ตอนที่แล้วตอนที่ 80 ยอดเงินในบัญชีมีไม่พอ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 82 เทพแห่งเพลง

ตอนที่ 81 ความหมายความรักของเจิ้นเหม่ยลี่


กำลังโหลดไฟล์

“พวกเธอคือ…”

โหยวฉินเสี่ยวเหยาถามเย่เทียนด้วยเสียงต่ำในขณะที่นักศึกษาหญิงตื่นเต้นมากจนร้องไห้ หลังจากฟังคำอธิบายของเย่เทียนแล้วโหยวฉินเสี่ยวเหยาก็ถึงกับหัวเราะออกมา “โชคเรื่องผู้หญิงของพี่ชายจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว แค่ไปส่งอาหารยังได้ลูกศิษย์หญิงกลับมาด้วย...หลังฝึกรอบดึกเสร็จฉันจะมาหานะ รอด้วยล่ะ!”

เย่เทียนยิ้มแล้วสัมผัสผมของโหยวฉินเสี่ยวเหยาด้วยความเสน่หา

การฝึกยิมนาสติกของนักศึกษาหญิงเริ่มตั้งแต่ช่วงเย็นเลิกช่วงดึก เย่เทียนจึงให้อากวงขับรถพาสาวๆไปพักที่โรงแรมก่อน

ไม่ใช่ว่าไม่มีที่ห้องให้อยู่ในวิลล่า แต่หลักๆก็เพื่อเลี่ยงความสงสัยเพราะยังไงพวกเธอก็เป็นกลุ่มนักศึกษาหญิงและไม่สะดวกที่จะให้อยู่ในวิลล่า

เช้าวันถัดมา

เย่เทียนกอดโหยวฉินเสี่ยวเหยาที่กำลังนอนอยู่ มีสายจากหลิวหรูเยียนโทรเข้ามา

“มีอะไรเหรอหรูเยียนถึงได้โทรหาฉันเช้าขนาดนี้” เย่เทียนหาวและถาม

“ลองไปดูข่าวท้องถิ่นสิ นายได้ออกข่าวด้วย”

เย่เทียนลุกขึ้นนั่งเปิดโทรศัพท์ดู

ในหัวข่าวท้องถิ่นของเมืองไห่จิง เย่เทียนเห็นภาพเขาครึ่งตัวและพาดหัวข่าวว่า:ชีวิตของเศรษฐีลึกลับในไห่จิง

เย่เทียนลูบปลายจมูก เขาเลื่อนอ่านข่าวที่มีสองพันคำนี้ นอกจากคำว่าหมกมุ่นอยู่กับเงินเรื่องที่เหลือล้วนเป็นเรื่องแต่งขึ้นมาจากปากลาทั้งนั้น

“ไร้สาระ ใครเป็นคนเขียนข่าวนี้กัน? ให้ฝ่ายกฎหมายไปฟ้องเขาซะ! จะให้ชื่อของฉันมาป่นปี้ไม่ได้”

เย่เทียนไม่เคยสร้างปัญหาแต่เขาก็ไม่กลัวปัญหาเช่นกัน เขาไม่อาจยอมโดนใส่ตร้ายแบบนี้ได้

“ได้ ฉันจะติดต่อเพื่อนร่วมงานของฉันจากแผนกกฎหมาย” หลิวหรูเยียนไม่พูดอะไรต่อและวางสายไป

จากความเข้าใจเย่เทียนของหลิวหรูเยียน เขาเป็นคนที่มีมารยาทกับผู้หญิงและจะมีหรือไม่มีก็ได้ เขาไม่มีวันทำสิ่งต่ำช้าอย่างการใช้เงินเพื่อซื้อนักศึกษาหญิงแน่นอน

“พี่ชาย ข่าวอะไรเหรอ?” โหยวฉินเสี่ยวเหยาตื่นด้วยความมึนงง

“เมื่อวานฉันให้เย่ส่วนกับคนอื่นๆมาที่วิลล่าเพื่อฝึกยิมนาสติก พวกเธอโดนสื่อไร้ยางอายแอบถ่ายรูปและทำให้เรื่องยุ่งเหยิงแต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะฝากจดหมายจากทนายไปให้พวกเขาเอง” เย่เทียนพูดด้วยรอยยิ้ม

ทันทีที่วางสาย โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

คราวนี้เป็นผางเหว่ย

เย่เทียนเป็นงง เด็กคนนี้เป็นผู้ช่วยคนแรกที่เขารับมาและรู้เวลางานและเวลาพักของเขาดี ปกติเขาจะไม่โทรมาอยู่แล้วถ้าไม่มีปัญหาอะไร

“ว่าไง?”

“พี่เย่ ฉัน...ขอโทษ” เสียงของผางเหว่ยสะอื้นอยู่ที่ปลายสาย

“นายเป็นอะไร?”

“ฉันทำรถของพี่ชน...”

“แล้วนายเป็นไงบ้าง มีคนอื่นได้รับบาดเจ็บไหม?” นี่คือความกังวลแรกของเย่เทียน

“ผมโดนพันแผลอยู่ที่โรงพยาบาลไว้ ฮืออ เป็นความผิดของผมเองที่ไม่ได้ดึงเบรกมือเอาไว้แล้วเอารถไปจอดข้างทาง ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บนอกจากผม…”

“ดี ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

เย่เทียนรีบอาบน้ำแล้วไปโรงพยาบาล

ในห้องผู้ป่วยของโรงพยาบาล เขาเห็นผางเหว่ยถูกห่อไว้เหมือนมัมมี่โดยมีเฝือกที่มือและเท้า

“ฮืออ! ฉันขอโทษด้วย!” ผางเหว่ยน้ำตาไหลทันทีที่เห็นเย่เทียน เขาร้องไห้เหมือนเด็กอ้วนที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโล

ตอนนี้ผางเหว่นน่าสงสารจริงๆ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เย่เทียนไม่รู้สึกเห็นใจเขาเลยแต่อยากจะหัวเราะแทน

“ตอนมายืมรถฉันก็บอกนายให้ขับรถระวังๆแล้วไง ทำไมถึงไม่ฟังกันบ้างน้า” เย่เทียนส่ายหัว

ผางเหว่ยร้องไห้ “ฉันจะจ่ายค่ารถให้พี่แน่นอน...”

“จ่ายอะไรล่ะ มันก็แค่รถสปอร์ตถ้าจะพังก็พังไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่อยู่แล้ว” เย่เทียนส่ายหน้า “แค่คนยังสบายดีก็พอ”

ผางเหว่ยน้ำตาไหล “พี่เย่...!”

“ผางเหว่ย นายจำที่ฉันบอกว่าเคยเรียนหมอได้ไหม”

“จำได้แน่นอน โรคเกาต์ของฉันได้รับการรักษาจากยาที่พี่ให้ หมอบอกว่านี่เป็นปาฏิหาริย์ในประวัติศาสตร์การแพทย์!” ดวงตาของผางเหว่ยเป็นประกาย

เย่เทียนยิ้มแล้วเอนตัวไปที่ผางเหว่ย เขาหยิบผ้าพันร่างกายออกมา “อย่าบอกว่าฉันเป็นคนให้ล่ะ”

“เข้าใจแล้ว!”

ผางเหว่ยพยักหน้าอย่างรีบร้อน “พี่เย่ดีกับฉันมากเลย”

“ใครให้นายเป็นน้องของฉันล่ะ?” เย่เทียนถอนหายใจ

หลังจากคุยกับผางเหว่ยได้สักพัก เย่เทียนก็ออกจากโรงพยาบาล

ในลานจอดรถ เสียงที่ไม่คุ้นเคยหยุดเย่เทียนไว้ “นี่มันเย่เทียนไม่ใช่?!”

เย่เทียนหันกลับไปมอง “เติ้งผิง?”

เติ้งผิงเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเย่ทียน ทั้งคู่ไม่ได้สนิทกันมากเท่าไหร่ถึงขนาดที่นับสิ่งที่คุยกันได้เลย

ในเวลานี้ เติ้งผิงใส่ชุดสูทเรียบร้อยและรองเท้าหนังเป็นมันเงา ถ้าเขาถือกระเป๋าเอกสารเขาจะกลายเป็นพนักงานขายประกันที่ทันที

ข้างเติ้งผิงมีผู้หญิงรูปลักษณ์ดีอยู่ด้วย เมื่อพิจารณาจากความสนิทสนมของทั้งสองแล้วพวกเขาคงเป็นคู่รักกันอย่างไม่ต้องสงสัย

“ไม่คิดว่าจะได้มาเจอนายที่นี่ ไม่สบายเหรอ?” เติ้งผิงถามด้วยรอยยิ้ม

“เปล่า ฉันมาเยี่ยมเพื่อนน่ะ แล้วนายมาทำอะไรที่ไห่จิง?”

“ฉันมาเยี่ยมเพื่อนเหมือนกัน พึ่งมาได้ไม่กี่วันเอง ขอฉันแนะนำให้รู้จักนี่คือแฟนของฉัน เจิ้นเหม่ยลี่”

“เจิ้นเหม่ยลี่(สวยมากๆ)?” เย่เทียนถึงกับตกใจเมื่อได้ยินชื่อ ชื่อเธอไม่ตรงไปหน่อยเหรอ?

“เจิ้นจากเอียนสี” เจิ้นเหม่ยลี่กล่าว

เย่เทียนหัวเราะและบอกว่าเขาเข้าใจ

“นายมีโชคครั้งใหญ่มากเหรอ? ดูชุดของนายสิ อย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า 18,000 หยวนแน่”

เติ้งผิงไม่ได้ประสงค์ร้ายต่อเย่เทียน เพราะยังไงแล้วแล้วทั้งคู่ก็ไม่ได้สนิทอะไรดันมากนัก แต่เนื่องจากเขาพึ่งได้แฟนมาเลยอยากอวดสักหน่อย ไม่อย่างนั้นเขาคงเสียใจกับเงินเป็ฯล้านที่เสียไปแน่

“ไม่มากหรอก แค่หลายหมื่นล้าน” เย่เทียนพูดด้วยรอยยิ้ม

เติ้งผิงหัวเราะทันที “ตอนอยู่โรงเรียนไม่เห็นรู้เลยว่านายเป็นคนตลกแบบนี้ด้วย จะให้ฉันพาไปส่งที่ไหนไหม? ฉันพึ่งซื้อรถมาเมื่อวานนี้เลย”

เติ้งผิงหยิบกุญแจรถออกมา เสียงบี๊บดังขึ้นสองครั้งรถปอร์เช่สว่างขึ้น เติ้งผิงพูดอย่างภาคภูมิใจ “เย่เทียน ตอนนี้ฉันค่อนข้างอยู่ดีขึ้นแล้ว ถ้านายต้องการความช่วยเหลือก็อย่าลังเลที่จะพูดนะ ไม่ต้องสุภาพกับฉันหรอก ไม่ง่ายเลยที่จะได้เจอเพื่อนเก่าแบบนี้”

เย่เทียนหยิบกุญแจรถออกมากด แม็คลาเรนส่งเสียงบี๊บข้างปอร์เช่ ประตูรถที่เหมือนเหมือนปีกนางฟ้าเปืดขึ้น “แน่นอน ถ้านายมีปัญหาอะไรก็อย่าลืมมาหาฉันที่ไห่จิงล่ะ”

เติ้งผิงและเจิ้นเหม่ยลี่อ้าปากค้างเป็นรูปตัว O...

“แม็คลาเรนคันนี้...ของนายเหรอ?” เติ้งปิงอุทานออกมา

“แค่ซื้อมาขับเล่นๆน่ะ”

เย่เทียนสวมแว่นกันแดด “ไปก่อนนะ ไว้ค่อยมาคุยกันในวีแชท”

วู้ม!

รถสปอร์ตหายไปพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ที่หนักหน่วง เติ้งผิงมองที่รถปอร์เช่ของเขาแล้วรู้สึกว่ามันไม่ดีเอาซะเลย

ตาของเจิ้นเหม่ยลี้ซับซ้อนขึ้น

ก่อนได้เจอเย่เทียนเธอยังไม่เข้าใจว่าความรักคืออะไร

แต่พอได้เจอเย่เทียนเธอก็เข้าแล้วว่าความรักคืออะไร