียบเหนือคงหนิง

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถ้าคงหนิงเข้าไปต่อสู้กับปีศาจตนนี้ มันย่อมอันตรายไม่น้อย แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะสังหารอีกฝ่าย

และยิ่งหมอกสีเลือดเข้มขึ้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น

แล้วหมอกแดงตรงหน้านี้ก็ค่อนข้างเข้มมากทีเดียว......

คงหนิงพูดอะไรไม่ออกไปครู่หนึ่ง

หลังจากมีพลังปีศาจถึงเจ็ดสิบปี แต่กลับไม่พบปีศาจที่มีพลังอ่อนแอกว่าภายในเมือง......เป็นไปได้ไหมว่าตัวกินวิญญาณและวิญญาณฝันร้ายเป็นขยะที่อ่อนแอที่สุดในเมือง?

ไม่น่าแปลกใจที่ซูหยานกล่าวว่าพวกมันเป็นเพียงตัวตนที่เล็กจ้อย

คงหนิงทอดถอนใจ ขี่ม้าสีเหลืองพุทราเดินไปตามควันสีแดงที่คอยนำทางเขา ออกไปจากริมฝั่งแม่น้ำว่างเจียง

มีเวลาจำกัดในการใช้ความสามารถนำทางของไหดำลึกลับ แม้ว่าคงหนิงไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปต่อสู้เป็นตายในตอนนี้ แต่ก็จำเป็นจะต้องไปดูว่าปีศาจตนนั้นอาศัยอยู่ที่ไหน และโอกาสล้ำค่าครั้งนี้จะต้องไม่สูญเปล่า

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้คงหนิงไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป

เขายังมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์อยู่ทางตอนใต้ของเมือง

แม้ว่าจะไม่สามารถเอาชนะปีศาจตนนี้ได้ด้วยตนเอง แต่หากร่วมมือกับผู้ฝึกตนฝึกหัดที่ชื่อว่าหว่านเอ๋อนั่นเล่า? สถานการณ์อาจจะแตกต่างออกไป

คงหนิงขี่ม้าสีเหลืองพุทราข้ามถนนเข้าตรอกซอกซอย ในที่สุดก็มาถึงทางตอนเหนือของเมือง ตรงหน้าคฤหาสน์ตระกูลสวี

สองข้างทางของถนนสายยาวนั้นค่อนข้างรกร้าง มีรั้วกำแพงของคฤหาสน์ตระกูลสวีและตระกูลวู๋ปรากฏให้เห็น

สองตระกูลนี้เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเขต ร้านอาหารและธุรกิจส่วนใหญ่ในเขตเมืองเป็นของสองตระกูลนี้ อาคารเซียนเมามายที่คงหนิงและพรรคพวกชอบไปก็เป็นธุรกิจของตระกูลสวี

และควันสีแดงเลือดที่นำทางคงหนิงมาก็ได้หายเข้าไปหลังประตูคฤหาสน์ตระกูลสวี

เมื่อเห็นดังนี้ หัวใจของคงหนิงก็กระตุกวูบ

ปีศาจกำลังซ่อนตัวอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลสวี? นี่ดูท่าจะลำบากเสียแล้ว......

ตระกูลสวีเป็นบุคคลสำคัญในเขตเมือง แม้คงหนิงจะมีชื่อเสียงอยู่บ้างภายในศาลาว่าการ แต่เขาก็เป็นเพียงข้าราชการตัวเล็กๆ สามารถดูแลจัดการเรื่องของคนทั่วไปได้ แต่เขาไม่ได้เก่งกล้าพอจะดูแลตระกูลใหญ่เช่นนี้

หากปีศาจซ่อนตัวอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลสวีมันค่อนข้างยุ่งยาก เพราะคงหนิงไม่สามารถบุกเข้าไปตรวจสอบได้เหมือนกับตอนที่เข้าไปโรงสีจานหิน

นอกจากนี้ ตระกูลสวีนั้นใหญ่โตไม่เบา มีทั้งคนรับใช้ พยาบาล และคนที่คอยทำงานเบ็ดเตล็ดอื่นๆ แม้ว่าคงหนิงจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปตรวจสอบได้ตามใจ แต่ก็ยังยากที่จะลากตัวปีศาจออกมาได้

คราวนี้ปีศาจนั้นแข็งแกร่งกว่าคงหนิง บางทีมันอาจจะแปลงกายเป็นมนุษย์ได้แล้ว คงไม่อยู่เฉยให้คงหนิงจับได้ง่ายๆ เหมือนตัวกินวิญญาณ

เขาขี่ม้าสีเหลืองพุทราผ่านหน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลสวี ใบหน้าของคงหนิงยังคงเป็นปกติ แต่ภายในใจแอบหงุดหงิดเล็กน้อย

การที่มีปีศาจทรงพลังอาศัยอยู่ในเขตเมือง มันทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก

นอกเหนือจากตัวตนเล็กจ้อยอย่างตัวกินวิญญาณและวิญญาณฝันร้ายแล้ว ที่เหลือก็เป็นปีศาจที่มีพลังตบะสูงกว่าเจ็ดสิบปี ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เขาจะมองโลกในแง่ดีเกินไปหน่อย

เขาคิดว่าในบรรดาปีศาจจำนวนมากภายในเมือง จะมีปีศาจสักสองสามตัวที่มีพลังใกล้เคียงกับตัวกินวิญญาณและวิญญาณฝันร้ายอยู่ คาดไม่ถึงว่านอกจากปลาซิวปลาสร้อยสองตัวนี้ ที่เหลือก็กลายเป็นฉลามกันหมด......

คงหนิงขี่ม้าสีเหลืองพุทราพร้อมกับถอนหายใจ เดินผ่านประตูที่ปิดสนิทของคฤหาสน์ตระกูลสวีไปอย่างช้าๆ แค่เดินผ่านมา ไม่ได้เข้าไปแสวงหาความตาย

ปีศาจที่อยู่ภายในนั้นแข็งแกร่งกว่าเขาอย่างชัดเจน และตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาทำตัวสิ้นหวัง อย่างน้อยที่สุด หญิงสาวที่อยู่ทางตอนใต้ของเมืองก็คุ้มค่าพอให้เขาคาดหวัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด